ตอนที่ 325 : ตระกูลตงฟาง
ผู้คนด้านล่างได้แต่ตะลึงมากขึ้นเรื่อย ๆ คนที่ชั้นสามเองก็พากันพูดคุยเหมือนกัน
“เฉี่ยนเจินเฉียน เขากล้าเพิ่มราคาถึงพันล้าน เขาอยากได้มันจริง ๆ หรือ ? ” ฮวงเทียนเจวี๋ยนมองไปที่เฉี่ยนเจินเฉียนและยิ้มแห้ง ๆ ออกมา
“เฉี่ยนเจินเฉียน นายอย่าคิดเลย ฉันต้องเอาเกราะนี่มาให้ได้” จางจื้อเฉียงมองไปที่เฉี่ยนเจินเฉียน ก่อนมองไปที่ผู้ตรวจสอบคนอื่น ๆ แล้วเปิดปากพูดขึ้นมา
“อย่าเพิ่งได้ใจไป ตอนนี้ยังไม่รู้หรอกว่าเกราะนี่จะเป็นของใคร” ไป๋พั่วหล้างจ้องไปที่จางจื้อเฉียงและพูดขึ้น
“ฉันสงสัยว่าพวกนายคงลืมตระกูลชั้นนำและคนจากสำนักที่ชั้นสองแล้วสินะ” เฉี่ยนเจินเฉียนมองไปที่จางจื้อเฉียง, ฮวงเทียนเจวี๋ยนและไป๋พั่วหล้าง ก่อนจะหัวเราะออกมา
“ดูจากสถานการณ์แล้วพวกเขาคงไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ พวกนายมีเงินเท่ากับพวกนั้นรึไง” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้น
เมื่อได้ยินแบบนั้นทั้งสามคนก็เงียบไป
เฉี่ยนเจินเฉียนพูดถูก
ตระกูลชั้นนำเหล่านี้มีกองกำลังอยู่ทั่วทุกที่ หลังจากที่สั่งสมอำนาจมาหลายปี ทรัพย์สินของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่คนทั่วไปไม่อาจจะคาดถึง
แม้แต่ผู้ตรวจสอบ 4 ดาวที่สู้ในมิติลับมานานนั้นก็ด้อยกว่าตระกูลชั้นนำเหล่านี้
เพราะทรัพย์สินที่พวกเขามีนั้นไม่อาจจะเทียบกับทรัพย์สินที่ตระกูลชั้นนำเหล่านี้มี
มันแค่เรื่องเงินเท่านั้นที่พอจะสู้กับคนเหล่านั้นได้
ดังนั้นหากสู้แล้วพวกเขาคงต้องรวมเงินกัน ถ้าไม่ทำแบบนั้น พวกเขาคงต้องถอนตัวและกลับไปมือเปล่า
พวกเขาไม่ได้โง่ แต่จะยอมถอนตัวได้ยังไง ?
แม้ว่าคนอื่น ๆ จะกลัวตระกูลชั้นนำ แต่พวกเขาไม่ได้ใส่ใจ พวกเขาเป็นใคร ? แต่ละเมืองจะมีผู้ตรวจสอบ 4 ดาวแค่เพียงคนเดียว พวกเขาเป็นตัวตนที่แม้แต่เจ้าเมืองก็ต้องเงยหน้ามอง ทำไมจะต้องกลัวตระกูลชั้นนำด้วย แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็หวั่นใจอยู่ บอกได้ว่าตระกูลชั้นนำยังเหนือกว่าในเรื่องอื่นอยู่ดี ไม่งั้นแล้วพวกนี้คงไม่ขึ้นมาเป็นตระกูลชั้นนำ…
“อย่าสนใจคำพูดเฉี่ยนเจินเฉียน เขาอยากได้เกราะนี่ ยังไงซะนี่ก็คือเกราะในตำนาน ” ไป๋พั่วหล้างมองไปที่เฉี่ยนเจินเฉียนแล้วพูด
“ฉันคิดถึงข่าวลือที่ได้ยินมาก่อนหน้านี้ …” จางจื้อเฉียงเหมือนจะคิดถึงบางอย่างและมองไปที่เฉี่ยนเจินเฉียน
“ฟังจากที่นายพูดแล้ว ฉันเองก็คิดถึงบางเรื่องขึ้นมา ตอนนั้น…” ฮวงเทียนเจวี๋ยนแสดงสีหน้าครุ่นคิดออกมา ตอนที่เขากำลังจะพูดขึ้นมานั้นเขาก็ถูกเฉี่ยนเจินเฉียนขัดเอาไว้
“ถ้าพวกนายไม่ประมูลต่อ เกราะนี่คงหลุดจากมือไปแน่”
ตอนที่เฉี่ยนเจินเฉียนพูดออกมานั้น ผู้อาวุโสตระกูลลู่ก็ได้ประมูลออกมา “ 36,000 ล้าน”
ตอนนี้เรื่องสำคัญคือต้องเอาเกราะนี่มาให้ได้ เรื่องเฉี่ยนเจินเฉียนน่ะเป็นเรื่องรอง
เมื่อการประมูลเสร็จสิ้นลง ค่อยไปเยาะเย้ยเฉี่ยนเจินเฉียนต่อ
“36,500 ล้าน” จางจื้อเฉียงยังเพิ่มราคาขึ้นไปอีก
“37,000 ล้าน” ฮวงเทียนเจวี๋ยน เองก็เพิ่มราคาขึ้น
“37,500 ล้าน” ไป๋พั่วหล้างคิดเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็เพิ่มราคาขึ้น
“38,000 ล้าน” เฉี่ยนเจินเฉียนยังเพิ่มราคา เพราะเขาต้องการมันจริงๆ
เมื่อได้ยินเฉี่ยนเจินเฉียนที่เพิ่มราคาขึ้นมา ผู้อาวุโสจากตระกูลชั้นนำและสำนักอื่น ๆ ต่างก็สีหน้าหม่นหมอง
ผู้ตรวจสอบ 4 ดาวบนชั้นสามคือศัตรูที่แท้จริงของพวกเขา
“38,100 ล้าน” ตัวแทนจากตระกูลชั้นนำเพิ่มราคาแค่ 100 ล้าน เพราะเขาอยากควบคุมระดับราคาที่เพิ่มขึ้นมาให้มันไม่มากเกินไป
“38,200 ล้าน” ชัดแล้วว่าตระกูลหลี่ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน
“38,300 ล้าน” ผู้อาวุโสตระกูลลู่ก็คิดแบบเดียวกัน
ดูเหมือนว่าทั้ง 3 ตระกูลชั้นนำนั้น ไม่อยากที่จะให้ราคามันขึ้นมาเร็วเกินที่พวกเขาจะรับไหว
“38,400 ล้าน” ตระกูลตงฟางที่ไม่ค่อยทำตัวโดดเด่นแต่ก็เป็นหนึ่งในตระกูลชั้นนำก็ได้พูดขึ้นมา
แต่การไม่ทำตัวโดดเด่นนี้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่มีอำนาจ มันแค่ไม่มีข้อมูลของพวกเขามากนักในอินเตอร์เน็ตก็เท่านั้น
นี่คือตระกูลชั้นนำที่ดูเรียบง่ายที่สุดในเมืองหัวเซี่ย
แม้ว่าจะเป็นตระกูลที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรแต่ก็ไม่มีใครกล้าดูถูกพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลตงฟางก็เป็นตระกูลที่ลึกลับที่สุดในหมู่ตระกูลชั้นนำ
แต่เหตุผลที่พวกเขาทำตัวไม่โดดเด่นนั้นมันก็พอมีเหตุผลอยู่ ไม่งั้นแล้วคงไม่มีทางที่พวกเขาจะเป็นตระกูลชั้นนำของเมืองหัวเซี่ยได้
ตระกูลตงฟางถือได้ว่าเป็นตระกูลอันดับ 1 ตามด้วยอีก 4 ตระกูล
สถานภาพของเมืองหัวเซี่ยนั้นอาจจะเปลี่ยนแปลงไปเพราะหลายเหตุผล
แต่โชคดีที่ตระกูลตงฟางนั้นไม่ได้ใส่ใจกับชื่อเสียง สำหรับพวกเขาแล้วพวกเขาไม่ได้ใส่ใจกับคำเรียกที่ว่าตระกูลชั้นนำ ถึงยังไงซะมันก็ไม่มีอะไรต่างจากเดิม
หากมีคนถามว่าตระกูลไหนแกร่งที่สุดในเมืองหัวเซี่ย ทุกคนคงบอกว่าเป็นตระกูลตงฟาง
จากจุดนี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าตระกูลตงฟางนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน
นี่คือความไร้เทียมทานที่ติดตัวพวกเขามา
ก่อนหน้านี้ตระกูลตงฟางยังไม่คิดเข้าร่วม ทุกคนต่างก็คิดว่าตระกูลตงฟางนั้นยอมแพ้ไปแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะเข้าร่วมในตอนสุดท้าย
แม้ว่าราคาที่เพิ่มขึ้นมานี้จะต่ำแต่มันก็ไม่มีใครกล้ามองข้ามพวกเขา
เพราะถึงอย่างไร นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ตระกูลตงฟางนั้นเข้าร่วมในการปะมูลในวันนี้