ตอนที่ 360 : กลับเมืองอรุณ
เช้าวันต่อมา หวังเย่า ก็ลุกขึ้นอาบน้ำก่อนจะออกจากห้อง
เมื่อออกมานอกโรงแรม หวังเย่าก็ได้เอามอเตอร์ไซค์ออกมาจากกระเป่ามิติก่อนจะขี่ตรงไปที่ประตูตะวันตก ไม่นานหลังจากที่มาถึงและผ่านการตรวจสอบที่ประตูเมือง เขาก็ได้ขับรถไปที่มิติป่า
ครั้งนี้เขาไปเพื่อรับตือโป๊ยก่าย
ยังไงซะเขาก็จะออกจากเมืองหัวเซี่ย ดังนั้นเขาจึงต้องเอามันไปกับเขาด้วย ส่วนการ์ฟิลด์และหงอคง เขาก็เรียกกลับมาแล้ว
สัตว์อสูรนอกเมืองส่วนใหญ่ไม่ได้ขอบเขตสูงนัก สำหรับหวังเย่าที่อยู่ระดับ S แล้ว เขาไม่ต้องใส่ใจพวกมันด้วยซ้ำ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม่เขาถึงกล้าขี่มอเตอร์ไซค์มาแบบนี้
ระหว่างทางไปยังมิติป่า เขาก็พบกับสัตว์อสูรขั้นราชาหลายตัวแต่ส่วนมากแล้วแค่หมัดเดียวก็ปลิดชีวิตพวกมันได้แล้ว
ยังไงซะความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้ก็อยู่ระดับ S มันเทียบเท่ากับสัตว์อสูรขั้นจักรพรรดิ สัตว์อสูรขั้นราชานั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาด้วยซ้ำ
ไม่นานหลังจากนั้นหวังเย่าก็มาถึงมิติป่า
เฉี่ยนเจินเฉียนได้สั่งการคนที่นี่ไว้แล้ว ดังนั้นหวังเย่าจึงเข้าออกมิติป่าได้อย่างอิสระโดยไม่มีใครมาขวางทาง
เขาจอดรถไว้นอกมิติป่า ที่ด้านล่างทางเข้ามีที่พักของกลุ่มทหารรับจ้างตั้งอยู่ ทหารรับจ้างคนหนึ่งได้รีบเข้ามาหาหวังเย่าทันที ก่อนจะพูดว่า
“คุณหวังเย่า คุณมารับอสูรของคุณงั้นหรือ ? ” ทหารรับจ้างคนนั้นถามออกมาด้วยท่าทีเคารพ
ยังไงซะนี่ก็คือแขกของเฉี่ยนเจินเฉียน ความสัมพันธ์ของเฉี่ยนเจินเฉียนกับหวังเย่านั้นไม่ธรรมดา เป็นธรรมดาที่ทหารรับจ้างคนนี้จะเคารพหวังเย่า
“ใช่ อสูรของฉันอยู่ไหนกัน ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
“ใจกลางมิติลับ” ทหารตอบกลับ
“งั้นฉันจะเข้าไปรับมันด้านใน” หวังเย่าพูดจบก็เข้าไปในมิติลับทันที
“คุณหวังเย่า เราอยากให้คุณช่วยอะไรบางอย่าง…” ทหารรับจ้างยังพูดไม่ทันจบ หวังเย่าก็หายไปจากทางเข้าและเข้าไปในมิติลับแล้ว
ทหารรับจ้างคนนั้นได้แต่ยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออก
เมื่อเข้ามาในมิติลับ หวังเย่าก็ได้ใช้พลังสัญญาในการเรียกตือโป๊ยก่ายกลับมา หลังจากนั้นร่างของตือโป๊ยก่ายก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าหวังเย่า
จากนั้นมันก็มุดเข้าไปในผลึกสีแดง ตอนนี้ระบบหลับใหลอยู่ หวังเย่าจึงไม่เห็นรายละเอียดในการพัฒนาของตือโป๊ยก่าย
ดังนั้นเขาจึงเก็บมันเข้าไปในกำไลอสูรแล้วออกมาจากมิติป่าไปทันที
“ได้อสูรกลับมาแล้ว ฉันคงไม่รบกวน ขอตัวก่อน” เมื่อออกมาจากมิติป่า หวังเย่าก็ได้บอกกับทหารรับจ้างก่อนจะเดินทางออกไป
พวกทหารรับจ้างได้แต่ยืนมองเขาเงียบ ๆ ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
ที่ตรงหน้ามอเตอร์ไซค์นั้นมีร่างขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา
การ์ฟิลด์ในตอนนี้ตัวใหญ่อย่างมาก คลื่นพลังที่มันแผ่ออกมานั้นน่าทึ่ง แต่เมื่อเห็นหวังเย่ามันก็หดตัวกลับไปเป็นแมวบ้านปกติทันที
หวังเย่าลูบหัวมันสักพักก่อนจะเก็บมันเข้าไปในกำไล แล้วขี่มอเตอร์ไซค์มุ่งหน้ากลับไปที่เมืองหัวเซี่ยต่อ
ระหว่างทางนั้นเขาได้จัดการกับสัตว์อสูรขั้นราชาหลายตัวก่อนจะกลับมาถึงนอกเมืองได้
หวังเย่าเก็บมอเตอร์ไซค์เข้าไปในกระเป๋ามิติพร้อมกับรับการตรวจสอบที่หน้าประตูแล้วเข้าไปในเมือง ก่อนจะขี่มอเตอร์ไซค์มุ่งหน้าไปที่สนามบิน
ไม่นานหวังเย่าก็มาถึงสนามบินและพบว่าฟ่านฉิงเหมยรอเขาอยู่ที่นั่นแล้ว
“มาเร็วแหะ” หวังเย่ายิ้มออกมาก่อนที่ทั้งสองจะพากันไปลงทะเบียนขึ้นเครื่อง
จ้าวเมิ่งซีจองตั๋วให้ทั้งสองก่อนแล้ว มันเป็นที่นั่งเฟิร์สคลาส ตอนนี้หวังเย่ามีเงินกว่าแสนล้าน เขาถือว่าเป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่หวังเย่าได้นั่งชั้นเฟิร์สคลาส แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใส่ใจอะไรมากก็ตาม
ก่อนถึงเวลาขึ้นเครื่อง ทั้งสองคนก็ได้ไปนั่งรอและพูดคุยกัน
พวกผู้ชายรอบ ๆ ได้แต่มองมาที่หวังเย่าด้วยสายตาอิจฉา ฟ่านฉิงเหมยน่ะไม่ต่างอะไรจากเทพธิดาสำหรับพวกเขาเลย แต่พวกเขาก็ได้แต่คิดในใจไม่กล้าที่จะพูดออกมา
“ทนเอาไว้ พวกนั้นทำได้แค่มอง” หวังเย่าได้แต่ย้ำกับตัวเอง
สุดท้ายเมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่องทั้งสองก็ได้เดินออกไป ปล่อยให้ผู้ชายพวกนั้นมองกันตาเป็นมัน
“ไปกันเถอะ” หวังเย่าไม่ได้สนใจคนอื่น เขาได้ใช้มือโอบเอวของฟ่านฉิงเหมย ก่อนจะเดินออกไป
เมื่อรับการตรวจสอบเสร็จ ทั้งสองก็ได้ไปยังที่นั่งเฟิร์สคลาส ภายใต้การนำทางของคนดูแล
ฟ่านฉิงเหมยคิดว่าที่นั่งเฟิร์สคลาสน่ะดี ไม่ใช่แค่มีคนดูแลที่สวยแต่ยังมีอาหารและไวน์มาเสิร์ฟให้ด้วย แม้ว่าจะไม่ใช่ไวน์ที่ดีที่สุดแต่ก็ยังถือว่าพิเศษอยู่ดี
ทั้งสองคนนั่งอยู่ข้างกัน หวังเย่ามองไปรอบ ๆ และพบว่ามีหลายคนมองมาที่พวกเขาอยู่ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
ตอนนี้แฟนของเขาสำคัญที่สุด ไม่บ่อยนักที่จะมีโอกาสอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ดังนั้นหวังเย่าจึงหยอกล้อฟ่านฉิงเหมยโดยไม่สนใจสายตาของคนอื่น ๆ
เขาเก็บเรื่องโลกอื่นไว้ในใจ ถึงจะคิดไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ มันมีแต่จะทำให้เขาเครียดเอาเสียเปล่า ๆ
หากมันจะมาที่นี่ งั้นมันก็จะมาเอง เขาไม่อาจจะหยุดปีศาจนั่นได้ ที่หวังเย่า ทำได้ตอนนี้คือเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองให้เร็วที่สุดเพื่อรับมือกับปีศาจนั่น
เขาไม่ควรคิดมากเกินไป ตอนนี้หวังเย่ายังมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ ตราบใดที่เขาแข็งแกร่งเพียงพอแล้วเขาก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจเรื่องพวกนี้
ดังนั้นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้