เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย – ตอนที่ 2 เดิมพันชีวิตกับกาชา 1 ล้านเยน

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

    หลังเลิกเรียน ผมบอกปัดคำชวนไปเที่ยวเล่นกันของเพื่อนแล้วไปยังกิลล์นักผจญภัยที่สถานีฮาชิโอจิ

    โดนพื้นฐาน เขาวงกตจะปรากฏขึ้นแบบสุ่มโดยที่ไม่มีสัญญาณบอกกล่าวใดๆ แต่จากสถิติที่ถูกแสดง เขาวงกตมักจะปรากฏขึ้นในสถานที่ที่มีจำนวนประชากรขนาดใหญ่ เพื่อรองรับในจุดนี้ กิลล์นักผจญภัยจึงมักจะถูกตั้งขึ้นภายในตึกของสถานี

    โดยเฉพาะมหานครโตเกียวที่จะมีกิลล์นักผจญภัยอยู่แทบทุกสถานีใหญ่ๆ

    นอกจากนี้ การที่ผมถ่อไกลมาถึงฮาชิโอจิแทนที่จะไปกิลล์นักผจญภัยในทาชิกาว่าซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ใกล้โรงเรียนมากที่สุด นั่นเพราะทาชิกาว่าเป็นฐานกิลล์มินามิยาม่า

    แล้วจุดนี้ก็อยู่ใกล้บ้านมากกว่า สะดวกที่จะเข้ามาช่วงวันหยุด

 

    พอออกจากช่องตรวจตั๋ว ท่ามกลางกลุ่มคนในชุดเครื่องแบบและไปรเวทธรรมดา ก็เริ่มพบเห็นคนใส่ชุดแปลกตาอย่างเสื้อเกราะและเป้ทหาร

    พวกคลับเซอไวเวิลจากมหาลัยซักแห่ง—-ซะที่ไหน นั่นคือนักผจญภัยที่ใช้สถานีนี้เป็นฐานของพวกเขา

    สายตาที่ผู้คนมองไปยังเหล่านักผจญภัยนี้แว่บแรกสามารถแบ่งออกได้ 3 แบบ คือ เฉยๆ, อิจฉา, และรังเกียจ

    【แองโกลมัวร์ครั้งที่ 2】ผ่านมาแล้ว 10 ปี….. ความเสียหายจากโศกนาฏกรรมที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ได้นั้น ยังคงทิ้งรอยแผลขนาดใหญ่อยู่ในหัวใจของผู้คนอยู่ บางคนที่ต้องรับความเสียหายอันเกิดจากมอนสเตอร์ถึงกับหลีกเลี่ยงผลประโยชน์อันมาจากเขาวงกต อย่างเช่นโพชั่นและอุปกรณ์เวทมนตร์

    ตัวอย่างใหญ่ที่สุดเลยก็คือการ์ดที่ใช้ควบคุมมอนสเตอร์ เหล่านักผจญภัยที่ใช้พวกมันเพื่อหาเงินและหาแสง ดูเป็นสิ่งน่ารำคาญสำหรับพวกเขา

 

    …..ทว่าในสายตาของคนทั่วไปแล้ว นักผจญภัยก็ยังเป็นงานในฝันอยู่ อันที่จริงแม้แต่ตอนนี้ก็ยังมีนักผจญภัยประเภทหนุ่มหล่อแบบวง Johnnys ที่ถูกเหล่าเด็กหญิงมัธยมห้อมล้อมและกรี๊ดด้วยซ้ำ

    มองเผินๆ ก็เหมือนจะลำบากใจ แต่ถ้าได้มองดูจากรอบนอกแล้วก็รู้ได้เลยว่าข้างในไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย

    ผมที่มองดูด้วยความอิจฉาอยู่ตรงข้ามช่องตรวจตั๋วได้ชั่วครู่ จนเขาถูกเหล่าเด็กสาวมัธยมดึงตัวเข้าไปในร้านกาแฟก็สงบใจลงแล้วเริ่มออกเดิน

 

    ออกจากช่องตรวจตั๋วแล้วเดินได้ซัก 1 นาที ตึกขนาดใหญ่ติดกับสถานี—-รู้จักกันด้วยชื่อตึกกิลล์ก็โผล่มาให้เห็น

    ตึกนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ชั้นใต้ดินมีร้านของของชำ, ชั้น 1 มีร้านอาหาร, ชั้น 2-3 มีร้านอุปกรณ์นักผจญภัย, ชั้น 4 มีกิลล์นักผจญภัย, ชั้น 5 มีร้านการ์ด, ชั้น 6 มีศาลากลาง เป็นสถานที่ที่นักผจญภัยสามารถทำธุระอะไรก็ได้หมดในที่เดียว

    แน่นอนว่าการที่ศาลากลางอยู่ในตึกเดียวกับกิลล์นักผจญภัย ย่อมทำให้กลุ่มเกลียดดันเจี้ยน—-กลุ่มผู้เกลียดเขาวงกตส่งเสียงออกมาดังที่สุด—- ในรูปแบบของการทักท้วง แต่ทางเมืองก็เดินหน้าต่อ

    หนึ่งในเหตุผลของการเดินหน้าก็คือ สถานีฮาชิโอจิได้ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่หลบภัยในกรณีฉุกเฉิน

    ถึงแม้จะมีการทักท้วงอยู่บ้าง ก็ไม่สามารถมาแทนที่ความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉินได้….. เดาว่าเป็นแบบนั้น

 

 

 

 

 

「ยินดีต้อนรับสู่องค์กรนักผจญภัยโตเกียว วันนี้มาติดต่อเรื่องอะไรครับ」

 

    พอมาถึงชั้น 4 พนักงานชายที่ยืนอยู่ตรงบิเวญประตูก็ยิ้มให้แล้วพูดกับผม

 

「อืม ลงทะเบียนนักผจญภัย…..」

「เข้าใจแล้วครับ โปรดรับบัตรคิวได้ที่เคาเตอร์ 4 ตรงนั้นเลยครับ」

「อา ครับ」

 

    ขณะที่กำลังนั่งรอก็ทำการตรวจสอบเอกสารจำเป็นและก็เงิน พอผ่านไปไม่กี่นาทีคิวของผมก็ถูกเรียก

 

「สวัสดีค่ะ วันนี้มาติดต่อเรื่องอะไรคะ」

「สวัสดีครับ คือแบบว่า อยากจะมาลงทะเบียนนักผจญภัยครับ」

「ลงทะเบียนนักผจญภัยนะค่ะ สำหรับการลงทะเบียน จำเป็นต้องใช้ค่าลงทะเบียน 1 แสนเยน และการ์ดแรงค์ D หรือมากกว่า, บัตรประจำตัวที่มีที่อยู่ปัจจุบัน, หากว่าเป็นเยาวชนจำเป็นต้องมีใบยินยอมจากผู้ปกครองมาด้วย มีมาไหมคะวันนี้」

「มีหมดยกเว้นการ์ดครับ」

「ในกรณีนี้ต้องไปซื้อการ์ดจากชั้นบนค่ะ ถ้าหากว่าบุคคลอื่นใดที่ไม่ใช่นักผจญภัยต้องการซื้อขายการ์ด จำเป็นต้องมีพนักงานติดตามไปด้วยตกลงไหมคะ」

 

    เป็นตามที่ได้ค้นมาจากในเน็ตล่วงหน้า ผมพยักหน้าเล็กน้อย

 

「เข้าใจแล้วค่ะ เช่นนั้นจะทำการเรียกเจ้าหน้าที่ กรุณารอซักครู่ก่อนนะคะ」

「เข้าใจแล้วครับ」

 

    พอผมพยักหน้า เจ้าหน้าที่หญิงก็เริ่มโทรศัพท์ด้วยท่าทางคล่องแคล่ว จากนั้นพอวางสายไปได้ไม่ถึง 10 วินาที ชายวันกลางคนก็โผล่ออกมาจากทางโต๊ะด้านหลังพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า

 

「ยินดีที่ได้พบครับ กระผมชิเงโน่ จะช่วยเหลือเรื่องการซื้อขายการ์ดให้ ฝากตัวด้วยนะครับ」

「อา ครับ ฝากตัวด้วยเช่นกันครับ」

「เช่นนั้นจะนำทางไปชั้น 5 นะครับ」

 

    เดินตามชิเงโน่ซังไปทางบันไดด้านหลังของกิลล์

    การจะไปชั้น 5 ของตึกนี้ไม่มีทั้งลิฟท์หรือว่าบันไดเลื่อน ทางเดียวที่จะไปถึงได้คือบันไดที่อยู่ภายในกิลล์นักผจญภัย

    พนักงานรักษาความปลอดภัยสวมเสื้อเกราะกันกระสุนเฝ้าระวังอยู่ตรงหน้าบันได การจะผ่านไปโดยบุคคลธรรมดาจึงเป็นไปไม่ได้

    ต่างไปจากบรรยากาศที่เงียบสงบของชั้น 4 ที่ชั้น 5 ดูคับคั่งไปด้วยนักผจญภัยหลายคน

    บรรยากาศคล้ายคลึงกับร้านขายการ์ดเกม ภายในร้านมีตู้โชว์ที่แสดงการ์ดหลายใบอยู่ภายใน เหล่านักผจญภัยต่างพากันจ้องอย่างตั้งอกตั้งใจ

    ชิเงโน่ซังเคลื่อนไหวไปอย่างลื่นไหลผ่านช่องว่างระหว่างนักผจญภัย แม้ว่าผมจะกำลังอึ้งอยู่กับภาพที่เห็นอยู่แต่ก็ตามหลังเขาไปโดยอาศัยช่องว่างที่เขาเปิดทางเพื่อที่จะได้ไม่คลาดกัน

 

「ขอโทษครับ จะขอยืมบูธเพื่อทำการลงทะเบียนให้ท่านนี้หน่อยนะครับ」

 

    พอชิเงโน่ซังไปถึงที่หน้าเคาเตอร์ก็ทำการพูดกับพนักงานที่ว่างอยู่ แล้วพวกเราก็ถูกพายังพื้นที่ซึ่งถูกกั้นเอาไว้ด้วยกำแพงบางๆและต้นไม้ประดับ

 

「เชิญนั่งได้เลยครับ」

「อา ครับ」

「เอ ก่อนอื่นก็ขอทราบชื่อก่อนได้ไหมครับ?」

「คิทากาว่า อุทามาโร่ ครับ」

「คิทากาว่าซังสินะครับ ขอแนะนำตัวอีกครั้ง กระผมชิเงโน่ครับ เอ ครั้งนี้เป็นการซื้อขายการ์ดครั้งแรงของคิทากาว่าซัง ดังนั้นจะอธิบายคร่าวๆให้ก่อนนะครับ」

「ขอความกรุณาด้วยครับ」

「ครับ เอ ก่อนอื่นตรงส่วนที่น่าจะรู้แล้วว่าการ์ดคือมอนสเตอร์ที่มีปรากฏอยู่ภายในเขาวงกต นักผจญภัยจะใช้การ์ดนี้เพื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์ภายในเขางวงกต แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถอัญเชิญมอนสเตอร์จากการ์ดได้ทุกเวลา การ์ดจะสามารถใช้งานได้แค่ในบริเวณเขาวงกตหรือในพื้นที่ของอุปกรณ์เวทมนตร์พิเศษ และยังมีกรณีฉุกเฉินอย่างแองโกลมัวร์ ถึงตรงนี้ยังเข้าใจอยู่ใช่ไหมครับ?」

「ครับ」.

 

    พอผมพยักหน้าชิเงโน่ซังก็ยิ้มขึ้นเล็กน้อยแล้วทำหน้าตึงเครียดขึ้น

 

「จากนี้ไปจะขอพูดเรื่องที่สำคัญขึ้นมาอีกนิดครับ ก่อนอื่นมอนสเตอร์ที่ถูกเรียกมาจากการ์ด ผู้ใช้งาน….. จากนี้ไปจะขอเรียกแทนว่ามาสเตอร์นะครับ จะไม่สามารถทำร้ายมาสเตอร์ได้ โปรดวางใจได้ว่านี่รวมไปถึงการเล่นที่ไร้เจตนาและการเมินเฉยต่ออันตรายที่เกิดแก่มาสเตอร์ แต่เดิมทีแล้วความเสียหายของมาสเตอร์จะถูกโอนถ่ายไปยังการ์ด ดังนั้นตราบเท่าที่ยังมีการ์ดอยู่ก็ถือเป็นการการันตีความปลอดภัยของมาสเตอร์….. ทว่านั่นไม่ได้หมายถึงว่าการ์ดจะเชื่อฟังมาสเตอร์ของพวกมันอย่างไร้ข้อโต้แย้งครับ」

「เอ๋ งั้นเหรอครับ?」

 

    กับข้อมูลใหม่ที่ไม่คาดคิดจึงช่วยไม่ได้ที่ผมต้องถามกลับไป

    การ์ดที่เห็นทั้งหมดใน TV ดูเชื่อฟังมาสเตอร์ เพราะงั้นเลยนึกว่าการ์ดจะทำตามทุกอย่างที่ต้องการ

 

「ครับ แม้ว่าจะเป็นการ์ดเผ่าพันธุ์เดียวกันแต่ก็มีความหลากหลายอยู่มาก ด้วยลักษณะนิสัยตั้งแต่ว่านอนสอนง่ายไปถึงกร้าวร้าว เหมือนกันกับมนุษย์ บางส่วนเมื่อใช้งานไปเรื่อยๆก็จะยิ่งเชื่อฟัง ในทางกลับกันก็มีที่หยุดเชื่อฟังคำสั่งไป กรณีเลวร้ายที่สุด ได้ถูกยืนยันแล้วว่าได้ละทิ้งการต่อสู้ทุกอย่างยกเว้นไว้แค่การป้องกันตัวเอง ตัวการ์ดมีสิทธิในการครอบครองอยู่ หากสละสิทธินี้จะเป็นการรีเซ็ทค่าเลเวลการยกระดับและความทรงจำ เพื่อให้ไม่ว่าใครก็สามารถใช้งานได้ ทว่าแม้หลังการรีเซ็ท ลักษณะนิสัยของการ์ดจะยังคงเหมือนเดิม มีบางการ์ดที่ถูกใช้งานโดยเจ้าของที่เข้ากันไม่ได้จนทำให้กร้าวร้าวเกินเยียวยา กับมาสเตอร์ที่ฝืนถือครองการ์ดพวกนี้อยู่แล้วจึงเป็นปัญหาอยู่มากครับ」

「อย่างงี้นี้เอง…..」

 

    ผมกอดอกพร้อมครางเสียงให้กับคำอธิบายของชิเงโน่ซัง

    เคยได้ยินมาอยู่ว่าการ์ดมีลักษณะนิสัยแตกต่างกันออกไปมาบ้าง ในเน็ตก็มี「แวมไพร์ซึนเดเระของผมน่ารักจนทำให้เป็นโลหิตจางทุกวันเลย」แล้วก็「เนโกะมาตะจังของชั้นเอาแต่ใจจนน่าปวดหัวเลย」 มีหลายๆกระทู้แบบนี้อยู่

    แต่เอาเข้าจริงแล้ว นิสัยของการ์ดดูจะมีความสำคัญมากกว่าที่คิดไว้เสียอีก

 

「มีคำถามอยู่อย่าง แล้วจะทำยังไงกับการ์ดที่กร้าวร้าวแบบนั้นครับ? ต่อให้ซื้อไปก็เอาไปใช้ไม่ได้ใช่ไหมครับ?」

「เพราะว่าช่วยไม่ได้จึงถูกขายในราคาที่ต่ำลง จะทำการอธิบายภายหลังให้ แค่ขอให้เข้าใจว่ายังมีหนทางใช้งานการ์ดเหล่านี้อยู่มากครับ」

「เข้าใจแล้วครับ」

「ถ้าเช่นนั้นจะทำการอธิบายความสามารถต่างๆของการ์ดครับ」

 

    —-หลายนาทีต่อมา

 

「คำอธิบายโดยรวมก็มีเท่านี้ หากว่ามีปัญหาอะไรสามารถสอบถามได้ที่เคาเตอร์นะครับ」

「…..ขอบคุณมากครับ」

 

    หลังจากฟังคำอธิบายต่างๆเกี่ยวกับความสามารถของการ์ดโดยละเอียด รวมถึงหน้าที่และสิทธินักผจญภัยแล้ว ผมก็ทำการโค้งให้กับชิเงโน่ซัง

    แม้ว่าการอธิบายออกจะเจาะลึกซะยิ่งกว่าการเรียนในชั้นเรียน แต่ก็รู้สึกว่าเข้าหัวได้ง่ายกว่า บางทีคงเป็นเพราะเป็นเรื่องที่สนใจ ความรู้สึกร้อนๆในหัวจึงออกจะรู้สึกดี

 

「เอาล่ะ ขออภัยที่ให้รอนาน เช่นนั้นแล้วมาเข้าสู่การซื้อขายการ์ดกันเลยครับ」

「!!」

 

    ด้วยคำของชิเงโน่ซังทำให้สติผมกลับมา

    รู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นตึกตักเร็วขึ้น กลืนน้ำลายผ่านลำคอที่แห้งผาก แล้วผมก็ผยักหน้า

 

「ค.ครับ ขอความกรุณาด้วยครับ」

「ไม่ต้องเกร็งมากก็ได้ครับ ทางนี้คือรายการของการ์ดแรงค์ D ราคาขั้นต่ำอยู่ที่ 1ล้านเยน เรื่องเงินทุนไม่มีปัญหานะครับ?」

「ครับ ไม่มีปัญหา…..」

 

    ขณะที่พูดด้วยเสียงสั่นเครือ ผมก็หยิบซองเงิน 1 ล้านออกมาจากกระเป๋า

    นี่คือผลจากการเก็บรวบรวมเงินปีใหม่มาตั้งแต่ยังเด็ก และงานพิเศษที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา

    ชิเงโน่ซังชำเลืองมองโดยที่ไม่ตรวจนับและเอาแฟ้มการ์ดออกมา

 

「ค่อยชำระเงินทีหลังได้ครับ ถ้าเช่นนั้นเชิญใช้เวลาเลือกการ์ดได้เต็มที่เลยครับ」

 

    หลังพูดจบ ชิเงโน่ซังก็รออยู่เงียบๆ

    ผมมองไปที่แฟ้มการ์ดแล้วเริ่มกวาดสายตาดูข้างใน แต่ว่า…..

 

    (อย่างที่คิด การ์ดที่นิยมมีราคาแพงหมดเลย….. โดยเฉพาะการ์ดผู้หญิงทั้งหมดมีราคาเกินกว่า 5 ล้าน….. ที่ 1 ล้านสามารถซื้อได้….. ออคไม่ก็กูลที่ไม่เป็นที่นิยม)

 

    ผมหลับตาลงชั่วครู่ ตัดสินใจอยู่ภายในใจ

    ในเวลาอีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้ ความพยายามที่ทำมาตลอดหลายเดือนอาจจะสูญเปล่าก็ได้

    แต่ผมก็ตัดสินใจที่จะเข้าประจัญหน้า

 

「คือว่า」

「ครับ? เลือกได้แล้วหรือครับ?」

「เปล่าครับ เกี่ยวกับการ์ดนะครับ ได้ยินมาว่ามีแพ็คราคา 1 ล้านเยนอยู่」

 

    ชิเงโน่ซังที่ได้ยินที่ผมพูดมีสีหน้าที่มุ่ยลงอย่างชัดเจน

 

「…..จริงอยู่ที่ว่าเรามีการนำการ์ด 10 ใบมารวมแพ็คขายอยู่」

「อยากจะซื้ออันนั้นครับ」

「อา…..」

 

    ชิเงโน่ซังลังเลอยู่ชั่วครู่ ใคร่ครวญถึงสิ่งที่กำลังจะบอก

 

「คิทากาว่าซัง อาจจะกำลังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องของการ์ดแพ็คอยู่นะครับ」

「เข้าใจผิดเหรอครับ?」

「ครับ คิดว่าที่คิทากาว่าซังบอกมาเช่นนี้ คงเพราะเห็นใครบางคนโพสออนไลน์บอกว่าซื้อการ์ดแพ็คแล้วได้แรร์การ์ดมาใช่ไหมครับ」

「ครับ」

「จริงอยู่ว่าในแพ็คมีการ์ดระดับสูงสุดที่ B แต่ว่าโอกาศที่จะได้มันต่ำมากเทียบเท่ากับการถูกล็อตเตอรี่ แถมมันก็อาจจะไม่ได้อยู่ในแพ็คของร้านนี้ด้วย แม้แต่การ์ดแรงค์ C ก็ยังมีโอกาศได้จากแพ็คอยู่ที่ต่ำกว่า 1% ต่อให้เป็นแรงค์ D ในแพ็คก็ยังมีโอกาศแค่ 30% ไม่ใช่ว่าจะคุ้มกับเงินที่เสียไปอย่างแน่นอนครับ」

「ต่ำกว่า 1%…..」

「ครับ ครั้งนี้เป็นการลงทะเบียนครั้งแรกของคิทากาว่าซังสินะครับ? เงินทุนน่าจะเพียงพอแค่ 1 แพ็ค แต่ถ้าหากเปิดไม่ได้การ์ดแรงค์ D ก็จะไม่สามารถลงทะเบียนได้ ตัวแพ็คนั้นทำมาเพื่อให้ซื้อขายโดยนักผจญภัย เพราะแบบนั้นสัดส่วนของมันจึงไม่ได้ถูกทำมาเพื่อให้มือใหม่สำหรับคิทากาว่าซังครับ」

「…..ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจทุกอย่างแล้ว」

 

    พอผมตอบกลับไปเบาๆ ชิเงโน่ซังก็ทำท่าทางราวกับมีปัญหาแล้วลดสายตาลง

 

「…..คิทากาว่าซัง เงินตรงนี้ได้จากการที่ทำงานมาด้วยตัวเองใช่ไหมครับ?」

 

    จู่ๆหัวข้อก็ถูกเปลี่ยนไปเลยทำให้ตอบกลับไปอย่างประหม่าเล็กน้อย

 

「อา ครับ ใช่แล้ว」

 

    ชิเงโน่ซังครุ่นคิดและหยักหน้าให้กับคำตอบผม

 

「ผมเข้าใจดีว่าสำหรับเด็กนักเรียนมัธยมแล้วคงจะเป็นเรื่องยากเอามากๆ ในการทำงานพิเศษเพื่อให้ได้เงินจำนวนขนาดนี้มา….. ที่จะพูดจากนี้ขอเป็นแค่ระหว่างพวกเรานะครับ」

「ครับ…..」

「การ์ดที่ทางร้านจัดการ ทั้งหมดมาจากการซื้อขายกับนักผจญภัย โดยทั่วไปแล้วการ์ดที่มีลักษณะนิสัยเป็นเอกลักษณ์และสกิลที่ง่ายต่อการใช้งาน จะถูกนำไปวางไว้บนชั้นวางขายด้วยราคาที่เหมาะสม แล้วมันก็มีการ์ดที่ไม่ค่อยเป็นที่ดึงดูดแม้จะถูกนำไปแสดงบนชั้นวาง…..」

 

    …..เลยเอาไปใส่ในแพ็คเพื่อใช้เป็นของล่อ หมายความถึงแบบนี้สินะ

    การ์ดแรงค์ C มีราคาตั้งแต่ 10 ล้าน – 100 ล้าน ว่ากันว่าถ้าเป็นแรงค์ B สามารถพุ่งไปถึง 1 หมื่นล้านได้เลย เป็นโลกที่คาดไม่ถึงสำหรับคนธรรมดาและนักผจญภัยหน้าใหม่

    ถ้าหากว่าใช้แค่ 1 ล้านแล้วมีโอกาศได้มาไว้ในมือ….. แค่นี้ก็เพียงพอจะใช้เป็นเหยื่อล่อแล้ว

    ผมโค้งก้มหัวให้กับชิเงโน่ซัง

 

「ขอบพระคุณมากครับ แต่ว่า นี่เป็นสิ่งที่ได้ตัดสินใจไปแล้วครับ」

「…..เข้าใจแล้วครับ เช่นนั้นจะนำแพ็คมาให้นะครับ」

 

    ชิเงโน่ซังจ้องมองมาอยู่ประมาณ 1 นาทีแล้วถอนหายใจออกมาเล็กน้อยพร้อมลุกจากที่นั่งไป

 

「……….ฟู่ววววว」

 

    ผมพิงหลังไปกับพนักเก้าอี้ จ้องมองไปบนเพดานอยู่คนเดียว

    ไม่มีที่ให้หันหลังกลับแล้ว

    ทว่า ต่อให้เป็นนักผจญภัยได้ด้วยการ์ด D ระดับต่ำสุดมันก็ไร้ความหมาย

    แรงค์ C หรือว่าแรงค์ D ที่เป็นการ์ดผู้หญิง นั่นคือความต้องการต่ำที่สุดที่ผมมองหา

    ถ้าหากไม่ได้มาไว้ในมือแล้วมันก็เหมือนกัน

 

「ขออภัยที่ให้รอ นี่คือการ์ดแพ็คครับ」

 

    พอพูดเช่นนั้น ชิเงโน่ซังก็นำชุดการ์ดแพ็คที่ดูเหมือนของที่หาได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปออกมา

    ไม่เหมือนกับพวกการ์ดเกม ไม่ได้มีรูปสวยๆ อะไรอยู่บนซองแม้แต่น้อย ทั้งซองมีแค่สีดำ ถูกยัดเอาไว้ในกล่องสี่เหลี่ยมขนาด 50 ตร.ซม.

    นี่ก็คือ แพ็คการ์ดที่ 1 แพ็คราคา 1 ล้านเยน

    ทำเอากลืนน้ำลายอย่างช่วยไม่ได้

 

「เชิญเลือกอันไหนก็ได้ 1 แพ็ค จะใช้เวลานานแค่ไหนก็ได้ตามสะดวกเลยครับ」

「ขอบคุณมากครับ」

 

    ผมโค้งคำนับแล้วหันมาจ้องที่แพ็ค แน่นอนว่ามองไม่เห็นข้างในซักนิด

    ในพวกนี้ มี 30% เป็นแรงค์ D และต่ำกว่า 1% ที่จะเป็นแรงค์ C พูดอีกอย่างคือ มีโอกาศ 70% ที่เงิน 1 ล้านของผมจะกลายเป็นขยะไป

 

「………………..」

 

    ภาพของวันเวลาในการทำงานพาร์ทไทม์ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาลอยมาในหัว

    ทำงานพิเศษอย่างไม่มีหยุดพักที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตทั้งวันธรรมดาและสุดสัปดาห์ มันเป็นงานพิเศษแรกจึงโดนด่าอยู่ทุกวันในเดือนแรก เคยมีครั้งหนึ่งที่ไปเข้าตารุ่นพี่นิสัยไม่ดี ทำการสอนงานให้ผิดๆ ทำให้ผู้ดูแลร้านโมโหใส่อย่างมาก ในตอนนั้นทำได้แค่กัดฟันอย่างแรงจนเลือดซึมเหงือก พอกลับบ้านก็ถึงกับร้องไห้ ต้องคอยยกของหนักอยู่ตลอด พอสิ้นสุดแต่ละวันก็ทำแค่กินข้าว อาบน้ำ แล้วก็นอนหลับราวกับว่าสลบไป

 

    การจะขออนุญาตกับพ่อแม่ก็เป็นเรื่องยาก ไหนจะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย, ผลกระทบต่อการเรียน, ภาวะการเงิน ต้องค้นหาข้อมูลทุกอย่างในเน็ตมาแสดงให้พ่อแม่ดู, สัญญาจะรักษาการเรียน, ค่าใช้จ่ายทุกอย่างจะหามาด้วยตัวเอง ในที่สุดก็ได้รับอนุญาตมาเมื่อวันก่อน

 

    ความพยายามทั้งหมด อาจจะตกไปอยู่ใน 70% นั้น

 

    จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะเก็บเงินได้อีก 1 ล้าน แล้วคราวนี้ก็ไม่มีเงินเก็บปีใหม่อีก ถ้าทำงานทุกวันหลังเลิกเรียนจะได้ประมาณ 1 แสน คำนวนง่ายๆก็ประมาณ 10 เดือน แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตารางงานทำให้ไปไม่ได้ทุกวัน และสุขภาพจิตอาจจะรับไม่ไหว คงจะเห็นผลได้ใน 1 ปี แล้วถ้ามันไม่ได้อีกรอบล่ะ จะลองอีกในปีถัดไปไหม?

 

    เป็นไปไมไ่ด้ ชีวิตมัธยมมีแค่ 3 ปี ถ้าใช้มันทั้งหมดอยู่กับการทำงานพิเศษแล้ว มันก็เหมือนเอาเกวียนไปวางไว้หน้าม้า

 

    …..ถ้าครั้งนี้ไม่ได้แล้วล่ะก็ คงจะดีกว่าถ้ายอมแพ้ไป

    ไม่สิ มากยิ่งกว่านั้น จะเดิมพันทุกอย่างเอาไว้กับ 1 ครั้งนี้ ถ้าหากว่าไม่ได้แล้วล่ะก็ จะใช้ชีวิตมัธยมอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่หวังอะไรอย่างไร้เหตุผล แต่ถ้าหากการ์ดแรงค์ D หรือมากกว่าโผล่ออกมาล่ะก็…..

 

    เจ็บที่หัวใจ, คอแห้งผากที่แม้แต่กลืนน้ำลายก็เจ็บ, เหงื่อไหลไปทั้งตัวจนรู้สึกหนาว, ที่ปลายนิ้วรู้สึกสั่นและออกแรงได้อย่างลำบาก

    เสียงอื้ออึงจากภายนอกร้านหายไป น่ากลัว ร่างกายรู้สึกโหวงเหวงราวกับอยู่ในอวกาศ

    เป็นครั้งแรกที่ได้รู้ ช่วงเวลาที่การตรากตำอย่างหนักทั้งหมดจะถูกทดสอบ มันช่างน่ากลัว

    สงสัยว่า พวกที่เรียนเก่งหรือที่อยู่ในชมรมกีฬาจะรู้สึกแบบนี้รึเปล่าตอนสอบหรือแข่งขัน แย่ละ ความรู้สึกเคารพต่อทาคาฮาชิของชมรมเบสบอสชักจะขยายใหญ่ขึ้นแล้ว

    สูดหายใจเข้าลึกๆ 1, 2, 3, 4, 5, 6….. หายใจออก 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9….. หายใจเข้า

 

    เอาล่ะ ดึงกันเลย

 

    ปลายนิ้ว ยื่นออกไปที่มุมขวาของกล่องอย่างเป็นธรรมชาติ แถวที่ 3 และแพ็คที่ 2 นับจากข้างหลัง มือถูกยื่นออกไปราวกับว่าถูกดึงดูด ไม่มีการติดขัด หยิบออกมาได้อย่างลื่นไหล

 

「อันนี้แหละครับ」

「แน่ใจแล้วนะครับ?」

「ครับ」

 

    พอผมพยักหน้า ชิเงโน่ซังก็ผายมือให้

 

「เช่นนั้นแล้วก็กรุณาเปิดเลยครับ」

 

    ฉึบ ฉีกตามรอยของแพ็ค

    ใบที่ 1 ก็อบบลิ้น แรงค์ F, ใบที่ 2 โคโบลด์ แรง์ E, ใบที่ 3 คูสิท(Cù-Sith) —- แรงค์ D!

    ทั้งความดีใจและความผิดหวังกระแทกเข้าที่หัวใจพร้อมๆกัน

    ในตอนนี้ กำแพง 30% ได้ถูกทำลายไปแล้ว อย่างน้อยก็สามารถลงทะเบียนนักผจญภัยได้ แต่ว่า นี่มันไม่มีความหมาย เท่านี้ก็…..

    ยิ่งไปกว่านั้น การที่การ์ดแรงค์ D โผล่มาเอาตอนนี้ หมายความว่าโอกาศที่การ์ดที่เหลือจะเป็นแรร์การ์ดจะลดต่ำลงไปอย่างมาก

 

    หรือก็คือ ผมเสียพนันไปแล้วครึ่งนึง

 

    ผมกัดริมฝีปากแล้วเปิดดูการ์ดที่เหลือ

    ใบที่ 4 สเกเลตัน แรงค์ F, ใบที่ 5 ก็อบบลิ้นอีกตัว, ใบที่ 6 ซอมบี้ แรงค์ F, ใบที่ 7 โรปเปอ แรงค์ F, ใบที่ 8 —-

 

「อะ!」

 

    กูล…..การ์ดแรงค์ D แถมด้วยภาพที่แสดงอยู่เป็นผู้หญิง

    เป็นกูลที่มีผมบลอนด์ยาว อายุราวๆ 20 รูปร่างชวนยั่วยวน ถ้าได้ยินแค่นั้นก็คงคิดว่าเป็นผู้หญิงที่น่าดึงดูด แต่ว่าสีผิวของเธอเป็นสีม่วงคล้ำ ดวงตาเองก็แดงก่ำจนแทบมองไม่เห็นตาขาว น้ำลายที่ไหลย้อยออกจากปากที่อ้ากว้างก็แสดงให้เห็นถึงการไร้ซึ่งสตินึกคิด

    แม้จะไม่ได้เลวร้ายมากแต่ก็ไม่สามารถรู้สึกได้ถึงความโมเอะแม้แต่นิดเดียว

 

「ฮะฮะ…..」

 

    รอบยิ้มเยาะเย้ยตัวเองปรากฏขึ้น มันก็จริงที่ได้การ์ดแรงค์ D ตามที่หวัง….. แถมยังเป็นการ์ดผู้หญิงอีก แต่ว่าแบบนี้มันสุดยอดในแบบที่ไม่ใช่เลย

    แต่ก็เอาเถอะ บางทีนี้อาจจะเป็นการ์ดมีเหมาะกับผมแล้วก็ได้…..

    แต่ไหนแต่ไรแล้ว การที่อยากได้การ์ดผู้หญิงน่ารักๆ ที่เป็นแรงค์ C มีค่ากว่า 10 ล้านแบบถูกๆ จะหวังสูงยังไงมันก็ต้องมีขอบเขตกันบ้าง

    ถ้ามาคิดดูแล้ว การที่ได้แรงค์ D 2 ใบในแพ็คเดียวก็น่าจะพอใจแล้ว

    งั้นก็คงดีแล้วล่ะ

    ขณะที่คิดแบบนั้นอยู่ ก็เปิดการ์ด 2 ใบที่เหลือ—-

 

「……….อะ เอ๋?」

 

    —-แทบไม่เชื่อสิ่งที่ตาเห็น

    1 ใบคือการ์ดก็อบบลิ้นที่ไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆอีก แต่ทว่าอีก 1 ใบนั้น รูปที่แสดงอยู่เป็นเด็กผู้หญิงในชุดญี่ปุ่นไม่ผิดแน่

    ผมสีดำที่เล็มด้วยความประนีต ถูกจับม้วนไปมาจนราวกับทรงพังค์ และด้วยเหตุผลบางอย่าง เท้าข้างหนึ่งเหยียบไปบนลูกบอล(น่าจะเป็นลูกบอลนะ) จ้องมองมาทางผมพร้อมชูนิ้วกลางให้ด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์….. ไม่ผิดแน่

 

    ———-ซาชิกิวาราชิ การ์ดเด็กผู้หญิงแรค์ C ล่ะ

 

 

 

 

 

【Tips】มอนสเตอร์การ์ด

    การ์ดปริศนาที่ตกได้ยากจากมอนสเตอร์ภายในเขาวงกต ภาพของมอนสเตอร์จะถูกแสดงอยู่ เมื่อถูกมาสเตอร์ลงทะเบียน จะสามารถอัญเชิญมอนสเตอร์ได้อย่างอิสระ ในขณะที่มอนสเตอร์ถูกอัญเชิญ ความเสียหายของมาสเตอร์ทั้งหมดจะถูกการ์ดรับแทน เป็นของที่ขาดไม่ได้ในการพิชิตเขาวงกต โดยทั่วไปมอนสเตอร์จะเชื่อฟังคำสั่งของมาสเตอร์ตน แต่พวกเขาก็มีอารมณ์ ถ้าเป็นสิ่งที่เกลียดแล้วก็จะไม่ฟังคำสั่ง

    การ์ดที่อ่อนแอจะมีโอกาศตกที่มากกว่าทำให้ราคาถูก ส่วนการ์ดที่แข็งแกร่งจะมีโอกาศตกที่ต่ำและราคาแพงมากกว่า

    โดยเฉพาะการ์ดเด็กผู้หญิงที่ถูกแลกเปลี่ยนในราคาสูงเนื่องจากมีความต้องการมาก

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

Status: Ongoing
ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ในโลกคู่ขนานของญี่ปุ่น จู่ๆ เขาวงกตได้ปรากฏขึ้น ที่ซึ่งมอนสเตอร์โผล่ออกมา ในช่วงแรกเริ่มนั้นเขาวงกตไม่ได้ต่างอะไรไปจากภัยพิบัติ แต่สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปด้วยทรัพยากรที่เขาวงกตผลิต และตัวตนของ ‘การ์ด’ ที่ตกจากมอนสเตอร์ กลายเป็นช่วงแห่งการกอบโกย การ์ดมอนสเตอร์ที่สามารถอัญเชิญมอนสเตอร์ออกมาได้ดั่งใจนึก เหล่านักผจญภัยที่ใช้พลังของการ์ดเพื่อพิชิตเขาวงกต ถ่ายทอดสถานการณ์เหล่านั้นด้วยดันเจี้ยนTV, โคลอสเซียมที่มอนสเตอร์ต่อสู้กัน….. สิ่งเหล่านี้กระตุ้นความสนใจในตัวผู้คน แล้วก่อนที่จะรู้ตัวนักผจญภัยก็กลายเป็นอาชีพที่ผู้คนใฝ่ฝันจะเป็น คิทากาว่า・อุทามาโร่ เด็กม.ปลายสายม็อบ เห็นเพื่อนที่น่าจะเป็นสายม็อบเดียวกัน หลังจากที่เป็นนักผจญภัยแล้วกลับถีบตัวไปอยู่ในกลุ่มท็อบได้ จึงตัดสินใจที่จะเป็นนักผจญภัยด้วยตัวเอง อุทามาโร่ เพื่อที่จะได้แรร์การ์ดไปอวดทุกคนได้จึงเดิมพันชีวิตกับกาชาสุดบ้าระห่ำราคา 1 ล้านเยน ทว่า—?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท