โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 14

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่2ตอนที่5

สถานที่ๆมาร์พามาคือด้านนอกเมือง ดวงอาทิตย์ขึ้นสูงแล้วและความร้อนเองก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นอากาศในฤดูใบไม้พลิกำลังเบ่งบานทั่วเมือง

อาร์คาซัมมีกำแพงเมืองที่คอยป้องกันการรุกรานของสัตว์อสูรที่อาศัยอยู่รอบๆเมือง

นอกจากนี้กำแพงที่สร้างยังถูกเว้นระยะห่างจากเมืองพอสมควร ทั้งนี้เนื่องจากให้สามารถจัดเตรียมกองทัพขนาดใหญ่ได้ในการรุกรานครั้งใหญ่และยังเป็นสถานที่เก็บเสบียง

เนื่องจากค่อนข้างไกลจากตัวเมืองเลยไม่ค่อยพบเห็นผู้คนสักเท่าไร แต่ถึงกระนั้นก็พบได้เยอะกว่าที่ป่า

โนโซมุกับมาร์ต่างเผชิญหน้ากัน

◇◆◇

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาและเริ่มบุกเข้ามาทันที

 

「ย๊าาาาาาาาาาาก!」

 

โนโซมุกันดาบใหญ่ของออกไปทางด้านข้างขณะเดียวกันก็เข้าไปทางด้านข้างของคู่ต่อสู้เพื่อหลบการโจมตี

 

「มาร์ ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย!」

 

ร่างกายของมาร์ที่พลังอัดแน่นอยู่เต็มทั่วร่างเห็นได้ชัดว่าเขาเอาจริง โนโซมุที่ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงได้ถามออกไป นึกว่าจะถูกเรียกมาคุยเรื่องที่เข้าไปในป่า ไม่คิดว่าจะโดนโจมตีแบบนี้เลย

 

 

「คำถามก็ไว้ตอบที่หลัง 」

 

「ถ้างั้นทำไมถึงชี้ดาบมาทางข้าล่ะ!」

 

 

มาร์ไม่ตอบโนโซมุและยังคงฟันต่อไป โนโซมุจึงต้องป้องกันการโจมตีเหล่านั้น เสียงของดาบปะทะกันทั้งสองคนยังคงสู้กันต่อไป

 

มาร์ใช้เสริมพลังกายและโจมตีหลายครั้งติดต่อกันจนเหมือนไม่ใช่ผู้ใช้ดาบใหญ่

ดาบฟาดฟันกันไปกันมาส่งเสียงกระทบจนแสบแก้วหู การเคลื่อนไหวของทั้งสองไม่มีใครช้าลงเลยแม้แต่น้อย

การโจมตีด้วยดาบใหญ่อย่างต่อเนื่องจำเป็นต้องได้รับการฝึกอย่างชำนาญ ด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพที่ครึ่งๆกลางๆจะทำให้การโจมตีไม่ต่อเนื่อง

ยังไงก็ตามมาร์ยังฟันออกมาด้วยแรงมหาศาลและยังคงเร็ว

 

โนโซมุหลบการฟันแรกและก้มตัวลงต่ำ

จากนั้นก็ฟันสวนและยกดาบขึ้นเข้าปะทะกับดาบของมาร์จากนั้นพุ่งเข้าไปเป็นแนวตั้งและมุ่งหน้าเข้าไปเรื่อยๆ

 

โนโซมุใช้แรงเหวี่ยงเป็นตัวช่วยในการปัดป้องการโจมตี บางทีมาร์เองก็คงอ่านออกเช่นกันเลยใช้ดาบใหญ่ขัดการโจมตีเหล่านั้น เสียงของดาบปะทะกันจนเกิดเสียงก้อง

 

โนโซมุไม่สนใจและยังคงโจมตีต่อไปตรงๆ พื้นที่โจมตีของโนโซมุกับมาร์นั้นต่างกัน โนโซมุเป็นคนที่ต้องเข้าหา

โนโซมุนั้นใช้แรงมากกว่ามาร์หลายเท่าตัวและตัวเขาที่ขาดทั้งความเร็วและพลังนั้น แต่มาร์เองก็ไม่มีโอกาสเข้าด้านข้างของโนโซมุได้เช่นกัน

มาร์ไม่สามารถโจมตีได้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ดาบใหญ่ของเขาเพื่อรับการโจมตีต่อเนื่องของโนโซมุ

 

 

เมื่อถือดาบใหญ่ด้วยมือทั้งสองเขาก็ป้องกันการโจมตี พลังงานจากร่างกายถูกปลดปล่อย เทคนิคนี้ไม่มีชื่อ แต่ว่ามันปล่อยพลังมหาศาลโนโซมุยังคงโจมตีมาอย่างต่อเนื่อง

 

ทันใดนั้นเองโนโซมุก็เน้นพลังไปที่มือข้างหนึ่งจากนั้นพุ่งเข้าหาโนโซมุ

หมัดของมาร์ที่มีความสามารถทางกายภาพอันทรงพลังและแข็งแกร่งที่สามารถบดขยี้สัตว์อสูรได้อย่างง่ายดาย โนโซมุไม่สามารถเมินเฉยต่อพลังนั่นได้เลยแม้แต่น้อย

โนโซมุใช้ฝักดาบกันหมัดของมาร์แต่ว่าตัวเขาเองก็ปลิวไปทางด้านหลังพอสมควร

 

ทันทีที่โนโซมุตั้งหลักได้ มาร์ก็เข้ามาใกล้ในระยะของโนโซมุและเปิดใช้งาน “ดาบวายุ”คมดาบวายุพัดผ่านใบหน้าของโนโซมุและก็พยายามโจมตีอย่างต่อเนื่อง โนโซมุใช้ “ก้าวพริบตา”เพื่อหลบการโจมตี แต่มาร์เองก็เล็งไปที่ขาของโนโซมุเพื่อจะตัดโอกาสหนี

 

「ย๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาก!!」

 

ไม่คิดเลยว่ามาร์จะพุ่งมาตรงๆแบบนี้

 

นั่นคงจะเป็นตามปกติ โนโซมุพยายามจะโจมตี แต่ก่อนจะได้โจมตีก็กันการโจมตีซะก่อน

 สถานการณ์ในตอนนี้โนโซมุไม่สามารถโต้กลับอะไรได้มากนัก

เนื่องจากตอนนี้โดน “พันธนาการ” เอาไว้ทำให้ไม่สามารถเปิดใช้หลายๆกระบวนท่าได้

 

 

 

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่ลงมาด้วยพลังอันเหลือล้น

โนโซมุเคลื่อนไหวด้วยความเร็วมหาศาลก่อนที่ดาบใหญ่จะฟาดลงไปที่หัวของเขา มาร์ตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆความเร็วของโนโซมุเพิ่มขึ้น

 

ก่อนที่ดาบของมาร์จะโดนตัวของโนโซมุ เขาบุกเข้าไปใช้ดาบฟันไปที่ปลอกแขนของมาร์

 

「อั่กกกกกกก!」

 

ใบหน้าของมาร์นั้นบิดเบี้ยวจากการรับการโจมตีนั่น การโจมตีนั่นไม่โดนปลอกแขนของมาร์ทำให้โดนเข้าไปเต็มๆ

มาร์ปล่อยมือข้างหนึ่งออกจากดาบใหญ่และตั้งสมาธิสร้างวายุภายในกำปั้นเขา

มาร์ปล่อยมวลลมที่ถูกอัดแน่นเข้าใส่โนโซมุในระยะใกล้

 

 คิ“ฝ่ามือวายุ”

 

เทคนิค คิ ประเภทลม ปล่อยมวลลมอันรุนแรงใส่คู่ต่อสู้

เป็นเทคนิคที่ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นการเพิ่มแรงปะทะด้วยมวลลมเข้าไป

ลมที่ปล่อยออกมาพัดพาโนโซมุจนปลิวไปดังนั้นระยะห่างระหว่างทั้งสองจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง

ทั้งสองต่างจ้องมองกันและกัน ทั้งสองต่างไม่เคลื่อนไหวชั่วขณะ

◇◆◇

มาร์รู้สึกชื่นชมในตัวโนโซมุอีกครั้ง

 

(เข้าใจแล้ว………ดูเหมือนว่าจะถนัดวิชาดาบเพียวๆเลยสินะ……)

 

ข้าที่มีพลังเหนือกว่ามาก แต่ก็ไม่สามารถโจมตีหมอนั่นได้ตรงๆ ทั้งด้านความเร็วหรือความแรงต่างถูกป้องกันได้หมด ถ้าข้ากดดันจนสุดก็จะโดนเคาน์เตอร์กลับมา

 

ดาบของข้าไล่ตามเขาไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่สามารถโจมตีโดนหมอนั่นได้

 

ข้าอยากจะรู้ เหตุผลที่ทำให้หมอนั่นแข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่ตัวข้าจะได้ก้าวเดินต่อไปได้

 

แข็งแกร่ง มากกว่านี้ มากกว่านี้ยิ่งขึ้นไป………………。

 

 เพราะฉะนั้นต้องรู้เรื่องของหมอนี่ให้ได้ อะไรที่ทำให้หมอนี่แข็งแกร่งถึงขนาดนั้น…………。

 

◇◆◇

ทั้งสองคนยังจ้องตากันอยู่ สำหรับมาร์แล้วเขาผ่อนคลายร่างกายและรวบรวมพลังลงไปที่ดาบ

 

「ทำได้แสบนักน่ะ มันเจ็บนะเนี่ยรู้ไหม」

 

โนโซมุกำลังจ้องมองมาร์ที่กำลังรวบรวมพลังลงไปที่ดาบของเขาอย่างตั้งใจ โนโซมุเองก็เตรียมรับมือ

 

 

 

「……ข้ามีบางอย่างอยากจะถาม…………………เจ้าเริ่มเข้าป่าตั้งแต่ตอนไหนกัน?」

 

มาร์จ้องมองไปยังโนโซมุ แววตาของเขาบ่งบอกว่าไม่ยอมให้เขาหลีกเลี่ยงคำถาม

 

 

บอกตามตรงโนโซมุเองก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง ถ้าเขาบอกไปว่าตัวเองฆ่าเทพมังกรลงได้ ก็คงจะไม่มีใครเชื่อ แน่นอนตอนนี้ข้าเองก็ไม่รู้จุดประสงค์อันแน่ชัดของเขาด้วย และข้าเองก็คิดไม่ออกว่าจะใช้พลังนี้ยังไงต่อไป

ตัวเองที่ยังคงหนีต่อไปเรื่อยๆแบบนี้ ตัวข้าที่สูญเสีย “ความฝันในการช่วยเหลือลิซ่า”และสูญเสียเหตุผลทุกอย่างไป

การสูญเสียเหตุผล “ในการแข็งแกร่งขึ้น”ครั้งนี้มันสร้างความกังวลให้กับชิโนะเองด้วยเช่นกัน ชิโนะบอกไว้ว่า”หากเจ้าเสียเหตุผลในการแข็งแกร่งขึ้น เจ้าก็จะหนีความจริงไปโดยไม่รู้ตัว” และตอนนี้เขาก็รู้ตัวดีว่าเขายังคงหนีความเป็นจริงเรื่อยมา ข้าไม่สามารถที่จะก้าวไปข้างหน้าได้

นั่นเป็นเหตุผลที่โนโซมุมักจะชื่นชมคนที่มีเป้าหมายในชีวิตอย่างไอริสที่บอกไว้ว่า “ฉันจะคอยช่วยเหลือทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือ”และโซเมียเองที่พูดไว้ว่า “ฉันเองก็อยากจะเป็นให้ได้เหมือนพี่สาวคะ” ข้ารู้สึกได้ถึงความรู้สึกเหล่านั้น

◇◆◇

「อืมมมมม…………นั่นสินะครับข้าเองก็เริ่มเข้ามาในป่าตั้งแต่ฤดูร้อนที่เลิกกับลิซ่าจนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้……ตอนนั้นตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น…………เหตุการณ์ที่ลิซ่าบอกเลิกกับข้า……เพราะเรื่องต่างๆมากมาย」

 

 

ข้าตัดสินใจเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้มาร์ฟัง ถ้าคิดว่ามาร์เป็นคนที่ตามเขามาเมื่อวานแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีอะไรต้องปิดซ่อน แถมตัวเขาเองก็ไม่เห็นพลังของดราก้อนสเลเยอร์ด้วย

 

 

「…………อืมน่าตกใจจริงๆ ตั้งแต่นั้นมาเจ้าก็เข้าป่าคนเดียวมาโดยตลอดเลย?」

 

 

มาร์ตกใจมากที่โนโซมุพยักหน้าอย่างเงียบๆและเงยหน้ามองท้องฟ้า เนื่องจากมันเป็นเรื่องอันตรายอย่างมากที่จะเข้าป่าด้วยตัวคนเดียวจึงถูกสั่งห้ามเอาไว้ สำหรับโนโซมุเขาแหกกฏข้อนั้นของโรงเรียนและเข้าป่าไปด้วยตัวคนเดียวซึ่งมันเป็นอะไรที่ดูบ้าบิ่นมากๆ แต่ส่วนใหญ่ก็พอเข้าใจเหตุผลที่ได้แผลบ่อยๆได้แล้วเป็นเพราะคงได้สู้กับสัตว์อสูรในป่า ถ้าเกิดแย่ขึ้นมาละก็อาจจะโดนพวกสัตว์อสูรฆ่าก็ได้

ท้ายที่สุดคนที่ไม่มีประสบการณ์ในการเข้าป่า ไม่ว่าจะเก่งดีเลิศแค่ไหนก็ไม่สามารถเอาตัวรอดได้หรอก หากตัดสินใจพลาดเท่ากับตายเลย ซึ่งเรื่องนั้นเองก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประจำด้วยในทุกๆปีที่พบศพของนักเรียนเข้าป่า

 

「อืมข้าเชื่อแล้วล่ะ เจ้าเองก็ฝึกร่างกายมาอย่างหนักและการตัดสินใจที่เฉียบแหลมนั่น。」

 

แน่นอนอยู่แล้ว หลังจากเลิกเรียนเขาก็ไปฝึกกับชิโนะเป็นประจำทั้งยังสู้กับอาจารย์รวมถึงพวกสัตว์อสูรภายในป่า

สัตว์อสูรที่เข้ามาโจมตีล้วนแต่เป็นระดับต่ำ แต่ถึงแม้ว่าโนโซมุในตอนนั้นก็ไม่ได้มีความสามารถทางกายภาพมากมายนัก แต่ความสามารถด้านวิชาดาบและการตัดสินใจนั่นที่ยังไม่ค่อยมั่นคงก็ไม่น่าจะมีโอกาสชนะสัตว์อสูรเหล่านั้นได้

 

นั่นคือเหตุผลที่ว่าการหนีเองก็เป็นเรื่องสำคัญ

เข้าไปที่แม่น้ำเพื่อกำจัดกลิ่นกายและเอาใบไม้ถูตัวเพื่อพรางตัวไปกับผืนป่า

การตัดสินใจของโนโซมุเป็นข้อพิสูจน์อันดีว่าเขามีประสบการณ์ในการเข้าป่าอย่างโชกโชนโดยธรรมชาติแล้วมนุษย์เองก็ต้องตัดสินใจในการทำสิ่งต่างๆเพื่อเอาชีวิตรอด

เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหวในการต่อสู้จำลองเมื่อวานนี้ เขาเคลื่อนไหวไม่ซ้ำไปมาและเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเพื่อไม่ให้ตัวเองโดนล้อมรอบ

นั่นคือสิ่งที่ข้าได้เรียนรู้จากการต่อสู้กับสัตว์อสูรหมาป่า

 

และก็การต่อสู้จำลองกับชิโนะ

การต่อสู้กับชิโนะที่มีพละกำลังมหาศาล ถ้าตอบสนองช้านิดหน่อยก็หมดสติได้เลย แม้ว่าเขาจะทำพลาดแค่นิดเดียว ก็หมดสติแน่นอน

ตัวข้าที่อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้มาตลอด แม้ว่าจะไม่ชอบก็ตามแต่ก็ต้องฝึกต่อไป

◇◆◇

「แล้วจู่ๆทำไมมาร์ถึงมาเรียกข้าล่ะ? ได้ยินเรื่องแปลกๆอะไรมาอีกแล้วเหรอไง คิดจะมาจัดการข้าอีกเหรอ? หาา」

 

โนโซมุจ้องมองมาร์ไปด้วยความสงสัย โดยปกติไม่ว่าโนโซมุจะทำอะไรมา เขาก็มักจะเข้ามาหาเรื่องกับโนโซมุตลอดเวลา นั่นละคือท่าทีปกติ

 

「เอ่อ หืม เรื่องแบบนั้น……เห็นข้าเป็นคนแบบนั้นเหรอ?」

 

ราวกับว่าเขาไปกดสวิตซ์อะไรบางอย่าง น้ำเสียงของมาร์เลยดูโกรธหน่อยๆ

 

「???」

 

จู่ๆมาร์เองก็พูดติดๆขัดๆโนโซมุที่ยังคงงงกับท่าทางของมาร์ที่ดูไร้เหตุผลนั่น

อย่างไรก็ตามเมื่อมองไปที่มาร์แล้วดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกผิดอยู่หน่อยๆด้วย ดูเหมือนว่าความลับเรื่องที่เขาเป็นดราก้อนสเลเยอร์จะยังไม่แตก

 

◇◆◇

ตอนที่ข้าได้ยินว่าโนโซมุเข้าป่ามาเพื่อฝึกดาบข้าไม่อยากจะเชื่อเลยแม้แต่น้อย

โนโซมุเองก็รู้สึกโล่งอกเพราะความลับยังไม่แตก

 

 

 

 

「เอ่อ ที่ข้าจะหมายถึงก็คือ「อาาาาーーーーーーーーーーー! นี่แกทำบ้าอะไรของแกเนี่ย ไอบ้าเอ้ย!」

 

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงดังขัดขึ้นมาอย่างกระทันหัน เมื่อมองไปก็พบกับหญิงสาวที่มีรูปร่างคล้ายคลึงกับมาร์ ใบหน้าของเธอแสดงให้เห็นถึงความโกรธอย่างเห็นได้ชัด เธอจ้องมองราวกับแค้นเคืองอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเป็นน้องสาวของมาร์แน่ๆ

 

「พี่ชายคะ!! คิดจะทำอะไรกันแน่เรียกใครบางคนมายังที่ลับตาคนแบบนี้!!!!」

 

「ฮะ เฮ้ย อย่านะเว้ย! แล้วเธอละมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันเนี่ย!!」

 

「ก็พี่ชายออกไปข้างนอกด้วยหน้าตาบูดเบี้ยวเลยนี่คะ~~ดังนั้นฉันก็เลยตามมา จากนั้นก็เป็นไปตามที่คิดไว้เลยพยายามทำอะไรบางอย่างเหมือนนักเลงเช่นนี้…………。」

 

เธอแย้งออกไปเช่นนั้น มาร์เองก็ไม่รู้จะเถียงออกไปยังไง

 

「อะไรกันเล่า! ทำไมข้าต้องมาทำอะไรเหมือนพวกกุ๊ยแบบนั้นด้วยละเห้ย!!」

 

「ดูสิ่งที่ตัวเองทำก่อนจะพูดบ้างไหมคะ มองจากภายนอกจะคิดแบบนี้ก็ไม่แปลกเลยสักนิด! พี่รู้ตัวไหมว่าพี่สร้างความลำบากมากมายให้ฉันมากขนาดไหน ฉันต้องไปก้มหัวให้ใครต่อใครเพราะเรื่องที่พี่ก่อไว้เนี่ย!!」

 

「หึ!」

 

มาร์เองที่มากความสามารถแต่มีพฤติกรรมแย่ๆเลยทำให้ต้องตกมาอยู่ในห้อง 10 แม้จะมีผลการประเมินอยู่ในระดับสูงก็ตามที

อย่างไรก็ตามมาร์นั้นโดนน้องสาวตำหนิอย่างหนัก ดูเหมือนว่าเขาจะแพ้น้องสาวตัวเอง

แม้ว่าเขาจะเถียงไปนิดหน่อย แต่หากเถียงมากเกินไปมีหวังโดนเฉือดแหงๆ มาร์เองก็คิดว่าคงเป็นเช่นนั้นเลยแสดงท่าทางนิ่งเงียบ เขาเองก็รู้ตัวว่าทำความเดือดร้อนให้ครอบครัวแต่ว่าเขาก็ไม่คิดจะตอบโต้อะไรมากมายนัก

 

「ร้านโปรดของฉันที่อยากจะเข้าก็โดนห้ามเข้าเพราะพี่ชายไปอาละวาด!」「เพราะพี่ไปทำตัวเหมือนพวกมาเฟียฉันเลยโดนคนรุ่นเดียวกันปฏิบัติราวกับเจ้านายพวกเขา!」「ต้องขอโทษเพื่อนบ้านแทบทั้งวันก็เพราะพี่!」และอีกหลายสิ่งหลายอย่างเหนือคนานับต่างหลุดออกมาจากปากน้องสาวของมาร์

ทุกครั้งที่เธอพูดออกมามาร์ก็จะขัดด้วยคำว่า「หึ!」ไม่ก็「แล้วไงละ!」ราวกับหอกที่ทิ่มแทงก็ไม่ปราณ

 

ในที่สุดเรื่องเก่าๆอันแสนน่าอับอายของมาร์ก็ผุดขึ้นมา

「โตกว่าฉันแล้วยังฉี่รดที่นอนอีก。」ไม่ก็「ตอนที่ฉันอยากจะขี่ม้าก็จะมาแย่งจนชาวบ้านเขามองกันไปทั่วเพราะม้าตื่น。」

 

 

บางทีเพราะเรื่องน่าอายผุดออกมาเรื่อยๆนั้นมาร์ก็เข่าทรุดจนมือกำอยู่กับพื้น ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นคนทำงานอิสระแต่มาได้ยินแบบนี้ข้าก็ไม่โอเค

เธอคนนั้นยังคงล้อเลียนมาร์ต่อไปเรื่อยๆ และเมื่อเห็นว่ามาร์หมดอาลัยตายอยากเธอก็เข้ามาหาโนโซมุ

 

「ต้องขออภัยในความหยาบคายของพี่ชายแสนงี่เง่าด้วยนะคะ」

 

「ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ว่า………………เธอทำขนาดนั้นพี่ชายเธอไม่เป็นไรแน่เหรอ?」

 

「ค่ะ ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้พี่ชายก็ไม่สำนึกผิดสักทีค่ะ และเพราะคนๆนี้ชอบสร้างปัญหาให้ฉันอยู่เรื่อย เพราะงี้แหละค่ะนี่คือบทลงโทษจากธรรมชาติ」

 

「อะ ฮะฮะ…………」

 

มาร์ที่ก้มลงด้วยความสมเพชตัวเองและโนโซมุที่พยายามหักห้ามเธอ แต่เธอก็ตัดความห่วงใยนั่นโดยไม่ใยดี

 

โนโซมุเองก็โกรธมาร์ที่จู่ๆก็เข้ามาโจมตีโดยไร้เหตุผลนิดหน่อย แต่ไม่ว่าเขาจะทำตัวแย่แค่ไหนยังไงเขาก็เป็นพี่ชายของเธอคนนี้ ดังนั้นช่างมันเถอะ

 

「อืม ขอโทษด้วยนะคะที่แนะนำตัวช้า ฉันชื่อว่าอิน่าเป็นน้องสาวของพี่ชายแสนงี่เง่านั่น」

 

「อืม ข้าชื่อ โนโซมุ ・เบลาตี้ เป็นเพื่อนร่วมชั้นของมาร์」

 

ต่างจากมาร์เธอเป็นคนที่สุภาพเรียบร้อย เป็นผู้หญิงท่าทางเข้มแข็งอาจเป็นเพราะพี่ชายจึงทำให้เธอต้องดิ้นรนอย่างหนัก

 

「พี่ชายที่โง่เขลาคนนี้ทำให้คุณต้องลำบาก ฉันอยากจะขอโทษอย่างเป็นทางการช่วยมาที่ร้านของฉันจะได้ไหมคะ? พวกเราเปิดโรงแรมขนาดเล็กพร้อมกับบาร์อย่างน้อยก็อยากจะขอโทษด้วยการเลี้ยงอาหารกลางวันค่ะ」

 

 เธอคนนั้นต้องการขอโทษข้า โนโซมุบอกว่าไม่จำเป็นต้องขอโทษเลย แต่อินะก็พูดมาว่า”ถ้าหากฉันไม่ได้ขอโทษอย่างจริงจังมันไม่สบายใจค่ะ” ดังนั้นโนโซมุจึงไม่มีทางเลือกนอกจากตอบรับคำเชิญนั่น…………。

 

「แล้วมาร์ละครับจะปล่อยไว้แบบนี้เหรอ」

 

「อ่า นั่นสินะคะ พี่ชายงี่เง่ารีบๆเดินเข้าสิคะ!」

 

อิน่าวิ่งเข้าไปเตะมาร์ จนมาร์เผลอร้องออกมาว่า「ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย!」ด้วยท่าทางโกรธๆ ข้าเองที่เห็นภาพเช่นนั้นก็รู้สึกอดสงสารมาร์ไม่ได้

 

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท