โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 29

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่3ตอนที่6

 

 

โนโซมุและไอริสต่างเดินไปตามถนนย่านการค้าอีกครั้งในมือของพวกเขามีขนมมากมายที่เจ้าของร้านขนมมอบให้เป็นการขอบคุณ  

 

 

เมื่อชิมเข้าไปความหวานนั่นเข้าแพร่ซ่านไปทั่วทั้งปาก

 

 

「ลูกกวาดนี่ทำออกมาสวยมากเลยนะคะ แถมยังรสชาติดีอีกด้วย」

 

 

「อืม นั่นสินะครับถ้าเอาไปฝากโซเมียจังเธอน่าจะชอบมันแน่ๆ」

 

 

「อืม นั่นสินะคะ แต่ว่าถ้าให้เธอทานมากไปคงจะไม่ดี เดี๋ยวได้ฟันผุเอา」

 

 

เธอยิ้มเช่นนั้นพร้อมกับถือลูกกวาดเข้ามาใกล้ๆแก้มของโนโซมุและยิ้มให้ราวกับเหมือนคุณแม่ที่เป็นห่วงลูก โนโซมุที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มตามไปด้วย

 

 

「แต่ว่ามันจะดีเหรอครับ?ลูกกวาดของคุณไอริสเนี่ย」

 

 

ลูกกวาดที่เธอถืออยู่คือลูกกวาดฝีมือผมเองแหละ

 

 

「อืมม ไม่เป็นไรหรอกนะคะ ครั้งแรกก็ผิดพลาดกันได้ใช่ไหมละ? หรือว่าฉันจะทานมันไม่ได้งั้นเหรอคะ?」

 

 

「เอ่อ ไม่ใช่แแบบนั้นหรอกครับ รสชาติมันไม่น่าจะเปลี่ยนแต่ว่ารูปลักษณ์ของมันดูแย่ๆใช่ไหมละครับ มันเป็นเหมือนงานที่ทำออกมาพลาดนั่นแหละครับจะดีกว่าถ้าทิ้งมันไปนะ」

 

 

「นั่นสินะคะ! ถ้ายังงั้นก็ลองชิมดูไหมละคะก่อนจะทิ้ง!」

 

 

เมื่อไอริสพูดเช่นนั้นเธอก็เอาลูกกวาดของผมเข้าปากไป โนโซมุเองก็เดินไปตามถนนที่มีผู้คนสัญจรมากขึ้น ส่วนทางไอริสเองก็ดูมีความสุขกับลูกกวาดนั่น

 

 

◇◆◇

 

 

「โอ้วว!คุณหนูแสนสวยตรงนั้นน่ะ!ถ้าไม่รังเกียจเชิญมาทางนี้ได้ไหม?」

 

「เอ๊ะ ฉันเหรอคะ?」

 

「อืม หมอดูงั้นเหรอครับ?」

 

 

 เมื่อผมหันไปมองก็พบกับร้านเล็กๆที่อยู่ริมถนนและบนป้ายร้านก็มีเขียนไว้ว่า “ดูดวง”มีชายชราผมขาว เครายาวอยู่ในร้านนั่นและยิ้มมาทางนี้…………。

 

 

「ข้ามีนามว่าซอนเน่ ก็อย่างที่เห็นเป็นหมอดู」

 

「อืม ก็หมอดู…………」

 

(ก็หมอดูจริงๆใช่ไหมนะ?)

 

 

สิ่งที่โนโซมุสงสัยก็คือของแปลกๆที่อยู่ในร้านของเขาต่างหาก

 

 

โถที่เต็มไปด้วยไพ่คริสตัล แท่งไม้บางๆที่น่าจะใช้สำหรับดูดวงกลับวางไว้มั่วซั่วเสียจนหมด บนผนังของร้านก็ดูเหมือนว่าจะเป็นคนจากตะวันออก

และสิ่งของที่เป็นเหมือนเครื่องรางนั่นวางมั่วซั่วเสียจนหมดสิ้นมีกระโหลกของแกะด้วยอะ บรรยากาศไม่น่าจะใช่หมอดูธรรมดาแล้วเนี่ย

้เกี่ยวกับองค์กรศาสนาอะไรรึเปล่า โนโซมุรู้สึกว่ามีอะไรคล้ายๆกับสัญลักษณ์ในตอนนั้นเลย

 

 

「ตาแก่ คาดหวังอะไรอยู่?」

 

「อะไรก็ได้แหละน่า ข้าจะแสดงให้เห็นเองทุกๆสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะสภาพอากาศของพรุ่งนี้หรือกระทั่งการไปทานข้าวเย็นกับคนรักของเธอละนะ!」

 

(เรื่องทำนายมันแหม่งๆวะเห้ย!!เรื่องแบบนั้นจำเป็นต้องใช้หมอดูด้วยงั้นเหรอ!?แค่ดูจากสภาพก็เดาเอาได้แล้วปะเห้ย นี่คิดจะหลอกลวงกันรึไง!!)

 

 

โนโซมุไม่รู้จะพูดอะไรดีเลย แต่ไอริสที่ดูอยากรู้อยากเห็นนั้นกำลังตื่นเต้น

 

「มาหน่อยไหมคุณหนู ทำนายดวงน่ะ?」

 

ตาแก่นี่พยายามจะลากไอริสไปให้ได้เลยเห้ย

 

(เห็นได้ชัดเลยหมอนี่มันสนใจแค่ไอริส!!)

 

 

สายตาของตาแก่นั่นจ้องไปที่ไอริสอย่างเต็มที่ โนโซมุนี่อยู่นอกขอบเขตสายตาของตาแก่นั่นเลย

 

 

「อะไรก็ได้งั้นเหรอคะ น่าสนใจดีนะคะ มาลองดูสักหน่อยก็ได้ เอ๊ะโนโซมุคิดจะทำอะไรน่ะ?」

 

「อ่า คือ「เอาล่ะ! มาเริ่มกันเลย!」……ขอผ่านดีกว่าครับ……」

 

(……แหงๆ หมอนี่มันคนประเภทเดียวกับอาจารย์ชัดๆ………。)

 

 

โนโซมุรู้สึกว่าเขาเป็นคนประเภทเดียวกับชิโนะ เขาเลิกที่จะพูดอะไรลงไป ตาแก่นี่พูดอะไรไปก็คงไม่ฟังแน่นอน ผมคิดว่าคนน่ากลัวแบบนั้นน่าจะมีน้อย แต่ดูเหมือนว่าโลกทัศน์ของผมมันแคบเกินไป

 

 

「ถ้างั้นช่วยโชว์ฝ่ามือให้หน่อยนะคุณหนู」

 

 

ชายชราคนนั้นจับฝ่ามือของไอริส จากนั้นหมอนั่นก็หยิบแว่นขยายออกมาและเริ่มจ้องไปที่ฝ่ามือของเธอ ใบหน้านั้นมีรอยยิ้มชั่วร้ายชัดเจนและดูมันจับไอริสสิ

 

 

「……อะเอ่อ แล้วผลเป็นยังไงบ้างคะ?」

 

「หืม ขออีกสักพักนะคุณหนู~」

 

 

ตาแก่นั่นเอามือลูบไล้มือของไอริสด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม โนโซมุเองก็เริ่มโกรธกับท่าทางกวนโอ๊ยและลามกของตาแก่นั่น

 

 

「อ่าาาาา~มองเห็นยากจริงๆเลยนะเนี่ย~。คราวนี้ขอมืออีกข้างได้「ย๊ากก!!!」อั่กกกก!!」

 

(อะ แย่แล้ว ลืมปรับแรงที่ใช้………)

 

 

 นอกจากนี้โนโซมุยังเอามีดปักหัวของซอนเน่เพราะทนไม่ได้กับท่าทีที่ทำกับไอริสแบบนั้น หมอนี่มันคุยกันด้วยคำพูดก็ไม่ฟังเพราะฉะนั้นต้องใช้กำลังหยุดมันเนี่ยล่ะ อย่างไรก็ตามเพราะคิดว่าเป็นชิโนะเลยทุ่มไปสุดแรงเลย…………。

 

 

「ทะทำอะไรน่ะ!นี่คนแก่เลยนะเห้ย!!」

 

 

โนโซมุได้ยินเสียงบ่นของตาแก่ซอนเน่ โนโซมุคิดว่าเขาคงไม่เป็นไรหรอกถ้ามีแรงมาบ่นเช่นนี้ได้

 

 

「พูดอะไรของแกน่ะตาแก่!ไอ้ตาแก่โรคจิตนี่!! แก่เกินวัยจะทำเรื่องเสื่อมเสียแล้ว มีสมองทำไมไม่หัดคิดซะบ้างหะ!!」

 

「พูดอะไรของเอ็งวะไอ้หนุ่ม!แกเห็นสาวสวยแบบนี้ แกก็ต้องเกิดอารมณ์เป็นธรรมดาป่ะ เอ็งนี่ตรรกะป่วยวะ!!ลูกผู้ชายตัวจริงมันต้องกล้าเข้าไปสัมผัสดอกไม้ต้องห้ามสิวะ!! ข้าเห็นเด็กอ่อนปวกเปียกแบบแกแล้วเสียดายวะ ดอกไม้ต้องห้ามแสนงดงามแบบนี้มันไม่คู่ควรกับแกเลยสักนิด ไอ้ไก่อ่อนนี่!!」

 

「ว่าใครบ้าหะตาแก่!พูดจาลวนลามไม่พอ!!เพราะแบบนี้ไงตาแก่ แบบแกเนี่ยถึงไม่มีใครคบละสิท่า !!」

 

 

โนโซมุเริ่มทะเลาะกับตาแก่ซอนเน่ น้ำเสียงของโนโซมุนั้นแข็งกร้าวอย่างมากเพราะบางทีเขาคงจะเห็นชายแก่นี่ซ้อนทับกับชิโนะก็ได้

 

ทั้งสองต่างเถียงกันไม่หยุด แต่ระหว่างที่ทะเลาะกันนั้นก็มีคนเข้ามาหยุดด้วยน้ำเสียงอันใส

 

 

「…………เอ่อแล้วคุณปู่คิดจะจับมือฉันไปอีกนานแค่ไหนเหรอคะ?」

 

 

เสียงของไอริสนั้นเรียบๆและดูเยือกเย็นจนทุกคนได้ยิน แต่โนโซมุเองก็สัมผัสได้ถึงรังสีสังหารอันแสนน่ากลัวออกจากตัวเธอ รอยยิ้มบนหน้าที่มักจะยิ้มแย้มด้วยท่าทางสดใสตอนนี้กลับกลายเป็นรอยยิ้มที่มีแต่ความโกรธ

 

 

「อะ!ไม่ ไม่ ไม่ มันจบแล้วล่ะ ฮะฮะฮะฮะ……」

 

 

ใบหน้าของตาแก่ซอนเน่ซีดลงทันที น้ำเสียงสั่นเครือ สายตาโลเลและดูเหมือนว่าพยายามจะหนี แต่ไม่สามารถหนีได้เพราะเธอจับมือตาแก่ไว้

 

 

「ถ้าเป็นเช่นนั้น ให้ฉันดูดวงให้ด้วยไหมคะ?」

 

「เอ่อ……ข้าขอไม่ดูดีกว่านะ…………「ไม่เป็นไรหรอกค่ะฉันดูให้เสร็จแล้ว。……ผลลัพธ์ก็คือโดนกรรมตามสนองไปซะเถอะตาเฒ่าลามก。」ออออออ๊ออกก!!」

 

 

 “กร็อบ”

 

 

เสียงนั่นดังออกมาจากมือของชายชรา

 

 

「จะจะจะจะจะจะจะจะจะจะจะเจ็บโอ้ยยยยยยยยย คุณหนูปล่อยตาแก่คนนี้ด้วยเถอะ…………」

 

「…………………………」

 

 

“กรุบกร็อบ กร๊อบ!”

 

 

เสียงบีบรัดดังแน่นขึ้นจนได้ยินเสียงกระดูกหักได้เลย หน้าของตาแก่ซอนเน่นั้นเปลี่ยนเป็นสีม่วงทันที ตาแก่รีบอ้อนวอนไม่สนใจเรื่องลวนลามอีกต่อไปแล้ว

 

 

「โอ้วววว ขอโทษค้าบบบ! เพราะความคิดตื้นเขินของตาแก่คนนี้!!เพราะฉะนั้นคุณหนู!! อย่ารุนแรงกว่านี้เลยนะ! ถ้าแรงกว่านี้มือของตาแก่นี่จะหักแล้วนะ!!」

 

 

อย่างไรก็ตามไอริสไม่ปล่อยยังคงบีบมือนั่นต่อไปด้วยรอยยิ้มอำมหิต เธอบีบมันแรงขึ้นกว่าเดิม

 

 

“กรุบกรุบ!กร็อบ!!”

 

 

(อึ่ยยยย~สยอง!!)

 

「อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!」

 

 

ในที่สุดก็ดูเหมือนจะถึงขีดจำกัดแล้ว ตาแก่ซอนเน่ทรุดลงกับพื้น ฟองออกปากและมองไปรอบๆดูเหมือนว่าเขาจะรีบพุ่งหนี แต่โนโซมุไม่ได้เห็นใจเลยสักนิดเพราะทำตัวเองล้วนๆ

 

 

(เอิ่มไม่คิดเลยว่า ไอริสจะเล่นแรงขนาดนี้…………)

 

 

โนโซมุนึกถึงชิโนะ ที่แข็งแกร่งกว่าชายคนนี้หลายเท่าแต่นิสัยกลับเหมือนกันคือไม่ฟังคนชอบยั่วโมโหคนอื่น ก่อนตายก็ทิ้งดาบของตัวเองไว้

 

 

(แต่ว่าอาจารย์ตัวผมในตอนนี้ ยังไม่สามารถใช้ดาบนั่นได้หรอกครับ…………)

 

 

โนโซมุไหล่ตกเมื่อนึกถึงบทลงโทษที่เคยโดนในอดีต ก่อนหน้านี้ตอนที่ทะเลาะกับชิโนะทีไรก็มักจะโดนโยนเข้าไปหาฝูงสัตว์อสูรและใช้มือต่อสู้เพียงลำพัง

 

 

หากตอนนั้นโดนเหล่าสัตว์อสูรโจมตีทำอะไรไม่ได้นอกจากวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด

 

「ตอนนี้ลงโทษตาแก่งี่เง่าเสร็จแล้ว ถ้างั้นไปกันเถอะคะ」

 

「อ่า อืม ไปกันเถอะ……。」

 

 

โนโซมุนึกถึงบาดแผลในอดีตที่ได้จากอาจารย์ แต่ว่าเสียงของไอริสก็ดึงสติเขากลับมาและทั้งสองก็เดินเข้าเมืองไปโดยทิ้งตาแก่ซอนเน่นอนจมอยู่กับโต๊ะนั่น

 

 

◇◆◇

 

 

เมื่อทั้งสองออกมาที่ถนนหลัก พระอาทิตย์ก็ค่อยๆตกดินแล้ว

 

 

「ฟุฟุ แต่ก็น่าแปลกใจเลยนะคะ ไม่คิดว่าโนโซมุจะตะโกนเสียงดังขนาดนั้น……」

 

 

บางทีเพราะอาจจะเห็นด้านที่ไม่คาดคิดของเขา โนโซมุที่มักจะไม่ค่อยพูดเยอะเท่าไร ไอริสเองก็เอามือจับคางทำท่าทางหัวเราะคิกคัก

 

 

「อะเอิ่ม คือว่าตาแก่นั่นคล้ายกับคนรู้จักของผมคนหนึ่งน่ะ เพราะอย่างนั้นก็เลยเผลอตัวทำอะไรแบบนั้นลงไป…………」

 

 

โนโซมุตอบเช่นนั้นในขณะที่เกาหัวไปด้วย บางทีเพราะอดีตที่ไม่ค่อยอยากจะนึกถึงเท่าไร

 

「ไม่คิดเลยนะคะว่าโนโซมุคุงเนี่ยจะโมโหซะขนาดนั้น」

 

「เอ่อ ไอริสซัง จริงๆแล้วผมก็ไม่คิดอยากจะให้คุณเข้าไปในร้านน่าสงสัยเช่นนั้นเลยนะครับ」

 

「อะ อืม…………」

 

 

ไม่คิดว่าจะเห็นโนโซมุที่ขาดสติและพยายามเถียงกับตาแก่ซอนเน่ เขาไม่คิดว่าไอริสจะกล้าเข้าไปยังร้านน่าสงสัยนั่นเลย บางทีเธอคงจะอายเพราะการที่โนโซมุเป็นห่วงเธอเช่นนี้แก้มของเธอถูกย้อมเป็นสีแดงและดวงตาก็เลิ่กลั่ก

 

 

ทั้งสองต่างหน้าแดงและเกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งคู่

 

 

◇◆◇

 

「เอ่อ ไม่คิดว่าจะได้เห็นด้านที่ไม่คาดคิดของไอริสซังเลยนะครับ แถมยังเจอกับตาแก่นั่นอีก…………」

 

 

 

 

โนโซมุพูดกับไอริสที่พยายามแก้เขินอยู่ แต่ว่าเธอที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมามองหน้าโนโซมุ

 

 

「เอ่อ….คุณไอริสซัง?」

 

「ฉันล่ะสงสัยจริงๆค่ะ ทำไมถึงต้องให้เกียรติฉันขนาดนี้กันคะ? ปกติโนโซมุคุงก็มักจะคุยกับโซเมียตามปกตินี่คะ ?」

 

 

 

ไอริสขมวดคิ้วเล็กน้อยกับท่าทางของโนโซมุ โนโซมุไม่รู้เลยว่าที่เธอพูดหมายถึงอะไร

 

 

(อืมมม ฉันเองก็โกรธน่ะ…………แต่ว่าความรู้สึกนี่มันอะไรกันละเนี่ย?)

 

「เอ๋ ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ…………」

 

 

เธอเริ่มคิดถึงคำพูดของโนโซมุที่พูดเมื่อวานนี้

 

 

「…………อืมมม สำหรับฉันแล้วเธอดูเว้นระยะห่างระหว่างฉันมากกว่าโซเมียซะอีกนะคะ เธอดูสนิทกับโซเมียมากๆเลยล่ะ และยังเรียกชื่อของเธออย่างสนิทสนมด้วย!! ดังนั้นไม่เป็นไรหรอกนะคะที่จะเรียกชื่อของฉัน」

 

「หาาาา!!」

 

「ใช่แล้วก็ไม่ต้องเติมคำว่า “คุณ” ด้วยนะคะเพราะพวกเราอายุเท่ากันและยังเรียนในชั้นเดียวกันเพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องให้เกียรติฉันค่ะ อืมแล้วก็อีกอย่างหนึ่งค่ะฉันอยากจะเรียกเธอด้วยชื่อเล่นคะ」

 

「เอออออออออ๋!!!」

 

 

เธอครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งทำท่าทางกอดอกและเอามือเกยคางและจู่ๆเธอก็บอกให้ผมเรียกชื่อเล่นเธอ และเธอยังขอเรียกชื่อเล่นของผมอีก

 

 

「อะ อืมแล้วผมจะเรียกชื่อเล่นของเธอแบบไหนกันล่ะครับ?」

 

「เอาเป็นไออย่างที่ทิม่าเรียกก็ได้ค่ะ」

 

 

(…………นี่มันไม่อยากเกินไปสำหรับผมหน่อยเหรอ? นี่มันเหมือนกับการข้ามขั้นเลยนะ……)

 

 

「เอออ๋…………」

 

「มีให้เลือกแค่นี้ละคะ!ถ้าหากคุณคิดชื่ออื่นออกก็ลองเสนอมาดูสิคะ ชื่อที่จะสามารถเรียกดิฉันได้?」

 

 

ไอริสพูดเช่นนั้นพร้อมกับบังคับให้ผมเรียกชื่อเล่นของเธอ นอกจากนี้ยังขอให้ผมคิดชื่อเล่นให้อีกเธอยิ้มด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายราวกับกำลังสนุกเหมือนกำลังได้แกล้งผมอยู่

 

แตกต่างจากลิซ่าโดยสิ้นเชิง ไอริสมองมาทางนี้ด้วยสีหน้าคาดหวัง มันเป็นภาพที่ทำให้โนโซมุใจเต้น จนคิดอะไรไม่ออกเลย

 

 

(เพราะเป็น “เจ้าหญิงเทพธิดาทมิฬ” เธอเองก็ไม่ใช่คนขี้เหงาอย่างที่เราคิดสักนิด แต่เป็นผู้หญิงที่หัวเราะและโกรธเป็นเหมือนเช่นผม……)

 

 

โนโซมุรู้สึกมีความรู้สีกเช่นเดียวกับรักแรกของเขาให้กับไอริส

 

ความเข้มแข็งที่ไว้สำหรับเผชิญหน้ากับวันอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าอภิรมณ์เท่าไรนักสำหรับบ้านของเธอ แต่เธอก็ยังมาขอโทษฮันนะและเดลด้วยตัวของเธอเอง ตัวผมเคารพในการกระทำของเธอมากๆในฐานะเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง

 

 

「อะ…อืม……………เข้าใจแล้ว……คุณไอริ……」

 

 

หลังจากนั้นผมก็ลังเลที่จะเรียกว่า “ไอ”ในทันใดนั้นหัวใจของผมมันก็ผุดชื่อที่ผมคิดไม่ออกขึ้นมาได้ดังนั้นผมจึงเรียกเธอว่า “ไอริซัง”

 

 

「อืมมม ยินดีที่ได้รู้จักโนโซมุ นอกจากนี้อย่าเติมคำว่าซัง(คุณ)ลงท้ายสิ」

 

 

 ผมคิดว่ามันเป็นชื่อที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่เธอเองก็ดูท่าทางจะมีความสุขกับชื่อเล่นนั่น

 

 

「อะอืม…ไอริ…………」

 

 

 ในที่สุดโนโซมุก็ตัดสินใจเรียกเธอว่าไอริ……。

 

「ฟุฟุ!ถ้าอย่างงั้นพวกเรารีบไปหาโซเมียกันเถอะคะ」

 

「อืม!นั่นสินะครับ!」

 

เมื่อพูดเช่นนั้นไอริสก็เริ่มวิ่งออกไปทันทีเธอจับมือของโนโซมุไว้ด้วย ทันใดนั้นเองโนโซมุก็รู้สึกถึงสัมผัสอันอ่อนนุ่มจากมือของเธอ โนโซมุที่โดนลากไปเช่นนั้นก็รีบวิ่งตามเธอไป

 

ดวงอาทิตย์ที่ใกล้ลับขอบฟ้าและดวงดาวเริ่มส่องแสงสว่างท่ามกลางท้องฟ้ายามพลบค่ำ เธอหันมาทางนี้พร้อมกับรอยยิ้มอันแสนงดงามท่ามกลางภายใต้แสงของตะวันและดวงดาวจนทำให้ผมอดที่จะยิ้มตามไม่ได้

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท