โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” – ตอนที่ 103

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

บทที่6ตอนที่20

 

 

สิ่งต่างๆเริ่มขึ้นยามค่ำคืนในย่านการค้าที่เต็มไปด้วยผู้คน

 

 

แม้แต่ในอาร์คาซัม ที่ซึ่งดวงอาทิตย์ตกดินและความมืดเข้าครอบคลุม มีเพียงย่านการค้าเท่านั้นที่ยังมีแสงไฟเจิดจ้า ผู้คนพลุ่กพล่านบนท้องถนน และความคึกคักที่ไม่หยุดหย่อน

 

 

ในตอนกลางคืน พ่อค้าและเหล่านักผจญภัยที่ออกหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นในสถานที่ๆดูแตกต่างจากตอนกลางวัน

 

 

ตามคำให้การของคนในที่เกิดเหตุ เหมือนจะเป็นการทะเลาะกันเฉยๆในตอนแรก

 

「ไอ้เด็กนั่นมันอาละวาดและหนีไปยังกับตัวประหลาดแน่ะ」

 

กลุ่มนักผจญภัยที่มีความคิดเยาะเย้ยเด็กชายในชุดเครื่องแบบของสถาบันโซลมินาติ ประมาณ 5 คน ให้การแบบนั้น

 

 

ตามเรื่องราว พวกเขาเป็นนักผจญภัยมือใหม่แรงค์ D-E

 

 

สำหรับพวกนั้น หากสำเร็จการศึกษาก็จะได้เป็นพวกที่เป็นนักผจญภัย และยังได้รับเลือกให้เป็นเหล่าผู้บริหารในประเทศของตนอีกด้วย

 

 

อย่างไรนก็ตามเรื่องที่พวกเขาพูดนั้นเป็นเรื่องไร้สาระที่สถาบันโซลมินาติไม่อยากได้ยินด้วยซ้ำ

 

 

การจบจากสถาบันโซลมินาติไม่ใช่เรื่องง่าย แต่น้อยกว่า 10% ที่จะเติบโตขึ้นมาเป็นแนวหน้าได้

 

 

ท้ายที่สุดแล้วคำพูดของนักผจญภัยเหล่านี้ก็ไม่มีอะไรมากกว่าความอิจฉา

 

 

 

「ฟู่ววว……」

 

นักเรียนตอบด้วยรอยยิ้มตลกๆกับคำพูดของนักผจญภัยเหล่านั้น

 

 

การแสดงออกซึ่งเป็นเพียงการยั่วยุสำหรับนักผจญภัยที่ไร้ประสบการณ์ มันไม่ได้ผลกับผู้ที่ผ่านศึกมาแล้ว

 

 

แต่อย่างไรก็ตามนักผจญภัยตรงหน้าดูจะไม่ใช่เช่นนั้น เขาเลือดขึ้นหัวและไล่โจมตีนักเรียน

 

 

ภายในร้านเหล้าที่ถูกล้อมไปด้วยเสียงโกรธและเสียงดังและมันก็กลายเป็นการทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่ด้วยการขว้างปาสิ่งของ

 

 

เจ้าของร้านรีบขอความช่วยเหลือจากทหารที่ลาดตระเวนอยู่ใกล้ๆ แต่กองทหารก็รีบไปดูที่เหล่าพวกนักผจญภัยที่อาละวาด

 

 

นักผจญภัยบางคนนั้นร่างกายบิดไปคนละทาง บ้างก็แสดงความเจ็บปวดออกมา

 

 

ทหารพยายามจับเหล่านักผจญภัยและนักเรียนผู้ก่อเหตุ แต่นักเรียนก็ต่อต้านการจับกุม

 

 

โยนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆและจับคนหนึ่งคนเป็นตัวประกันจากนั้นก็หนีไปทั้งๆแบบนั้น

 

 

ทหารรีบไล่ตามนักเรียนคนนั้นไปในทันที แต่ในขณะที่หลบหนี เขาก็เอาชนะพวกทหารได้เรื่อยๆ

 

 

การโจมตีของนักเรียนสถาบันโซลมินาติทำให้เกิดผู้เสียหายเกือบ 10 ราย รวมทั้งพวกทหาร

 

 

ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บบางคนต่างก็ กระดูกหัก และการที่ทหารที่รักษาความปลอดภัยพ่ายแพ้ มันก็กลายเป็นคลื่นลูกใหญ่แพร่กระจายไปทั่วเมือง

 

 

และกรมทหารก็ได้เข้าไปจับกุมตัวนักเรียนชายคนหนึ่งในวันรุ่งขึ้น

 

 

เป็นนักเรียนชั้นปี 3 ห้อง 10 โนโซมุ เบลาตี้

 

 

◆◇◆

 

 

「นี่มันอะไรกันเนี่ย!?」

 

เสียงโกรธของมาร์ดังก้องอยู่หน้าประตูหลักของสถาบันโซลมินาติ

 

 

จู่ๆเหล่านักเรียนที่อยู่รอบๆก็เบิกตากว้างและให้ความสนใจกับมัน แต่มาร์โกรธมาก

 

 

พวกทหารวิ่งไปที่หอพักนักเรียนในช่วงเช้าตรู่

 

 

ดูเหมือนว่าจะจับตัวโนโซมุไปและพาออกไปก่อนที่จะทำความเข้าใจอะไรได้

 

 

แน่นอนความจริงนั่นแพร่กระจายไปทั่วหอพักในชั่วพริบตา และทันทีที่ไปถึงสถาบันก็ดังกระฉูดแล้ว

 

 

เมื่อมาร์สงสัยว่าทำไมโนโซมุไม่อยู่ที่นั่น ฟีโอก็บอกว่าโนโซมุโดนจับตัวไป

 

 

 

「ข้าน้อยเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ ! ข้อมูลมันน้อยเกินไปและข้าน้อยเองก็ไม่อยากจะเชื่อ!」

 

「มะมาร์คุงใจเย็นก่อนนะ……」

 

ทิม่ากลัวมาร์ที่จับฟีโอเอาไว้และวางมือข้างๆมาร์เพื่อให้เขาใจเย็น

 

「อาาาา……อึก」

 

「อืม ไม่ต้องกังวล」

 

มาร์ดึงมือออกเพราะหัวเย็นลงเล็กน้อย

 

 

ฟีโอบอกมาร์ไม่ต้องกังวลและเขาก็ขอโทษฟีโอ

 

「……แล้วมันหมายความว่ายังไงเนี่ย? เนื้อหามันแพร่กระจายไปทั่วสถาบันแต่พวกเราไม่รู้อะไรเลย」

 

มาร์และคนอื่นๆต่างพยักหน้ารับคำพูดของซีน่าโดยกำลังคิด

 

 

เรื่องที่โนโซมุก่อเหตุทำร้ายร่างกายและถูกทหารพาตัวไป ทำให้เกิดการคาดเดาต่างๆนาๆและภาพแห่งความจริงนั่นไม่เห็นมีอยู่เลยแม้แต่น้อย หลักฐานก็ไม่มี

 

 

สิ่งเดียวที่พวกเขารู้เหมือนกันก็คือโนโซมุบุกอาละวาดที่ย่านการค้าเมื่อคืนนี้

 

「อีกอย่างดูเหมือนว่าทหารจะมาที่หอพักหญิงเมื่อคืนนี้และถามผู้จัดการหอพักที่ยังตื่นอยู่……」

 

「ต้องบอกได้ว่ามีทหารมาเฝ้าร้านเยอะผิดกว่าปกติอีก」

 

「ดูเหมือนว่าเรื่องราวที่นักเรียนในสถาบันโซลมินาติก่อความรุนแรงจะแพร่กระจายไปทั่วเมืองแล้ว ได้ยินเรื่องแวบๆแบบนี้มาในสถาบัน」

 

ซีน่าพูดเสริมให้กับมิมูรุ และมาร์ที่บ่นพึมพำขณะจำได้

 

 

เอลฟ์ที่สามารถแยกแยะเสียงเล็กๆในป่าได้ มีประสาทสัมผัสที่ยอดเยี่ยม เช่น การได้ยิน เธออาจจะได้ยินเรื่องของเหล่านักเรียนที่พูดกันอยู่ด้านข้าง

 

 

เมื่อพิจารณาว่าสถานที่เกิดเหตุคือย่านการค้าที่มีคนพลุกพล่าน เป็นที่เข้าใจได้ว่ามันแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

 

 

อย่างไรก็ตาม มาร์และคนอื่นๆไม่อยากจะเชื่อ

 

 

แม้ว่าจะเงียบกันอยู่ชั่วครู่ แต่ไอริสที่ฟังอยู่ก่อนหน้านี้ก็มีสีหน้าเคร่งขรึมมาก

 

 

มือกี่กำแน่นดูเหมือนจะบอกได้ถึงความแค้นของเธอ

 

「……บางทีหากข่าวลือนี่แพร่สะบัดไปทั่วอาจารย์ก็คงจะได้ยินบ้างแล้ว」

 

「อืมนั่นสินะ」

 

「อืมถ้างั้นก็ไปเริ่มจากที่นั่นก่อนแล้วกัน」

 

ไอริสกลับส้นเท้าและไปที่อาคารเรียน

 

 

การเดินนั้นแตกต่างจากปกติเพราะในตอนนี้เธอเดือดสุดๆ

 

 

◆◇◆

 

 

การจู่โจมตีของนักเรียนในเมืองอาร์คาซัม คนร้ายยังเป็นนักเรียนที่เพิ่งดึงดูดความสนใจในสถาบันอีกด้วย ซึ่งแม้แต่พวกทหารยังเจอดี

 

 

เมื่อได้รับรายงาน จิฮัดก็จ้องไปยังจดหมายของเมาส์ หัวหน้าผู้พิทักษ์ความสงบในเมืองอาร์คาซัม ที่โต๊ะสำนักงานของเขา

 

 

ข้างหน้าเขาจะเห็นได้ว่ามีอาจารย์อินด้าและอันริ อาจเป็นเพราะเรียกตัวมาในกรณีนี้

 

 

อินด้าที่ยืนอยู่ข้างจิฮัด ก็หันไปจ้องรายงานที่สร้างความอับอายให้แก่สถาบัน

 

 

 

「นี่มันอะไรกันคะเนี่ย……」

 

เสียงของอินด้าดังก้องไปทั่วราวกับแสดงความไม่พอใจ

 

 

แม้แต่สำหรับจิฮัดเองก็ไม่อยากจะเชื่อ

 

 

แม้ว่าจะไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับโนโซมุ เบลาตี้มากนัก แต่เขาเป็นคนที่ตรงไปตรงมาไม่ทำอะไรอ้อมค้อมแบบนี้เลยแม้แต่น้อย

แม้ว่าดาบของเขาจะขาดพลังไปบ้าง

 

 

อย่างไรก็ตาม ตอนแรกที่ต่อสู้กับโนโซมุ นั้นได้สร้างความประหลาดใจกับตัวเขาเป็นอย่างมากซึ่งความเป็นนักดาบและจิตวิญญาณนักสู้ที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมนั่น เขาใช้ทักษะที่ร่ำเรียนมาออกมาแทบทั้งหมด และเขาก็ไม่ได้เป็นคนลุแก่อำนาจที่จะอวดเบ่งพลังไปทั่ว

 

 

เมื่อได้รับรายงานฉบับนี้ เขาจึงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวเท่าไร พวกนักผจญภัยที่โดนยั่วยุก็โมโหและต่างเข้าโจมตี

 

「ไม่สามารถเข้าใจได้เลย เมื่อดูจากรายงานและภาพชี้ตัวอาชญากรดูยังไงก็เป็นโนโซมุ ไม่มีผิด……」

 

จิฮัดนั่งดูรายงานของเมาส์อีกครั้ง

 

 

เขาเองก็เข้าใจบทบาทของเมาส์ดีตอนที่ไปตรวจสอบคดีไซคลอปส์ครั้งก่อน

 

 

เขาเป็นคนที่มีคุณธรรมและยึดมั่นกับมันมาก และเป็นคนสุภาพ ไม่ทำรายงานส่งเดช

 

 

รายงานนั้นถูกทำออกมาอย่างดียังรวมถึงภาพชี้ตัวอาชญากรที่ได้จากการสัมภาษณ์พวกทหารยามที่เจอพบเห็นและเหล่านักผจญภัย ซึ่งมันก็คือภาพเหมือนของโนโซมุ

 

 

 

「แต่ว่าน้าาาา~ฉันแน่ใจมากเลยล่ะว่าคนร้ายไม่ใช่โนโซมุหรอกน้า~」

 

อันริที่มองดูจิฮัดก็พูดแบบนั้น เธอมั่นใจว่าโนโซมุไม่ได้ทำ

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดที่ยืนกรานแบบนั้น จิฮัดก็ถามไปว่า “ทำไม”

 

 

 

「นั่นสิน้า~」

 

เมื่ออันริพยายามตอบคำถามประตูห้องก็เปิดออก และมีนักเรียนเจ็ดคนเข้ามาพร้อมกัน แถวหน้าคือไอริสที่ดูโกรธหนัก

 

「ขอโทษนะคะ」

 

「ไอริสดิน่า ซีน่าและก็ผองเพื่อน……」

 

อินด้าเบิกตากว้างเมื่อเห็นไอริสเข้ามาโดยไม่เคาะประตู แต่เมื่อพยายามไล่เธอออกไป ก็มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด

 

「ตอนนี้กำลังคุยเรื่องสำคัญอยู่นะ……」

 

ในกรณีนี้ แม้แต่พวกทหารยามยังได้รับบาดเจ็บสาหัส และตามจริงแล้วมันเกินขอบเขตที่ทางสถาบันจะจัดการได้เพียงลำพัง

 

 

เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนโดยไม่จำเป็น จำเป็นต้องใช้มาตรการที่รวดเร็วและเหมาะสม แน่นอนว่าการรับมือหมายถึง “การไล่ออก” สำหรับอาชญากรที่ก่อเรื่องร้ายแรง

 

 

 

「พวกเรามีเรื่องสำคัญจะบอกค่ะ คนร้ายตัวจริงไม่ใช่โนโซมุแน่นอน」

 

「หลักฐานล่ะ?」

 

ไอริสดีใจที่อินด้ายังคงรับฟัง

 

 

โนโซมุบอกความจริงเรื่องข่าวลือนั้นแก่เธอ ดังนั้นเธอมีความคิดคร่าวๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

 

อย่างไรก็ตามเพื่อให้ได้หลักฐานแบบคาหนังคาเขา ไอริสและคนอื่นๆก็ต้องได้รับข้อมูลที่เพียงพอ

 

 

 

「เพื่อให้ยืนยันเรื่องนี้ ก็บอกเล่าเรื่องราวมาโดยละเอียดด้วยค่ะ และทางฝั่งโน้นเองก็ต้องรับฟังเราด้วย」

 

「ฉันเองก็มีความคิดดีๆน้า~ ฉันคิดว่าสิ่งที่ไอริสและเพื่อนๆกำลังพูดน่าจะตรงกับคำให้การของฉันแน่นอนเลยล่ะน้า~」

 

อันริยังเห็นด้วยกับคำพูดของไอริส

 

 

เธอยังเป็นหนึ่งคนที่ได้ยินความจริงเกี่ยวกับข่าวลือนั่น จากปากโนโซมุเอง

 

「……ก็ได้ถ้างั้นก็เริ่มเล่ามาตั้งแต่ต้นเรื่องเลย」

 

จิฮัดค่อยๆพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวาน

 

 

ทางฟังไอริสและคนอื่นๆก็ฟังคำพูดของจิฮัดโดยละเอียด และขณะฟังเขาก็นึกถึงร่างของเพื่อนที่โดนจับตัวไป

 

 

◆◇◆

 

 

เนื่องจากเหตุทำร้ายร่างกายที่ย่านการค้าของโนโซมุ เบลาตี้ ทำให้ทั้งสถาบันเกิดความสับสน

 

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกปี 3 ที่แบ่งฝั่งชัดเจนและความเห็นต่างๆก็กระจายไปทั่วทุกชั้นเรียน

 

 

อย่างไรก็ตามมีแนวคิดอยู่สองเรื่อง

 

 

เป็นความเข้าใจผิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับอาจารย์จิฮัดและเริ่มยอมรับมากกันขึ้นเรื่อยๆ

 

 

แม้แต่ในห้องเรียนของห้อง 1 ในปี 3 การคาดเดาสิ่งต่างๆก็ยังอยู่ในหลักเกณฑ์นี้

 

 

ในห้องนั่นคามิลล่าจ้องมองฝ่ามือของเธอโดยไม่สนใจบริเวณโดยรอบ

 

 

มือที่มีแผลรุนแรงผันผ้าพันแผลสะท้อนอยู่ในแววตาที่กลวงเปล่าของคามิลล่า

 

 

มันถูกชี้ให้เห็นว่าความจริงที่เชื่อมาตลอดกลายเป็นเรื่องโกหกและคำพูดที่เธอเคยต่อว่าใส่โนโซมุมันก็แทงทะลุเข้าจิตใจของคามิลล่า

 

 

 

「คามิลล่า มือนั่น ไม่เป็นไรนะ?」

 

ลิซ่ายังคงอยู่เคียงข้างเธอ เรียกคามิลล่าด้วยท่าทางกังวล

 

 

ลิซ่าเงยหน้าขึ้นและท่าทางเองก็ยังไม่ดี และมีขอบตาดำ ดวงตาของเธอ ตอนนี้ผมสีแดงเข้มนั้นไม่หลงเหลือความมันเงาอีกต่อไป

เธอเหนื่อยล้าจากการถูกจับจ้องทั่วทั้งสถาบันและข่าวลือที่หันมาทางลิซ่าเมื่อไม่นานมานี้

 

 

เมื่อวานบางที่เองก็นอนไม่หลับ

 

 

และความวุ่นวายในครั้งนี้มันก็ยิ่งสร้างความว้าวุ่นใจให้กับลิซ่า

 

「ก็ตอนทำอาหารไฟลวกนิดหน่อย ไม่นานเดี๋ยวก็หาย……」

 

แม้ว่าจะอยู่ในสภาพที่ไม่ดีพร้อม แต่ก็ต้องขอบคุณลิซ่าที่เป็นห่วง ความใจดีของลิซ่ามันช่างอ่อนโยนและไร้เดียงสา

 

 

เพราะเธอเองก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบที่ทำให้ลิซ่าต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้

 

 

อย่างไรก็ตามแม้จะทุกข์ทรมานจากความเสียใจและความรู้สึกผิด คามิลล่าก็ไม่สามารถพูดความจริงให้ลิซ่าฟังได้

 

 

 

“โนโซมุไม่ได้ทรยศลิซ่าเลยเป็นฉันต่างหาก……”

 

ด้วยเหตุผลบางอย่างแม้อยากจะพูดแต่ก็ต้องกลืนมันลงไปทุกครั้ง และมีเพียงลมที่ถูกขับออกจากปอด

 

 

และทุกครั้งที่รู้สึกผิดจิตใจก็รู้สึกพองโตเต็มไปด้วยความอึดอัด

 

 

 

「แล้วเหตุการณ์เมื่อตอนเช้ามันอะไรกันแน่นะ?」

 

「ไม่รู้สิโนโซมุถูกพาตัวไปเพระาการกระทำโง่ๆของตัวเอง?」

 

การคาดเดาที่เห็นแก่ตัวของเพื่อนร่วมชั้นพุ่งเข้าใส่หูของคามิลล่า

 

 

ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ตอนเช้ายังไม่มีการยืนยันและไม่มีประกาศจากทางสถาบัน มีเรื่องราวที่เป็นการเล่าปากต่อปากเท่านั้น แต่คามิลล่าก็ไม่ได้เชื่อเรื่องนั้นเลย

 

 

โนโซมุนั้นไร้ซึ่งมลทิน เพื่อสมัยเด็กที่ตกหลุกรักลิซ่า เคน เป็นคนก็เรื่องทุกอย่างขึ้นมา เขาคิดที่จะกำจัดโนโซมุอย่างจริงจัง

 

「ลิซ่า……」

 

「…………」

 

ลิซ่าน่าจะได้ยินเรื่องที่เพื่อนร่วมชั้นคาดเดากัน แต่เธอก็เงียบไม่พูดอะไร

 

 

อย่างไรก็ตามตรงกับข้ามกับการไม่แสดงสีหน้าแต่น้ำตาเริ่มก่อตัวที่แก้มของเธอ

 

 

ทำไมถึงแสดงออกแบบนั้นล่ะ? ทำไมเธอต้องเศร้าด้วย?

 

 

มีแต่ความกระวนกระวายใจกับท่าทางของเพื่อนสุดที่รักที่ราวกับจะล้มลงได้ทุกเมื่อ

 

 

มีเงาหนึ่งเข้าใกล้ทั้งสองคน

 

 

 

「ทั้งสองคุยอะไรกันอยู่เหรอ?」

 

เคนเข้าหาลิซ่าและคามิลล่า ด้วยรอยยิ้มตามปกติ

 

 

ท่าทางแบบนั้นคามิลล่าที่เห็นก็เริ่มรังเกียจมากขึ้นเรื่อย ท่าทางที่ไม่แยแสโนโซมุเลย

 

 

 

「อีกอย่าง ดูเหมือนโนโซมุจะก่อเรื่องอีกแล้วนะ โดยหิ้วไปแล้วค่อยยังชั่วหน่อย」

 

「หาาาา!?」

 

คามิลล่าโกรธทันทีที่ได้ยินเคนพูดเช่นนั้น

 

 

พูดอะไรกัน ! แกทำทุกสิ่งทุกอย่าง โกหกทุกๆคนและทำให้เขาต้องทุกข์ทรมานมาตลอด !

 

 

อย่างไรก็ตาม ความโกรธนั่นก็เป็นเหมือนศรอันแหลมคมแทงทะลุหัวใจคามิลล่า เธอกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด และก้มหน้าลงราวกับว่าไม่เข้าใจการแสดงออกของเธอ

 

 

 

「คามิลล่า ไม่เป็นไรนะ สีหน้าดูเครียดๆ……?」

 

「คามิลล่าดูท่าจะไม่สบายตั้งแต่เมื่อวานแล้วน่ะ ลิซ่า」

 

ความรู้สึกที่ตัวเองรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบต่อความผิดเหล่านี้ และความโกรธแค้นที่ขัดแย้งกันในใจของคามิลล่ามันโหมกระหน่ำดั่งคลื่น

 

 

และความเย็นก็เข้าจู่โจมร่างกายของคามิลล่าราวกับว่ามีเลือดไหลออกมาจากแผล

 

 

เคนเหลือบมองคามิลล่าที่ไม่พูดอะไร หยิบผมบลอนด์เป็นประกายและยิ้มออกมาด้วยท่าทางพึงพอใจ

 

 

 

「ต้องขอบคุณที่โนโซมุมันทำอะไรโง่ๆ คนที่ปกป้องลิซ่าเองก็น่าจะรู้ดีกว่าใครๆใช่ไหม」

 

ท่าทางของเคนราวกับว่าเขาไม่กังวลอะไรอีกต่อไปแล้ว และสีหน้าลิซ่ายังไม่ค่อยดี

 

「โนโซมุ…..สงสัยจังว่าจะเกิดอะไรขึ้น」

 

「ก็คงไม่พ้นโดนไล่ออกจากสถาบันอย่างแน่นอน ก็ช่างมันเถอะเนอะ? พวกเราเองก็อยู่โดยไม่มีหมอนั่นตลอดสองปีที่ผ่านมา ดังนั้นแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วก็ตาม ก็ไม่เป็นไรหรอก ยังไงพวกเราสามคนก็คือ “เพื่อน” กันนี่น่า……」

 

「หนอยยยยย!?」

 

เคนหันไปมองคามิลล่าที่ก้มหน้าอยู่

 

 

ทันทีที่ได้ยินคำพูดที่ดูน่าหมั่นไส้นั่น คามิลล่าก็ระเบิดอารมณ์ออกมาราวกับภูเขาไฟระเบิด

 

 

คามิลล่าออกจากห้องเรียนด้วยการเตะเก้าอี้ห้องเรียนทิ้ง

 

 

เธอทนไม่ไหวแล้ว และรู้สึกเสียใจอย่างมาก

 

「คามิลล่า!?」

 

「นะนะนะนี่ทำอะไรน่ะ ! กลับเข้าห้องเรียนเลยนะ!」

 

ลิซ่าและครูที่มาที่ชั้นเรียนต่างตกใจกับคามิลล่าที่ไม่ยอมหยุด

 

 

คามิลล่าวิ่งไปในโถงทางเดิน ออกจากอาคารเรียนและเข้าไปในสวน แล้วคุกเข่าลงบนพื้นหญ้า

 

 

 

「อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาห์!」

 

ขณะคิดถึงโนโซมุเธอตะโกนกรีดร้องออกมา เสียงของเธอที่ราวกับตัวจนพังทลายนั้นหายไปพร้อมกับทางที่ไม่มีใครผ่านมา

 

 

มันเป็นเสียงร้องไห้ราวกับขอโทษให้กับทุกสิ่ง แต่ไม่มีใครจะให้คำตอบเหล่านั้น

 

 

เสียงคร่ำครวญที่มุมสวนนั้นส่งไปไม่ถึงใครและถูกกลบด้วยเสียงลมที่พัดผ่าน

 

 

คามิลล่าค่อยๆลุกขึ้นและไม่กลับไปที่สถาบัน แต่หายตัวไปในเมือง

 

 

ด้วยดวงตาที่ว่างเปล่าและท่าทางที่เดินเซทั้งๆแบบนั้น

 

 

◆◇◆

 

 

ในวันนั้น โนโซมุตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงสัญญาณที่ดังเข้ามา

 

 

หากสังเกตทั่วทั้งหอพักเต็มไปด้วยกลิ่นของดาบ โนโซมุสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นและเอื้อมมือไปยังดาบที่อยู่ใกล้ๆและสำรวจรอบๆ

ได้ยินเสียงโละหะกระทบกันจากชั้นล่าง

 

 

ในที่สุดเสียงสั่นสะเทือนก็หยุดลงและอยู่ที่หน้าห้องของเขา

 

 

เนื่องจากความตึงเครียดรอบๆตัวทำให้เขาได้แต่สงสัยว่ามีใครบุกรุกเข้ามาและจับดาบเอาไว้

 

 

อย่างไรก็ตามวินาทีถัดมาคือทหารยามที่เข้ามาในห้องพร้อมกับพังประตูห้อง

 

 

 

「มันอยู่นั่น ! ไม่ผิดตัวแน่!」

 

「เอาล่ะ เข้าไปจับมันซะ!」

 

ฝ่ายตรงข้ามที่คิดก็คือพวกทหารยามที่เข้ามา และด้วยเหตุผลบางอย่างเขาก็โดนคุมตัวเฉยเลย

 

 

โนโซมุแปลกใจว่านี่เป็นการจับผิดตัวรึเปล่า?

 

 

ทหารพุ่งเข้าชาร์จโนโซมุโดยไม่กล่าวอะไร และเขาก็ถูกเหล่าทหารจับและขังคุกโดยไม่ทราบสาเหตุ

 

 

และตอนนี้หลังจากถูกกักขังเป็นเวลาหลายชั่วโมง โนโซมุกำลังโดนเมาส์สอบสวน

 

 

โนโซมุและเมาส์เผชิญหน้ากันในห้องสอบสวนที่มืดมิด ชายอายุราวๆกับจิฮัด เป็นคนอ่อนโยนและสุภาพใบหน้าของชายตรงหน้าราวกับซ่อนความโกรธไว้ภายใน

 

 

ในพื้นที่อันเงียบงัน เสียงกระแทกโต๊ะดังก้องเป็นระยะๆด้วยความหงุดหงิด

 

 

เมาส์ที่จ้องมองโนโซมุก็ค่อยๆถามคำถามออกมา

 

 

 

「ชั้นจะยืนยันอีกครั้ง เมื่อวานแกทำบ้าอะไรลงไป?」

 

「อย่างที่บอกผมไม่สบายก็เลยนอนพักอยู่ในหอพัก」

 

วันนี้ เขาพูดเรื่องนี้ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว

 

「พูดอีกอย่างก็คืออยู่คนเดียว」

 

มันเป็นน้ำเสียงราวกับยืนยัน แต่เบื้องหลังนั้นระบุว่าโนโซมุเป็นอาชญากร

 

「ผมบริสุทธิ์นะ」

 

โนโซมุนั้นพูดอย่างแน่วแน่และยืนยันความบริสุทธิ์ของเขา ในขณะที่จ้องหน้าเมาส์ที่ทำสีหน้าน่ากลัวด้วยความเคร่งเครียด

 

「แต่ไม่มีใครเป็นพยานความบริสุทธิ์ของแกเลยสักนิด และเหล่าทหารในที่เกิดเหตุก็เห็นหน้านายอย่างชัดเจน นี่แกยังจะโกหกอีกงั้นเหรอ?」

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเมาส์พูดออกมากับคำกล่าวอ้างของโนโซมุเขาก็จ้องมองโนโซมุมาด้วยความโกรธ

 

 

เมาส์ไม่คิดจะปล่อยอาชญากรที่ทำร้ายเพื่อนและลูกน้องคนสำคัญของเขา และมีทหารหนึ่งนายเห็นเขาในที่เกิดเหตุจริงๆ

 

 

เส้นทางหลบหนีได้รับการระบุจากคำให้การในระดับหนึ่งและคำให้การของผู้ที่อยู่อาศัยเขาเห็นนักเรียนคนหนึ่งเข้ามาในหอพักชายของสถาบันโซลมินาติตอนดึก

 

 

ไม่ว่าโนโซมุจะยืนกรานว่าเขาไม่ได้ทำ แต่พวกเมาส์ก็รวบรวมหลักฐานมาได้มากพอแล้ว

 

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุไม่มีเจตนาจะรับคำกล่าวหาเท็จได้

 

 

เขาพูดออกมาอย่างมั่นใจว่าตัวเขาไม่ผิดและจ้องมองเมาส์

 

 

เมาส์จ้องมองกลับมาครู่หนึ่งแล้วขมวดคิ้ว

 

 

เมาส์ที่เห็นเพื่อนได้รับบาดเจ็บจากตัวโนโซมุ เขารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย และหายใจออกทันทีเพื่อเรียกสติ

 

 

 

「……ช่วยไม่ได้ถ้ายังรั้นอยู่แบบนั้น」

 

เขาสรุปบันทึกการสอบสวนและเรียกทหารที่รออยู่นอกห้อง

 

 

ถูกตัดสินว่าไม่มีความหมายที่จะสอบปากคำอีกต่อไป และหลังจากนั้นก็ขังคุกรอตัดสินคดีความตามกฏหมาย

 

 

ทหารที่เข้าไปในห้องสอบสวนจับแขนโนโซมุ โนโซมุถูกลากไปที่ประตูทางออก

 

 

 

「ไม่ว่ายังไงสิ่งนี้ก็ได้รายงานไปยังจิฮัดแล้ว และไม่ว่ายังไงแกก็ต้องโดนไล่ออกแน่ๆ」

 

「……รู่จัก “หน้ากากน้ำสะท้อนใจ”ไหมครับ?」

 

คำพูดนั้นของโนโซมุนั้นดังก้องอยู่ในหูของเมาส์

 

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่เมาส์จะพูดกับโนโซมุ แต่ก็โดนลากไปแล้ว

 

 

◆◇◆

 

 

โนโซมุถูกผลักเข้าไปในคุกอีกครั้ง ทั้งห้องเต็มไปด้วยแท่งเหล็กและกำแพงหิน และยังคงโดนเหล่าทหารจับตามอง

 

 

ขณะนั่งนิ่งอยู่บนพื้นหินเย็นยะเยือก โนโซมุนึกถึงได้คนๆเดียวที่ทำให้เขาต้องมาติดคุก

 

 

หมอนั่นแน่นอนที่วางแผนทำแบบนี้ ช่วงนี้เองก็โดนรุ่นน้องมองในแง่ลบหนักมากและพยายามกดดันให้โนโซมุต้องหมดสิ้นทุกหนทาง

 

 

และเมื่อโนโซมุได้โชว์ศักยภาพในการต่อสู้กับจิฮัด ทุกคนก็มองเขาใหม่หมด

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุคิดว่ามีเพียงคนเดียวที่คิดจะจัดการเขา

 

「เคน……」

 

พูดชื่ออดีตเพื่อนสนิท

 

 

คนที่หลงตัวเองและสาบานว่าจะปกป้องผู้หญิงคนเดียวกันกับเขา

 

 

บางทีเคนพยายามจะให้เขาถูกไล่ออกจากสถาบันเพราะข้อกล่าวหาเท็จ

 

 

โนโซมุกำหมัดแน่น

 

 

โกรธมากจนเดือดสุดๆ

 

“ไอ้เคนนนน”

 

「อึกกกก!」

 

ในขณะนั้นหัวใจของโนโซมุเต้นรัวอย่างรุนแรง

 

 

ในเวลาเดียวกันความเกลียดชังสีดำนั้นหมุนวนในจิตใจของเขา

 

 

 

“ก๊าซซซซซซซซซซซซซ……”

 

พร้อมกับเสียงคำรามที่ก้องอยู่ในขุมนรก ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงแล่นเข้ามาที่หัวของเขา

 

 

เขาถอนหายใจออกและเหงื่อหยดไหลพราก

 

 

 

「อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาก!!」

 

โนโซมุพยายามต่อต้านความเกลียดชังของเทียแมตด้วยการบีบหน้าอกให้แน่นขึ้นจากนั้นก็ขดตัวอยู่บนพื้นหิน

 

 

ในที่สุดหัวใจที่เต้นแรงอย่างช้าๆก็สงบลง และความโกรธก็ค่อยๆมลายหายไป

 

 

สิ่งที่เหลืออยู่คือความเศร้าและความเหงา

 

 

อาจเป็นเศษเสี้ยงของมิตรภาพที่ยังคงเหลือระหว่างโนโซมุกับเคน

 

 

การที่เคนทำแบบนั้นอีกครั้งหมายความว่าเขาจะดำเนินการแบบเดิมซ้ำอีกครั้ง

 

 

เขาไม่สามารถให้อภัยได้ โนโซมุพยายามคิดหาวิธีบุริสุทธิ์ของเขา วิธีเดียวที่จะทำได้เช่นนี้ก็คือการพิสูจน์ว่าโนโซมุไม่ได้อยู่ที่นั่น

 

「ฟู่วววว……」

 

หลับตา หายใจออก และเปลี่ยนความรู้สึกที่เคยดำดิ่งลงไป

 

 

เมื่อพิจารณาจากที่เมาส์พูดเคนยังใช้ “หน้ากากน้ำสะท้อนใจ” จนกว่าจะกลับไปที่หอพัก

 

 

ในกรณีนั้นวิธีเดียวที่จะพลิกคำให้การคือการพิสูจน์ข้อแก้ตัวของโนโซมุ แต่โนโซมุกำลังนอนหลับในหอพัก ณ เวลาเกิดเหตุ และไม่มีใครมาเยี่ยมเขาเลย ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ตัว

 

 

จริงๆแล้วโนโซมุคนเดียวไม่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ และไม่มีทางหาใครมาพิสูจน์ได้เช่นกัน

 

 

 

「เวรเอ้ย……」

 

เขาอยากจะให้เพื่อนแก้ไขความเข้าใจผิดแต่ก็ไม่สามารถติดต่อพวกนั้นได้

 

 

เครื่องมือและอาวุธของโนโซมุถูกยึดไปและเนื่องจากที่นี่เป็นคุกใต้ดิน จึงมีทางเข้าออกทางเดียว

 

 

นอกจากนี้ยังมีทหารเฝ้าประตูอยู่

 

 

แม้ว่าพยายามจะแหกคุกโดยใช้กำลัง แต่ก็ไม่ดีแน่หากจะปลดปล่อย “พันธนาการ” ในเมืองแบบนี้ และแม้จะไม่ได้โดนตัดสินโทษในทันที อย่างไรก็ตาม โนโซมุที่ไม่เคยแหกคุกมาก่อนด้วย ยกเว้นแต่จะใช้กำลังฝ่าออกไป

 

 

อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องติดอยู่ในคุกชั่วขณะหนึ่ง

 

 

การแหกคุกนั้นไม่ใช่เรื่องดี และหากทำเช่นนั้น ก็จะทำให้ตัวเองกลายเป็น “อาชญากร”ตัวจริง

 

 

ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด แม้ว่าจะแหกคุกเป็นทางเลือกสุดท้าย แต่เขาก็ไม่สามารถทำสิ่งต่างๆได้

 

 

อย่างไรก็ตาม มีหลายสิ่งที่ต้องคิด

 

 

ขณะที่โนโซมุพยายามครุ่นคิด ทหารคนหนึ่งก็ลงมาจากห้องใต้ดินด้วยใบหน้าเจ้าอารมณ์และเดินเข้าไปใกล้ห้องที่โนโซมุโดนขัง

 

「เฮ้ย มีคนมาเยี่ยม」

 

「คนมาเยี่ยม ? ใคร ไอริสเหรอ!」

 

ทหารมองดูเสียงของโนโซมุที่มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

แต่ว่าพวกทหารก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไรเพราะคิดว่าโนโซมุที่ทำร้ายเพื่อนเขาไม่ควรมีการให้เข้าพบกับผู้ต้องหา

 

 

โนโซมุกำลังคิดแบบนั้นแต่ว่าสุดท้ายก็ต้องตกใจ

 

「คนรักของเธองั้นเหรอ ทำไมถึงปล่อยให้หมอนี่มันออกอาละวาดแบบนี้……」

 

「……เอ๋ คนรัก?」

 

ทหารบอกกับโนโซมุแบบนั้นอย่างโกรธเคือง ในทางกลับกันโนโซมุไม่เข้าใจ

 

 

ตอนนี้โนโซมุไม่มีคนรักนะ?

 

 

เพื่อตอบข้อสงสัยของโนโซมุ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนลงบันไดมา

 

 

ในคุกใต้ดิน แสงที่ส่องผ่านสกายไลท์เล็กๆที่ติดตั้งตะแกรงเหล็กจะซ่อนเงาที่ปรากฏขึ้นราวกับม่าน

 

 

โนโซมุเบิกตากว้างเมื่อเห็นเงาที่ใกล้เข้ามาถูกส่องสว่างด้วยแสง

 

「โนโซมุปลอดภัยดีนะ?」

 

「คามิลล่า……?」

 

เป็นอดีตเพื่อนของเขาที่เกลียดตัวเขามากกว่าใคร คามิลล่าเพื่อนสนิทของลิซ่ากำลังยืนอยู่ตรงนั้น

 

 

หมีแพนด้าเขาว่าน่ารัก แต่ตอนนี้กลายเป็นต้าวด้าไปเรียบร้อยแล้ว

มีคนถามทำไมไม่รับโดเนท

ตอบ 1.เอามาแปลก็รู้สึกผิดแล้ว ถึงจะเคยขออนุญาตเจ้าของผลงานแต่เจ้าของผลงานไม่ได้ตอบกลับเลย มันก็เท่ากับ ไม่ยินยอม

         2.เออ ผมก็ยังเห็นอยู่ 2 ชาแนลอะที่ยังเอาผลงานผมไปหากินอยู่เลย และก็ยังมีคนดูอยู่ ใช่ ! มีคนไปชมมันด้วย ฮ่าฮ่า เห็นแล้วหงุดหงิดโว้ย !

         3.หลังจบเนื้อเรื่อง เคน กับ ลิซ่า ไปแล้วผมไม่รู้ว่าพวกคุณจะยังอ่านกันอยู่ต่อไหม เพราะงั้น อันนี้เหตุผลหลักสุด เพราะกลัวคุณโดเนทมาเยอะๆ แล้วพวกคุณอ่านกันได้ไม่คุ้มผมที่แปลจบบท 6 มันก็ไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องหลังจากนั้นจะมีคนที่โดเนทมายังอยากจะอ่านต่อรึเปล่า เพราะตอนนี้ผมแปลถึง 115/217 ตอน ผมกลัวพวกคุณเสียเงินมาแล้วไม่คุ้มครับ แค่นั้นแหละ เลยไม่ได้รับ แต่ถ้าพวกคุณยืนกรานว่าอยากจะโดเนทจริงๆไว้ผมจะลองคิดดูละกัน 

 

ถึงจะรู้สึกผิดแต่ตอนนี้ก็ถังแตกสุดๆ ~ ทุกวันนี้เลิกเล่นเกมส์หมดแล้วเล่นแต่เกมส์โทรศัพท์

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร”

Status: Ongoing
สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท