ตอนที่ 14 พาร์ทแรก เตรียมตัวคลื่อนย้าย
จิลนิ่งอึ้ง
“…ไปได้ยินมาจากไหนน่ะ?”
“ได้ยินคนคุยเรื่องนี้มาน่ะ”
“ไม่ ไม่ ไม่ เป็นไปไม่ได้ เหมือนที่เคยพูดก่อนหน้านี้แหละ เรื่องของเคาท์มอร์คสแตทน่ะ เป็นความลับระดับสูงเลยนะ!!”
“ดูเหมือนว่าคนร้ายจะเป็นเด็กผู้หญิงสินะ”
“……..”
ครั้งนี้จิลเงียบไปอ้าปากค้าง
“…ว่าไงล่ะ?”
“พูดไม่ได้”
“นี่เมนู อยากกินอะไรล่ะ”
“มันมีอะไรที่พูดได้กับพูดไม่ได้อยู่นะ ฉันพูดไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”
“อะไรกัน คิดว่าผมจะเอาข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดเหรอ”
“ขอโทษนะ….”
“…ไม่เป็นไรหรอก ผมสิที่ต้องขอโทษ มันไม่ยุติธรรมนะถ้าคุณตอบคำถามมาด้วยความปรารถนาดีน่ะ คงจะไม่ดีใช่มั้ยล่ะถ้าคุณถูกลงโทษจากเรื่องนี้น่ะ”
เอาล่ะ ไงต่อดีล่ะ ฮิคารุตอบแล้วเลื่อนตัวกลับไปที่เก้าอี้ของตัวเอง
(ถ้าเธอไม่บอกไปมากกว่านี้แล้วเราคงต้องลอบเข้าไปที่คฤหาสสินะ)
“ทำไมถึงอยากรู้ล่ะ นี่น่ะอาจจะเป็นข่าวใหญ่ก็จริงแต่ว่าเธอไม่น่าใช่พวกที่สนใจเรื่องที่เคาท์ถูกฆ่าไม่ใช่รึไง”
“เพราะว่า….”
“ฮิคารุคุง คิดว่านายคงจะเคยเป็นลูกคนรวยที่หนีออกจากบ้านมาแล้วตัดสินใจเป็นนักผจญภัยเพื่อเอาตัวรอดสินะ ใช่มั้ย?”
“…..ก็อะไรประมาณนั้นล่ะ ผมไม่มีวิธีอื่นนี่นา”
จริงๆแล้วเขาไม่มีกระทั่งบ้านให้กลับด้วยซ้ำ
“ครอบครัวของนายมีความสัมพันธ์กับเคาท์มอร์คสแตทงั้นเหรอ”
“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น”
“งั้นทำไมถึงสนใจขนาดนั้นล่ะ”
ซวยแล้ว ฮิคารุคิด ดูเหมือนว่าการตายของเคาท์มอร์คสแตทจะเป็นความลับมากกว่าที่คิด
“เพื่อนน่ะ….”
“เพื่อนเหรอ….”
“ใช่ เขาถูกกดขี่โดยเคาท์มอร์คสแตท ก็เลยอยากรู้น่ะว่าเขาตายรึยัง”
“……”
จิลจ้องมาที่ฮิคารุ ศึกษาเขา และฮิคารุคิดจะจ้องกลับแต่ก็หยุด
ถ้าจำไม่ผิด คนโกหกจะทำสองอย่าง อย่างแรกคือพยายามจะไม่มองตาคนที่จะโกหก กับพวกที่พยายามทำเหมือนว่าไม่ได้โกหกโดยการจ้องกลับไปทันที
ฮิคารุมองไปที่ตาของจิลแวบหนึ่งและพยังหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็กระดกน้ำ
“…..ฉันไม่รู้สึกถึงความมุ่งร้ายในคำพูดของนายเลย”
อ๊ะจิลเคยบอกว่าสัมผัสอารมณ์ของคนอื่นได้นี่นา แปลว่าไม่จำเป็นต้องแกล้งทำอีกต่อไป
“ยังไงก็จะต้องถูกประกาศสู่สาธารณะอยู่แล้วล่ะ บอกไปคงไม่เป็นไรหรอกมั้งนะ… สามวันจากนี้ จะมีคนถูกส่งไปที่เมืองหลวง ฉันบอกได้แค่นี้ล่ะ” จิลพูดพร้อมถอนหายใจ
ใครบางคนเหรอ หรือว่าคนร้าย เด็กคนนั้นสินะ เข้าใจล่ะ สามวันจากนี้สินะ ถ้ากิลด์นักผจญภัยรู้ด้วยก็แปลว่า
“อย่าบอกนะว่า นักผจญภัยจะต้องคุ้มกันด้วยน่ะ ทำไมล่ะ”
จิลหันหน้าเข้าสู่อาหารเหมือนกับจะบอกว่าจะไม่พูดอะไรมากกว่านี้แล้ว เธอตัดพายขนาดพอดีคำและกินเข้าไป ท่าทางนั้นดูชำนาญเป็นอย่างมาก
แปลว่าพวกอัศวินที่คฤหาสของเคาท์จะมียศมากกว่าทหารธรรมดาสินะ แต่ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมต้องให้นักผจญภัยไปคุ้มกันล่ะ มันต้องมีอะไรมากไปกว่านี้แน่
ในตอนนั้นเอง ทวินทอร์นาโดก็มาเสริฟ ภาชนะของมันนั้นดูเหมือนเมลอนที่ทำมาจากเหล็ก มีหลอดสองอันปักอยู่ ใช่ สองอัน
“ลุยกันโลด”
“….หา?”
“เร็วสิ”
“เดี๋ยวนะ ไอ้นี่มีสองหลอดเรอะ!”
“ใช่สิ ไม่งั้นจะตั้งชื่อว่า ทวิน ทำไมล่ะ”
“ไม่ๆๆๆๆๆๆ”
นี่มันเครื่องดื่มคู่รักนี่หว่า จิลดูเหมือนว่าจะเขินอายเหมือนกันเพราะแก้เธอก็แดงขึ้นมา
“ก็บอกแล้วไงว่าอยากลองมานานแล้วน่ะ แต่ว่าไม่คนดื่มด้วยเลยเนี่ยสิ”
“ก็มีฝูงผู้ชายตามเธออยู่ไม่ใช่เหรอ เลือกมาสักคนเซ่!!”
“ก็ บอก ว่า ฉันน่ะอ่านทะลุอารมณ์ของแต่ทุกคนได้น่ะ”
“อ๊ะ มีเหตุผล”
แล้วฮิคารุก็เข้าใจ
เธอเห็นเราเป็นพวกกินหญ้าสินะ
“เอาล่ะ มาลองดื่มกันเถอะ แต่ให้เธอก่อนเลย พอเธออิ่มแล้วที่เหลือเดี๋ยวผมจัดการเอง”
“…….”
“อย่าบอกนะว่า จะให้ดูดพร้อมกันน่ะ”
“มะ..ไม่อยู่แล้วย่ะ อย่าหลงตัวไปนะ!!!”
จิลเริ่มจัดการเครื่องดื่ม เลื่อนไปใกล้ๆเธอและเริ่มดูดมัน
“ดีจังเลย อ๊ะ!”
สุดท้ายเธอก็จัดการคนเดียวจนหมด
เงินที่หลือ 1,430 กิลลัน (+7500 และค่าเขา)
หลังจากนั้น ตอนเกือบเที่ยงคืน
เด็กหนุ่มที่ใส่ชุดดำปรากฎตัวอยู่หน้าที่พักของเคาท์มอร์คสแตท ฮิคารุนั่นเอง เขาทิ้งผ้าคลุมไว้ที่ห้อง เพราะมันเกะกะ แตะที่หน้าของเขามีอะไรที่เขาไม่เคยใส่มาก่อน หน้ากากนั่นเอง
ทำจากแผ่นโลหะบางๆ มีขายที่วิหารด้วยราคาเพียงสิบกิลลันเท่านั้น สร้างโดยอิงต้นแบบมาจากเทพที่มีชื่อเสียงอย่าง เทพสุริยัน และเทพสงคราม
ฮิคารุซื้อหน้ากากเทพสุริยันมา มันมีสีเงินและเส้นกรามที่เฉียบคม คิ้วบางยืดยาวไปจนถึงด้านข้าง การแกะสลักไม่ลึกมากนัก นี่จึงเหมาะกับฮิคารุพอดี มีรูที่ตาและจมูกเพื่อหายใจ และฮิคารุเจาะเพิ่มที่ปากเพื่อให้หายใจสะดวกขึ้น
“เอาล่ะเรียบร้อย ดูท่าว่าเราจะต้องเข้าไปทางด้านหน้าอีกแล้วสินะ”
แน่นอนว่าฮิคารุมาเพื่อช่วยเด็กสาว เธอเป็นคนที่บอกทางหนีให้แก่เขา และเขาก็ไม่รู้ว่าเธอทำไปทำไม
“…..ไม่ชอบเลยที่จะต้องให้เธอมาเป็นแพะรับบาปเนี่ย”
เขาไม่รู้ว่าเบื้องหลังมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และถึงเขาจะอยากสืบลงลึกกว่านี้ แต่เขาก็ไม่มีเส้นสายอยู่ดี ลืมเรื่องถามยามไปได้เลย มันยิ่งจะทำให้เขาน่าสงสัยมากขึ้นเปล่าๆด้วยเหตุนั้นเอง ทำให้เขาต้องย่องเข้าไปในฟ้อมยามเพื่อดักฟัง แต่ก็ไม่ได้เรื่องอะไรนอกจากเรื่องเหล้า การพนัน และผู้หญิง แล้วพวกนั้นก็ยังบ่นถึงเหล่าเบื้องสูงด้วยเช่นกัน
“ขาหนักชะมัด..”
เขาไม่คุ้นเคยกับการที่จะต้องเดินทั้งวันมาก่อน ตอนนี้เขาจึงหมดแรงข้าวต้มเรียบร้อย และถึงเขาจะอยางเพิ่มแต้มให้กับความอึดและพลังจู่โจมมากขนาดไหน แต่ว่าก็ไม่มีแต้มอยู่ดี เด็กสาวไม่ได้อยู่ในความควบคุมของหน่วยสืบสวนแต่อย่างใด โครงสร้างการจัดการของที่นี่คล้ายกับของตำรวจที่ญี่ปุ่น และเธอก็ไม่ได้อยู่กับพวกยามเช่นกัน แปลว่ามีโอกาสสูงมากที่เธอจะอยู่ในคฤหาสของเคาท์
ประตูหน้านั้นล็อคอยู่ แต่ทางข้าด้านข้างนั้นไม่ได้ล็อค เขาเดินผ่านยามไปได้โดยไม่ถูกจับได้ ครั้งก่อนที่มาที่นี่ ฝนนั้นตกอยู่ แต่ครั้งนี้ไม่
“หืม”
ประตูหน้านั้นถูกล็อคอยู่
“ก็นะ มีคนถูกลอบสังหารนี่นา จะคุ้มกันแน่นหนาขึ้นก็ไม่แปลก”
ฮิคารุแสยะยิ้ม
“แต่ลอบเร้นของเราก็พัฒนาขึ้นเหมือนกันล่ะนะ”
เขาเปลี่ยนคลาสเป็น Stealth God: Darkness Wanderer เรียบร้อยแล้ว เขาเดินวนรอบคฤหาส มันไม้กระดานปิดหน้าต่างอยู่คงจะต้องเอามันออกถ้ามันจำเป็น และทุบกระจกหน้าต่างเข้าไปด้วยถ้ามันมีกลอน แต่ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะเหลือร่องรอยให้น้อยที่สุด
“…เดี๋ยวสิ นั่นอะไรน่ะ”
ฮิคารุก็ไปเห็นเข้ากัประตูที่แง้มออกมา แสงส่องออกมาจากข้างในและมีผู้ชายและผู้หญิงยืนอยู่ตรงนั้น
“จะไปแล้วเหรอ”
“ผมต้องกลับไปที่เมืองหลวงน่ะ ภารกิจของผมจบลงแล้ว”
“ฉันคงเหงาน่าดู”
“ขอโทษนะ ไว้จะส่งจดหมายมาให้แน่นอน”
ชายคนนั้นไม่ค่อยคุ้นหน้านัก แต่ดูจากยูนิฟอร์มแล้วน่าจะเป็นอัศวิน และผู้หญิงเป็นเมด
….ก็นะ อัศวินถูกจ้างให้มาทำงานที่คฤหาสนี้แบบไม่เต็มใจ เพราะแบบนั้น พวกนี้ก็เลยไม่อยากทำงานเท่าไร แต่ก็ยังปิ๊งกับเมด นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเจ้าของคฤหาสถึงโดนฆ่า นายทำงานไม่ดีเองนา
ฮิคารุค่อยๆย่องผ่านทั้งสองคนไป และเปิดประตูหลัง ทันทีที่เขาเปิดประตูแสงข้างในก็ส่องออกมาด้านนอกทำให้ทั้งสองคนนั้นรีบกระโจนหนีเข้าไปในความมืดทันทีเพราะกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเข้า ฮิคารุยังคงยืนอยู่ตรงนั้นแต่ก้ไม่มีใครเห็นเขา
สุดยอด….คลาสเทพแห่งการลอบเร้นที่สุดยอดเกินไปแล้ว
ข้างในคือห้องเก็บของและห้องครัวที่ติดกัน มีแค่แสงตะเกียงอ่อนๆที่ส่องออกมา ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น ฮิคารุเดินหน้าไปเรื่อยๆ เขาไม่ต้องสนเรื่องยิบๆย่อยๆเพราะเปิดสกิลอยู่ เขาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องของเคาท์ที่ชั้นสอง
ประตูล็อคอยู่
ไม่ดีแล้ว ถ้ามีสกิลอย่าง ปลดล็อค ไม่ก็ ปลดกับดัก ก็ดีสิ แต่ไม่มีอะไรแบบนั้นในโวลบอร์ดของเราเลย
แล้วก็ไม่มีแต้มเช่นกัน
เขาแนบหูที่กำแพงแต่ก็ไม่ได้ยินอะไร หลังจากที่เช็คคนที่ทางเดินว่าไม่มีใครแล้ว เขาก็เคาะประตู
“….ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยู่นะ”
ไม่มีการตอบสนอง เขาจึงไปเช็คที่ห้องอื่น ว่างเปล่า แต่ว่า มีบางคนอยู่ในอีกห้อง
ผู้หญิง