Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 804 ศพและหัวกระจายคนละทาง

ตอนที่ 804 ศพและหัวกระจายคนละทาง

เหตุการณ์ที่พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือทำให้เหล่าผู้มีอำนาจตกตะลึงกันหมดพวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าหลูปิงเซ่อจะใช้มาตราการนี้ในการตอบโต้กับจงคุย
แถมมันยัง…
ได้ผลจริงๆ!
จงคุยเกิดวิตกขึ้นมาทันทีความกดดันจากความคิดเห็นของสาธารณะที่แม้เขาจะไม่สนใจ เพราะมันไม่ใช่ยุคศิวิไลซ์ที่ต้องทำกฏระเบียบและผู้นำจะถูกเลือกขึ้นมาจากความชอบพอของประชาชน และจะตกต่ำถ้าทำตัวให้ไม่เป็นที่พอใจของสังคม
ยุคโลกาวินาศไม่ได้ใช้การปกครองโดยมีตำแหน่งอิงจากยศในกองทัพซางจิงแม้ว่าตอนนี้ทุกคนจะมีเงาของการปกครองในยุคศิวิไลซ์หลงเหลืออยู่บ้าง แต่ทุกคนก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าในอนาคต สถานะของแต่ละบุคคลจะขึ้นอยู่กับจุดยืน สถานะของค่ายจะขึ้นอยู่กับความสามารถ!
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับสถานะของจงคุยในตอนนี้ก็คืออำนาจที่ต่อเนื่องมาจากในยุคศิวิไลซ์เขาไม่มีอำนาจ ไม่มีความสำเร็จ ไม่มีผลงานใดๆ แถมยังไม่มีความชื่นชมจากประชาชนอีก คาดว่าเขาไม่สามารถจะเทียบกับเฉินยุนโหลวได้ด้วยซ้ำ
จงคุยอยากจะฆ่าหลูปิงเซ่อทิ้งเพื่อเอาชนะชูฮัน เขาต้องการจะเพิ่มระดับจุดยืนของเขาตัวเองโดยการเหยียบชูฮันขึ้นไป
การได้หักหน้าชูฮันและฆ่าสมาชิกของกองทัพเขี้ยวหมาป่าได้ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้องเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่และเป็นที่โด่งดังอย่างแน่นอน ยิ่งในยุคอันโกลาหลนี้ที่มีคนมากมายชื่นชอบความรุนแรง
จงคุยคิดว่าชูฮันไม่มีทางออกมาจากสนามพลังได้และหลูปิงเซ่อก็อยู่ที่นี่ตัวคนเดียวไร้ซึ่งความช่วยเหลือใดๆ และไม่ว่าตัวเขาจะกดดันหลูปิงเซ่อมากแค่ไหน อีกฝ่ายก็ไม่มีทางที่จะกล้าตอบโต้หรือทำอันตรายใดๆแก่เขาที่เป็นพลเอกอย่างแน่นอน
และวิธีนี้ก็จะทำให้ทุกคนดูถูกหลูปิงเซ่อจากทีมความลับของพระเจ้าโดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรเลย
จงคุยสามารถหักหน้าชูฮันได้ด้วยความคิดของสาธารณะ
หากในตอนนี้เหมือนกับเขาถูกหลูปิงเซ่อตบเข้าที่หน้าจังๆต่อหน้าสาธารณะท่ามกลางเสียงความไม่พอใจจากประชาชนจนวุ่นวายเต็มไปหมด เสียงความวุ่นวายที่ดังสนั่นไปทั่วจนแทบจะเกิดจลาจลขึ้นได้ทุกเมื่อ
จงคุยร้อนรนด้วยความตื่นตระหนกพยายามจะอธิบายเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิด และในจังหวะนั้นหลูปิงเซ่อที่คอยสังเกตอยู่ก็ส่งเสียงดังขึ้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของทุกคน!
”พี่น้องทุกคน!”หลูปิงเซ่อเปลี่ยนการเรียกขานเพื่อเป็นการรวมตัวเขากับฝูงชนให้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ น้ำเสียงมีจังหวะจะโคนชักนำอารมณ์ของฝูงชนให้คล้อยตาม สองแขนชูขึ้นฟ้าเพื่อปลุกระดม “พลเอกจงคุยผู้นี้ไม่เพียงแต่ดูถูกเหยียบย่ำพวกเรา แต่เขายังคิดจะเปลี่ยนถูกให้เป็นผิด พยายามใส่ร้ายฉันและหัวหน้าของฉัน ทุกคนคิดว่าเขาคือขยะมากกว่าหรือไม่!”
”ใช่!”เสียงที่หนักแน่นและพร้อมเพรียงดังตอบรับขึ้นพร้อมกัน
”มา!ทุกคนจงฟัง!” หลูปิงเซ่อสามารถชักจูงผู้คนนับพันๆให้คล้อยตามได้ “ฉันจะนับหนึ่ง สอง สาม ให้ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน!”
”หนึ่งสอง สาม ไอ้ขยะ!”
”ไอ้ขยะ!”
”ออกไปจากค่ายหนานตู้หนึ่ง สอง สาม!”
”ออกไปจากค่ายหนานตู้!”
”พลเอกฉางกวนหลงจงเจริญ!หนึ่ง สอง สาม!”
”พลเอกฉางกวนหลงจงเจริญ!”
เสียตะโกนของชาวบ้านที่รวมใจกันเป็นหนึ่งดังกู่ก้องหน้าตาของจงคุยบิดเบี้ยวจนอัปลักษณ์ ปากก็อ้าค้างกว้างจนแมลงสามารถบินเข้าไปได้ ความรู้สึกอับอายแผ่กระจายเต็มจนอยากจะหนีไปซะเดี๋ยวนี้!
หลูปิงเซ่อยิ่งชอบใจขึ้นไปอีกตัวเขาไม่มีเหตุผลให้ต้องฆ่าจงคุย เขาไม่ได้โง่ เขารู้ดีว่าถ้าเขาทำอันตรายต่อจงคุยมันก็จะกลายเป็นปัญหาต่อหัวหน้าชูฮันของเขาหลังจากนี้ แต่ถ้าเขาไม่ฆ่าจงคุยก็มีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าหลังจากนี้อีกฝ่ายจะนำหายนะอะไรมาให้หัวหน้าเขา
เพราะงั้นในอีกมุมหลูปิงเซ่อที่คิดการณ์ไกลไม่ออก จึงเลือกที่จะใช้ความคิดสาธารณะเล่นสงครามจิตวิทยาในครั้งนี้แทน!
อย่าลืมว่าทีมความลับของพระเจ้าพัฒนาขึ้นมาได้อย่างไรหลูปิงเซ่อไม่สามารถเป็นกัปตันได้ทั้งๆที่มีข้อด้อยทางกายภาพและพละกำลังในการต่อสู้ที่อ่อนแอแบบนี้ และไม่ใช่เพราะพรสวรรค์ที่เขามี แต่มันเป็นเพราะจิตวิญญาณอันกล้าแกร่งของทีมความของพระเจ้าที่อัดแน่นและหลอมรวมอยู่ในกายของหลูปิงเซ่อต่างหาก!
มองดูภาพฝูงชนที่ตะโกนกู่ก้องขับไล่จงคุยจนดังสนั่นแววตาของฉางกวนหลงก็เป็นประกายจ้า และมองไปที่หลูปิงเซ่อด้วยความตื่นตาตื่นใจปนชอบใจ Aileen-novel
ในวิกฤตที่ไร้ซึ่งทางออก…หลูปิงเซ่อกลับสามารถหาวิธีแก้สถานการณ์ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพจนทำให้ตอนนี้จงคุยไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว
ประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือการที่หลูปิงเซ่อดึงชื่อฉางกวนหลงออกมาเพื่อให้ชาวบ้านเชิดชูแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างชูฮันกับฉางกวนหลง
ไม่มีแค่ชื่อเสียงของจงคุยจะลดน้อยลงเท่านั้นแต่ชื่อเสียงของกองทัพเขี้ยวหมาป่าและชูฮันก็ยังเพิ่มขึ้นไปอีกด้วย
เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว…ดีนี่ชูฮันทหารของแกนี่มันมีความสามารถจริงๆ!
”หุบปาก!!”จงคุยที่ทนเสียงขับไล่ไม่ไหวแหกปากใส่หลูปิงเซ่อ “แกทำให้ฉันหัวเสีย แกกล้าทำให้ฉันขายขี้หน้า ฉันผิดอะไรที่จะตัดสินประหารในฐานะพลเอก? แล้วที่ฉันพูดไป ตรงไหนที่ฉันหมายความกับชาวบ้านทุกคน?”
หลังจากจงคุยพูดออกมาหลูปิงเซ่อก็ทำท่าจะพูดต่อทันที แต่จงคุยรู้ดีว่าเขาต้องห้ามไม่ให้หลูปิงเซ่อได้มีโอกาสพูดอีก เขาจึงรีบใช้การจู่โจมอย่างรวดเร็วโดยไม่ให้ใครได้มีเวลาทันตั้งตัว “เป้าหมายของฉันคือแก แกคนเดียว เรื่องชั่วๆของหัวหน้าแกไม่มีอะไรเกี่ยวกับชาวบ้านค่ายหนานตู้ แกจงใจที่จะดึงทุกคนเข้ามาร่วมเพื่อโหมไฟให้มันลุกพือเพราะต้องการจะทำให้ฉันจนมุม!”
หลูปิงเซ่อต้องการจะเถียง”ผมไปทำ…!”
”หุบปากแกซะ!”จงคุยกลัวว่าหลูปิงเซ่อจะกระตุ้นความคิดเห็นของประชาชนขึ้นมาอีกครั้ง เขารีบพูดออกมาด้วยความเร็วเพื่อกลบหลูปิงเซ่อที่กำลังจะอ้าปากพูดเอาไว้ “ชูฮันถูกลอบสังหารเพราะความไม่พอใจที่หลายคนมีต่อตัวเขา แล้วแกคิดจะต่อต้านอะไร? อย่ามาโทษฉันที่ไม่ได้เตือน ชูฮันไม่สามารถหนีตลอดไปได้ และเขาไม่มีใครให้หนุนหลัง! แกกำลังดึงความคิดของประชาชนให้ต่อกรกับฉัน นั้นมันไม่ใช่การลากพวกเขาลงกองไฟหรือไง? ให้พวกเขาสนับสนุนคนตาย แกโง่หรือไง?”
หลูปิงเซ่อนิ่งค้างอะไรน่ะ?
ชาวบ้านที่ถูกหลูปิงเซ่อชักนำก็หน้าเสียกันหมดความสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ จงคุยเป็นถึงพลเอก รู้อะไรมากมายกว่าพวกเขา และตอนนี้ลูกบอลยักษ์สีดำตรงใจกลางถนนก็เงียบกริบมาเป็นเวลานานแล้ว หรือว่าชูฮันจะตายแล้วจริงๆ?
จงคุยที่เห็นคำถามมากมายในแววตาของชาวบ้านก็รีบเอ่ยอย่างตื่นเต้นในใจ”ตัวตลกที่อยากจะยั่วยุคนมีอำนาจ แกก็สมควรตายเหมือนกับชูฮัน!”
ทันทีที่คำพูดสุดท้ายของจงคุยสลายไปในอากาศมันก็มีน้ำเสียงที่ดังขึ้นอย่างฉับพลันจากทางด้านหลัง
”ใครบอกว่าฉันตายแล้ว?”
”ฮือฮา ~”
ทันใดนั้นฝูงชนก็อุทานก็ดังระงมด้วยความตกใจหันขวับไปมองตามที่มองของเสียง เช่นเดียวกับกลุ่มนายพลทั้งหลาย
ภาพที่ทุกคนได้เห็นก็คือตรงใจกลางของลูกบอลยักษ์สีดำ คลื่นพลังงานที่ไหลเวียนในอากาศเริ่มจางลง มันเหมือนกับผ้าม่านที่ค่อยๆถูกเลื่อนเปิดออก ตรงกลางมีภาพขวานยักษ์ปรากฏสู่สายตาทุกคนตามมาด้วยร่างของคนคนหนึ่งที่ค่อยเดินก้าวออกมาช้าๆ
”ตึง!”
ความตกใจมหาศาลทำให้จงคุยเข่าอ่อนล้มลงกระแทกพื้นมันไม่ใช่ว่าชูฮันถูกกลุ่มนักฆ่าจัดการไปแล้วเหรอ แล้วไม่ใช่ว่าคลื่นพลังงานมหาศาลที่เป็นลูกบอลยักษ์นี้เป็นฝีมือขอองตระกูลลึกลับหรอกหรือไง?
ทำไมชูฮันถึงยังมีชีวิตอยู่?
แล้วใครที่ตาย?
คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของทุกคนในเหตุการร์ไม่นานหลังจากชูฮันก้าวออกมาจากลูกบอลยักษ์สีดำ หมอกสีดำหนาก็สลายหายไปอย่างรวดเร็วทันที เผยให้เห็นภาพที่น่าหวาดหวั่นแก่ทุกๆคน
ร่างศพที่นอนเกลื่อนพื้นโดยศีรษะหลุดออกจากร่างทุกร่าง!

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Status: Ongoing

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง

สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น

วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว

ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ

และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้

และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย

นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท