ตอนที่ 22 กระบวนการ
หลังจากที่กินอาหารเช้าอย่างสบายๆ จิลก็เดินออกมาจากคาเฟ่และตรงไปที่กิลด์
คนปรกติคงจะคิดแล้วคิดอีกถ้าจะต้องกินอาหารเช้าที่คาเฟ่ แต่ว่า เป็นพนักงานกิลด์นั้นเงินดีใช้ได้เลยทีเดียว แต่ก็ไม่น่าแปลก เพราะพวกเธอจะต้องคอยรับมือกับพวกนักผจญภัย ถ้า “สวย” หรือ “แข็งแกร่ง” ได้ยิ่งดี ซึ่งการที่พนักงานกิลด์น่ารักหรือไม่นั้น มันส่งผลถึงการพิพาทที่เกิดภายในกิลด์
ในกิลด์อื่นๆ นั้นไม่จำเป็นต้องมีพนักงานต้อนรับที่หน้าตาดีมากนัก จะเป็นผู้ชายก็ได้ แต่ค่าตอบแทนก็ไม่ได้สูงเท่าที่นี่
การเป็นพนักงานต้อนรับของกิลด์นักผจญภัยไม่ได้ต้องมีคึความสวยอย่างเดียว แต่ยังต้องมีความฉลาดในการรับมือกับเรื่องต่างๆด้วย
สำหรับจิลที่เป็นพนักงานกิลด์แล้วการได้กินอาหารเช้าในคาเฟ่เป็นอะไรที่สุขใจเป็นอย่างมาก
“อรุนสวัสดิ์ค่า”
“อรุนสวัสดิ์จ้า จิลจัง”
ที่เคาท์เตอร์นั้นมีพนักงานอยู่ก่อนแล้ว เธอคือคนที่ไปทำงานกับรองหัวหน้ากิลด์นั่นเอง
“คุณออโรร่า มีอะไรรึเปล่าคะ”
ออโรร่ายิ้มมากกว่าเดิม
“คุณอันเค็นอยากเจอเธอน่ะ”
“คุณอันเค็นเหรอ?”
จิลเข้าไปเก็บของในล็อคเกอร์ของเธอและสงสัยว่าทำไมอันเค็นถึงอยากเจอเธอตั้งแต่เช้าขนาดนี้ ตอนนี้ในกิลด์กำลังวุ่นวายเลยทีเดียวแต่ออโรร่าก็สามารถรับมือได้ จิลตรงไปที่ห้องของอันเค็น หรือก็คือห้องของกิลด์มาสเตอร์นั่นเอง
“โอ๊ะ จิล มานี่สิ”
อันเค็นเรียกเธอไปที่โต๊ะ จิลรู้สึกโล่งอกถ้าเรียกให้ไปนั่งอย่างนี้ไม่น่าจะมีเรื่องร้ายแรงอะไร เธอนั่งลงที่เก้าอี้
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
“ข้ามีอะไรต้องบอกน่ะ”
“ค่ะ”
“ปาร์ตี้ที่คุ้มกันรถม้าเมื่อวานทำภารกิจล้มเหลวน่ะ”
“…อะไรนะคะ”
จิลรู้ว่าโนกุสะเป็นใคร นักผจญภัยในพอนด์นั้นจะมีแรงค์สูงสุดที่ D จิลนั้นสงสัยว่าโนกุสะเป็นใครเธอเลยไปสืบประวัติดูแต่ก็ผิดหวังเพราะเขาก็เป็นเหมือนนักผจญภัยในพอนด์ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นถึงนักผจญภัยแรงค์ C
นักผจญภัยแรงค์ C พลาดงั้นเหรอ ปรกติแล้วพวกเขาจะรับภารกิจฆ่ามอนส์เตอร์ที่ยามของพอนด์รับไม่ไหว ไม่ก็ทำงานให้กับพวกชนชั้นสูง
“พวกเขาโดนซุ่มโจมตีเหรอคะ หรือว่าโดนพวกมอนส์เตอร์ที่แข็งแกร่งโจมตี”
“ไม่ใช่”
“หรือว่าพวกนั้นจะลักพาตัวเด็กคนนั้นไป”
“ไม่ใช่ ทีแรกข้าก็คิดแบบนั้น แต่ว่าไม่ใช่น่ะ”
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะคะ หยุดเฉไฉไปมาสักทีสิคะ”
“…..จิล นี่มันทำให้กิลด์นัผจญภัยเสื่อมเสียชื่อเสียงนะ”
“ค่ะ”
“งั้นทำไมเธอถึงดูตื่นเต้นนักล่ะ ชอบเรื่องซุบซิบนินทารึไง”
“ไม่สิคะคุณอันเค็น ฉันไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้นนะคะ เอาล่ะค่ะ รีบบอกมาได้แล้วค่ะ ยังไงเดี๋ยวข่าก็แพร่ออกไปอยู่ดีไม่ใช่เหรอคะ”
นี่เป็นข่าวใหญ่เลยทีเดียว จิลไม่ได้สนเรื่องโนกุสะ แล้วอีกอย่างพวกนั้นถูกส่งมาโดยสาขาในเมืองหลวง ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของสาขาพอนด์อยู่ดี ข่าวใหญ่นี้จะต้องแพร่กระจายไปยังพวกนักผจญภัยแน่นอน
ฉันต้องบอกเรื่องนี้กับฮิคารุคุงให้ได้ เขาสงสัยเรื่องนี้พอดีอยู่เลย อยากรู้จังว่าเขาจะทำหน้ายังไง
อันเค็นถอนหายใจออกมา
“ก็ได้ๆ ก็ยังดีหว่าพวกที่ดูเอาจริงเอาจังล่ะนะ จากที่โนกุสะบอกมา ตอนที่พวกนั้นแอบมองเข้าไปตอนพักครั้งที่สอง เธอก็หานไปแล้ว ว่างั้นน่ะ”
“หายไป เดี๋ยวนะคะ โนกุสะกับพวกของเขายืนยันมาอย่างนี้จริงๆเหรอคะ งั้นแปลว่าพวกนั้นไปถึงกิลด์ที่เมืองหลวงได้ใช่มั้ยคะ”
“ใช่ ถ้าพวกนั้นจะปล่อยเด็กคนนั้นไปก็ไม่เห็นต้องพูดอะไรโง่ๆแบบนั้นออกมา มันดูสิ้นคิดเกินไป”
“งั้นแล้วเด็กคนนั้นไปไหนล่ะคะ”
“ถ้าพวกเราไม่รู้น่าจะดีกว่านะ”
“ก็จริงนะคะ”
“แต่ก็มีอะไรที่ซับซ้อนอยู่สองอย่างน่ะน่ะ อย่างแรกเลยคือ สารถีบอกว่าพวกโนกุสะบังคับเอากุญแจจากเขา”
“ดูจากนิสัยของพวกนั้นมันก็ไม่น่าแปลกใจเลยนะคะ”
เธอเข้าใจสิ่งที่อันเค็นพูดในทันที และเธอยังรับรู้อารมณ์ของเขาได้อีกด้วย
“พวกโง่โดยแท้จริงๆ”
“นั่นมันก็จริง แต่ว่าพวกนั้นก็เป็นถึงแรงค์ C แบบนี้พวกนั้นก็ทำให้สาขาเมืองหลวงดูแย่น่ะสิ”
“คุณบอกว่ามันมีสองอย่างสินะคะ แล้วอีกอย่างนึงล่ะคะ”
“ข้าว่าเธอน่าจะรู้เรื่องทหารยามที่เฝ้าคฤหาสของเคาท์มอร์คสแตทอยู่สินะ”
“ค่ะ อัศวินที่ได้รับหน้าที่ปกป้องเคาท์มอร์คสแตทโดยเฉพาะสินะคะ การที่เคาท์ถูกฆ่าภายใต้การดูแลของพวกเขามันทำให้ภาพลักษณ์ดูแย่ไปเลยสินะคะ”
“ทำไมธอถึงดูตื่นเต้นจังฮะ ยังไงก็เถอะ ดูเหมือนว่าอัควินคนนึงไม่ไว้ใจพวกนั้นก็เลยตามไป”
“เหมือนเขาจะเกลียดพวกนั้นมากเลยสินะคะ”
“แต่เขาก็ตามพวกนั้นไปไม่ทัน เขาบอกว่าโดนโจรป่าโจมตีน่ะ”
“โจรป่างั้นเหรอคะ ระหว่างเมืองหลวงกับพอนด์เนี่ยนะคะ นี่ไม่ปกติเลยนะ เกิดอะไรขึ้นเรอคะ”
“เขายังไม่ตานแต่บาดเจ็บหลักน่ะ คาราวานที่ผ่านทางมาช่วยเขาไว้แล้วพาเขามาที่พอนด์ ตอนนี้เขาไปรับการรักษาอยู่น่ะคนที่ถามเขาก็คือผู้สืบสวนจากเมืองหลวงนั่นแหละ แต่พวกนั้นไม่ยอมให้ข้าเข้าไปฟังด้วย”
“โอ้…นี่มันแปลกจังนะคะ”
“ข้ารู้”
จิลนั้นฉลาด เธอไม่ได้มาเป็นพนักงานต้อนรับของกิลด์ได้โดยวใช้แค่โชค มันมีอะไรบางอย่างแปลกๆในคดีนี้
“อัศวิน ยกเว้นพวกฝึกหัดส่วนใหญ่จะเก่งกันไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไมถึงโดนจัดการได้ง่ายขนาดนั้นล่ะคะ”
“ที่จริงแล้ว เหมือนเขาจะบอกว่ามีเด็กซุ่มโจมตีเขาน่ะ เขาบอกว่า “เด็ก” “ซุ่มโจมตีเขา” น่ะ”
“อะไรนะคะ!!!!!!!?”
“อะไรของเธอเนี่ยหา!”
“อ๊ะ” จิลรีบปิดปากตัวเองทันที “แต่โดนเด็กโจมตีมันดูเหลือเชื่อเกินไปนะคะ นี่มันคล้ายกันกับของโนกุสะเลยนี่นา ทั้งคู่พูดแต่เรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้นะคะ”
“เธอคิดว่าสองคดีนี้มันเกี่ยวกันมั้ย?”
“มันแปลกอยู่ค่ะ แต่บางครั้งก็มีพวกที่มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้อยู่เหมือนกัน เด็กก็ด้วย แต่เด็กจะดักปล้นคนเหรอคะ ไม่ใช่ว่าเป็นคนตัวเตี้ยเหรอคะ”
“หืมมม”
“แล้วยิ่งไปกว่านั้น ทั้ง หายไป และ โดนเด็กซุ่มโจมตี จะบอกว่าเด็กคนที่หายไปมาซุ่มโจมตีเขาเหรอคะ”
“ไม่ใช่น่ะ จากที่อัศวินคนนั้นบอก ดูเหมือนว่าจะเป็นเด็กผู้ชายนะ เธอคิดเหมือนกันกับออโรร่าเลย”
“ถ้าแบบนั้น ทั้งสองคดีนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกันสิคะ แล้วอะไรที่กวนใจคุณอยู่ล่ะคะ”
“มันก็ใช่ แต่ข้าก็ยังเอาเรื่องนี้ออกไปจากหัวไม่ได้อยู่ดีน่ะ”
“งั้นเรื่องที่จะคุยกับฉันก็มีแค่นี้สินะคะ”
“ใช่…ไม่สิ เดี๋ยวก่อน เธอรู้จักนักผจญภัน ไม่สิ เด็กหนุ่มที่มีความสามารถมั่งมั้ย”
ชื่อของฮิคารุแวบเข้ามาในหัวทันที แต่ถ้าเมื่อวานเขาตามขบวนไปก็ไม่น่าจะอ่านหนังสือได้
“คิดไม่ออกเลยค่ะ”
“อย่างนั้นเรอะ….งั้นเดี๋ยวข้าจะถามกลอเรียด้วยละกัน แต่ก็คงไม่ได้อะไรมากเหมือนกันล่ะนะ”
ฮิคารุออกมานอนโรงแรมพร้าอมกับลาเวีย เขาทำเป็นออกไปคนเดีญวแล้วเปิดลอบเร้นแล้วพาลาเวียออกไปพร้อมกับใช้อำพรางหมู่ไปด้วย
ทั้งคู่ไม่สามารถเช่าถึงสองห้องได้เพราะว่าโซลการ์ดกับกิลด์การ์ดจะถูกเปิดเผยออกมา ลาเวียนั้นมีโซลการ์ดอยู่ ถ้าเอาให้คนอื่นดูมันจะทำให้ตัวตนของเธอถูกเปิดเผยได้ แล้วการที่เธอเป็นผู้ต้องสงสัยนั้นก็ทำให้มีปัญหามากพออยู่แล้ว
จะให้ทำขึ้นมาใหม่หรือว่าจ่ายเงินเพื่อเช่ามาก็ได้อยู่ แต่ตอนนี้มันยังไม่จำเป็น
“…….”
ทั้งคู่เดินไปรอบๆเมือง ตอนนี้ผู้คนในเมืองก็ตื่นกันบ้างแล้ว การที่อยู่ใกล้ๆเมืองหลวงนั้นทำให้เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเป็นระบบเลยทีเดียว แค่เดินไปตามพิกัดก็หลงได้ยากแล้ว
“นี่คือเมืองงั้นสินะ”
นี่คงจะเป็นครั้งแรกของลาเวียที่ได้เดินรอบเมืองสินะ ฮิคารุคิด
ลาเวียมองไปรอบๆ ทุกอย่างดูใหม่สำหรับเธอ ทั้งแม่บ้านที่รวมตัวกันใต้ต้นไม้ คนแก่ที่เดินไปมาและถือตระกร้าสำหรับซื้อของด้วย เด็กชายที่โดนเจ้าของร้านสวดยับ ทุกสิ่งทุกอย่าง
“ฮิคารุ”
“หืม?”
“…คนคนนั้นเขามองอยู่แน่ะ”
“…อื้ม”
ไม่ใช่ใครอื่น คนขายฮอทดอกเจ้าเก่าของเรานั่นเอง เขากำลังจ้องมาทางนี้ ทั้งคู่เดินเข้าไปอย่างห้าวหาญ เมื่อไปถึง เจ้าของร้านก็ยื่นมือออกมา
“หกสิบกิลลัน”
“….กล้าดีนี่นาลุง เอามาสองเลย”
“เราก็อยากจะลิ้มร….เราก็อยากลองเหมือนกันนะ!”
ลาเวียยังบังคับให้ตัวเองพูดแบบหยาบๆไม่ได้ ดธอเลยพยายามปรัวิธีการพูดใหม่ ฮิคารุยื่นเงินออกไปให้ อันนึงให้ลาเวีย อันนึงของเขาเอง
หืมมม นี่เหมือนกับที่ญี่ปุ่นเลยแฮะ ฮิคารุคิดและกัดเข้าไป
“!”
ตาของฮิคารุเบิกกว้าง
“เป็นยังไงบ้าง?!”
“มัน….?”
“มัน…?”
“มันเผ็ดเกินไปแล้วเห้ยยย นี่บ้ารึไงหา?” ฮิคารุบ่นออกมา
บ้าเอ้ย ฮอทดอกนี่เผ็ดชะมัด ฮิคารุรู้สึกว่าอุนหภูมิในร่างกายสูงขึ้น เหงื่อแตกพลั่ก และตอนนี้ซอสมะเขียไม่เหลวเป็นน้ำแล้ว ส่วนคำถามก็คือ
“ลุง ใส่อะไรลงไปในมาสตาร์ด”
“…….”
“ตอบมา”
“ก็เครื่องเทศน่าสงสัยจากพ่อค้าเร่น่ะ”
“แล้วจะซื้อมาทำไมเล่า”
“ก็ความผิดของเอ็งนี่หว่า เมื่อวานทำไมเอ็งไม่มาเล่า ข้าก็เลยให้คนอื่นชิมไปแล้วเขาบอกว่ามันเผ็ดไม่พอน่ะสิ”
“อย่ามาโทษผมสิเห้ย บ้าเอ้ยเผ็ดเกินไปแล้วนะ ไปกันเถอะถ้าเธอไม่กินมันน่าจะดี…..หา?”
“หืมม?”
ลาเวียมองมาที่ฮิคารุ เธอซัดเข้าไปครึ่งอันเรียบร้อยแล้วครับผม
“อร่อยอ้ะ”
“…….”
ฮิคารุหันควับไปมองเจ้าของร้าน เขาส่ายหัวเพื่อจะบอกว่า ก็แบบเดียวกันกับของเอ็งนั่นแหละ
“เธอชอบของเผ็ดเหรอ?”
“หืม?”
พยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้น ไปดูเมืองกันเถอะนะ เอ่อ เรนคลอว”
“โอเค”
ทั้งคู่เดินออกมา ฮอทดอกนั้นเดผ็ดเกินไปเขาเลยคืนให้เจ้าของร้าน ส่วนลาเวียนั้นแค่ชิ้นเดียวก็อิ่มแปล้แล้ว
“ไม่ยอมแค่นี้หรอกเฟ้ยยย” เจ้าของร้านพูดพร้อมกับน้ำตาที่นองหน้าในขณะที่เขากินไปด้วย
เรนคลอวเป็นชื่อปลอมที่ลาเวียเป็นคนคิด ฮิคารุถามเรื่องชื่อที่เธออยากใช้เธอก็ตอบมาว่า “เราชอบเรนคลอว” ดูเหมือนว่านี่จะเป็นชื่อของตัวเอกในนิยายที่เธอเคยอ่าน
เรนคลอว (ลาเวีย) นั้นอารมณ์ดีสุดๆ เธอเดินพร้อมฮัมเพลงไปด้วย
“นั่นไงร้าน โดโดโรโน่ ที่ฉันซื้อเสื้อมาให้เธอน่ะ ที่นี่เป็นร้านขายอุปกรณ์ป้องกันแต่ก็มีชุดธรรมดาขายด้วยนา”
“อูว นี่เหรอร้านขายอุปกรณ์ป้องกันน่ะ”
“เจ้าของร้านเป็นคนแคระที่เอ่อ บ้านิดหน่อยน่ะ”
“คนแคระ!”
“แล้วก็นั่น ร้านที่ฉันซื้อมีดมา ร้านเลนิวูด”
“นั่นน่ะเหรอร้านขายอาวุธ…!!!”
“ส่วนเจ้าของก็เป็นเอลฟ์ที่ไม่ค่อยเต็มเต็งน่ะ”
“เอลฟ์!!”
ลาเวียนั้นดูตื่นตากับทุกสิ่งเป็นอย่างมาก ทั้งคู่ไม่รู้ว่าข่าวของลาเวียแพร่ไปขนาดไหนแล้ว ทั้งคู่จึงหลีกเลี่ยงการเข้าร้านขายของไปก่อน ลาเวียยืนมองที่ร้าน พร้อมกับคิดในใจว่าสักวันจะต้องเข้าไปให้ได้
“และนั่น กิลด์นักผจญภัย”
“…….”
“ลาเวีย?”
“เราฝันถึงที่นี่มาตลอดเลย…”
ถึงขนาดฝันถึงเลยเหรอ ว้าว เธอน่าจะอยากเป็นนักผจญภัยมากเลยสินะ
“….ฮิคารุ”
“…ว่าไง”
“….เราดีใจจังที่ยังมีชีวิตอยู่…..”
“อื้ม”
“ถ้าเราเข้าไปคงจะมีคนพูดแบบว่า “เด็กนั่นมาทำอะไรที่นี่วะ” ใช่มั้ย”
“ใช่สิ”
ฮิคารุเคยโดนมากับตัวแล้ว
“เดี๋ยวครั้งหน้าเราค่อยเข้าไปรวบรวมข้อมูลกันนะ”
“พวกเราเข้าไปได้จริงๆเหรอ!?”
“ก็ฉันจะให้เธอเป็นนักผจญภัยนี่นา เดี๋ยวทุกคนก็รู้อยู่ดีว่าฉันทำงานกับเธอน่ะ ถ้าไม่พาเธอมาที่กิลด์เลยมันก็จะแปลกๆใช่มั้ยล่ะ”
“เราอยากเข้าไปข้างในอ้ะ”
“คร้าบ เอาไว้ครั้งหน้านะคร้าบ”
“ครั้งหน้าเหรอ…”
“อีกไม่กี่วันนี้น่ะ”
“อื้ม!”
ลาเวียหน้าหมองลงเหมือนลูกสุนัขแต่ก็เปลี่ยนมายิ้มกว้างทันทีที่ได้ยินคำว่า อีกไม่กี่วัน
ไม่ยุติธรรมเลยแฮะ ยิ่งยิ้มแบบนั้นก็ยิ่งอยากพาเข้าไปข้างในทันทีเลยสิ
ฮิคารุต้องรวบรวมข้อมูลก่อน แล้วถึงจะทำแบบนั้นได้ วันนี้เขาต้องสู้กับตัวเองไปก่อน
“เราไปเดินรอบเมืองกันต่อมั้ย”
“ไม่ล่ะ พอดีมีอะไรที่อยากลองน่ะ ออกไปนอกเมืองกันเถอะ”
“เราจะไปผจญภัยเหรอ !!!”
“เอ่อ น่าจะเรียกว่าเตรียมตัวมากกว่าน่ะ ฉันอยากเห็นพลังเวทย์ของเธอน่ะ” ฮิคารุพูดและหยิกแก้มตัวเอง
____________
ปุกาดๆ ตอนนี้ผมหามังงะแลอยู่นะฮับ ถ้ามีใครอยากแนะนำก็คอมเม้นไว้เลยฮับ
และ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ผมจะสลับอัพนิยายกับมังงะวันละตอนฮับ
ใครสนใจเข้าไปหาอ่านได้ที่เพจ แปลหางานเลยฮับ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับผม