อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ – ตอนที่ 47

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

ตอนที่ 47 เมืองใต้ดินของเทพโบราณ 6

เมื่อทั้งสองคนเข้าไปในตัวปราสาท ก็พบกับอันเดดที่สวมชุดเมดยืนอยู่ 

พวกนั้นจะเข้ามาโจมตีมั้ยนะถ้ารู้ว่ามีคนอยู่น่ะ ฮิคารุคิดแต่ก็ไม่ได้อยากจะลองดี

ปราสาทหินนี้นั้นสามารถเดินเข้ามาได้อย่างๆเลยทีเดียว แล้วที่นี่ก็ยังมีร่องรอยของผู้คนที่เคยมีชีวิตอยู่

แปลกแฮะ ทำไมถึงไม่ค่อยมีอัศวินคุ้มกันอยู่แถวนี้เลยล่ะ

ไม่ถึงกับไม่มีเลยแต่ว่ามีน้อยมาก นอกจากพวกที่อยู่ด้านหน้าแล้วก็แทบไม่เห็นพวกมันอีก ปกติแล้วไม่น่าจะกันปราสาทกันอย่างนี้นี่นา

ฮิคารุค่อยๆเดินเข้าไปทางเดทไนท์ที่ยืนอยู่ตัวเดียวเพื่อหาช่องว่าที่จะเสียบมีดเข้าไปได้ แต่ว่ามันสวมเกราะมิดชิดทั้งตัวเหลือไว้แค่หน้าที่เปิดไว้ 

ถ้าแทงหน้าจะตายมั้ยนะ …ไม่ดีกว่า

สัญชาตญาณที่เพิ่งอัพมาถูกใช้งานได้เป็นอย่างดี เขาล้มเลิกความคิดที่จะจัดการมันไป

ตอนที่ทั้งคู่ใกล้จะเจอสมบัติก็ถึงเวลากลางคืนแล้ว ที่รู้ได้ก็เพราะว่ามีมานาล้อมอยู่เหมือนกับที่บ้านของพวกขุนนางนั่นเอง และแน่นอน ล็อค ซึ่งถ้าเปิดไม่ได้ก็เปล่าประโยชน์ แต่ฮิคารุมีแผนอยู่ในใจ

“นี่สินะรูกุญแจน่ะ”

ประตูหินบานใหญ่ที่สลักลวดลายมังกรตระหง่านอยู่ข้างหน้าของเขา และรูกุญแจก็อยู่ที่ตาของมัน

“บางทีที่ห้องยามอาจจะมีกุญแจอยู่นะ” ฮิคารุพูด

“อืม..”

“อยู่ทางนี้รึเปล่าหว่า”

“น่าจะใช่นะ”

ขุนนางผู้วายชนม์ยืนอยู่ข้างประตูใส่ชุดหรูหราของเมื่อหกร้อยปีก่อน และมีพวงกุญแจห้อยอยู่ที่มือขวา ฮิคารุจัดการจ้วงเดียวจอดและเอากุญแจดอกที่น่าจะเป็นดอกที่ถูกต้องเสียบเข้าไปในรูกุญแจ

“ทำไมอันเดดนั่นถึงอยู่ตรงนี้ล่ะ มันราบรื่นเกินไปนะ” ลาเวียพูด

“นั่นสิ ช่างเถอะ ดูเหมือนว่ากุญแจจะใส่ได้นะ แต่มันยังเปิดไม่ได้เนี่ยสิ”

ฮิคารุเอากุญแจอีกอันมาลองเสียบดูแต่ว่ามันไม่พอดี แปลว่าดอกแรกน่าจะใช่แล้ว วัตถุดิบแบบเดียวกันด้วย

“อ๊ะ มีรอยบุ๋มตรงกลางด้วยแฮะ”

ตรงที่จับของกุญแจนั้นมีรอยบุ๋มตรงกลางอยู่ ดูเหมือนว่ามันเคยมีบางอย่างติดอยู่ [ผป:เดี๋ยวนะ ปราสาท ซอมบี้ พัซเซิล ทำไมนึกถึงเกมนึงหว่า]

“บ้าเอ้ย คิดว่าจะมาหาอาวุธเทพๆแล้วค่อยไปตบบอสแล้วเชียว กะแล้วว่ามันต้องไม่ง่ายขนาดนั้น นี่แปลว่าที่บอสคงจะมีอะไรที่ใช้เปิดประตูนี่ได้ใช่มั้ยเนี่ย”

“บอส? หมายถึงพวกที่ระดับสูงเหรอ?”

ฮิคารุพูดเรื่องของเกมออกมาทำให้ลาเวียมึนงงเล็กน้อย

“อ๊ะ เดี๋ยวนะ หรือว่าที่นี่ราชาจะเป็นบอสน่ะ” ฮิคารุพูด

ทั้งคู่เดินกลับไปที่หน้าปราสาทและเริ่มหาที่ที่ราชาน่าจะอยู่ หลังจากที่เดินขึ้นบันไดไปยังห้องบัลลังก์ของราชาก็พบกับประตูของห้องบัลลังก์

พรมถูกปกคลุมด้วยฝุ่นดูราวกับเป็นหิมะ จนทำให้แทบมองไม่เห็นสีเดิมของมัน

“..เจอแล้ว”

“ให้เราปิดไฟมั้ย” ลาเวียถาม

“ไม่เป็นไร แถวนี้มีแค่พวกขุนนางผู้วายชนม์น่ะ”

“..อื้ม”

ลาเวียตอบอย่างไม่ค่อยจะมั่นใจนัก แต่ก็ยังเปิดไฟไว้อย่างนั้นและหันมันไปข้างหน้า

แถวของขุนนางผู้วายชนม์ยืนเรียงกันอยู่ทั้งสองฝั่ง และบนบัลลังก์นั้น ก็มีอันเดดตัวหนึ่งนั่งอยู่ เอามีเท้าคาง และมองมาทางทั้งสองคน ผ้าคลุมถูกปักลายด้วยเพชรที่แม้จะผ่านมากว่าหกร้อยปีแล้วก็ยังคงส่องประกายอยู่

“..———…—–…”

“…——-…——–”

ฮิคารุได้ยินเสียงคล้ายไวโอลินพังๆดังอยู่ มันมาจากแถวของพวกขุนนางผู้วานชนม์นั่นเอง เสียงนั้นเบามากแต่ว่าด้วยความเงียบในตอนนี้ทำให้เขาได้ยินค่อนข้างชัดเลยทีเดียว เขาเข้าไปใกล้ๆและพยายามฟังให้ชัด และแน่นอนว่ามันเป็นแค่เสียงคำรามเท่านั้น

“กะ เกิดอะไรขึ้นน่ะ” ลาเวียที่กำลังตื่นหตระหนกอยู่เริ่มกลับมามาสติ

“ดูเหมือนจะกำลังคุยกับราชาน่ะ”

“ก็เห็นอยู่หรอก แต่ว่า”

สิ่งที่พวกมันกำลังคุยกันนั้น แน่นอนว่าฮิคารุไม่เข้าใจ บางทีอาจจะเป็นเรื่องเมื่อหกร้อยปีก่อน หรืออาจจะเป็นเรื่องอื่น ราชามองลงมาที่พวกมันอย่างเบื่อหน่าย

“แหวนของราชา….”ฮิคารุพึมพัม

“ห๊ะ?”

“เหมือนกับที่รูบนกุญแจเลย”

มีแหวนอยู่ที่มือขวา ราชานั้นยังไม่แห้งเป็นซากแต่ว่ายังคงมีเนื้อหนังอยู่ และแหวนนั่นกติดอยู่ที่มือขวาของราชา

“ฮิคารุ จะไปจัดการเลยเหรอ” ลาเวียถาม

“ไม่ล่ะ ยังไม่ใช่ตอนนี้”

“หมายความว่าไงอะ”

“ฉันรู้สึกว่าถ้าเข้าไปใกล้ราชาจะรู้ตัวน่ะ แต่ถ้าเข้าไปคนเดียวน่าจะพอได้อยู่”

นั่นคือสิ่งที่สัญชาตญาณบอกมา ชัดเจนแล้วว่าเป็นสกิลที่โคตรจะมีประโยชน์ บางทีถ้าลงแต้มไปอีกอาจจะรู้ว่าเข้าไปใกล้เท่าไรเลยก็ได้

ฮิคารุไม่รู้ว่าราชานั้นมีสัญชาตญาณเหมือนกับเขารึเปล่า แต่ว่าถ้าหากเข้าไปทั้งๆที่ยังเปิดไฟอยู่ยังไงก็โดนจับได้แน่ 

“..เราเป็น..ตัวถ่วงสินะ” ลาเวียถาม

“ไม่หรอก โทษทีนะ ไม่ได้ตั้งใจจะบอกอย่างนั้นหรอก ถึงจะล้มราชาลงได้แต่พวกที่ยังเหลืออยู่ต้องเรียกพวกเพิ่มแน่ เพราะงั้นเวทของเธอยังจำเป็นอยู่นะ แล้วเราจะเคลียดันเจี้ยนไปด้วยกันไงล่ะ”

“เข้าใจแล้วจ้ะ”

“เอาล่ะ ถ้างั้นก็ลองดูรอบๆกันก่อนเถอะ”

ทั้งคู่เดินไปทางโถงทางเดินเพื่อหาห้องเก็บเอกสาร หลังจากที่เดินผ่านอันเดดที่ดูเหมือนกับเลขาไป ฮิคารุก็รู้ได้ว่าหลังจากนี้ไม่มีอันเดดอีกด้วยตรวจจับมานา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีลมเย็นๆพัดผ่านไป

ลมเหรอ..?

ในดันเจี้ยนนี้ไม่ได้มีอากาศหมุนเวียนมากนัก แต่ว่าตั้งแต่ที่เข้ามาที่นี่ก็รู้สึกมาตลอด

“ลาเวีย เจอห้องเอกสารแล้วล่ะ”

“เอ๋?”

ฮิคารุหยุดอยู่ที่หน้าประตูบานหนึ่ง

“ภาษาโบราณเหรอ เราพออ่านได้อยู่นะ แล้วนายล่ะ” ลาเวียถาม

“ได้สิ”

แน่นอนว่าเป็นเพราะโรแลนด์ ประตูนั้นเป็นประตูธรรมดาที่ล็อคแบบปกติ ฮิคารุปักมีดลงไปลถีบเพื่อพังมัน เพราะว่าแถวนี้ไม่มีพวกมันอยู่

“กลิ่นเหมือนหมึกเลยแฮะ”

กลิ่นหมึกคละคลุ้งอยู่ทั่วห้อง ดูเหมือนว่าที่โลกนี้กับโลกก่อนในยุคกลางจะใช้หมึกที่ทำจากกรดแทนนิคที่ได้จากพืชและเกลือเหล็กเหมือนกัน

แสงจากตะเกียงส่องให้เห็นถึงหลังสือมากมายที่อยู่บนชั้น กระดาษหนังสัตว์กระจายอยู่บนโต๊ะที่อยู่กลางห้อง ดูเหมือนว่าที่นี่จะทำหหนังสือออกมาด้วย

“เอกสารของราชวงศ์โพเอลซีเนียเพียบเลย สมบัติของนักประวัติศาสตร์ชัดๆ”

นี่น่าจะทำให้กราฟาสตี้ร้องไห้ด้วยความดีใจได้เลย แต่ฮิคารุไม่ค่อยจะเห็นค่าของมันเท่าไร

“ลองเช็คดูกันเถอะ เธอพออ่านได้อยู่ใช่มั้ย” ฮิคารุถาม

“ก็ได้อยู่นะ แต่อย่าคาดหวังมากล่ะ”

“อื้ม ถ้างั้นก็แยกกันอ่านเถอะ แถวนี้ไม่มีพวกอันเดดอยู่ เพราะงั้นก็ปล่อยมือได้แล้วล่ะ”

“อื้ม”

ทันทีที่ทั้งคู่ปล่อยมือ ก็มีสิ่งที่น่าสะพรึงเกิดขึ้น

“อะไรกัน?”

จู่ๆห้องทั้งหิ้งก็ส่องสว่างขึ้นมา ไม่สิ ไม่ใช่แค่ห้องแต่เป็นทั้งปราสาทเลยต่างหาก

“กะกะเกิดอะไรขึ้นอ้ะ!!!”

“ใจเย็นๆก่อนลาเวีย”

ฮิคารุดึงลาเวียเข้าหาตัวแล้วเปิดใช้สกิลอีกครั้ง แต่แสงก็ยังไม่หายไป ดูเหมือนว่ากลไกจะถูกตั้งไว้ว่าเมื่อเจอมนุษย์แล้วจะทำงาน บางทีนี่อาจจะเป็นอารยธรรมที่สาปสูญของราชวงศ์โพเอลซีเนีบก็ได้

พื้นเริ่มสั่นทำให้ฮิคารุไม่มีเวลามากนัก

“เวรเอ้ย เอาไงดีเนี่ย”

แล้วฮิคารุก็เปิดหน้าต่างที่อยู่ใกล้ๆ

“อะ….”

ข้างนอกหน้าต่างนั่นไม่มีอะไรเลย ไม่มีทั้งงเขตชนชั้นสูง หรือกำแพงงใดๆเลย มีแค่พื้นที่ว่างเปล่าเท่านั้น

ปราสาทยังคงส่องสว่างอยู่อย่างนั้น ห้องที่ทั้งคู่อยู่นั้นอยู่ชั้นสี่ เหนือกำแพงไปอีก

ฮิคารุเห็นบางสิ่งอยู่ห่างออกไป พวกนั้นดูไม่เหมือนพวกอันเดด

แล้วก็เกิดแผ่นดินไหวอีกรอบ

แล้วก็เห็น ห่างออกไปประมาณเกือบกิโล มันคือแสงสีม่วงดวงใหญ่ส่องสว่างอยู่

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

Status: Ongoing
ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท