ตอนที่ 50 เมืองใต้ดินของเทพโบราณ 9
“เวรแล้ว!”
ฮิคารุดึงลาเวียขึ้นจากพื้น
“วิ่งไหวมั้ย”
“อื้ม”
ทั้งคู่รีบวิ่งออกจากห้องสมบัติ
“ยักษ์นั่น เข้ามาใกล้ขนาดนี้ได้ไงเนี่ย” ลาเวียพูด
ฮิคารุก็คิดแบบนี้อยู่เหมือนกัน ตอนนี้เขารู้สึกอยากฟาดกบาลตัวเองสักป้าบ
นึกว่าจะรู้ระยะได้จากแรงสั่นซะอีก แล้วตอนที่เจอปืนนั่นเราเองก็ละความสนใจจากตรวจจับมานาไปด้วย นี่มันความผิดเราชัดๆ
ดูเหมือนว่ายักษ์กำลังระวังตัวอยู่ บางทีแผนนี้อาจจะใช้ได้ก็ได้
“ลาเวีย เร่งไฟตะเกียงให้สุดเลย เร็วเข้า”
“แล้วพวกอันเดดล่ะ!?”
“ไม่มี”
พวกมันน่าจะหนีไปเพราะเจ้ายักษ์นี่แล้ว
แล้วก็ ไอ้ตัวนี้มันรู้ตำแหน่งของเรา
ฮิคารุเกือบมั่นใจในข้อนี้แล้ว
ฮิคารุจูงมือลาเวียแล้วรีบใช้สกิลจากนั้นก็ออกจากห้อง และทันทีที่ออกไปจากห้องแล้วมันก็น่าจะไม่เห็นแล้ว
แล้วมันรู้ตำแหน่งเราได้ยังไงกัน
ตะเกียงส่องสว่างไปทั่วทั้งโถงทางเดิน ฮิคารุหันหลังกลับไปมองห้องสมบัติที่ตอนนี้ถูกทำลายไปแล้ว
“ล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย”
ยักษฺพุ่งออกมาจากข้างในห้องนั้นและตรงมาที่ทั้งคู่ โถงทางเดินดูเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับตัวของมัน มันวิ่งพังเสาตามทางมาเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง
“ทางนี้!”
“ว้าย!”
ทั้งคู่วิ่งต่อไปโดยจูงมือกันและกัน โดยไม่รู้จุดหมาย ในช่วงชุลมุน ฮิคารุเหลือบไปเห็นตาสีม่วงของยักษ์ตัวนั้นที่กำลังมองมาทางที่ทั้งคู่เพิ่งวิ่งผ่านไป
มันยืดแขนออก แต่ด้วยระยังห่างในตอนนี้มันเอื้อมไม่ถึงตัวของทั้งคู่
“เอาวะ ไม่มีอะไรให้เสียแล้ว!”
ฮิคารุหันปืนที่เพิ่งได้มาไปทางมันจากนั้นก็เหนี่ยวไก เสียงเหล็กลั่นออกมา เส้นแสงสีฟ้าพุงออกไปและพอกระทบกับยักษ์แล้ว มันก็แช่แข็งมือของเจ้ายักษ์ทันที
“เชี่ยไรเนี่ย ดูเหมือนนเวทมนต์มากกว่าปืนอีก”
“ฮิคารุ นั่น!”
ตรงที่ทั้งคู่อยู่นั้นมันเล็กเกินไปสำหรับยักษ์ มันทำได้แค่จ้องมาที่ทั้งคู่เท่านั้น และฮิคารุก็สังเกตเห็น ถึงแม้จะไม่ชัดนักแต่บนหัวของยักษ์มีอะไรบางอย่างอยู่
“……..”
ความรู้สึกเสียงสันหลังวาบพุ่งเข้าใส่
แย่ล่ะ ไอ้นั่นมันอันตรายสุดๆเลยนี่หว่า ถ้ามันใช้ไอ้นั่นล่ะแย่แน่
ฮิคารุเตรียมปืนให้พร้อม จะยิงได้เข้าเป้าแน่หรือเปล่า คงจะไม่มีทางเข้าใกล้ได้แน่ถ้าแขนของมันยังอยู่ตรงนี้
มือใหม่อย่างเราจะยิงได้เข้าเป้ามั้ยนะ ช่างมัน ยังมีสิ่งที่พอจะทดแทนได้อยู่
ฮิคารุเปิดโซลบอร์ดขึ้นมา จากนั้นก็ยัดแต้มทั้งหมดที่ได้มาลงในสายอาวุธขว้าง
【Physical Strength】
..【Strength】1
..【Weapon Mastery】
….【Throwing】10
……【Heaven Shot】
ช่างหัวสกิลใหม่ก่อน ฮิคารุหยิบปืนขึ้นมาและเล็ง ครั้งนี้ไม่เหมือนก่อนหน้า เขารู้สึกว่ายังไงกระสุนก็ต้องโดนเป้าหมายแน่นอน ฮิคารุเล็งไปที่สิ่งที่อยู่เหนือหัวยักษ์และยิง ครั้งนี้เป็นสีเทาระเบิดเสียงออกมาถึงสี่ครั้ง หินงอกออกมาทันทีที่กระทบเป้าหมาย
“ไม่พอสินะ”
แสงที่อยู่เหนือหัวของมันยังคงส่องออกมาผ่านรอยแตกของหิน ประกายไฟเล็ดลอดออกมาเหมือนกับแก๊สรั่ว
“ลาเวีย มาทานี้เร็ว!”
ฮิคารุจังมือลาเวียและเริ่มวิ่งอีกครั้ง หลังจากที่พ้นหัวมุมมาได้ เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรอยู่ข้างหลัง
“ฮิคารุ ดูนี่สิ……” ลาเวียพูดพร้อมกับชี้มาทางผ้าคลุมของฮิคารุ แขนเสื้อละลาย กลิ่นเหมือนกับของเสียลอยอยู่ในอากาศ
กูเหมือนว่าการโจมตีของยักษ์จะเป็นต้นเหตุของการล่มสลายนั่นเอง
“..นั่นมันคือสิ่งที่สร้างอันเดดขึ้นมางั้นเหรอ”
ทั้งคู่เริ่มวิ่งอีกครั้งโดยข่มความกลัวเอาไว้ เสียงสั่นสะเทือนตามมาอยู่ไม่ไกลยักษ์กำลังไล่อยู่
“ตอนนี้มีทางหนีอยู่ทางเดียวแล้ว ไปที่หน้าทางเข้า!”
ทั้งคู่วิ่งออกไปในที่โล่งสะพานอยู่ตรงหน้า จากที่เคยมีพวกอันเดดอยู่เต็มไปหมดตอนนี้หายหัวไปไหนไม่รู้แล้ว อยู่เป็นจริงๆ
“พวกนั้นหนีไปแล้วเหรอ…”
หรือว่าที่กลัวเพราะยักษ์เป็นคนทำให้พวกนั้นกลายเป็นอันเดด
“เวรแล้ว ไอ้บ้านั่นเร็วเกินไปแล้ว”
มันเปิดทางให้ตัวเอง จากนั้นก็หันไปรอบๆและเห็นทั้งคู่ที่กำลังวิ่งไปที่สะพาน
มันคำรามออกมาเสียงดังสนั่น จนทมำให้ฮิคารุปวดหูอย่างแรง กำแพงที่อยู่รอบๆตัวมันต่างพังทลาย ปราสาทที่ตั้งตระหง่านกว่าหกร้อยปีพังลง
“มันกำลังตรงมาทางนี้ แปลว่ามันรู้ตำแหน่งเราจริงๆสินะ”
ทั้งคู่ยังออกวิ่งต่อไป
“ฮิคารุ ตรงนี้เดี๋ยวเราจัดการเอง ถ้าหากว่าเราใช้มานาทั้งหมดล่ะก็….” ลาเวียพูดพร้อมกับบีบมือแน่นขึ้น “นี่อาจจะฆ่ามันไม่ได้แต่ว่าน่าจะพอชะลอมันได้อยู่ พอถึงตอนนั้นก็ทิ้งเราไว้แล้…..โอ๊ย!”
ฮิคารุดีดหน้าผากลาเวียดังแป๊ะ ลาเวียมองช้อนขึ้นมาด้วยน้ำตาคลอเบ้า
“ทำอะไรอ้ะ!” ลาเวียโวยวายออกมา
“ไม่”
“อะไรนะ!”
“แล้วถ้าเกิดว่าเธอจัดการมันไม่ได้ล่ะ อีกอย่าเธอเพิ่งใช้มานาไปนี่นา รู้มั้ยถ้าใช้เวทแรงๆอีกจะเป็นยังไง”
“…..”
“แค่จะยืนยังทำไม่ได้เลยใช่มั้ยล่ะ แล้วตอนนั้นจะบอกให้ฉันหนีไปสินะ”
ฮิคารุถอนหายใจ
“ไม่มีทาง ฉันอุส่าห์ลำบากลำบนช่วยเธอตั้งขนาดนี้ จะปล่อยให้เธอเอาชีวิตมาทิ้งง่ายๆได้ยังไงล่ะ”
“แต่ถ้าไม่ทำแบบนั้นเราจะตายไปทั้งคู่นะ”
“ไม่มีทางซะหรอก”
ตอนนี้ทั้งคู่ข้ามสะพานมาได้แล้ว ยักษ์ก็ยังคงวิ่งตามมาด้วยความเร็วแบบไม่น่าเชื่อ
“ฮิคารุ!”
ฮิคารุหยุดและหันกลับไปจากนั้นก็ลั่นไกสองครั้ง กระสุนนัดแรกเป็นสีส้มของไฟและนัดที่สองเป็นสายฟ้า พุ่งไปกระทบกับเป้าหมาย
สะพานนั่นเอง
ทันทีที่สะพานถูกทำลาย มันก็ร่วงลงไป เสียงกระแทกดังครืน จากนั้นก็เงียบไป
“…มัน…ตายแล้วรึเปล่านะ”
ลาเวียส่องตะเกียงลงไปที่ร่องนั้น มันลึกประมาณสามสิบเมตรได้ ยังไงยักษ์ตัวนั้นก็ไม่มีทางที่จะเอื้อมถึงแน่นอน ตอนนี้ทั้งคู่ยังไม่เห็นร่างของมันเพราะยังมีฝุ่นคลุ้งอยู่
แสงสีม่วงจ้าออกมาจากข้างล่าง แขนข้างหนึ่งถูกยิงออกมาจากใต้ซากนั้น ฮิคารุโยกหัวหลบเศษหินที่พุ่งเข้ามา
“ยักษ์? ไม่สิ เรียกว่าโกเลมน่าจะถูกกว่านะ”
พอฝุ่นจางลงก็เผยให้เห็นถึงตัวของมัน มันไม่มีทั้งเลือดและเนื้อ เป็นแค่สิ่งทั่คล้ายกับหุ่นเชิด มีข้อต่อ ลวดลายแปลกๆถูกสลักเอาไว้ตามร่างกายที่เป็นหินส่องประกายสีม่วงออกมา หน้ามันถูกออกแบบให้คล้ายกับมนุษย์แต่ไม่มีทั้งปากและจมูก มีแต่ตาที่เปล่งแสงอยู่เท่านั้น และเหนือหัวของมัน คือเครื่องสร้างอันรเดดที่ฮิคารุทำลายไม่สำเร็จนั่นเอง
“ปะ…ไปกันเถอะฮิคารุ ก่อนที่มันจะฟื้นขึ้นมาอีก”
“….”
“….นี่อย่าบอกนะว่านายคิดว่าจัดการมันได้แล้วน่ะ”
ฮิคารุยิ้มเพื่อให้ลาเวียผ่อนคลาย
“ใช่แล้วล่ะ”
“ดีจัง เอ๊ะ เดี๋ยวนะ…”
“ดูจากที่มันไม่ใช้ไอ้นั่นที่อยู่บนหัวแล้ว แปลว่าไอ้นั่นอาจจะใช้ไม่ได้ไม่ก็กำลังคูลดาวน์นั่นล่ะ แล้วก็มันไม่ใช่อะไรที่จะเอาไว้ต่อสู้ในระยะไกลด้วย มันอาจจะพยายามกลับขึ้นมาก็จริงอยู่แต่ว่ายังไงก็คงต้องใช้เวลาสักพักล่ะนะ”
“แต่เราจัดการมันจากตรงนี้ไมได้หรอกนะ งั้นนายจะให้เราใช้เวทงั้นเหรอ”
“อย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้ล่ะ ถ้าเวทจัดการมันไม่ได้ เราจบเห่แน่ ฉันไม่มีกำลังพอที่จะแบกเธอกลับที่เมืองหรอก”
“งั้นก็เหลือแค่หนีแล้วสิ….”
“ก็เป็นความคิดที่ดีอยู่ แต่ว่ามันต้องตามเราไปแน่ ถ้าเกิดว่าไอ้ตัวนี้หลุดขึ้นไปข้างบนล่ะก็ หายนะแน่ ดังนั้นฉันเลยอยากจัดการมันตั้งแต่ตอนนี้น่ะ”
“แล้วจะทำยังไงล่ะ”ลาเวียถาม
ตอนนี้ฮิคารุมีสมติฐานอยู่ ถ้ามันใช้ได้ก็อาจจะจัดการมันได้ แต่ถ้าไม่ ทั้งคู่ก็จะหนีไป แต่อาจต้องสละเมืองไปเมืองหนึ่ง
——————————————————————————————————-
ฮ่าาาาา ในที่สุดก็ได้กลับมาใช้คอมซะที
เผื่อท่านผู้อ่านที่ไม่ได้ตามเพจนะฮับ
พอดีไม่กี่วันก่อนแล็ปท็อปเพื่อนยากของผมมันคิดสั้นระเบิดตัวตายไปซะงั้น
เลยต้องรอซ่อม ขออภัยที่ให้รอนะฮับ