ตอนที่ 55 ของจากดันเจี้ยน
ฮิคารุกับลาเวียได้มาถึงฟอรเรสซาร์ด เมืองหลวงของฟอเรสเทีย ตั้งแต่เมื่อวาน และออกไปทำตามที่วาล์งไหว้วานไว้เมื่อเช้านี้ แปลว่าตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้ฮิคารุมีสิ่งที่อยากจะถามราชินีและรัฐมนตรีอยู่ ทำไมถึงอยู่ในห้องกันตามลำพังล่ะ ดูยังไงก็อันตรายสุดๆเลยนี่ ทีแรกเขานึกว่าไม่ค่อยจะมีพนักงาน แต่ว่าในตึกเองก็มีพนักงานอยู่เยอะในระดับนึง แปลว่าทั้งคู่ไม่เชื่อใจแม้กระทั้งผู้ติดตามหรือเปล่านะ
แล้วไหนจะพวกที่อยู่บนเพดานอีก การจะลอบเข้าไปในที่แบบนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ แปลว่าตอนนี้มีหนอนบ่อนไส้แน่ๆ
เมืองที่เต็มไปด้วยเผ่าพันธุ์ต่างๆมากมาย ประชาชนมีความสุข แต่ว่าในอีกด้านหนึ่ง จะว่าประชาชนของที่นี่ชินกับความสงบสุขมากไปก็ได้ ผู้คนที่นี่นั้นไม่ได้ดูเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องสงครามของอาณาจักรข้างเคียงเลย
แต่ว่านั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของเราล่ะนะ ฮิคารุคิด
“….นี่ ไม่เป็นไรจริงๆเหรอ”
“อะไรล่ะ”
“ก็ที่เราทำตามใจตัวเองไงล่ะ…”
เป็นคำพูดที่ไม่คิดว่าจะออกมาจากปากของลูกสาวของเคาท์ แต่ก็ยังพอเข้าใจได้ ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ในห้องสวีทของโรงแรมแห่งหนึ่งในฟอเรสซาร์ด ที่มีบริการส่งอาหารถึงห้อง
“อืม ไม่เป็นไรหรอก ยังไงซะตอนนี้เราก็มีเงินอยู่เยอะเลยล่ะนะ”
ฮิคารุผู้กลายเป็นเศรษฐีในชั่วพริบตาเดียว หลังจากที่กราฟาสตี้ยืนยันได้แล้วว่าเป็นของจริง เขาก็โอนเงินเข้าบัญชีของฮิคารุทันที 11 ล้าน ล้านนึงเป็นค่าส่งข้อความ แล้วก็มีบวกทิปให้ด้วย เขารู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่ถูกเชื่อใจขนาดนี้
พอบวกกับเงินที่ได้มาก่อนหน้านี้แล้ว พูดง่ายๆ “รวยเละ”
เงินที่เหลือ 919,010 กิลลัน (+11,200,000)
“อาวล่ะ ตอนนี้หลายๆอย่างกก็เข้ารูปเข้ารอยแล้วล่ะ ได้เวลามาคิดอะไรหน่อยละ”
ฮิคารุจิบกาแฟ
กาแฟของที่นี้นั้นค่อนข้างแรง เพราะเป็นกาแฟดำ ไม่มีทั้งน้ำตาลหรืออะไรเจือปนเลย ลาเวียที่ทานไม่ไหวนั้นจึงสั่งชาสมุนไพรมาแทน
เพราะอยากรีบออกจากอาณาจักร ทั้งคู่จึงออกมาอย่างรีบๆ ถนนนั้นมีการจราจรติดขัดมาก เพราะพวกพ่อค้าที่ได้ยินข่าวเรื่องสงครามพากันอพยพออกจากที่นั่นเช่นกัน เพราะแบบนั้นจึงยังไม่ได้ดูสิ่งที่ได้ออกมาจากดันเจี้ยน โชคดีที่ตอนนี้ว่างแล้ว
และสำหรับของที่ฮิคารุสั่งไว้ เขาได้ขอให้ทางกิลด์ส่งมาที่ฟอเรสซาร์ดแทน และด้วยที่ว่าทั้งคู่กะจะอยู่ที่นี่สิบวัน ฉะนั้นจึงมีเวลาทำตัวเรื่อยเปื่อยได้อีกยาวๆ
“เอาล่ะงั้น ไหนเรามาดูของที่เราได้มากันหน่อยซิ”
ฮิคารุวางลูกโม่ลงบนโต๊ะ ในนั้นมีกระสุนอยู่แค่นัดสุดท้าย น่าจะเป็นกระสุนธาตุความมืด
“ฉันได้มาแค่อันนี้ล่ะ” ฮิคารุพูด
“นี่มันคือคทาที่ใช้ยิงเวทเหรอ”
“คทาเหรอ ก็ประมาณนั้นล่ะมั้ง”
สำหรับฮิคารุแล้วมันคือปืน แต่ลาเวียไม่รู้จักมันเลย
“มันทำงานยังไงเหรอ”
“มันต้องใช้กระสุนที่บรรจุเวทเอาไว้น่ะ แล้วเป็นของแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งด้วย”
ฮิคารุเอากระซุนออกจากซองกระสุน ตอนนี้มันไม่มีมานาเหลืออยู่แล้ว
ไม่เหลือมานาแล้วฮะ สงสัยจังว่าจะเอากลับมาใช้ใหม่ได้มั้ยเนี่ย
ฮิคารุยื่นกระสุนเปล่าให้ลาเวีย
“บรรจุเวทลงกระสุดให้ทีสิ”
“…ยังไงอะ”
“……”
ไม่รู้ครับ
”ลองร่ายดูก่อน มั้ง”
“มันอันตรายเกินไปนะ ถ้าเราเริ่มร่ายแล้วเราหยุดเวทไม่ได้หรอก”
“งั้นก็ลองไปหาที่สำหรับลองดูสักที่แล้วกัน ไม่ก็ลองถามคนที่เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์เวทดูก็น่าจะดีนะ”
หัวหน้ากิลด์โจรก็น่าจะพอถามได้อยู่แต่ติดตรงที่ว่าทั้งคู่กะจะไม่กลับไปพอนด์แล้วเนี่ยสิ
“ให้คนอื่นดูให้เหรอ คทานั่นอะนะ เราว่าอย่าดีกว่า”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตรวจสอบไม่ได้สิ แล้วอีกอย่างนี่มันคือปืนนะไม่ใช่คทา”
“จะเอาไอ้ของอันตรายนั่นไปฝากคนอื่นเหรอ ไม่ดีมั้ง”
“งั้นเหรอ……คงงั้นล่ะมั้ง เอาของมีค่าขนาดนี้ให้ของคนอื่นเนี่ย”
“นายไม่เชื่อเราสินะ เราคิดว่านี่มันมีค่ามากๆเลยนะ”
“เชื่อสิ แต่จริงๆแล้วฉันไม่สนหรอกว่าจะมีคนขโมยไอ้นี่ไปน่ะ ยังไงเวทของเธอก็แรงกว่าอยู่แล้วล่ะ
“นี่พยายามเลี่ยงคำถามเราด้วยการชมเราสินะ …ไม่แฟร์เลยอ้ะ” ลาเวียพูดพร้อมทำแก้มป่อง
ฮิคารุยิ้มพร้อมกับคิดว่าลาเวียนี่น่ารักจริงๆ(ผป:ไอ้คนอวดแฟนเอ้ย!!) พอเห็นแบบนั้นลาเวียก็ยิ่งโมโหกว่าเดิม
“ลาเวีย ฉันกะว่าพอได้ของที่สั่งเอาไว้แล้วจะไปที่สกราซาร์ดน่ะ เอาไว้เดี๋ยวเราไปตรวจสอบปืนนี่ที่นั่นก็แล้วกันนะ”
“สกอราซาร์ดเหรอ นั่นมันทีๆมีสถานศึกษาที่ถูกปฏิรูปโดยท่านรัฐมนตรีเมื่อไม่กี่ปีก่อนสินะ”
“สถานศึกษา? ไม่ใช่ศูนย์วิจัยเหรอ”
“จริงๆแล้วก็ทั้งคู่นั่นแหละ พวกเขากำลังหาพวกคนที่มีพรสวรรค์แล้วพวกที่คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆอยู่น่ะ ได้ยินว่านักผจญภัยก็รับอยู่นะ”
“สถานศึกษาสำหรับนักผจญภัยสินะ ….น่าสนใจแฮะ”
ฮิคารุวางแผนจะพัฒนาสายลอบเร้นของตัวเองอยู่แล้ว ถ้าเจอคนที่เชี่ยวชาญด้านนี้จะได้ขอให้สอนให้ เพราะว่าตอนนี้ฮิคารุพึ่งเพียงแค่โซลบอร์ดเท่านั้น แต่แต่นั้นก็เกินพอแล้ว
ถ้าสอนให้สะเดาะกุญแจด้วยก็ดีสินะ
หนึ่งในจุดอ่อนของฮิคารุก็คือการสะเดาะกุญแจไม่เป็นเนี่ยแหละ ทำเป็นแค่พังอย่างเดียว
“แหมดูเหมือนว่านายจะอยากไปมากกว่าเราอีกนะเนี่ย”
“อ๊ะโทษที พอดีมันน่าสนใจไปหน่อยน่ะ ว่าแต่เธอไม่อยากไปเหรอ”
“ไม่เห็นต้องสนใจเราเลยนี่นา”
“ไม่หรอก ตอนนี้เราออกมาจากพอนโซเนียแล้วนา ตอนนี้เธอเป็นอิสระแล้วนะ”
“นายไปไหนเราไปด้วยแหละ เราจะติดตามนายไปตลอดกาลเลย”
“ตลอดกาลเลยเหรอ”
“ตาหลอดกาลลล ตลอดไปเลยแหละ”
“ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะ”ฮิคารุพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา
“บอกแล้วไงว่าเราน่ะเป็นภาระหนักนะ”
“จำได้สิ”ฮิคารุพยักหน้า”แต่เอาจริงๆแล้วตอนนี้เธอเบาจะตายไป ถึงเธอจะพูดยังไงก็เถอะนะ แต่ว่าตอนนี้เราน่ะ โคตรรวย”
“ช่ายแล้วล่ะ บางทีที่นายขนของมาไม่ได้เยอะมันอาจเป็นเพราะโชคชะตาก็ได้นะ” ลาเวียพูด
“แหมๆ คุณลาเวียครับ ผมจำได้ว่าตอนนั้นเนี่ย แบกมาเยอะแยะเลยไม่ใช่เหรอ ทั้งๆที่เวลานิดเดียวแท้ๆน้า”
“……..”
“ไม่ใช่ว่าตอนนั้นบอกว่ารู้สึกผิดที่ไปปล้นสมบัติหรอกเหรอคร้าบ”
“เราเคยพูดงั้นด้วยเหรอ”
ย้อนกลับไปตอนนั้น ระหว่างที่ฮิคารุกำลังไปหยิบปืน ลาเวียก็ดูเหมือนจะง่วนกับการหยิบของที่จะเอามาด้วยอยู่
ในกระเป๋าของลาเวียนั้นมีทั้ง กระเป๋าหนัง อัญมณีมากมายหลายชนิด ดูแล้วน่าจะหลายกะรัตอยู่
แค่พวกอัญมณีก็แทบจะเท่ากับเงินที่มีอยู่ตอนนี้แล้ว ตอนจะขายคงต้องคิดดีๆแล้วสิ
ต่อไปก็ หนังสือหนาประมาณ 6 ซม. ใหญ่ขนาดกราดาษ B4 หุ้มด้วยหนังประดับด้วยอัญมณี และยังเปิดไม่ได้เพราะมีล็อคอยู่
“อันนี้แหละที่เราอยากได้จริงๆน่ะ”
“งั้นเหรอ แต่เอาอัญมณีมาเยอะอยู่นี่นา ตอนนี้เธอเป็นมหาเศรษฐีแล้วนะ”
“พูดอะไรน่ะ พวกนี้น่ะมันของนายนะ”
“ห๊ะ”
“ห๊ะ”
“ดะ..เดี๋ยวสิ”
“แต่ว่าต้องให้เราได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก่อนนะ”
“….อืม แต่ว่าทั้งอัญมณีแล้วก็หนังสือนั่น ทั้งหมดเป็นของเธออยู่แล้วล่ะ เราทั้งคู่น่ะเท่าเทียมกันตั้งแต่ออกจากพอน—-”
“ไม่หรอก”
ลาเวียพูด
“เราไม่สนหรอกว่าเราจะเท่าเทียมกันหรือเปล่า ถ้าเป็นไปได้เราจะอยู่ภายใต้นายไปตลอดก็ยังได้นะ”
“ลาเวีย….”
เธอนั้นได้ตัดสินใจอย่างหนักแน่นแล้ว
“ก็ได้ๆ แต่เธอจะมีเงินเป็นของตัวเองนะเข้าใจมั้ย”
“ก็ได้แหละ”
“แล้วอีกอย่าง”
ฮิคารุชี้นิ้วไปที่ลาเวีย
“พรุ่งนี้เราจะไปซื้อชุดสำหรับเธอกัน เพราะว่าตอนนี้เราไม่ต้องให้เธอใส่ชุดผู้ชายแล้วล่ะ”
ในที่สุดวันที่เธอต้องสวมชุดผู้ชายก็ได้หมดลง ฮิคารุคิดไว้ว่าหลังจากนี้จะได้ไปทำบัตรกิลด์ให้เธอด้วย เพราะว่าโซลการ์ดมันฝากเงินไม่ได้
“นั่นเป็นคำสั่งเหรอ”
“อ๊ะ เปล่าหรอก จะว่ายังไงดีนะ….”
ฮิคารุหน้าแดง
“…คือฉันว่าจะชวนเธอไปเดทน่ะ”
“…..”
ลาเวียจ้องมาที่ฮิคารุและก็เข้ามากอดแขน
“เอะเฮะเฮะ…”
“อะไรเนี่ย”
“เฮะๆๆ”
“นี่จะไปแน่รึเปล่าเนี่ย”
“ไปสิ!”
แล้วลาเวียก็กอดแขนเขาอยู่อีกสักพักใหญ่ๆ
ลาเวียหลับไปด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข ฮิคารุนั่งอยู่ที่เก้าอี้ของโรงแรม
“เอาล่ะ ….. มาคิดอะไรดูหน่อยดีกว่า” ฮิคารุพูดแล้วเรียกโซลบอร์ดออกมา