“อะ อ้า!?”
“คะ ใครก็ได้เรียกอาจารย์พยาบาลมาที!!”
พอป้าธุรการล้มลงทำให้เริ่มมีการเคลื่อนไหว
—-เอาจริงดิ อาจารย์ปิศาจแพ้งั้นเหรอ!?
—-จะว่าไปเมื่อกี้เห็นหรือเปล่า!? ฉันไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น……
—-หายไปไง จู่ๆหมอนั่นก็หายไป!
“เอ่อ จะดูแลก็ไม่ว่าหรอก แต่การทดสอบจบแล้วใช่ไหม?”
“เหวอ”
พอทักไป เจ้าหน้าที่ธุรการคนอื่นก็ถอยกราวกันไป
“เดี๋ยวสิๆ……ทางนู้นเป็นคนบอกให้มาทดสอบที่ไม่เห็นจะรู้เรื่องเองนะ อย่าหนีกันสิ?”
“ขะ ขะ ขอโทษด้วยค่ะ! การอนุญาตให้เข้าเรียนแค่พวกฉันไม่สามารถตัดสินได้ค่ะ!”
“หา? ป้าคนนั้นบอกว่าถ้าผ่านการทดสอบจะให้เข้าเรียนไม่ใช่เหรอ?”
“เหวอ!? ดะ ได้โปรด อย่าโกรธไปเลยนะคะ……!”
“หรือว่าต้องฆ่ามิไฮล์งั้นเหรอ?”
“เรื่องนั้นขอร้องเถอะค่ะ!!”
พนักงานธุรการที่ดูแลมิไฮล์ถึงกับร้อง “เหวอ” พร้อมกับลุกขึ้น
ศีรษะของมิไฮล์กระแทกกับพื้นจนเกิดเสียงดังตึง
“ถ้างั้นจะให้เข้าหรือไม่ให้เข้าเรียน?”
“ให้เข้าแน่นอนค่ะ!”
เธอพูดออกมาทั้งน้ำตา ถึงจะยังมีข้อกังขาอยู่แต่ก็ยอมรับให้ฮิคารุได้เข้าเรียน
“ฮิคารุ แล้วฉันล่ะ?”
“อ้อ นั่นสินะ ลาเวียเองก็ทดสอบด้วย—-”
“ไม่เป็นไรค่ะ!! เข้าเรียนได้เลย!!”
“—-งะ งั้นเหรอ”
“ดีจังเลย ฉันไม่มีความมั่นใจว่าจะปรับพลังของตัวเองไม่ให้ฆ่าอีกฝ่ายได้เหมือนอย่างฮิคารุด้วยสิ”
พอได้ยินคำพูดนั้นเหล่าพนักงานธุรการยิ่งกลัวขึ้นไปอีก
“……แล้ว มันเกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย?”
หลังจากนั้นฮิคารุกับลาเวียก็โดนผู้อำนวยการเรียกไปพบโดยตรง
พอเข้าไปในห้องผู้อำนวยการ เธอเป็นหญิงที่เริ่มเข้าสู่วัยชรา ถึงจะดูยิ้มแย้มแต่ตาไม่ได้ยิ้มด้วยเลย ส่วนข้างๆเธอมีอาจารย์สวมอาวุธ 4 คนยืนอยู่
“ได้ยินเรื่องแล้ว จุดประสงค์ของเธอคืออะไรกันแน่?”
“เข้าเรียน”
“พอแค่นั้นเลย กรุณาตอบมาตามตรงด้วย เอ่ยชื่อของพอนโซเนียที่อยู่ระหว่างทำสงคราม แล้วยังทำให้อาจารย์บาดเจ็บ แถมทำให้พนักงานธุรการเกิดความสับสน จุดประสงค์คือตั้งใจจะด้อยค่าของโรงเรียนแห่งนี้จากภายในงั้นหรือ? แต่ถึงอย่างนั้นมันเป็นการกระทำที่ค่อนข้างไม่มีอะไรอยู่นะ?”
“…………”
ฮิคารุเริ่มรู้สึกปวดหัว
ทำไมถึงไม่ยอมให้เข้าเรียนง่ายๆกัน ทั้งที่เตรียมจ่ายค่าเล่าเรียนแสนแพงไว้แล้วด้วยซ้ำ
รู้สึกว่าค่าเล่าเรียน 2 ปี ต่อคนตกอยู่ที่ 5 แสนกีรัน
“จะบอกว่า แค่กิลด์การ์ดของผมมีชื่อราชอาณาจักรพอนโซเนียอยู่ก็เป็นเรื่องที่ผิดแล้วเหรอ?”
“……มันก็ต้องสงสัยคนที่น่าสงสัยไว้ก่อนอยู่แล้วนี่? ซึ่งเธอน่าสงสัยอย่างเพียงพอเลย”
“ถ้าอย่างนั้นขอถามกลับหน่อย ต้องทำอะไรถึงจะยอมเชื่อใจ?”
“ก็นะ? เรื่องนั้นเป็นสิ่งที่เธอต้องคิดไง?”
ฮิคารุคิดขึ้นมา—-อ้า อย่างนี้มัน ทฤษฎีพิสูจน์ปิศาจเหรอ อยู่ในสภาพที่ไม่ยอมเชื่อใจอยู่แล้ว
ไม่ไหวๆ เอายังไงดี
ตอนที่คิดอย่างนั้นแล้วมองดูข้างๆ—-ลาเวียมองดูแคลนผู้อำนวยการ ถึงขนาดที่ทำให้ฮิคารุยังตกใจ
(เดี๋ยวสิลาเวีย! ตา! สายตา! ความเกลียดชังออกมาเต็มๆเลย!)
(ช่วยไม่ได้นี่ คนที่อ้างว่าเป็นผู้อำนวยการที่ไร้ความสามารถไม่ยอมเชื่อใจฮิคารุนี่)
เธอพูดจิกกัดกลับมาเบาๆ
“ใช่แล้ว ผู้อำนวยการ ถ้าเป็นอย่างนี้—–”
จู่ๆอาจารย์ที่สวมอาวุธคนหนึ่งก็พูดขึ้นมา ผมหน้าม้าที่ยาวจนลงมาถึงดวงตา เป็นชายที่ดูไม่เป็นมิตร ในมือถือหอกสั้น ซึ่งในโซลบอร์ดก็มี “หอกสั้น” 2 อยู่ เป็นพวกดาดๆ ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ ปริมาณพลังกายเองก็น้อยกว่ามิไฮล์
แล้วที่ไม่ชอบใจยิ่งกว่าก็คือ เอาแต่จ้องลาเวียตลอดตั้งแต่ฮิคารุเข้ามาในห้อง
“ไม่ลองให้ไปหาใบริวจินคะดูล่ะครับ”
“แต่ว่า! เรื่องนั้นมัน—-”
“มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้อำนวยการนี่ครับ ยิ่งเป็นเรื่องของการช่วยชีวิตคนแล้วด้วย ถือเป็นหัวข้อที่เหมาะสมจะให้มาเป็นนักเรียนของที่นี่ไม่ใช่หรือครับ”
“……ไม่ได้หรอก มันอันตรายเกินไป”
“ผู้อำนวยการ……พูดอะไรออกมาครับ คนของพอนโซเนียเป็นพวกชอบอาละวาดอยู่แล้ว ต้องให้ทำประมาณนี้อยู่แล้วครับ”
“เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันคนละเรื่องกัน”
“เอ่อ”
ฮิคารุพูดแทรกขึ้นมา
ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้พอจะเดาได้เลยว่าจะเป็นอย่างไร
“ต้องขอโทษด้วยที่ขัดจังหวะ แต่ป้าธุรการบอกว่าจะให้ผมเข้าเรียนถ้าผ่าน “การทดสอบ” ซึ่งก็ผ่าน แต่ยังปฏิเสธไม่ให้เข้าเรียน แถมยังจะมาให้ทำอะไรอย่างอื่นอีกเนี่ยนะ?”
ฮิคารุเริ่มรำคาญขึ้นมานิดหน่อย
ต้องจ่ายเงินแพงๆเพื่อมาเป็นเงินเดือนให้เจ้าพวกนี้เหรอ? เอาเงินรางวัลที่ได้มาเยอะๆ ไปเรียนกับนักผจญภับที่เก่งด้าน “ลอบเร้น” ดีกว่าหรือเปล่านะ? —-ตอนที่เริ่มคิดเช่นนั้น
“เกี่ยวกับ ‘การทดสอบ’……มันเป็นระเบียบทางการของโรงเรียน เอาไว้สำหรับ ‘ในกรณีที่ผู้ต้องการเข้าเรียนยังไม่รู้ความถนัด จะให้อาจารย์เป็นคนตัดสิน’ ไง”
“ถ้างั้น ความถนัดของผมเป็น—-”
“ฮิคารุ”
ลาเวียพูดออกมาเสียงดัง
จนถึงตอนนี้เธอไม่ได้เอ่ยปากออกมาสักครั้ง ทำให้ผู้อำนวยการหันไปมองลาเวียด้วยความสนใจ
“ไปกันเถอะ ต่อให้ทุกคนในนี้เข้ามาพร้อมกันก็เอาชนะฮิคารุไม่ได้ ไม่มีความจำเป็นต้องเรียนจากที่อย่างนี้หรอก?”
“หา—-”
ผู้อำนวยการรวมไปถึงอาจารย์อีก 4 คนถึงกับพูดไม่ออก
แล้วประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาอย่างแรง
“ผู้อำนวยการ! —-โอ้ นายเองก็อยู่ที่นี่งั้นเหรอ”
มิไฮล์นั่นเอง
เขาแข็งแรงดีแล้ว คงฟื้นเพราะได้เวทมนตร์ฟื้นฟูสินะ
“ควรให้หมอนี่เข้าเรียนครับ ผมลืมไปเสียสนนิทเลย—-ว่าจะไปดูถูกนักเรียนหรือคนที่อายุน้อยกว่าไม่ได้ ถ้าให้หมอนี่เข้าเรียนแล้วละก็รับรองว่าจะต้องเป็นสิ่งกระตุ้นที่รุนแรงแน่นอนครับ”
“นี่ๆ มิไฮล์! โดนเล่นงานทีเผลออย่างนั้นยังมาพูดอย่างนี้อีกเหรอ!”
เหล่าอาจารย์พูดออกมา
“หนวกหู!!”
มิไฮล์แผดเสียงโกรธออกมา
“พวกนายเองต่อให้เล่นงานทีเผลอ ก็ไม่มีใครเอาชนะฉันได้สักคนแท้ๆ!! แต่หมอนี่—-”
“พูดว่าหมอนี่ๆ อยู่นั่นแหละ ฮิคารุต่างหาก”
“อะ อ้อ……ฮิคารุ ทำให้ฉันหมดสติได้ในชั่วพริบตา ไม่มีเวลาว่างมาให้คิดถึงเรื่องความตายหรืออะไรอย่างอื่นเลย พลังที่แท้จริงของหมอนี่ยังมีอะไรที่ไม่รู้อีกมาก จนฉันเองอยากอยากศึกษาด้วยเลย”
คำพูดของมิไฮล์ทำให้เหล่าอาจารย์ถึงกับอึ้ง
“ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ใช่แล้วล่ะผู้อำนวยการ ยิ่งไปกว่านั้นหมอนี่ไม่ได้ฆ่าฉันด้วย……ทั้งที่ฉันบอกไว้ว่า ‘ต่อให้ตายก็ไม่เป็นไร’ ด้วย ถ้าเป็นมือสังหารจากพอนโซเนีย คงฆ่าอาจารย์ที่ดูสะดุดตาอย่างฉันไปแล้ว”
“เรื่องนั้น……มันก็ใช่อยู่หรอก”
ผู้อำนวยการเองก็คิดครู่หนึ่ง
“……เข้าใจแล้ว อนุญาตให้เรียน”
“ผู้อำนวยการ!?”
เหล่าอาจารย์ร้องเสียงหลงออกมา
มีแค่มิไฮล์คนเดียวที่ตบหลังของฮิคารุ
“ดีจังเลยนะฮิคารุ!!”
“……เจ็บๆ ถ้าบอกว่า ‘ยอมให้เข้าเรียน’ ด้วยสายตาดูถูกเหมือนอย่างก่อนหน้านี้คงโมโห แล้วว่าจะไม่เข้าเรียนแล้วด้วยซ้ำ”
“อย่าพูดงั้นสิ! ผู้อำนวยการ ขอให้ฮิคารุได้เป็นนักเรียนพิเศษด้วย ถ้ามีอาจารย์แนะนำน่าจะทำได้ใช่ไหม”
“นี่มิไฮล์!!”
เหล่าอาจารย์ส่งเสียงโกรธขึ้นมา แต่
“……เข้าใจแล้ว เอาอย่างนั้นก็ได้”
ผู้อำนวยการรับฟังความคิดเห็นของมิไฮล์ ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน
ฮิคารุรู้สึกสงสัยในความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วอย่างนี้ และเริ่มคิดว่าถ้าไม่เกี่ยวกับตัวเองก็คงจะดีอยู่หรอก
“ฟู่……ถ้างั้นจะเข้าเรียนก็ได้ ถ้าไม่พอใจค่อยออก—-ลาเวียคิดว่าอย่างนั้นดีไหม?”
“……ถ้าฮิคารุบอกอย่างนั้นก็ได้อยู่หรอก แต่ว่า……”
ลาเวียยังมีความกังวลอยู่ แต่ก็ยอมรับมัน
พอออกจากห้องผู้อำนวยการ มิไฮล์ก็ตามหลังมา
“โทษทีนะ……ดูเหมือนจะทำให้โดนเกลียดเอาเรื่องเลย”
“ไม่รู้เลยว่าเกลียดพอนโซเนียกันถึงขนาดนี้”
“ถ้าไม่ต้องทำสงครามกับประเทศนายก็คงดีอยู่หรอก”
“……เรื่องนั้นผมเองก็คิดเหมือนกัน ถึงงั้นทั้งที่ผมทำให้หมดสติแต่ยังพยายามผลักดันให้เข้าเรียนเนี่ย หรือว่าเป็นพวกโรคจิตรู้สึกดีใจเวลาโดนต่อยเหรอ?”
“จะบ้าเหรอ!”
“ถ้างั้น อยากจะสู้กับผมในสภาพเตรียมพร้อม? แล้วคิดว่าจะชนะได้เหรอ?”
“—-อืม เรื่องนั้นก็อยากลองเหมือนกัน ไม่ใช่อย่างนั้น อยากที่บอกไปเมื่อกี้ ช่วงนี้การวิจัยของโรงเรียนมันเริ่มหยุดชะงักลง เลยอยากจะได้แรงกระตุ้นที่รุนแรงไง แล้วผู้อำนวยการ……ยังเป็นอย่างนี้อีก ถ้าหากนายไม่ได้มาจากพอนโซเนียคงต้อนรับอย่างดีเลยล่ะ”
“มีความแค้นกับพอนโซเนียเหรอ”
“มีหลานชายอยู่น่ะ……แล้วต้องออกไปรบระหว่างควินแบรนด์กับพอนโซเนีย แล้วก็—-”
“โดนฆ่าเหรอ?”
“อย่ามาบอกว่าโดนฆ่าตามใจชอบสิ ยังมีชีวิตอยู่แต่บาดเจ็บจากธนูอาบยาพิษแบบพิเศษของฝั่งพอนโซเนีย “
มันเป็นพิษที่ทำให้เกิดไข้สูงและบาดแผลรักษาได้ช้า
มันเป็นการยากที่จะถอนพิษด้วยเวทมนตร์ และจำเป็นต้องใช้สมุนไพรชนิดพิเศษ
“วัตถุดิบคือใบริวจินคะสินะ”
“หือ? ทำไมฮิคารุถึงรู้เรื่องนั้นล่ะ?”
“ก็อาจารย์ที่ดูไม่เป็นมิตรที่ใช้หอกสั้น จะให้ผมไปหาไง”
“อาจารย์คิลเนนโกเหรอ……เอาเถอะ ถ้าจะให้พูดหมอนั่นก็เฮงซวยจริงนั่นแหละ”
มิไฮล์พูดออกมาอย่างรู้สึกดี ทำให้ฮิคารุถึงกับหลุดขำอกมา
“ผมเองก็คิดเหมือนกัน”
หลักๆเลยคือจ้องลาเวีย
“ใจตรงกันนะเนี่ย!”
“แค่เรื่องนี้แหละ”
“แล้วฮิคารุจะเข้าเรียนดาบใหญ่ตั้งแต่เมื่อไรเหรอ? วันพรุ่งนี้ก็มีนะ!”
“……หา? ดาบใหญ่?”
“มันต้องอย่างนั้นอยู่แล้ว เท่านี้ฉันกับฮิคารุจะได้มีมิตรภาพที่แน่นแฟ้น—-”
“ไม่ต้องการมิตรภาพหรอกค่ะ”
ลาเวียเข้ามาแทรกระหว่างฮิคารุกับมิไฮล์
“มาสนิทกับฮิคารุตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว แล้วฮิคารุไม่ได้ใช้ดาบใหญ่ จะให้ไปเรียนดาบใหญ่เพื่อะไรกันคะ?”
“เอ๋!? จะไม่เข้าเรียนดาบใหญ่เหรอ? ไม่มาวิจัยเคล็ดวิชาดาบใหญ่ที่สูญหายในอดีตกันหน่อยเหรอ?”
“ไม่เอาหรอก จะว่าไปนายเนี่ยดูฉลาดกว่าที่เห็นนะเนี่ย”
“ฉันเป็นพวกฉลาดในเรื่องของการต่อสู้ไง! แล้วอยากเรียนอะไรงั้นเหรอ”
“คงจะเป็นมีดมั้ง—-เพราะอย่างนั้น ไปก่อนนะ”
ฮิคารุพูดตัดบทมิไฮล์อย่างรวดเร็ว
รู้สึกเหมือนลาเวียหึงยังไงไม่รู้สิ—-ทั้งที่แค่คุยกับผู้ชาย แถมกล้ามบึ้กอีก
“เอ๋!? นายใช้มีดเหรอ……แต่อาจารย์คนนั้นเนี่ย…………”
มิไฮล์พึมพำออกมาอย่างตกตะลึง