ตอนที่ 105 โดดเดี่ยวในป่าใหญ่
ได้ยินเสียงดังตู้มมาจากด้านหลัง—-ฮิคารุเลยคิดว่า “เริ่มแล้ว”
ถ้าพิจารณาถึงเรื่องที่มอนสเตอร์บุกมาเมืองบอเดอร์ซาร์ด หากเมืองพังไปสักเมือง มีความเป็นไปได้สูงที่งานสถาปนาชาติจะถูกยกเลิก เงื่อไขในครั้งนี้คือต้องป้องกันเมืองบอเดอร์ซาร์ดให้ได้
—-ดังนั้น ฉันเองก็จะไปด้วย
ลาเวียพูดอย่างนั้นออกมา ตอนได้ยินฮิคารุบอกจะไปช่วยหน่วยปราบปราม
โดยเธอบอกว่าตัวเธอเหมาะกับมอนสเตอร์ที่มาเป็นฝูงจำนวนมาก
ถึงฮิคารุจะไม่ค่อยอยากพาลาเวียไปยังสถานที่อันตราย แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอม
—-ฉันเองก็มี “ลอบเร้น” อยู่ ดังนั้นไม่เป็นไรหรอก
ฮิคารุเองก็ยังไม่รู้ว่า “ลอบเร้น” นั้นทรงพลังขนาดไหน
เพื่อที่จะให้ลาเวียเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวคนเดียว เลยจัดการกับโซลบอร์ด
[โซลบอร์ด] ลาเวีย
อายุ 14 ระดับ 29
6
[พลังชีวิต]
[สตามิน่า] 1→3
[พลังเวท]
[ปริมาณพลังเวท] 11→15
[หลักแห่งพลังเวท] 2
[ความเข้ากันของธาตุ]
[ไฟ] 6
[รังสรรค์เวทมนตร์] 1
[ความว่องไว]
[ลอบเร้น]
[อำพรางพลังชีวิต] 1→2
[อำพรางพลังเวท] 1→2
[อำพรางประสาทสัมผัส] 1→2
เท่านี้ต่อให้บอเดอร์ซาร์ดล่มสลาย—-ลาเวียก็ใช้ “ลอบเร้น” หนีออกไปได้แน่ๆ
โดยบอกลาเวียไว้ว่า ถ้ามอนสเตอร์บุกเข้ามาในเมืองเมื่อไรให้ “หนี” ทันที
(ปืนใหญ่เคลื่อนที่แบบลอบเร้นได้ โคตรโหดเลย)
ถ้าลาเวียจัดการมอนสเตอร์จำนวนมากด้วยตัวคนเดียว น่าจะทำให้ระดับของจิตวิญญาณสูงขึ้นอยู่
ถึงจะหลีกเลี่ยงความเป็นเป้าสายตานี้ไม่ได้ แต่ถ้าใช้ “ลอบเร้น” แล้วไม่โดนเห็นหน้า คงพอจะหลบหนีในช่วงวุ่นวายได้อยู่
(โอกาสชนะของบอเดอร์ซาร์ดมีเท่าไรกันนะ 70%? 80%? แต่ยังไงผมก็ต้องทำงานของผมให้เสร็จก่อน)
ไม่คิดว่าลาเวียคนเดียวจะจัดการมอนสเตอร์ทั้งหมดได้ ที่เหลือขึ้นอยู่กับนักผจญภัยคนอื่นๆ—-ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่ ณ ตอนนั้นฮิคารุไม่รู้ว่า “จตุรดาราแห่งบูรพา” อยู่ที่บอเดอร์ซาร์ดแล้ว
(ป่าเหรอ……)
ตะวันยังอยู่สูง
ฮิคารุเดินผ่านทุ่งราบ เดินเข้าไปในป่า
และใช้ “ตรวจจับ” เพื่อหาตำแหน่งของมอนสเตอร์โดยรอบ
และมุ่งหน้าโดยพยายามหลีกเลี่ยงมอนสเตอร์ที่อยู่กันเป็นฝูง
ทิศทางที่มอนสเตอร์หนีมา—-ข้างหน้าน่าจะมี “เป้าหมาย” อยู่
(ต้องพยายามไม่ให้หลงทางด้วย)
โชคดีที่ป่าใหญ่อูน เอล โพลตัน ไม่ใช่สถานที่ที่มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจนทำให้เข็มทิศปั่นป่วน
ถ้าตรวจสอบเข็มทิศกับตำแหน่งของพระอาทิตย์อยู่ตลอดคงไม่หลงทาง
พอเงยหน้าขึ้นไปก็พบกับใบไม้หนา ซึ่งมีแสงอาทิตย์ลอดผ่านแมกไม้มาโดนฮิคารุ แต่มันไม่ใช่บรรยากาศที่ชวนให้คิดว่าอากาศดีเลย
แซ่กๆๆๆๆ……
ตึงๆๆ
ได้ยินเสียงมอนสเตอร์เคลื่อนไหวจากทั้งใกล้และไกล
กลุ่มแรกมุ่งหน้าไปบอเดอร์ซาร์ดแล้ว แต่ก็รับรู้ได้ถึงฝูงมอนสเตอร์เล็กๆ ที่ไม่ได้ใหญ่โตเท่ากับช่วงแรกๆ
โดยในนั้นมีมอนสเตอร์ที่เหมือนกับลิงกำลังคู้ตัวอยู่ หรือไม่ก็ฝูงนกที่กำลังทะเลาะกันเอง
ไม่ใช่ว่ามอนสเตอร์ทุกตัวจะหนี แต่มีมอนสเตอร์หรือสัตว์ป่าบางชนิดที่ใช้ชีวิตตามปกติ
!?
มีหมอกโผล่ขึ้นมา ฮิคารุถึงกับหยุดนิ่งตอนที่เห็นฝูงผีเสื้อสีแดงที่เหมือนกับสะเก็ดไฟ
ตอนที่ฮิคารุเดินเข้าไปเพื่อที่จะฝ่าฝูงนั้น
(!?)
หัวเริ่มหมุน
(หน้ามืด……!)
เขารีบร้อนออกห่าง แล้วอาการหน้ามืดก็หายไป
ดูเหมือนผีเสื้อคงปล่อยอะไรออกมารอบตัว บางทีอาจจะเป็นพวกเกล็ดก็ได้
(ต้องดจ่อให้มากกว่านี้)
จะให้เกิดเรื่องงี่เง่า อย่างหมดสภาพต่อสู้โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัวได้ยังไง
ช่วยไม่ได้ คงต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกหน่อย
ฮิคารุค่อยๆมุ่งหน้าไปอย่างระมัดระวัง
ต้นไม้ขึ้นหนาแน่น
เนื่องจากใช้ “ตรวจจับพลังเวท” และ “ตรวจจับพลังชีวิต” ทำให้มุ่งหน้าไปทางที่ไม่มีมอนสเตอร์อยู่ เท่าที่มองดูรอบๆก็ไม่เห็นสิ่งมีชีวิต
มันเป็นป่าที่ตรงพื้นมีรากขนาดใหญ่ บางครั้งก็มีพุ่มไม้บ้าง นอกจากนั้นก็มีพวกซากใบไม้ทับถม
(……อยู่ตัวคนเดียว)
เนื่องจากใช้งาน “ลอบเร้น” ทำให้ไม่มีใครรู้สึกถึงตัวตน ในอีกความหมายคือ “อยู่ตัวคนเดียว” ก็เป็นได้
(ผมหลงมาในโลกที่ไม่รู้จัก……ตอนแรก โรแลนด์ได้มอบร่างกายนี้ให้กับผม แล้วก็ได้พบกับลาเวีย—-หลังจากนั้นก็อยู่กับลาเวียมาตลอด)
ความรู้สึกโดดเดี่ยวที่ไม่ได้พบเจอมานาน
แน่นอนว่าตอนเดินทางจากสกาล่าซาร์ดไปยังเมืองหลวงฟอเรสซาร์ด ก็แยกกันเคลื่อนไหวกับกับลาเวีย ถึงกระนั้น ฮิคารุนั่งรถม้าในฐานะ “ผู้โดยสาร” ทำให้รอบๆยังมีผู้คนอยู่
นานมากแล้วที่รอบๆตัวไม่มีอะไรอย่างนี้
(ไม่ใช่เวลามาจมดิ่งกับอารมณ์สักหน่อย ในระหว่างนี้ต้องคิดคำพูดแก้ตัวกับลาเวียด้วย)
ข้อแก้ตัวที่ใช้โซลบอร์ดกับพอลล่า
ตั้งแต่ตัวเองสารภาพกับลาเวีย ก็ใช้โซลบอร์ดกับลาเวีย คลอร์ด และพอลล่า ซึ่งฮิคารุคิดว่าเขาใช้มากเกินไป พลังนี้มันแข็งแกร่งเกินไป ไม่ใช่ของที่ควรใช้พร่ำเพรื่อ
ตอนใช้กับคลอร์ดก็พยายามให้อยู่ในขอบเขตที่ “ปกติ” ที่สุด
ลาเวียกับพอลล่านั้นใช้มากเกินไป ลาเวียยังพอว่า เพราะอย่างนั้นเลยตัดสินใจว่าควรจะเอาพอลล่ามาอยู่ใกล้ตัว
แต่—-ตอนนั้น ทำไมฮิคารุถึงไม่มีตัวเลือกอย่าง “ไม่ช่วยเหลือ” ที่เชื่อพอลล่า เพราะว่าตัวเอง “เคยเชื่อไปแล้ว” เท่านั้น แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าทำลงไปเพราะมีอะไรเบื้องหลัง
ถึงกระนั้น……เคยพูดคุย และเป็นคนรู้จักกัน จะปล่อยให้ตายตรงหน้าโดยไม่ช่วยก็คงไม่ได้
(ผมเองก็ยังอ่อนหัดสินะ)
ถึงจะรู้สึกสำนึกเสียใจ แต่ตัวเองคิดว่า “มันช่วยไม่ได้นี่” ออกมา
(ลาเวียก็คงเข้าใจมั้ง อืม…น่าจะเข้าใจแหละ……คงไม่โกรธหรอกมั้ง?)
หลักๆคือฮิคารุดึงมาเพราะอยากจะใช้ “ผู้หญิง” คนนี้
ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรพิเศษ แต่อาจจะโดนมองอย่างนั้นก็ได้
(คงต้องพยายามไม่ให้เข้าใจผิด)
ผ่านไป 1 ชั่วโมงหลังจากเดินเข้ามาในป่าใหญ่ ฮิคารุนั่งพิงต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ
เหงื่อออกตามร่างกาย
เนื่องจากความตื่นเต้นที่สูงขึ้นจนทำให้มุ่งหน้าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เลยต้องสร้างกฎขึ้นมาเพื่อหยุดพักตา
ตรงพื้นมันนุ่มๆ แถมต้องเดินข้ามรากไม้ ทำให้สะสมความเหนื่อยล้าไว้มาก
“……ฟู่”
ดื่มน้ำจากกระบอก เนื่องจากมีหินเวทมนตร์ใส่เอาไว้ ทำให้มีน้ำไหลออกมาเรื่อยๆ
ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ
อาหาร มีสำรองเอาไว้สำหรับ 5 วัน ส่วนใหญ่เป็นของแห้ง ส่วนน้ำก็มีกลับมาเรื่อยๆดังนั้นน้ำหนักเลยไม่มากเท่าไร
(ไป 3 วัน กลับ 2 วัน……ถ้าได้ตามนี้ก็คงจะดีอยู่หรอก)
การจะเดินผ่านป่าใหญ่อูน เอล โพลตันมันต้องใช้เวลาราวๆ 20 วัน
แต่ แคมป์ของนักผจญภัย ใช้เวลาเดินจากบอเดอร์ซาร์ดไป 1 วัน
โดยคนเห็นมังกร อยู่ตรงแคมป์ที่หน่วยปราบปรามตั้งขึ้น
กล่าวคือ มังกรอยู่ห่างจากบอเดอร์ซาร์ดไกลสุดน่าจะราวๆ 3 วัน—-นั่นคือในมุมมองของฮิคารุ
แน่นอนว่าคิดเผื่อเอาไว้ในกรณีที่มังกรมีการเคลื่อนไหว ถ้าเกิดกรณีนั้นเท่ากับว่ามังเคลื่อนที่จากราชอาณาจักรพอนโซเนียไปจักรวรรดิควินแบรนด์
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะดีมาก เพราะจะไม่เกิดความเสียหาบกับทางสหพันธรัฐฟอเรสเทีย แล้วการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ของฝูงมอนสเตอร์จะจบลง
แน่นอนว่า อีก 2 ประเทศก็น่าจะได้รับความเสียหายหนักอยู่—-
“การคงอยู่ของสิ่งนั้น” มันกลับอยู่ใกล้ซะตรงกันข้ามกับที่คิดเอาไว้
ฮิคารุที่ใช้ “ลอบเร้น” และงีบหลับอยู่บนต้นไม้ พอถึงเช้าวันรุ่งขึ้น—-ก็ได้ยินเสียงแผ่นดินสั่นสะเทือน
ไม่ใช่เสียงของการใช้เวทมนตร์หรือแผ่นดินไหว
เป็นเสียงฝีเท้าของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่—-มุ่งหน้าไปทางบอเดอร์ซาร์ด