อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ – ตอนที่ 121 การคำนวณที่ผิดพลาดของอลิซ ซันบอร์น

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

              ฮิคารุรับรู้ถึงผู้มาเยือนคนใหม่นอกจากตัวเองด้วย “ตรวจจับพลังเวท” ถึงจะใช้ “ขยายการตรวจจับ” กับ “ตรวจจับพลังเวท” จนทำให้สมองต้องรับภาระหนักขึ้น แต่ใช้แค่ในแนวระดับเท่านั้น ถ้าหากกำหนดทิศทางในการใช้งานแล้วจะลดภาระของสมองไปได้เยอะอยู่

              ตอนนี้จะใช้ “ตรวจจับ” ในแนวระดับทุกๆ สองหรือสามวินาที และควรจะทำสิ่งนี้ให้ติดเป็นนิสัย

              คนที่ฮิคารุตรวจจับได้ เพิ่งมาถึงตรงนี้

              ทางนู้นไม่รู้สึกถึงการคงอยู่ของทางนี้ กล่าวคือไม่ได้มีความสามารถพอจะตรวจจับ “ลอบเร้น” ของฮิคารุได้ แต่การที่แอบมาถึงตรงนี้ได้ก็แสดงว่าน่าจะมีฝีมือพอตัว

              ในระหว่งที่ดูสถานการณ์และมาถึงจุดที่อยู่ห่างจากฮิคารุไป 3 เมตร เนื่องจากมันไม่ค่อยมีแสงเท่าไร เลยรู้แค่ว่าตรงนั้นมีคนอยู่ และจาก “ตรวจจับพลังเวท” กับ “ตรวจจับพลังชีวิต” ทำให้เห็นเป็นรูปร่างลางๆ

              อย่างไรก็ตาม สำหรับฮิคารุไม่อยากให้มีบุคคลที่สามซึ่งไม่รู้จักมาฟังเรื่องที่มาร์ควิสกล็อกชลูท, กราฟาสตี้และลอวเรนซ์คุยกันสักเท่าไร และเรื่องนี้จะเลวร้ายที่สุดหากรู้ไปถึงราชาของพอนโซเนีย ถ้าราชาได้ยินสิ่งนี้คงหาทางรับมือและอาจจะเริ่มสงครามกลางเมือง ยิ่งไปกว่านั้นความเป็นไปได้สูงสุดก็คือสปายของราชอาณาจักรอาจจะอยู่ในนี้ก็ได้

              (ตรวจสอบว่าเป็นใครก่อนดีกว่า……ฮึบ)

              ฮิคารุตรวจสอบโซลบอร์ดของสปายคนนั้น

 

              [โซลบอร์ด] อลิซ ซันบอร์น

              อายุ 16 ระดับ 17

              8

              [พลังชีวิต]

                [สตามิน่า] 2

                [ภูมิคุ้มกัน]

                    [ภูมิคุ้มกันพิษ] 1

                [ประสาทสัมผัส]

                    [การมองเห็น] 1

                    [การได้ยิน] 1

                    [การได้กลิ่น] 1

              [พลังกาย]

                [ความชำนาญด้านอาวุธ]

                    [ขว้าง] 1

              [ความว่องไว]

                [พลังออกตัว] 2

                [ความยืดหยุ่น] 2

                [สมดุล] 3

                [ลอบเร้น]

                    [อำพรางประสาทสัมผัส] 1

              [ความชำนาญ]

                [ความชำนาญ] 2

 

              สิ่งแรกที่คิดคือ “ยังเด็กอยู่” ถึงกระนั้นก็อายุมากกว่าฮิคารุแค่ 1 ปี สิ่งต่อไปที่คิดและประหลาดใจคือ “ผู้หญิง?” เอาเถอะ ต้องบอกว่าเป็นผู้หญิงประเภทเดียวกันกับซาร่าของจตุรดาราแห่งบูรพาคงไม่มีว่าเหมาะหรือไม่เหมาะหรอก

              แต่ในแง่ของความสามารถยังต่ำกว่าซาร่า ถึงกระนั้นมี “อำพรางประสาทสัมผัส” ไหนจะ “การมองเห็น”, “การได้ยิน” และการได้กลิ่นที่เหมาะกับการเป็นสปายอยู่ด้วย

              ปัญหาคืออลิซเป็นคนของที่ไหน

              (ไม่อยากให้พวกที่อยู่ด้านล่างอยู่ว่าผมอยู่ตรงนี้ด้วย จะว่าไปถ้าเป็นลอวเรนซ์หรืออเกรอาแค่ “อำพรางประสาทสัมผัส” 1 คงโดน “ลางสังหรณ์” มองออกอยู่แล้วก็ได้นี่?”

              ตอนที่คิดอย่างนั้น ด้านล่างก็มีการเคลื่อนไหว

              “—-ท่านวาล์ว มีหัวขโมยค่ะ”

              “ฉันเองก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน ตรงเพดานฝ้า”

              พออเกรอาพูด ลอวเรนซ์ก็ตอบออกมาเหมือนกัน

              อลิซที่อยู่ข้างๆฮิคารุก็พูดออกมาว่า “เอ๊ะ? ความแตกงั้นเหรอ? ได้ยังไง……?”

              (……เธอคนนี้จะไหวแน่เหรอ)

              อลิซถอนตัวทันที ฮิคารุเลยตามเธอไป

 

*   *

 

              คฤหาสน์ของมาร์ควิสกล็อกชลูทเกิดความวุ่นวายยกใหญ่ ทหารยามที่เฝ้าคฤหาสน์ของมาร์ควิสกล็อกชลูทเป่านกหวีด เพื่อเตรียมล้อมจับสปาย แต่เพราะเป็นตอนกลางดึกทำให้รวมทหารได้ไม่ดีเท่าไร แถมคงไม่เคยมีสปายแอบเข้ามาก่อนเลยค่อนข้างอลหม่านกัน

              มาร์ควิสส่งเสียงโกรธออกมาว่า “ทหารของข้าฝึกฝนกันได้แค่นี้เองเหรอ!!” ทำให้หัวหน้าทหารยามได้แต่ตัวสั่นเทา

              ระหว่างนั้นลอวเรนซ์ก็ออกไปทางประตูด้านหลังคฤหาสน์ และออกวิ่งไปยังบีโรเวลก้าที่กลุ่มอัศวินประจำการอยู่ คงเห็นด้วยกับเรื่องของกราฟาสตี้และ “หลีกเลี่ยงการปะทะกันระหว่างกองทัพมาร์ควิสกับกลุ่มอัศวิน”

              แต่ก็ไม่พบสปายที่ลอบเข้ามาในคฤหาสน์—-การเคลื่อนไหวของทหารยามนั้นช้าเกินไป ทำให้หนีไปได้อย่างง่ายดาย

              “ฟู่ ดูเหมือนจะหนีมาได้แล้ว กะแล้วเชียวไม่มีใครเอาชนะการหนีของฉันได้หรอกเนอะ”

              ที่ตรงนั้นคือกลางเมืองชูสเอลก้า เนื่องจากชูสเอลก้านั้นกว้างแม้จะมีกำแพงล้อมรอบ แต่ก็มีทางแยกอยู่เยอะ—-ถ้ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญจริงคงไม่มีใครอยากทำ เพราะมันทำได้ยาก แถมถ้าโดนรู้เข้าจะมีโทษหนักอีก

              มุ่งหน้าเข้าไปในป่าลึกตรงชานเมืองชูสเอลก้า ต่อให้มีแสงดาวหรือแสงจันทร์ แต่เพราะต้นไม้ที่ขึ้นหนาแน่นทำให้มองเห็นทางได้ลำบาก แต่อลิซกลับเดินได้อย่างสบายๆ เดิมทีมีตากลางคืนอยู่แล้วไหนจะ “การมองเห็น” 1 อีก

              อลิซหยุดล้างมือแล้วดื่มน้ำอยู่ตรงริมแม่น้ำเล็กๆ

              ตำแหน่งที่มีแม่น้ำสามารถมองเห็นท้องฟ้ายามค่ำคืน ผมสีชมพูที่สั้นมากๆ กับดวงตาสีเดียวกันสะท้อนอยู่ในแม่น้ำ ใบหน้าดูแล้วให้ความร้สึกเหมือนผู้ใหญ่แต่ก็แฝงไว้ด้วยความทอมบอย อาจจะเพราะต้องฝึกฝนอยู่ทุกวันทำให้ร่างกายค่อนข้างผอมเพรียว และต้องบอกว่าร่างกายค่อนข้างสูงเลยยิ่งทำให้เหมือนผู้ชายเข้าไปใหญ่

              “ฟู่……เหมือนกลับมามีชีวิตอีกครั้งเลย—-”

              “—–โทษทีนะ ทั้งที่เพิ่งกลับมามีชีวิต แต่ถ้าไม่อยากตายก็อย่าทำอะไรแปลกๆเชียว”

              “!?”

              เธอที่นั่งยองๆ สัมผัสได้ถึงความเย็นตรงคอ ความรู้สึกของคมมีด

              “คะ คะ คะ ใคร……”

              “นั่นเป็นคำถามของทางนี้ต่างหาก เธอเป็นใคร?”

              ตอนที่คิดว่าหนีจนพ้นแล้ว  จู่ๆโผล่ตัวมาแบบไร้ร่องรอย—-ราวกับการปรากฎตัวของวิญญาณ แต่จากเสียงน่าจะเป็นเด็กผู้ชาย ถึงเสียงจะสั่นเพราะความหวั่นไหว แต่อลิซกลืนน้ำลายพร้อมกับสงบสติอารมณ์

              “…………”

              ตอบกลับไปด้วยความเงียบ ไม่มีทางที่จะบอกข้อมูลของตัวเองให้อีกฝ่ายรู้หรอก

              ชุดที่สวมอยู่น่าจะมีผลของลอบเร้นระดับค่อนข้างสูง แต่ไม่ใช่ของที่จะระบุสถานที่ผลิตไม่ได้ เครื่องสวมใส่แต่ละชิ้นเองก็ถูกทำมาอย่างประณีต

              “ไม่ตอบเหรอ ช่างน่าชื่นชมสมกับเป็นมืออาชีพ งั้นก็ตายซะ”

              “—-อ๊ะ ระ รอเดี๋ยวก่อน!”

              ตอนที่คมมีดตรงคอกำลังจะขยับอลิซก็ส่งเสียงออกมา จากเสียงคิดว่าน่าจะเป็นเด็กหนุ่มแต่กลับไม่มีความลังเลเลย

              (อีกฝ่ายก็เป็นมืออาชีพเหรอ……!)

              ภายในใจของอลิซ รู้สึกได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ยังมีส่วนที่อ่อนหัดอยู่ แต่ก็เป็นคนที่ประมาทไม่ได้

              “บอกชื่อมา”

              “……โดโรธี โดโรธี ลิซฟาม”

              “โกหกเหรอ? ตายซะ”

              “เดี๋ยวก่อน!? รอเดี๋ยวก่อน!!”

              รู้สึกได้เลยว่าคมมีดถูกกดเข้ามาจนเลือดออกซิบๆ

              (ทำไมกัน!? ทำไมถึงรู้ว่าโกหก!? หรือว่า—-หมอนี่ก็เหมือนกับอาจารย์ ที่มีลางสังหรณ์หรืออะไรหลายๆอย่าง!?)

              อลิซเหงื่อออก ถึงจะได้รับการฝึกฝนมาให้โกหกได้อย่างพอสมควร จนโกหกออกมาได้อย่างแนบเนียนตามสถานการณ์ แต่ต่อให้เป็นคำโกหกที่ยอดยเยี่ยมขนาดไหนก็ยังมีคนที่ “มองออก” อยู่ แม้จะเป็นคนที่หลายเดือนถึงจะได้พบสักครั้ง แต่อาจารย์ของอลิซสามารถทำอย่างนั้นได้ พอลองถามอาจารย์ก็ตอบกลับมาแค่ว่า “เอาเป็นว่ารู้ก็แล้วกัน” ไม่สามารถเลียนแบบได้

              “นี่เป็นโอกาสสุดท้าย ถ้าโกหกจะเฉือนเส้นเลือดแดง แล้วจะดูไปเรื่อยๆจนกว่าเลือดจะหมดตัว และห้ามทำอะไรแปลกๆ ห้ามยืนด้วย”

              “ดะ เดี๋ยวก่อนสิ อยู่ในท่านี้มันปวดอยู่นะ……”

              “ไม่ได้—-บอกชื่อมา”

              “…………อลิซ”

              ครั้งนี้ไม่พูดโกหก

              แล้วอลิซรู้ได้เลยว่าคนคนนี้สามารถรู้ได้ว่าอีกฝ่ายโกหกหรือเปล่า ทำให้หนทางเบื้องหน้าของเธอมืดสนิท

              เธอเป็นสปาย หน้าที่คือการหาข้อมูล แล้วถ้า—-ทำให้ข้อมูลนั้นรั่วไหลจะเป็นอย่างไร? นอกจากจะไร้ค่าแล้วยังมีแต่ผลร้ายอีก

              การที่ฝึกฝนอย่างยากลำบากมาถึงตอนนี้ต้องสูญเปล่างั้นหรือ—-

              แถมนี่ยังเป็นงานแรกของอลิซด้วย ไม่ได้มั่นใจในตัวเองสูงเกินไป อาจารย์ของเธอยังคิดเลยว่าถ้าเป็นอลิซน่าจะทำหน้าที่นี้ได้

              อย่างไรก็ตาม พอแอบเข้าไปในคฤหาสน์ก็โดนพบตัวทันที ตอนที่คิดว่าหนีพ้นแล้วยังโดนต้อนจนจนมุม

              “สังกัดไหน”

              “……ฮะ ฮือ”

              “สังกัดไหน องค์กรไหน—-”

              “ฮืออ แง้~~~~~~!”

              อลิซส่งเสียงร้องไห้ออกมา ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าการปล่อยอารมณ์ออกมาอย่างนี้ถือเป็นสิ่งต้องห้ามของสปาย แต่ไม่อาจหยุดน้ำตาได้

              ไม่เอาแล้ว ความคิดยอมแพ้เข้าครอบงำเธอ ไม่มีหนทางรอดสำหรับตัวเองแล้วเลยทำได้แค่ร้องไห้ออกมา

              “นะ นี่……ร้องไห้ทำไม? เธอเป็นสปายไม่ใช่เหรอ?”

              “แง้ แง้ ถะ ถ้าได้ข้อมูลไปแล้วก็จะฆ่ากันอยู่ดีไม่ใช่เหรอ! แง้~~~!”

              “อย่าด่วนตัดสินใจไปเองสิ อาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้”

              “ถะ ถ้าได้ข้อมูลแล้วจะกลายเป็นของเล่น!? พอหนำใจแล้วก็ฆ่าทิ้งใช่ไหมล่ะ!”

              “อะไรกันเนี่ย!?”

              “อาจารย์บอกมาว่าปั้นปลายของสปายก็มีแต่เรื่องอย่างนั้นไง!”

              “ไม่ทำ! อย่าตัดสินใจไปเองสิ!”

              “นี่ฉันเหมือนผู้ชายจนไม่มีความต้องการเลยเหรอ!? แง้ๆ! แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆ—-”

              “นี่ เอาไงดีเนี่ย……”

              ร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังอย่างนี้ เลยเอามีดที่อยู่ตรงคอออก

              “แง้ๆๆๆๆๆ เอ๊ะ?”

              “อ้า ก็ได้ จะถามแค่ข้อเดียว ตอบมาแค่ใช่หรือไม่ใช่ก็พอ แต่ห้ามโกหกเด็ดขาดนะ?”

              “เอ๊ะ?”

              “เธอเป็นคนของราชอาณาจักรพอนโซเนียหรือเปล่า? หรือขุนนางที่เกี่ยวข้องกับราชอาณาจักร?”

              “ไม่ใช่……ไม่ใช่คนของพอนโซเนีย”

              “———-”

              ทันใดนั้นเด็กหนุ่มก็ทำตาโต อาจจะเพราะเป็นคำตอบที่เหนือความคาดหมายหรือเปล่า ทำให้ไม่รู้จะพูดอะไรออกมา

              “……งั้นเหรอ อย่างนี้นี่เอง”

              “อะไร?”

              “เธอเป็นสปายของจักรวรรดิควินแบรนด์สินะ”

              “!!?”

              อลิสถึงกับตกใจจนน่าจะแสดงออกมาทางสีหน้าด้วย? ไม่สิมืดขนาดนี้คงไม่มีทางรู้หรอก ถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่คนที่มีความสามรถตากลางคืนเหนือกว่าอลิซ

              อลิสหันหน้าไปด้านหลัง เพราะไม่มีมีดมาจ่อตรงคอแล้ว ที่จริงอยากจะวิ่งหนีอยู่หรอก แต่ในสภาพตื่นเต้นอย่างนี้ทำให้ขาชา ถ้าออกวิ่งคงล้มกลิ้งไม่ผิดแน่

              “อ๊ะ……”

              ที่อยู่ตรงนั้นเป็นเด็กหนุ่มจริงหรือเปล่า

              แต่ว่าการคงอยู่มันค่อนข้างเลือนลางมาก เพราะรู้ว่าตรงนั้นมีใครอยู่เลยพอจะรู้สึกได้อยู่ แต่ถ้าเผลอไปนิดเดียวคงมองไม่เห็นเลย—-

              (ลบร่องรอยได้เหมือนกับอาจารย์……ไม่สิ น่าจะเหนือว่า!? หรือว่า!)

              เด็กหนุ่มเอาหน้ากากสีเงินมาสวม

              เพราะสวมหน้ากากทำให้ไม่เห็นสีหน้า แต่จิตสังหารที่มีอยู่ก่อนหน้าหายไปราวกับเรื่องโกหก

              “เข้าใจแล้ว จะไปไหนก็ไป อย่างนี้การเฝ้ายามของมาร์ควิสกล็อกชลูทคงเข้มงวดขึ้น อย่าแอบเข้าไปอีกจะดีกว่า”

              “เอ๊ะ……ไปได้เหรอ? บอกอย่างนั้นใช่ไหม?”

              “ใช่แล้ว ไปก่อนนะ”

              “——–”

              ตอนนั้นเองที่อลิซ

              (ไม่ใช่ แตกต่างกับอาจารย์สิ้นเชิง—-เหนือกว่าอาจารย์อีก……)

              มั่นใจ

              (ใจดีมาก!)

              อาจารย์ของอลิซเป็นคนที่เข้มงวดมาก ผู้ที่มีคุณสมบัติเป็นสปายรุ่นเดียวกับอลิซมี 50 คน เสียชีวิตตอนฝึกครั้งแรกไป 15 คน หลังจากนั้น 1 ปีก็เหลืออยู่เพียงแค่ 6 คน

              แถมการฝึกของอาจารย์ยังให้ “ฝึกฝนด้วยตัวเอง” หลายเดือนถึงจะแวะมาสักครั้ง ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ปกติ แต่อาจารย์จะ “มองออก” ว่าคนไหนที่ตั้งใจฝึกหรือไม่ฝึก ถ้าไม่ตั้งใจฝึกให้ดีจะตกนรกยิ่งกว่าความตายเสียอีก

              กล่าวคือปิศาจของแท้

              ถ้าเทียบกับเด็กหนุ่มคนนี้แล้วต้องบอกว่าใจดีมาก

              อลิซยังรู้สึกประหลาดใจที่บอกว่า “จะไปไหนก็ไป”—-แล้วเธอก็เอื้อมมือไปจับปลายผ้าคลุมของเขาที่หันหลังให้

              “รอก่อน! นายเป็นใครกันแน่!?”

              “จะไปบอกได้ยังไง? พูดอะไรออกมาเนี่ย?”

              “ความต้องการของนายคืออะไร!”

              “……หา?”

              “ความสามารถของนายเหนือกว่าอาจารย์อีก! ขอร้องล่ะ!”

              อลิซพูดออกมา

              “ช่วยต่อยอาจารย์ปิศาจนั้นสักหมัดแทนฉันทีสิ!”

              “หา?” —-เด็กหนุ่มสวมหน้ากากถึงกับหลุดคำพูดอย่างนั้นออกมาอีกครั้ง

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

Status: Ongoing
ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท