อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ – ตอนที่ 122 แผนการของอลิซ ซันบอร์น

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

              ตอนที่เด็กหญิงบอกกับคนที่เหมือนเด็กหนุ่มว่า “ช่วยต่อยอาจารย์”  นั้น ฮิคารุก็คิดขึ้นมาทันทีว่า—-“อ้า เธอคนนี้บ้าจริงๆ”

              “มะ ไม่ได้บ้าสักหน่อย!”

              “โอ๊ะ เผลอหลุดปากไปเหรอ—-ไม่สิ ต้องบ้าอยู่แล้ว? ผมอุตส่าห์ปล่อยให้เธอรอดไปแท้ๆ ถ้าเป็นพวกชั้นสามจะรีบหนีไปทันที ถ้าเป็นพวกชั้นสองจะแอบสะกดรอยตามผม แต่มาขอร้องอย่างนี้มันเหนือความคาดหมาย”

              “อึ้ก แต่มันนึกอย่างนั้นขึ้นมาจริงๆ นี่—-แล้วพวกชั้นหนึ่งล่ะ?”

              “ไปคิดเอาเอง”

              “โหดร้าย!”

              โหดร้ายตรงไหน กลับกันควรจะขอบคุณด้วยซ้ำที่ไม่เอาชีวิตเนี่ย

              อย่างไรก็ตาม “ในสถานการณ์อย่างนี้ควรจะรับมืออย่างไรดี 3 อันดับ” คิดจากเกณฑ์มาตราฐานว่า “ทำอย่างไรถึงจะทำให้บรรลุเป้าหมายได้” มีดังนี้

              สำหรับสปาย “หนีมาเพราะโดนปล่อยให้หนีรอด” มันเท่ากับทำภารกิจล้มเหลว หรือเป็นพวกชั้นสาม

              ถ้าเป็นพวกชั้นสองจะสะกดรอยตามฮิคารุเพื่อหาข้อมูล แต่ที่เป็นแค่พวกชั้นสองเพราะไม่รู้ตัวว่าโดนฮิคารุสะกดรอยตาม ไม่มีทางที่จะสะกอดรอยฮิคารุกลับได้อยู่แล้ว

              ส่วนพวกชั้นหนึ่ง—-“จะพยายามถามข้อมูลออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” หรือก็คือพยายามชวนคุยให้ได้นานที่สุด แต่ “การขอร้อง” อย่างนี้ แถมยังขออย่างมุ่งมั่นเนี่ย มันต้องบอกว่าเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมาย

              “ขะ ขอร้องล่ะ คิดว่าคงไม่มีทางหาคนที่จะต่อยอาจารย์คนนั้นได้อีกแล้ว แต่ว่าถ้าเป็นนายน่าจะทำได้อยู่”

              “อาจารย์แบบไหนกันเนี่ย……”

              “ถ้างั้นตั้งใจฟังให้ดีนะ!”

              “ไม่ได้หมายความอย่างนั้น เอือมกับเธอเหลือเกิน”

              “อาจารย์ของฉันแทบจะไม่เคยเห็นตัวเลย! เป็นอัจฉริยะด้านการลบร่องรอยไง!”

              “——–”

              “แค่ช่วงกะพริบตาก็หายไปแล้ว—-ว้าย!?”

              ฮิคารุจับแขนของสาวน้อยอลิซโดยไม่รู้ตัว

              “น่าสนุกดีนะเนี่ย—-ขอฟังรายละเอียดหน่อยสิ”

              เท่าที่ฟังจากอลิซ—-ฮิคารุพอจะเดาได้แล้วว่า “อาจารย์” คนนั้นคือใคร และคิดว่าน่าจะเดาถูกด้วย แต่ไม่มีความจำเป็นต้องบอกอลิซ

              อาจารย์เป็นชายที่ใช้ชื่อว่าเคไค ถ้าจะบอกว่าทำไมอลิซถึงพูดข้อมูลกับฮิคารุอย่างนี้—-เพราะเธอรู้ว่าฮิคารุไม่ใช่คนของราชอาณาจักรพอนโซเนียที่เป็นศัตรู ถึงจะจริงที่ฮิคารุปล่อยให้เธอหนีไป แต่เพราะ “อาชีพ” ที่เธอมีอยู่ด้วย

              นั่นก็เพราะ “อาชีพ” เทพ 5 อักษรอย่าง “เทพวิเคราะห์จิตวิญญาณทั่วไป(凡魂色判別神) : นักอ่านจิตวิญญาณ(โซลรีดเดอร์)” อาชีพนี้จะสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกหรือความน่าเชื่อถือที่มีต่อตัวบุคคล แล้วแปรเปลี่ยนเป็นข้อมูลก่อนจะถูกส่งเข้ามายังตัวเธอเอง

              ถ้าจะให้พูดในทางกลับกัน ต่อให้ไม่ต้องอ่าน—-อลิซยังรู้สึกถึงความน่ากลัวของฮิคารุได้ การที่เธอไม่สามารถอ่านความรู้สึกของ “อาจารย์” ได้เพราะผลจาก “ลอบเร้น” แต่อลิซไม่รู้เรื่องนั้น

              ฮิคารุเชื่อในสิ่งที่อลิซพูดเพราะเธอแสดง “อาชีพ” ในโซลการ์ดให้ดู มันเป็นการ์ดที่ออกในจักรวรรดิควินแบรนด์

              (ยังไงก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงสงครามกลางเมืองของพอนโซเนียได้ เอาเถอะ ถ้าเป็นไปได้ด้วยดีคงเกิดการปฏิวัติโดยไม่มีการนองเลือดได้อยู่ ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของพวกขุนนาง)

              ถ้าเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นหน่วยพิเศษที่ไล่ตามลาเวียคงต้องถอนตัวกลับไปก่อน

              ถ้าเป้าหมายคือการต่อยราชาสักหมัดแล้วละก็ ฮิคารุคิดขึ้นมาว่าอยากไปเจอ “อาจารย์” ของอลิซก่อน

              (คนประเภทเดียวกับผมเหรอ ชักสนใจแล้วสิว่าจะปฏิบัติตัวยังไง)

              ฮิคารุคิดว่ายังเหลือการค้นคว้าว่าจะใช้ “ลอบเร้น” นี้อย่างไรอยู่ ดังนั้นเลยอยากจะมีคนที่ใช้อ้างอิงด้วย

              “ถ้างั้น พาผมไปหาอาจารย์คนนั้นที”

              “เอ๊ะ!? จะไปหาจริงเหรอ!?”

              “อือ เธอทำภารกิจล้มเหลว คงโดนอาจารย์โกรธ แต่เพื่อที่จะลดความผิด เลยจะใช้ประโยชน์จากผมไม่ใช่เหรอ? แถมจะได้ล้างแค้นด้วยเนี่ย”

              “อึ้ก! มะ มองออกถึงขนาดนั้นเลยเหรอ……”

              ถึงอลิซจะมีทักษะลอบเร้นเบื้องต้น แต่ก็ถือว่ามีความสามารถอยู่ ถ้าไม่นับว่าเป็นคนที่งี่เง่าไปหน่อย แต่สำหรับฮิคารุแล้วก็ทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

              “เอ่อ เรื่องชื่อ จะให้เรียกว่าอะไรเหรอ”

              “ซิลเวอร์เฟส ไปกันได้แล้ว”

              “อ๊ะ ค่ะ! คุณซิลเฟ!”

              “ไม่ต้องมาย่อแบบแปลกๆเลย”

              “คุณซิลซิล……”

              “เดี๋ยวเตะเลย”

              “เจ็บ!? อย่าเตะแล้วค่อยบอกสิ!”

              แผนที่อลิซบอกเป็นดังนี้

              จะมุ่งหน้าไปยังจุดรวมพลเพื่อรายงานผลพร้อมกับฮิคารุ แล้วจะรายงานว่าภารกิจล้มเหลว แน่นอนว่าอาจารย์คงจะโมโหสุดๆ—-แล้วให้ฮิคารุลอบโจมตีก่อนหรือหลังจากนั้น

              อลิซบอกว่าจะต่อยสักหมัดสองหมัดหรือ 4 หมัดก็ได้แต่อย่าฆ่าอาจารย์

              (แค้นจัดสินะ)

              ฮิคารุยังต้องผงะ เพราะรู้สึกได้เลยว่า “เกลียดเข้ากระดูก” แต่ไม่ฆ่าจะดีจริงเหรอ……? ชักกังวลขึ้นมาแล้วสิ

 

              จุดรวมพลของพวกอลิซคือก้อนหินขนาดใหญ่ตรงภูเขาลึก เนื่องจากเป็นทางที่สัตว์ป่าใช้เดินทางเลยรู้กันแค่นักล่าท้องถิ่นเท่านั้น

              (จักรวรรดิควินแบรนด์รู้เรื่องพื้นที่แถวนี้ดีขนาดนี้เลยเหรอ)

              ฮิคารุเองก็ตามมาด้วยความระมัดระวังจนมาถึงตรงนี้ แต่ท่ามกลางความมืดก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยว่าจะกลับเมืองได้หรือเปล่า เพราะมันเป็นภายในภูเขาลึกแต่อลิซบอกว่าไม่เป็นไร แค่เดินเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆก็พอ 

              อลิซที่แยกกับฮิคารุมุ่งหน้าไปยังหินก้อนใหญ่ เธอรู้สึกกังวลที่จะต้องรายงานความล้มเหลวออกมาอย่างคลุมเครือ

              ฮิคารุใช้งาน “ลอบเร้น” อยู่ พอใช้ตาเนื้อดูตรงก้อนหินใหญ่ก็ไม่มีใครอยู่ แต่ “ตรวจจับพลังเวท” ของฮิคารุตอบสนองว่ามีใครอีกคนอยู่—-มันตอบสนองต่อคนที่ชื่อเคไค ทางนู้นเองก็ใช้งาน “ลอบเร้น” อยู่

              “……อลิซ กลับมาเร็วนะเนี่ย”

              “เหวอ!? อะ อาจารย์!? มาถึงแล้วหรือคะ”

             “จำเป็นต้องใช้ข้อมูลที่พวกเจ้าเอากลับมาไง—-แล้ว การสะกดรอยตามเป็นไงบ้าง? พบกราฟาสตี้ นุย วาล์วหรือเปล่า”

              “คะ ค่ะ เรื่องนั้นเขาอยู่ด้วยค่ะแต่……ตอนที่ลอบเข้าไปบนฝ้าก็โดนพบทันทีเลยค่ะ”

              “โดนพบงั้นเหรอ!? หมายความว่ายังไง เจ้า หรือว่า—-ไม่ได้ลบร่องลอยอย่างที่ข้าบอกไว้งั้นเหรอ?”

              “มะ ไม่ใช่นะคะ! ลบร่องรอยค่ะ! ลบร่องรอยแล้วลอบไปได้จนถึงเพดานฝ้าเลย! ภายในห้องนั้นมีกราฟาสตี้ นุย วาล์วและมาร์ควิสกล็อกชลูทอยู่อย่างที่ได้ยินมาก่อนหน้านี้ แล้วมีคนติดตามของกราฟาสตี้กับชายร่างบึกบึนผมบลอนด์ตัดผมเกรียนสามด้านอยู่ด้วยค่ะ”

              ฮิคารุตบมุกในใจว่าอย่าบอกว่าร่างบึกบึนสิ แล้วฮิคารุก็เข้าไปในจุดบอดของ “อาจารย์”

              “คนติดตาม—-ที่เป็นผู้หญิง กับชายร่างบึกบึนรู้ตัวก่อน ทำให้ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกัน……”

              “รอก่อน ไหนบอกรูปลักษณ์……ของชายร่างใหญ่มาที”

              “เอ๊ะ? เอ่อ ได้ค่ะ”

              อลิซอธิบายเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของลอวเรนซ์ ทั้งที่แทบจะไม่มีเวลาให้สังเกตมากนัก แถมยังต้องมองผ่านช่องเล็กๆของเพดานฝ้า ที่น่าจะมืดแท้ๆ แต่ก็ยังสังเกตได้ดี

              “โอ้ว……หมอนั่นลอวเรนซ์ ดี ฟาลคอนไม่ใช่เหรอ แถมยังมีชีวิตรอดกลับมาได้เนี่ย—-”

              “อาจารย์” รู้ได้ทันทีเลยว่าคนที่อยู่ในห้องคือลอวเรนซ์ แต่ช่วงเวลาถัดมา

              “ใคร!?”

              เขาชักดาบสั้นตรงเอวออกมา

              ตรงนั้น—-มีเด็กหนุ่มสวมหน้ากากสีเงินที่คลาย “ลอบเร้น” ยืนอยู่

              “นายสินะที่เป็นคนรวบรวมสายลับของควินแบรนด์?”

              เพียงพอแล้ว ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นแต่ฮิคารุตรวจสอบโซลบอร์ดของ “อาจารย์” ไปแล้ว

              มันเขียนเอาไว้เช่นนี้

 

              [โซลบอร์ด] อุลเค็น ฟี บาลซัก

              อายุ 211 ระดับ 51

              47 (ใช้ไปแล้ว 74)

 

              [พลังชีวิต]

                 [พลังฟื้นตัว] 2

                 [สตามิน่า] 5

                 [ภูมิคุ้มกัน]

                    [ต้านทานเวทมนตร์] 1

                 [ประสาทสัมผัส]

                    [การได้กลิ่น] 1

                    [การรับรส] 2

              [พลังเวท]

                 [ปริมาณพลังเวท] 6

              [พลังกาย]

                 [ปริมาณพลังกาย] 9

                 [ความชำนาญด้านอาวุธ]

                    [ดาบสั้น] 6

                    [ธนู] 3

                    [ขว้าง] 4

                    [เกราะ] 2

              [ความว่องไว]

                 [ลอบเร้น]

                    [อำพรางพลังชีวิต] 2

                    [อำพรางพลังเวท] 2

                    [อำพรางประสาทสัมผัส] 2

                       [อำพรางหมู่] 1

              [ความชำนาญ]

                 [ความชำนาญ] 3

                 [เชี่ยวชาญเครื่องมือ]

                    [เครื่องปรุงยา] 2

              [พลังจิตใจ]

                 [ความแข็งแกร่งของจิตใจ] 3

              [ลางสังหรณ์]

                 [ลางสังหรณ์] 4

                 [ตรวจจับ]

                    [ตรวจจับพลังชีวิต] 1

 

              ใช่แล้ว—-“อาจารย์” เคไคก็คือ

              “หัวหน้ากิลด์นักผจญภัยของพอนด์มาทำอะไรที่นี่?”

              อุลเค็นผู้สอนการชำแหละมอนสเตอร์ให้กับฮิคารุ

              มันเป็นไปอย่างที่ฮิคารุ “คาดการณ์” เอาไว้—-พอได้ฟัง “อาจารย์” จากอลิซแล้ว ก็นึกออกอยู่คนเดียวที่มีความสามารถลอบเร้นถึงขนาดนั้น

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

Status: Ongoing
ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท