อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ – ตอนที่ 131 ความผิดปกติที่ราชอาณาจักร

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

              หัวหน้ากลุ่มอัศวินของราขอาณาจักรพอนโซเนีย ลอวเรนซ์ ดี ฟาลคอนกำลังควบม้าด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ ถึงลอวเรนซ์จะร่างกายใหญ่กว่าคนอื่นเกือบเท่าตัวและมีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะอ้วนแต่เป็นกล้ามเนื้อที่เหมือนกับชุดเกราะของเขา

              ม้าที่จะรองรับน้ำหนักของลอวเรนซ์ได้ในพอนโซเนียมีไม่มาก เขาจะขี่ม้าอันยอดเยี่ยมนั้นเฉพาะช่วงสงครามเท่านั้น ลอวเรนซ์ที่ยกพลกองกำลังอัศวินมาเพื่อปราบมาร์ควิสกล็อกชลูทเองก็ถือว่าเป็น “ช่วงสงคราม” เช่นกัน เพราะอย่างนั้นเลยได้ม้าที่แข็งแกร่งเช่นนี้มา

              “หะ หะ หัวหน้า! ตามไม่ทันครับ!”

              “เหลือแค่พวกเรา 5 คนเท่านั้นแล้วครับ!”

              รอบตัวลอวเรนซ์เหลืออัศวินอยู่แค่ 5 คนเท่านั้น เป็นคนที่ลอวเรนซ์ตัดสินแล้วว่ามีความสามารถเป็นเลิศในกลุ่มอัศวิน

              “เร็วเข้า”

              ลองเรนซ์ตอบได้เพียงแค่นั้น มีเหตุผลที่ทำให้ต้องรีบขนาดนี้อยู่ หลังเสร็จสิ้นการเจรจาลับกับมาร์ควิสกล็อกชลูทและกลับมาถึงเมืองบีโรเวลก้าที่เหล่ากลุ่มอัศวินประจำการอยู่ วันรุ่งขึ้นมีราชโองการว่า—-“เกิดเหตุฉุกเฉิน ให้รีบกลับไปที่เมืองหลวง”

              ทำให้ต้องรวบรวมเหล่าอัศวินและรีบออกเดินทางจากเมืองบีโรเวลก้า

              (มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? หรือว่ารู้เรื่องที่ฉันไปพบกับมาร์ควิสกล็อกชลูทงั้นเหรอ……)

              ราชโองการที่ลงนามของราชาเขียนแค่ “กลับมา” เท่านั้น ผู้ส่งสารเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น

              ถ้าคิดจากระยะทางของเมืองหลวงมาบีโรเวลก้าแล้วละก็ ราชโองการที่ถูกส่งมาในวันรุ่งขึ้นคงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่แอบไปพบกับมาร์ควิสกล็อกชลูทเลยสักนิด

              กล่าวคือ มีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นที่เมืองหลวง

              นึกไม่ออกเลยว่า “อะไรสักอย่าง” ที่ว่าคืออะไร

              “เร็วเข้า ใกล้จะถึงแล้ว”

              ต่อให้เป็นม้าที่ยอดเยี่ยมแค่ไหน แต่ถ้าวิ่งต่อเนื่องเป็นระยะทางไกลยังไงก็ต้องเหนื่อย ม้าของอัศวินคนอื่นก็สับเปลี่ยนระหว่างทางไปแล้วหลายครั้ง ส่วนม้าของลอวเรนซ์ออกวิ่งตั้งแต่เมืองบีโรเวลก้าต้องบอกว่ามีความแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ

              ถึงสายตาของอัศวินที่ขี่ม้าอยู่จะดูเลื่อนลอย แต่ก็ได้สติกลับมาเพราะคำพูดของลอวเรนซ์

              เห็นเมืองหลวงที่ถูกย้อมไปด้วยสีแดงจากพระอาทิตย์ยามเย็น

              “โอ้ว หัวหน้ากลุ่มอัศวิน กลับมาเร็วมากเลยนะครับเนี่ย”

              คนที่มาต้อนรับลอวเรนซ์ซึ่งเดินเข้าไปในพระราชวังคือหัวหน้ามหาดเล็กคนสนิทของราชา

              เนื่องจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ทำให้นอกหน้าต่างนั้นมืด แต่ภายในท้องพระโรงใช้โคมไฟเวทมนตร์เป็นปกติ แสงจากโคมไฟเวทมนตร์ที่ให้ความรู้สึกเยือกเย็นส่องมาโดนลอวเรนซ์ที่เต็มไปด้วยฝุ่น ตรงด้านหลังมีเหล่าอัศวินที่เหงื่อโชก

              หัวหน้ามหาดเล็กยังแสดงท่าทีดูถูกผู้อื่นอยู่เล็กน้อย แต่สีหน้านั้นแสดงความ “ลำบากใจ” ออกมาอยู่

              “เกิดอะไรขึ้น ฝ่าบาทอยู่ที่ไหน”

              “อยู่ที่ห้องประชุม”

              “ประชุมเหรอ?”

              เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นกันแน่

              แต่—-ลอวเรนซ์คิดขึ้นมา

              กว่าจะมาถึงตรงนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ เป็นเมืองหลวงอย่างที่มันเคยเป็นมา ประชาชนยังอาศัยกันอย่างสงบสุข ถึงขนาดที่แสดงความประหลาดใจตอนที่เห็นลอวเรนซ์ควบม้ามาอย่างนี้เสียด้วยซ้ำ

              ภายในพระราชวังเองก็เงียบสงบ

              “อือ อัศวินคนอื่นๆ รออยู่ที่นั่นแล้ว”

              อัศวินอีก 3 คนที่พามาด้วยโดนหัวหน้ามหาดเล็กสั่งให้รออยู่ตรงหน้าห้องประชุม จริงๆแล้วอีสท์เป็นหนึ่งในสามคนนั้นด้วย อัศวินอิสท์ทำการฝึกฝนตัวเองอย่างเข้มงวดเพราะไม่สามารถหยุดการลอบสังหารเคานต์มอร์คสแตทได้ ด้วยความมุ่งมั่นอย่างนั้นทำให้ตามการเดินทัพที่หนักหนาขนาดนี้มาได้

              “ขออนุญาตครับ—-”

              พอลอวเรนซ์เข้าไปในห้องประชุม ก็ต้องหยุดอยู่ตรงนั้น

              (……นี่มัน เกิดอะไรขึ้น)

              โต๊ะและเก้าอี้ล้มระเนระนาด กระดาษที่อยู่ตรงพื้นเปื้อนไปด้วยเลือด

              ที่อยู่ในห้องมีจอมพล และรัฐมนตรีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น พวกเขานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ยังไม่ล้มด้วยสีหน้าตึงเครียด

              “ลอวเรนซ์กลับมาแล้วเหรอ”

              “โอ้ว! ถ้าเจ้ากลับมาฝ่าบาทคงเบาใจได้แล้ว”

              “เอาละ หัวหน้าอัศวิน เชิญทางนี้”

              หัวหน้ามหาดเล็กเดินนำไปทางที่พวกจอมพลอยู่ แต่หัวใจสำคัญอย่างราชากลับไม่อยู่ตรงนั้น

              “……ฝ่าบาท ล้มลงเพราะความเหนื่อยล้าทางจิตใจ”

              หัวหน้ามหาดเล็กพูดออกมาก่อนที่ลอวเรนซ์จะได้ถามออกไป

              “มันเกิดอะไรขึ้น? นอกปราสาทก็สงบสุขดี มีแต่ที่นี่เท่านั้นที่เหมือนโดนพายุซัด”

              “อืม ขอเล่าตั้งแต่ต้นเลยก็แล้วกัน”

              จอมพลเล่าออกมาดังนี้

              ตอนที่ลอวเรนซ์เริ่มออกเดินทางมาเมืองหลวง มี “การติดต่อ” มาถึงราชา พอราชาได้ยิน “การติดต่อ” นั้นถึงกับตื่นตระหนก และออกคำสั่งให้ตรวจสอบ “การติดต่อ” ว่าเป็นจริงหรือไม่ และจิตใจที่เคยสงบไปแล้วก็กลับมากังวลอีกครั้ง การประชุมในวันนี้ก็มีขึ้นเพื่อหารือเรื่องนั้น

              ดูเหมือน “คำสั่งถอนตัว” ที่ส่งให้กับลอวเรนซ์จะเกิดขึ้นเร็วมาก

              “แล้ว ‘การติดต่อ’ นั้นคืออะไร?”

              “อืม……”

              จอมพลชี้ไปยังเอกสารที่กระจายอยู่ตรงพื้น คงหมายถึงตำแหน่งที่มีเลือดหรือเปล่า

              “การประชุมนี้ ฝ่าบาทเรียกหน่วยพิเศษมา”

              “หน่วยพิเศษ? หมายถึงพวกป่าเถื่อนพวกนั้นนะเหรอ?”

              “ที่มาในวันนี้เป็นชายที่ดูเรียบร้อยพูดติดอ่าง—-แต่แววตาแฝงไปด้วยความอันตราย คนคนนั้นบอกว่า ‘ห้ามยุ่งกับผู้หญิงคนนั้น’ ครับ”

              “ผู้หญิง……พูดเรื่องอะไร”

              “ไม่รู้งั้เหรอ ลูกสาวของเคานต์มอร์คสแตทไง”

              “!”

              เกี่ยวกับลูกสาวของเคานต์มอร์คสแตท เห็นว่าเป็นผู้ต้องสงสัยในการสังหารเคานต์ และหายตัวไประหว่างส่งตัวมาที่เมืองหลวง—–

              จอมพลบอกว่า ลาเวีย ดี มอร์คสแตท เป็นผู้มีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์ที่หาได้ยาก

              “ดูเหมือนฝ่าบาทจะอยากได้พลังของผู้หญิงคนนั้น เห็นว่าเทียบเคียงกับผู้ใช้เวทมนตร์ในราชสำนักเลย……เพราะอย่างนั้นเลยให้หน่วยพิเศษตามหาลูกสาวของเคานต์มอร์คสแตท”

              “เรื่องการใช้งานหน่วยพิเศษเอาไว้แค่นั้น แล้วทำไมจนถึงตอนนี้ฝ่าบาทถึงไม่ประกาศข้อมูลนั้นออกมาล่ะ”

              “การหาตัวผู้หญิงประสบความสำเร็จ แต่ล้มเหลวในการพากลับมา โดยหน่วยพิเศษนั้นบอกว่า ‘มีเด็กหนุ่มที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่ออยู่ข้างผู้หญิงงคนนั้น’ แถมเป็น ‘คนที่มีความสามารถในการลบร่องรอยที่เหนือชั้น อาจจะมาเอาชีวิตของฝ่าบาทก็เป็นได้’ น่ะ”

              “…………”

              “ทันใดนั้นฝ่าบาททรงกริ้วจัด และต่อยชายคนนั้นหลายต่อหลายครั้งจนอยู่ในสภาพอย่างนี้”

              เด็กหนุ่มที่ลบร่องรอยได้เหนือชั้น……

              คิดออกอยู่แค่คนเดียว

              “เด็กหนุ่มคนนั้นชื่ออะไร?”

              “ไม่รู้เหมือนกัน เห็นบอกว่าตัวเองชื่อ ‘ซิลเวอร์เฟส’

              จะว่าไปเด็กหนุ่มคนนั้นก็สวมหน้ากากอยู่

              ไม่ผิดตัวแน่ๆ

              คนที่ตัวเองต่อสู้ในเมืองหลวงจนเกือบจะโดนฆ่า—-

              “เป็นอะไรไปเหรอลอวเรนซ์”

              “……เปล่า”

              ไม่มีใครรู้เรื่องการต่อสู้นั้นนอกจากคนในกลุ่มอัศวินกับองค์หญิงคูจัสเทรีย

              ถ้าบอกออกไป มีแต่จะทำให้เกิดความตื่นตระหนกมากขึ้น

              “ไม่มีอะไร แล้วตอนนี้ฝ่าบาทยังอยู่ในอาการสับสนงั้นเหรอ?”

              “อืม……น่าแปลกที่หวาดกลัวถึงขนาดนั้น ข้าเรียกให้ผู้ใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูขั้นสูงมาแล้ว เลยพอจะช่วยบรรเทาได้อยู่หรอก—-”

              “ท่านลอวเรนซ์ ท่านจอมพล”

              แล้วหัวหน้ามหาดเล็กก็เข้ามาแทรก

              “ฝ่าบาทมีความคิดที่จะให้ท่านลอวเรนซ์คอยเฝ้าระวังภายในปราสาท พอจะให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นก่อนได้หรือเปล่าครับ?”

              ถึงหัวหน้ามหาดเล็กไม่บอกก็จะทำอยู่แล้ว

              อาจมีโอกาสแก้มืออีกครั้งก็ได้

              “แน่นอน จะทำให้สุดความสามารถเลย—-”

              ตอนที่พูดออกไปเช่นนั้น

              มีข้ารับใช้คนหนึ่งวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในห้องประชุม

              “หะ หัวหน้ามหาดเล็ก!”

              “มีอะไร เกิดอะไรขึ้นกับฝ่าบาท?”

              จากการตอบสนองของหัวหน้ามหาดเล็ก ทำให้รู้ได้ว่าเป็นคนรับใช้ที่ให้อยู่ภายในห้องของราชา

              “ระ ระ เรื่องนั้น—-ฝะ ฝะ ฝ่าบาท ดะ โดน……ละ ลอบสังหาร จะ จนเสียชีวิตไปแล้วค่ะ……”

              หา?

              หลังจากที่บรรยากาศนั้นผ่านไป

              “รีบไป”

              ลอวเรนซ์วิ่งออกไปตรงระเบียง

              “เหล่าอัศวินที่เฝ้าอยู่ตรงระเบียง พอเห็นคนรับใช้วิ่งเข้าไปในห้องประชุมก็รู้ได้เลยว่าเกิดเหตุผิดปกติขึ้น

              “!!”

              “หัวหน้า!”

              “เกิดอะไรขึ้นหรือครับ!”

              “—-ตามมา”

              แม้จะเดินทางมาเป็นระยะไกล แต่พลังกายเหมือนจะไร้ที่สิ้นสุด ลอวเรนซ์ก้าวเท้าเดินด้วยระยะที่เหนือกว่าการเดินของคนทั่วไปเกือบเท่าตัว

              พอเข้าไปใกล้ห้องนอนของราชา ก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง และเสียงตะโกนของผู้คนดังขึ้น

              “ฝ่าบาท!!”

              ไม่มีทหารที่ควรเฝ้าอยู่หน้าห้อง

              พอเปิดประตูเข้าไปก็รู้เหตุผลได้ทันที—-ทหารยามที่ปกป้องห้องนอน โดนปาดคอล้มลงอยู่ภายในห้อง 

              คนรับใช้ทรุดอยู่กับพื้น ส่วนหมอเหงื่อท่วมตัว น่าจะเป็นหมอหลวงที่หัวหน้ามหาดเล็กพามา

              ลอวเรนซ์เดินเข้าไปในห้อง

              ตรงกลางเตียงขนาดใหญ่ ราชาหลับตาอยู่ เนื่องจากใส่ชุดนอนเลยดูเหมือนกับกำลังนอนหลับอยู่—-แต่ ตรงหน้าอกมีดาบสั้นปักอยู่

              สีแดงของเลือดซึมใส่ชุดนอนสีขาว

              “เสียชีวิตแล้วครับ……”

              หมอพูดเพียงแค่นั้น

              ลอวเรนซ์มองรอบๆห้อง

              หน้าต่างปิดอยู่—–พอเปิดหน้าต่างออกไป

              “หนีไปแล้วเหรอ”

              “หะ หัวหน้า มันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ!?”

              อีสท์ที่หายใจหอบเข้ามาภายในห้อง อัศวินคนอื่นๆ ถึงกับตกตะลึงที่ราชาโดนสังหาร

              “ดูจากมีดที่เสียบอยู่ตรงหน้าอกแล้ว เป็นของพวกมือสังหาร ตัวคมดาบทาสีดำเอาไว้เพื่อไม่ให้มองเห็นในเวลากลางคืน”

              “—-หรือว่า เด็กหนุ่มคนนั้นแอบลอบเข้ามาเหรอ?”

              อีสท์คิดถึงความเป็นไปได้นั้นขึ้นมาในทันที

              “ไม่รู้เหมือนกัน แต่ คิดว่าน่าจะยังหนีไปได้ไม่ไกล บางทีอาจจะลงไปทางหน้าต่าง”

              “ครับ—-หัวหน้า!?”

              ไม่แปลกที่อีสท์จะประหลาดใจ ลอวเรนซ์ปีนหน้าต่าง

              ด้านล่างเป็นสวนที่ไม่มีต้นไม้ แต่ก็สูงถึง 3 ชั้น

              “ฉันจะไล่ตามโจรไป พวกเจ้าไปตรวจสอบภายในปราสาทเผื่อเอาไว้ ใครใช้งานได้ก็ใช้ไปเลย—-เร็วเข้า!”

              “ครับ!!”

              แล้วลอวเรนซ์ก็กระโดดลงไป

              เพื่อไล่ตามมือสังหาร—-

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

Status: Ongoing
ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท