สกิลมหาปราชญ์ก็ไร้ค่า เมื่อไปต่างโลกกลางป่าของเหล่ามอนสเตอร์ – บทที่ 2.2

สกิลมหาปราชญ์ก็ไร้ค่า เมื่อไปต่างโลกกลางป่าของเหล่ามอนสเตอร์

รู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงนกเสียงกาปลุก ไร้ซึ่งเสียงจากนาฬิกาปลุกตามควร  ก็นะที่นี่คือต่างโลก 

ผมตื่นขึ้นมาแบบสะรึมสะลือ มองไปที่ข้างล่าง

“ไม่อยู่แหะ”

สไลม์จอมเซ้าซี้ไม่อยู่แล้ว

ผมยิ้มอ่อนๆ และมองเช็คพื้นที่ข้างล่าง

“ไม่มีใครเลย ไม่มีมอนสเตอร์เลย”

จังหวะนั้นท้องก็ร้องพอดี

ต้องหาอาหาร

ผมถูกความหิวครอบนำ จนขยับร่างตัวเองลงไปข้างล่างทันทีด้วยความรวดเร็ว ประหนึ่งลิงกันต์ และไม่ได้หวาดกลัวภัยอันตรายมากนัก ทั้งที่พึ่งเฉียดตายมาเมื่อคืนแท้ๆ อาจจะเป็นเพราะ หิว ใช่ หิวเอามากๆเลยละ

เมื่อลงมาแล้วจึงนึกได้ว่าจะหาของกินยังไง

ไม่รู้หรอก ไม่รู้อะไรทั้งนั้น แต่ผมจะเลือกเดินๆไปก่อน

ที่นี่คือป้าชื้น มันน่ากลัวมาก มีตัวอะไรไม่รู้เดินอยู่ตามพื้นตลอด แต่น่ากลัวน้อยกว่าเมื่อคืนมาก ที่สำคัญเห็นชัดแจ๋วด้วยไร้ซึ่งพิษไร้ซึ่งภัย ..ดีจริงๆที่พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ตอนเช้านี่มันเยี่ยมจริงๆ 

เป็นครั้งแรกเลยที่ผมรู้สึกรักตอนเช้ามากกว่าตอนกลางคืน ผมไม่ได้กลัวผีแท้ๆ แต่ไม่ชอบเลยตอนกลางคืนของที่นี่น่ะ นี่คงจะเป็นความรู้สึกของมนุษย์ในยุคที่ไม่มีแสงไฟให้กระมัง

เอาเถอะ ยังไงก็ช่าง นี่มันตอนเช้าไม่ใช่ตอนกลางคืน ผมน่าจะทำอะไรได้บ้างแหละน่า

ผมเดินต่อไปจนมาหยุดอยู่ที่ที่แสงมันส่องมาเยอะที่สุด …ธารน้ำละ

ตรงหน้าผมมีธารน้ำไหลผ่านยาวไป เป็นธารน้ำที่ตื้นมาก

“สวยจัง”

น้ำใสมากจนเห็นพื้นหมดเลย มีหินสวยๆเต็มไปหมดด้วย

“ธรรมชาติช่างสวยงาม”

ผมอารมณ์ดีขึ้นมาจับใจ ก่อนจะถอดรองเท้าแต๊ะ และเอาเท้าลงไปแตะในน้ำ …เย็นมาก

“สุดยอด …เจ๋งมาก”

รู้สึกดีสุดๆเลย ไม่รู้สึกน่าขยะแขยงเหมือนสัมผัสไอ้ก้อนโลหะสีเหลืองบนแขนของผมเลย

ผมยิ้มร่าแล้ววิ่งตามน้ำไปเรื่อยๆ—–ก่อนจะลื่น เพราะพื้นต่างระดับ

โชคยังดีที่พยุงร่างกายตัวเองไว้ได้ทัน ธารน้ำไม่ได้ตื้นแหละ ตรวจพบข้อมูลใหม่

“เกือบแล้ว…ที่นี่มันไว้ใจอะไรได้บ้างเนี่ย”

ผมทำหน้าแหยง และก้มมองไปที่พื้นต่างระดับ—อย่างลึกเลย

แล้วก็มีปลาไหลผ่านไปมาเยอะมาก แล้วก็เร็วมากด้วย เกิดจ้องไปนานๆมีหวังสายตาเลืองลางแหง

“ปลา”

ปลา = อาหาร

ผมใช้มือเข้าไปคว้าในน้ำลึกๆโดยให้ส่วนหลังตัวเองตรึงกับพื้นที่ขาเหยียบถึงไว้—–เว้าแดกตามคาด

เร็วเกินไปแล้วเฟ้ย

“นี่แหงะ นี่แหงะ นี่แหงะ!”

ไม่โดน ไม่โดน ไม่โดน!

“ทำไมมันเร็วอย่างนี้ละหว้า!”

ผมจับอีกรอบแล้วก็โดนเต็มเป้า—–

“—สำเร็จ”

ยกมือขึ้นมาบนฟ้าแต่ทันใดนั้น—ปลามันก็กัดมือผมแทน

“—-อ๊ากกกกกก!!!!!!!!!!”

เจ็บประหนึ่งโดนหมากัด

ผมสะบัดมือรัวๆจนปลามันกระเด็นออกไป

ผมหันหลังย้อนกลับแล้วใส่เกียร์หมาไปตรงพื้นดิน แล้วก็นั่งยองกับพื้นดูมือที่ซึ่งมีแผลกัดเป็นรอยชัด โชคดีที่ไม่ถึงกับเลือดพุ่ง

อา…ปลาพันธุ์อะไรวะเนี่ย

ผมลูบแผลของตัวเองด้วยใบหน้าที่มองสิ่งน่าสงสาร รันทดยิ่งนัก อดิเทพ กรงจักร รันทดยิ่งนักตัวผม

“หิวก็หิว พวกเหยื่อก็ดันดุโคตรอีก”

จะชนะต้องทำยังไง

ผมครุ่นคิด ก่อนจะไปเจอท่อนไม้เรียวๆที่ดูแหลม

…ลองดูสักตั้งดีกว่า

“นี่แหงะ นี่แหงะ นี่แหงะ!”

ไม่โดน ไม่โดน ไม่โดน!

ผมไปยืนเอาท่อนไม้ที่เหมือนกับหอกไปแทงน้ำหาปลา แต่ก็ไม่โดนเลยสักตัว

“ไอบ้าเอ้ย!”

ผมปาหอกลงในน้ำสุดแรงเกิด——แล้วหอกก็ย้อนกลับขึ้นมาบนฟ้า

เสี่ยวหน้าผมไปหน่อยเดียวเอง

…อย่ามา…อย่า..มา..อย่ามาล้อเล่นกันนะ

ผมห่อหลัง เดินกลับไปนั่งพื้นดิน และแหงนหน้ามองพระอาทิตย์ที่ขึ้นถึงกลางฟ้า หรือเที่ยงตรง

ท้องเราว่างอาหารมากี่ชั่วโมงแล้วนา…เป็นวันได้แล้วมั้ง

“หิวชะมัด หิวจริงๆ”

ความหิวมันเหน็บหนาวขนาดนี้เชียวหรือ? ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยเพราะในโลก ประเทศไทยของผมมันเต็มไปด้วยร้านอาหาร ไม่ได้ไม่มีตังค์ขนาดต้องอดมือกินมื้อด้วย เลยไม่เคยมีปัญหาแบบนี้เลย  …ถ้าเกิดจู่ๆผมหิวเครียดจนหัวเปลี่ยนสีเป็นสีขาว แล้วเทพขึ้นมาไล่กระทืบมอนสเตอร์เวรนั่นให้หมด…เอาละ หิวเครียดดีกว่าเรา

ผมนั่งกอดเข่ารอ..ผ่านไปได้แค่สามนาทีก็ทนไม่ไหว

“หิวโว้ย!!!!!”

ผมหยิบหอกไม้ข้างๆขึ้นมา และวิ่งไปแทงน้ำรัวๆเหมือนเดิม ผมได้เรียนรู้แล้วว่าห้ามปาลงไปในน้ำเด็ดขาดไม่นั้นพวกเวรนั่นจะดีดหอกกลับมา เพราะฉะนั้นแค่แทงๆให้จบก็พอ

กลไกที่ดีดได้คงเป็นพื้นน้ำมากกว่า ไม่ใช่ความสามารถของปลาหรอก

พอคิดอย่างนั้นจู่ๆมันก็ดีดย้อนกลับใส่หน้าผม

“ตาตูวววว!!!!”

ผมล้มลงกับพื้นน้ำและเหมือนจะโดนดูดลงไปในน้ำ

มองไปดีๆก็พบว่ามีปลาที่ตัวใหญ่เท่าขาเป็นลายสีสันต์สวยงาม แล้วก็น่ารักหน่อยๆ อย่างกับปลาการ์ตูน ทว่ามันกำลังดูดปลายกางเกงผมอยู่

“—-ปล่อยนะ ปล่อย!”

ผมถีบปลารัวๆ กลับกลายเป็นว่ามันมาดูดขาผมแทน

“หยุดนะไอ้ปลาการ์ตูนนี่!”

ตูไม่อยากตายเพราะปลาการ์ตูนหรอกนะเฟ้ย!!!!!

ผมหยิบหอกมาแทงใส่ปลารัวๆ เพราะมันดูดขาผมอยู่เลยแทงโดนไปเต็มๆ

 ….บุ๋มๆๆๆๆ

….บุ๋มๆๆๆๆ

“ปล่อยตูซะ!!!!!!”

ผมแทงอยู่อย่างนั้นหลายนาทีได้

 

ปลาค่อยๆปล่อยปากออกจากขาของผม แต่เพราะตัวติดกับหอกของผมอยู่ ร่างไร้การตอบสนองนั่นเลยไม่ได้ไหลไปกับธารน้ำ

มันหยุดลงแล้ว..ผมฆ่ามอนสเตอร์เป็นตัวแรก

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วผ่อนแรงแขนตัวเอง ทันใดนั้นหอกของผมก็หักด้วยแรงกัดย้อนกลับของปลาการ์ตูน—–มันลอยขึ้นไปบนฟ้า และหล่นลงน้ำ

….หา?

ปลามันยังไม่ตาย มันแค่แกล้งตายเท่านั้น …แสนรู้ชะมัด

“ฉลาดกว่าตูอีกมั้ง”

ผมเกาหัวตัวเองอย่าง งงๆ แล้วลุกขึ้นยืนแล้วเดินเซไปตรงพื้นดินอีกคราว จากนั้นก็นั่งกอดเข่าต่อ

..ทำยังไงต่อดีนะ เสียทั้งแรงกาย และแรงใจไปเกือบจะหมดแล้วในเวลาเพียงไม่กี่นาที

ได้แต่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่พระอาทิตย์ขึ้นตรงเจิดจ้า แสบตาชะมัด

ว่าแล้วผมก็หลับตาก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออก

“เดี่ยวก่อนนะ”

ผมลืมตาขึ้นมาแล้วจ้องไปที่ก้อนสีเหลืองประหลาด แล้วก็แตะที่มันปรากฏให้เห็นตารางคราฟประหลาด

คราฟ…ผมนึกไปถึงเรื่องเมื่อไม่นานมานี้ ตอนที่วิ่งหนีสไลม์จู่ๆก็มีโล่ไม้ออกมากันตัวผม 

ทำไมมันถึงมีออกมาได้กัน? ไม่มีเวลาให้คิดเลยตั้งแต่มาที่นี่

ผมนึกถึงเรื่องต่างๆ แล้วลองเอามือสัมผัสหอกที่หักข้างตัว

—มีคลื่นประหลาดเกิดขึ้น มันดูดหอกไม้จำลองเข้าไปจนหายสนิท

พอมองไปที่ตารางอีกครั้งก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง 

‘16/50’ —-แล้วก็มีอีกส่วนเป็น ‘9/25’ มันลดลงไป16หน่วย 

ตอนนั้นเองก็มีแสงปรากฏบนภาพของคราฟสีเทา มีแสงไอเทมมากมายลอยเข้ามาในหน้าผม มันไม่ได้เข้ามาในรูปแบบที่ภาพมาผ่านไป

ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี…ทุกอย่างมันสลักมาในหัว ผมสามารถเข้าใจทุกอย่างเป็นร้อยๆได้ไม่ยาก

นี่มัน…สุดยอดพลังแฝง?

ทันใดนั้นผมก็แสยะยิ้มออกมา แล้วก็ยกนิ้วขึ้นฟ้าราวกับท้าทายสวรรค์ เป็นการโพสต์ท่าที่แสนน่าอาย

จะให้ใครเห็นไม่ได้เด็ดข่าด—ตามปกติอะนะ

“พูดถึงต่างโลก ก็ต้องสกิลสุดเทพละนะ อืม เข้าใจได้ เข้าใจดีเลย แบบนี้สิดี พลังการสร้างนั้นสินะ อือๆ ดูโกงใช่เล่น”

เหนือกว่า oooooo หรือ oooooo ซะอีกตัวผมน่ะ

ต่อมจูนิเบียวมันถูกกระตุ้นแล้ว 

อา เรานี่มันไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆด้วย

“เพราะว่าตูข้าเป็นมหาปราชญ์…ใช่ มหาปราชญ์ผู้สร้างไงเล่า!!”

ผมยกนิ้วขึ้นฟ้าไปแตะกับตารางคราฟ————-ทันใดนั้นกล่องไม้ก็หล่นลงมาข้างล่าง..

….

…แค่นั้นแหละ

“นั่นสินะ พูดถึงคราฟมันก็แค่คราฟง่ายๆ แบบมายคราฟไรงี้ ประมาณว่าดูดไม้เข้าไปแล้วคราฟของนี่เอง แต่”

มันมีมานาจำกัดอยู่มั้งนะ พอผมดูดไม้เข้าตรงขวาบนก็เปลี่ยนจาก ‘25/25’ ——ไป ‘9/25’  มีเวลารีโหลดด้วย

“…ใช้ง่ายดีแหะ แต่”

มันเก่งรึนี่?

ไม่รู้ดิ

ผมเกาหัวหงึกๆ และหิ้วไม้นั่นไว้ตรงอ้อมกอด ตรงดิ่งตามธารน้ำ ส่วนที่พื้นต่างระดับ และเปิดกล่องไม้อ้าให้ปลาวิ่งผ่านมาเอง

“…ก็ดูสะดวกดีนี่นะ”

สักพักก็จับปลาได้ชิลๆแล้ว

แต่ทุกอย่างเร็วมากและดูโคตรจะเรียบง่าย จะว่าไงดีละ 

“ดูง่อยชะมัด”

แทนที่จะเรียกว่ามหาปราชญ์ เรียกว่าภูมิปัญญาชาวบ้านน่าจะเข้าเค้ากว่ารึเปล่านะ

พูดจบผมก็ปิดกล่องที่มีปลาอยู่แล้วเดินขึ้นบกอย่างงงนวย แล้วก็เข้าป่ากลับยันที่เดิม

เกือบจะหลงแล้วละ แต่พอจำทางได้อยู่

“คราวหลังต้องทำเครื่องหมายกันหลงด้วยสินะ ..อ๊ะ”

จู่ๆก็มีตัวอะไรไม่รู้มาชุกกระซากกล่องไม้ของผม

“–เห้ย เห้ย!”

ตัวอะไรไม่รู้

แค่พริบตาเดียวร่างผมก็กระเด็นหน้าจุ่มพื้นดิน แต่มีหรือที่จะยอมปล่อยกล่องไม้ที่ถูกกระซากไปง่ายๆ

ผมเงยหน้าที่เปื้อนดินขึ้นมาดูอย่างเคียดแค้น เวลาที่โมโหหิว คนเราจะกลายร่างเป็นสัตว์ร้ายได้—–ปรากฏว่า นกตัวใหญ่เท่าคนกำลังแย่งกล่องไม้ของผมไป

พลันใดนั้นผมก็หน้าซีกเผือกด้วยความผวา เนื่องจากรูปลักษณ์ที่น่ากลัวสมกับเป็นสัตว์ประหลาด สมกับเป็นต่างโลกที่มีสไลม์สุดโหด

ทว่า—–มือนี้จะไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด!!! ผมพุ่งตัวจับปลายกล่อง และออกแรงดึงสุดแรงเกิด

อย่างที่บอกว่าผมเองก็กลายร่างเป็นสัตว์ร้ายแล้วเหมือนกัน ไอนกสารเลวนั่น มันคิดว่าปลานี่กว่าจะได้มา ผมต้องแลกด้วยน้ำตากี่หยดกันหะ?

“เกือบตายเชียวนะ ตูเกือบตายเพราะไปจับปลาเชียวนะ เกือบลื่นจมน้ำด้วย โดนปลาดูดขาจนเผลอคิดมาจริงๆว่า ‘ต้องตายแล้วสิ’ ด้วย! แกคิดว่าความพยายามของฉันคืออะไรกันน่ะหะ!? ปล่อยนะโว้ย!!!!”

ผมไม่ยอมให้มันได้ไปเด็ดขาด

“ปล่อยได้แล้ว!!!!!”

ผมชนะแรงเจ้านกร้ายได้ ได้รับกล่องไม้กลับคืนมา

ภาพทุกอย่างช้าลงประหนึ่งเวลาตายของใครสักคน …อาหารของผม ปลามันกำลังจะเข้าสู่อ้อมอกของผม ผมอ้าแขนรับไปตรงๆ และเบิกตาดูปลาสุดที่รัก

น่าเศร้าที่สิ่งที่พบดันเป็นนกยักษ์ตัวตะกี้นี้

‘อ้าาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!!!!!!!!’ เสียงกรี๊ดประหลาดดังขึ้นพร้อมกับสายลมที่พัดทุกอย่างกระเจิง ไม่เว้นกระทั่งร่างของผม

“—-เหวออออ”

ร่างของผมลอยไปกระแทกกับพื้นห่างไปราวสิบเมตร โชคทีที่ไม่ได้ลอยสูงมากไม่นั้นร่างผมแหลกไปแล้ว

“…อะไรกัน”

เมื่อรู้สึกตัวได้นกก็บินผ่านหัวไปโดยที่ตั้งตัวไม่ทัน

มันหนีเพราะสัมผัสได้ถึงความอันตรายของผมสินะ ..ไม่สิ เพราะเป้าหมายของมันสำเร็จแล้วต่างหาก ปลาทั้งหมดของผมบินขึ้นไปพร้อมกับมัน

ผมลุกขึ้นยืนอย่างทุรักทุเร พร้อมกับเผชิญภาพตรงหน้าที่ว่างเปล่า เหลือแต่กล่องอันว่างเปล่า ซ้ำร้ายกล่องยังพังอีกด้วย

“นกบ้า”

ผมเดินเข้าไปหยิบกล่องหักๆนั่นมาหิ้ว ไม่นานความหิวก็ย้อนมาอีกคราว

“ไม่ไหวแล้ว อีแบบนี้น่ะ”

ผมกุมท้องของตัวเอง มันร้องไม่หยุดเลยประหนึ่งเด็กที่ร้องหิวข้าว ใช่ เด็กน้อยแบบผมกำลังหิวข้าวแล้ว

ถ้ามีพ่อหรือแม่เดินมารีบทำไข่เจียวให้คงดีนะ หรือว่าเข้ามายัดเงินให้สักร้อยบาทไปซื้อข้าวก็ดี

ผมเดินไม่หยุดแล้วคิดอะไรในหัวมั่วชั่ว ทุกอย่างมันหน่วงไปหมดเลย

ก่อนที่ผมจะมาหยุดอยู่ที่เห็ดมากมาย

“ของกิน…เห็ด”

เห็ด = ของกิน

ไม่รอช้าผมจับเข้าปากทันที แล้วก็เกิดหลับไปเพราะอะไรไม่รู้

ยังกินไม่อิ่มเลยแท้ๆ 

 

****

ผมฝันเห็นอะไรบางอย่าง อะไรบางอย่างผ่านไปผ่านมา …พลังแฝงใช่ นั่นน่าจะเป็นพลังแฝงแหละ ตัวผมกำลังจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับพลังใหม่

พอคิดเช่นนั้นทุกอย่างก็สลายไปด้วยตัวลิงที่วิ่งผ่านหน้าไป

ฝูงลิงมากมายวิ่งตัดหน้าผมไป จู่ๆลิงก็ค่อยๆพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนสุดท้ายก็กลายเป็นตัวผม

ตัวผม=ลิง ไม่สิ…จนปัจจุบันนี้

“ความเป็นลิงของผม จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่หายไปสักหน่อย”

….ผมยิ้มพึมพำกับตัวเองอย่างพึงพอใจ ในห้วงเวลานั้นพ่อและแม่ก็โผล่มา น้องชายก็ด้วย ทุกคนยกนิ้วโป้งให้ผมอย่างภาคภูมิใจ

‘ ‘ ‘สู้ต่อไปนะ’ ’ ’ ทุกคนพูดให้กำลังใจผม

—–ครับ ผมจะไม่ยอมแพ้

ผมหันหลังให้พวกเขาและออกวิ่งอีกครั้ง—-

——ผมตื่นจากฝันร้ายได้สักที

“..อา ปวดหลังชะมัด”

ฝันก็แปลกด้วย ชีวิตเหนอชีวิต

ผมพยุงร่างกายตัวเองขึ้นมา แล้วก็ภาพแรกที่เห็น—ผมรีบฟุ้บตัวลงกับพื้นทันที

“แม่ย้อยยยยยยยย เชี่ยแล้ว เชี่ยแล้ว!!”

เมื่อตะกี้ หลังพุ่มไม้ที่ผมอยู่ เจ้าก้อนของเหลวสีฟ้า ‘สไลม์’ มันกำลังโดดดึ๋งๆผ่านหน้าไป 

สุดยอดตัวอันตรายในต่างโลกนี้กำลังอยู่ในระยะเผาขน มันต่างกับเมื่อวันก่อนด้วยที่มีต้นไม้ และพื้นดินครุคระขวางสไลม์ตลอด 

ถ้าเป็นพื้นที่ว่างแบบนี้สไลม์มันวันซ็อตผมได้เลยมั้งเนี่ย ตายแหงๆ

“DAM! คุณจอนผมควรทำยังไงดี”

ไม่ได้เอาสมุดบันทึกมาอีกด้วย แต่ถึงจะเอามาก็ไม่ได้แปลว่าจะแปลออกได้ในทันทีอีก

“ฮึย”

สไลม์ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ—ต้องออกวิ่งแล้ว

ช่วงที่กำลังจะหันหลังโกยหนี แล้วไปตายเอาดาบหน้าทีหลัง—–จู่ๆก็มีเสียงร้องของอะไรบางอย่างดังขึ้น

‘อว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!’ 

 

เสียงร้องประหนึ่งผู้อยู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร เสียงดูน่าเกรงขามมากเหมือนกับเสียงของทีเร็กซ์ในหนัง จูราoิกoาร์ค  

เผอิญตัวผมนั้นต่ำต้อยมากๆด้วยเลยทำให้ขาที่เตรียมวิ่ง ทรุดลงกับพื้น แล้วหันหลังกลับมาดูเพราะขาไม่สามารถขยับได้แล้ว

“ไม่ไหวแล้วโว้ย!!!! มันจะเชี่ยไรนักหนาวะ!!! ทำไมต้องมีอะไรมาขัดกันตลอดเลยฟร้ะ!!!!”

แม้จะโหวกเหวกโวยวายอย่างไม่สนโลกไปเช่นนั้นสไลม์ก็ไม่เห็นผมอยู่ดี …คงจะสนใจเจ้าของเสียงนั่นอยู่สิท่า ก็นะ ผมมันไม่ได้ดีเด่อะไรนี่นา ก็แค่มนุษย์หน้าโง่ที่มีแค่สกิลคราฟหน้าโง่ สเกลระดับภูมิปัญญาชาวบ้าน กะอีแค่ปลาตัวเดียวก็ยังชนะไม่ได้ แถมยังโดนนกปล้นความพยายามเลือดตาแทบกระเด็นไปแบบง่ายๆอีก ตอบโต้ก็ไม่ได้ ได้แต่ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างกับพวกขี้แพ้

เออ ใช่ ผมมันก็เป็นแค่ไอกระจอกของโลกใบนี้ไงเล่า! เทพสุดในต่างโลกบ้าอะไรกัน ..แม่มเอ้ย!

ผมที่หงุดหงิดสุดขีดลุกขึ้นไปดูเจ้าสไลม์และเจ้าของเสียงตะกี้นี้

ด้วยความเกรี้ยวกราดทำให้ลืมความกลัวไปสนิท—–

‘อว้ากกกกกกกกกก’

เจ้าของเสียงอันน่าเกรงขามนั่นคือหมียักษ์ สูงราว 8 เมตรได้ เลือนร่างสีแดงเข้ม เต็มไปด้วยบาดแผลซึ่งดูเป็นเหรียญตราเกียรติยศมากเสียกว่าความอับอาย

สุดจะแข็งแกร่ง หมียักษ์นั่น

ทำให้ความห้าวของผมตะกี้นี้ปลิวหายไปกับสายลมเลย ผมปลิวไปกับลม แล้วก้มลงแอบหลังพุ่มไม้ต่ออย่างเจียมตัว 

ผมพยายามหาที่แอบเพื่อดูการต่อสู้นี้ต่อโดยอยู่ในฐานที่ไม่ให้ผมมีอันตรายใดๆ

ถึงแม้หมีจะเปล่งเสียงที่น่าหวาดกลัวออกมา แต่สไลม์ไม่ได้สะเทือนแม้แต่น้อย

หรือว่ามันไม่ฉลาดกันนะ? สไลม์ยิ่งเป็นพวกดูมึนๆไม่รู้เรื่องอยู่ด้วย คงไม่รู้ตัวสิท่าว่ากำลังเจอบิ๊กบอสเข้าให้แล้ว ถึงก่อนหน้านี้ผมจะคิดว่ามันคือเจ้าป่าก็เถอะ แต่ช่วยไม่ได้นี่ ของผมมันกรณีพิเศษ มดแบบผม จะหมา หรือเสือก็โดนบี้เละได้ไม่ต่างกันหรอก

ไม่นานความสงสัยของผมก็ได้หายไปด้วย

แรงอัดลมเกิดขึ้นเบื้องหน้า

นั่นคือการพุ่งเข้าใส่ของหมียักษ์สีเลือด 

“แค่พุ่งก็ขนาดนี้แล้ว …ลาก่อนนะ สไลม์” ผมพนมมือให้

ภาพตรงหน้าย้ำความกระจอกของผมเข้าไปอีก สไลม์ที่แพ้หมี ผมที่แพ้สไลม์ แล้วก็อื่นๆ ..เหอะๆ

การต่อสู้จบแล้ว ได้เวลากลับ…

ตู้ม!!!!!! เสียงสะเทือนดังสนั่นทั่วทั้งป่า พร้อมกับร่างของหมียักษ์ที่ปลิวกระเด็น

“——ฮึย!”

สไลม์ที่ควรจะเละ พุ่งมาจากพื้นกระแทกหน้าหมีเน้นๆ จากนั้นก็ลอยอยู่บนฟ้า หมีไม่ได้รอช้ามันไม่ยอมให้ตัวเองปลิวกระเด็นโง่ๆแล้วพุ่งย้อนใส่อีกรอบ สไลม์เองก็พุ่งหลบและพุ่งเข้าใส่กันรัวๆ

หมียักษ์อ้าปากและงาบอากาศรัวๆ ตามตัวสไลม์ไม่ถูก จากนั้นก็ถูกสไลม์พุ่งเข้าใส่รัวๆ มันสะท้อนไปมากับพื้นและตัวหมีเหมือนกับตอนที่ไล่ล่าผมเมื่อคืนไม่มีผิด …เกินไปแล้ว

ผมอ้าปากพะงาบๆ เฝ้าดูการต่อสู้อันหลุดโลกนั่น

ทั้งสองผลักไปผลักมา ออกอาวุธกันอย่างไม่คิดชีวิตแต่สุดท้ายแล้ว…ผู้ชนะก็คือสไลม์

สุดท้ายหมียักษ์ก็ค่อยๆถูกสไลม์ดูดเข้าไปข้างในตัว แม้ว่าจะดิ้นแค่ไหนก็ไม่อาจหลุดไปได้ จากที่ยังดิ้นสู้ได้ หมีก็หยุดนิ่งลง และสิ้นชีพ

ผมหุบปากที่อ้าค้างเอาไว้ และเดินออกมาจากพุ้มไม้ ชี้นิ้วใส่สไลม์

“สไลม์?”

ดูเหมือนผมจะเข้าใจผิดไปเรื่องหนึ่ง

“เจ้าป่า”

—ไม่ใช่เจ้าหมีนั่น แต่เป็นสไลม์ต่างหาก ผู้ที่อยู่เหนือจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารน่ะ

นี่แหละคือสิ่งที่ผมพึงจะรู้ได้ในเวลานั้น

ผมออกวิ่งกลับไปยันที่เดิม โดยหวังว่าสไลม์มันจะกินช้าจนตามผมไม่ทัน

เจ้าถิ่นของที่แห่งนี้คือ ‘สไลม์’ นั่นเอง

สกิลมหาปราชญ์ก็ไร้ค่า เมื่อไปต่างโลกกลางป่าของเหล่ามอนสเตอร์

สกิลมหาปราชญ์ก็ไร้ค่า เมื่อไปต่างโลกกลางป่าของเหล่ามอนสเตอร์

Status: Ongoing
อดิเทพ กรงจักร ผู้หายใจรดไปวันๆกับชีวิตของตัวเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้ถูกนำพาสู่ต่างโลก พร้อมด้วยความสามารถประหลาดที่เขาตั้งชื่อมันว่า มหาปราชญ์

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท