บทที่ 723 ความสามารถพิเศษ ข้ารอดูว่าท่านยังจะกล้าดูแคลนข้าอีกหรือไม่!
เริ่นลู่หัวเราะออกมาจริง ๆ แม้ใบหน้าของเขาจะบวมเสียยิ่งกว่าหัวหมู ทว่าเขาก็ยังคงหัวเราะอยู่
ชาวพื้นเมืองเล่นตลกอันใดกันอยู่ ยังจะทำท่าทางเสแสร้งอีก
หนึ่งในสิบตระกูลแข็งแกร่งของแดนเซียน ใช่สิ่งที่สิ่งมีชีวิตหมื่นอาณาจักรจะสามารถหยุดยั้งได้อย่างนั้นหรือ? เป็นเพียงแค่อาณาจักรอันแสนต่ำต้อย แม้จะมีเรื่องชวนประหลาดใจอยู่บ้าง แต่จะแปลกประหลาดได้มากสักเพียงใดกันเชียว?
แดนบรรพโกลาหลยังไม่ปรากฏออกมาจริง ๆ แม้ว่าอาณาจักรแห่งนี้จะได้รับผลประโยชน์บางส่วนมาล่วงหน้า ก็จะต้องได้รับอย่างมีจำกัด
นอกจากนี้แล้ว ระยะเวลายังสั้นจนเกินไป ผลสำฤทธิ์ของอาณาจักรแห่งนี้ย่อมจะต้องไม่สูงมากนัก
พวกเขาเป็นถึงสิบอันดับแรกของแดนเซียน มีรากฐานลึกล้ำและยอดฝีมืออีกจำนวนนับไม่ถ้วน หากไม่สามารถจัดการแม้แต่ชนพื้นเมืองของอาณาจักรนี้ได้ ตระกูลเริ่นของพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องดำรงอยู่แล้ว!
“ดูแคลนตระกูลอวี๋ของพวกข้างั้นหรือ? หนึ่งในห้าสิบตระกูลแข็งแกร่งของแดนเซียนคือสิ่งใดพวกเจ้าเข้าใจหรือไม่? อย่าว่าแต่ห้าสิบอันดับเลย กระทั่งร้อยอันดับแรกในแดนเซียนก็สามารถทำลายอาณาจักรของพวกเจ้าให้ย่อยยับ และสังหารพวกเจ้าทั้งหมดได้!”
อวี๋ฮวนสาปแช่งออกมาด้วยความเกลียดชัง ใบหน้าทั้งหมดของเขาถูกเตะจนเละ ความคับแค้นในใจพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด!
ทว่าในตอนนั้นเอง เสียงของเขายังไม่จางหายดี ก็มีคนถูกโยนออกมาจากด้านในอาณาจักร!
“พี่ฮุย?”
อวี๋ฮวนชะงัก ผู้ที่ถูกโยนออกมาร่วงหล่นอยู่บริเวณข้างกายของเขา
เขาจำคนผู้นี้ได้ นี่คืออวี๋ฮุย มาจากตระกูลเดียวกับเขา
“นี่มันเรื่องบ้าอันใดกัน!”
เมื่ออวี๋ฮุยเห็นอวี๋ฮวนก็ตกใจเสียจนเตะซ้ำเข้าใส่ใบหน้าของอวี๋ฮวนจนลอยกระเด็นไปอีกด้าน
ใบหน้านั้นคือใบหน้า ‘ผี’ เนื้อหนังเละเทะอาบไปด้วยเลือด ตอนนี้เขายังไม่อาจสงบอารมณ์ตื่นตกใจลงได้ หัวใจเต้นกระหน่ำรุนแรง
เขาไม่เคยพานพบใบหน้าที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน!
อีกทั้งใบหน้าของ ‘ผี’ ยังอยู่ใกล้เขาเป็นอย่างมาก!
“พี่ฮุยนี้ข้าเอง อวี๋ฮวน เสี่ยวฮวน!”
อวี๋ฮวนร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด ถูกประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนเตะใบหน้าก็แล้วไปเถิด ทว่าเขายังโดนพี่น้องจากตระกูลเดียวกันเตะซ้ำเข้าใบหน้า ใครเล่าจะน่าเวทนาได้เท่าเขาอีก?
เขาช่างน่าเวทนาเกินไปแล้ว!
อวี๋ฮุยขมวดคิ้ว เสียงนี้ฟังแล้วก็ดูเหมือนจะเป็นเสียงของอวี๋ฮวนจริง
“เป็นเจ้าจริงหรือ? เหตุใดเจ้าจึงกลายเป็นผีเช่นนี้ได้!?”
เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย จึงยืนยันได้ว่านี่คืออวี๋ฮวนจริง ๆ ดวงตาของเขาฉายแววประหลาดใจ ผู้ใดกันที่ลงมือกับอวี๋ฮวนหนักหน่วงเช่นนี้?
นี่ดูน่าเวทนาเสียยิ่งกว่าเขาอีก!
“เรื่องของข้าไว้ค่อยว่ากันภายหลัง ทว่าพี่ฮุย ผู้ใดกันที่โยนท่านออกมา?”
อวี๋ฮวนรีบเอ่ยถามอวี๋ฮุย เขากังวัลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากกว่า
ก่อนหน้านี้ สือเฟิงเพิ่งจะกล่าวว่าตระกูลอวี๋และตระกูลเริ่นไม่มีคุณสมบัติที่จะอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้ จากนั้นก็มีคนถูกโยนออกมาด้านนอก ชาวพื้นเมืองสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้จริงหรือ!?
อวี๋ฮุยยังไม่ทันตอบสิ่งใด ก็มีเสียงดังสนั่นตามมาอีกหลายครั้ง มีคนจำนวนมากกว่าเดิมถูกโยนออกมา อวี๋ฮุยรีบมองดู ก่อนจะพบว่าทั้งหมดล้วนเป็นคนตระกูลอวี๋ของพวกเขา!
“นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น!?”
อวี๋ฮวนตกตะลึงจนโง่งม หากเรื่องก่อนหน้านี้หนึ่งครั้งอาจเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ตอนนี้สมาชิกตระกูลอวี๋จำนวนมากถูกโยนออกมา ยังจะนับว่าเป็นเรื่องบังเอิญได้อีกหรือ?
“พวกเราเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น จู่ ๆ ก็มีคนปรากฏออกมาอย่างกะทันหัน บอกว่าตระกูลของพวกเราไม่มีสิทธิ์จะอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้ จากนั้นพวกเราก็ถูกจับโยนออกมา!”
“น่ารังเกียจเสียจริง! นี่คงกะทำให้พวกเราโมโหจนตาย พวกเราเดินทางกับคนจากตระกูลลู่แท้ ๆ แต่กลับไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นกับคนตระกูลลู่แม้แต่น้อย มีเพียงพวกเราเท่านั้นที่ถูกโจมตี!”
คนเหล่านั้นเอ่ยออกมาด้วยความชิงชัง
“เหตุใดพวกเราจึงไม่มีคุณสมบัติ? คนผู้นั้นเป็นใครกันแน่?”
อวี๋ฮุยเอ่ยออกมาด้วยความคับแค้นใจเป็นอย่างมาก
เขาเองก็อยู่กับคนเหล่านี้ เพียงแต่เขาดันโชคร้ายที่สุด เป็นคนแรกที่ถูกโยนออกมา
“นี่เป็นภัยพิบัติที่ไม่อาจอธิบายได้จริง ๆ!”
“นับเป็นเคราะห์ร้ายอย่างยิ่ง!”
คนอื่น ๆ เองก็เต็มไปด้วยความคับแค้นและโกรธเคือง อารมณ์เสียจริง ๆ คนผู้นี้มุ่งเป้ามาที่ตระกูลอวี๋อย่างชัดเจน ตระกูลลู่ที่เดินทางไปกับพวกเขาไม่เกิดเรื่องอันใดขึ้นแม้แต่น้อย มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ถูกโจมตี!
“ไม่…ไม่นะ!”
อวี๋ฮวนตกตะลึง เป็นไปได้หรือไม่ที่เขาเป็นต้นเหตุนำพาหายนะเข้าใส่ตระกูลอวี๋ทั้งตระกูล?
“เสี่ยวฮวน เจ้าเป็นอันใดไป? เหตุใดใบหน้าของเจ้าจึงเละเทะเช่นนี้!?”
“ผู้ใดกล้าลงมือเช่นนี้กับเจ้า!?”
เมื่อคนเหล่านี้เห็นรูปลักษณ์ของอวี๋ฮวน พวกเขาทั้งหมดก็พลันโกรธมากกว่าเดิม พวกเขายังดี เพียงแค่ถูกโยนออกมา แต่อวี๋ฮวนนั้นย่ำแย่กว่าพวกเขาเป็นอย่างมาก!
จิตสังหารของพวกเขาเปี่ยมล้นขึ้นมาทันที เช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน เห็นตระกูลอวี๋ของพวกเขาเป็นลูกพลับนิ่มอย่างนั้นหรือ? สมาชิกของตระกูลพวกเขาใช่คนที่ไม่ว่าใครก็ตามจะมาเหยียบย่ำได้อย่างนั้นหรือ?
“ไม่ เรื่องนี้เป็นข้าที่ทำตนเองด้วยความสะเพร่า!”
อวี๋ฮวนรีบเอ่ยออกมา ไม่กล้าพูดความจริงออกไป
หากคนในตระกูลรู้ว่าเรื่องทั้งหมดมีต้นเหตุมาจากเขา เกรงว่าคนในตระกูลคงจะฉีกเขาออกเป็นชิ้น ๆ!
ภายในใจของเริ่นลู่ตกตะลึง เกิดความสงสัยขึ้นมาว่าชาวพื้นเมืองดุร้ายถึงเพียงนี้เชียวหรือ!
แต่หลังจากนั้นเขาก็สงบลง
เมื่อพินิจดูแล้วเหล่าคนที่ถูกโยนออกมาล้วนแต่เป็นอนุชน ไม่มียอดฝีมือหรือผู้อาวุโสอยู่แม้สักคน เขาคิดว่าอาจเป็นเพราะอนุชนเหล่านี้ของตระกูลอวี๋ไม่ได้อยู่กับยอดฝีมือในตระกูล ทำให้ถูกเหล่าชาวพื้นเมืองโจมตีเอาได้
“รู้เพียงแต่การซุ่มโจมตีอนุชน นับเป็นความสามารถได้อย่างไรกัน? เหตุใดพวกเจ้าจึงไม่ลงมือกับเหล่ายอดฝีมือ ช่างน่าขันยิ่งนัก!”
เริ่นลู่หัวเราะเยาะเย้ยออกมาครั้งแล้วครั้งเหล่า
ถึงเขาจะเสี่ยงที่ต้องจ่ายราคาอย่างหนักสำหรับการกระทำ แต่เขาก็ทำเพราะรู้ดีว่าการพูดขอร้องดี ๆ ไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด สือเฟิงจะต้องไม่ยอมปล่อยเขาไปเป็นแน่
ที่จริงแล้ว คำพูดเหล่านี้ของเขายังเป็นการยั่วยุสือเฟิงโดยเจตนา หากพวกสือเฟิงกล้าลงมือกับผู้อาวุโสยอดฝีมือเหล่านั้นจริง จะต้องถูกจัดการลงได้แน่ เช่นนั้นแล้วเขาก็อาจมีหนทางรอด
เดิมที เขาต้องการจะใช้ศาสตราสื่อสารแอบติดต่อกับยอดฝีมือในตระกูลเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ ทว่าน่าเสียดาย ศาสตราสื่อสารบนร่างของเขาถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์ในการต่อสู้กับสือเฟิง
ทว่าคำพูดของเขายังไม่ทันจะเลือนหายไปดี ผู้คนจำนวนมากก็ถูกโยนออกมาอีกครั้ง!
คราวนี้ล้วนเป็นวัยกลางคนทั้งหมด!
“ไม่ กระทั่งพวกเขาเองก็ไม่รอด?”
เริ่นลู่ตกตะลึง แต่ก็ยังพูดออกมา “น่าขันยิ่งนัก เหตุใดพวกเจ้าจึงไม่กล้าลงมือกับผู้อาวุโสเหล่านั้นเล่า!”
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ตอนนั้นเอง คนอีกจำนวนไม่น้อยก็ถูกโยนออกมา เมื่อเริ่นลู่สังเกตดูแล้ว คนเหล่านี้ล้วนเป็นยอดฝีมือวัยชรา!
แม้กระทั่งเหล่าผู้อาวุโสที่ถูกเขากล่าวถึงเองก็ยังถูกโยนออกมาด้วย!
“เจ้าเริ่นลู่สมควรตาย! พวกข้ากับเจ้าไม่เคยมีบุญคุณความแค้นอันใดต่อกัน เหตุใดเจ้าจึงทำลายพวกเราเช่นนี้!?”
“เรื่องนี้พวกข้าจะไม่ยอมปล่อยไปเป็นแน่!”
สมาชิกตระกูลอวี๋ตะโกนใส่เริ่นลู่ด้วยความชิงชัง
เริ่นลู่เพิ่งตะโกนออกมาเสร็จ ยอดฝีมือของพวกเขาก็ถูกโยนออกมา พวกเขารู้สึกว่าตนเองกำลังถูกเริ่นลู่ขุดหลุมใส่ มีความเป็นไปได้ที่เริ่นลู่กำลังแอบอ้างเป็นตระกูลอวี๋ของพวกเขาเพื่อยั่วยุคน!
ในตอนนั้นเอง อวี๋ฮวนรู้สึกผิดเป็นอย่างมากจนไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดออกมาแม้แต่คำเดียว เขาผละตัวออกจากไปอย่างเงียบงัน เตรียมตัวหลบหนีออกไปจากที่นี่
จะยังไม่รีบหนีได้อย่างไร?
ตระกูลอวี๋ทั้งหมดถูกโยนออกมา กระทั่งบรรพจารย์ของตระกูลเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น หากความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผยออกมา ต่อให้เขามีหมื่นชีวิตก็ไม่พอใช้!
“เสี่ยวฮวน ข้าเข้าใจแล้ว ที่แท้เจ้าก็พบว่าเริ่นลู่กำลังแสร้งแอบอ้างเป็นตระกูลอวี๋เพื่อก่อปัญหาให้กับตระกูลของพวกเรา เจ้ากับเริ่นลู่จึงเกิดความขัดแย้งกัน แล้วเจ้าก็ถูกเริ่นลู่ทุบตีจนกลายเป็นเช่นนี้ใช่หรือไม่!?”
ทันใดนั้น อวี๋ฮุยก็ราวกับนึกบางสิ่งออกกะทันหัน จึงเอ่ยขึ้นมากับอวี๋ฮวน
ใช่หรือไม่?
ใช่ก็บ้าแล้ว!
อวี๋ฮวนสบถด่าในใจยกใหญ่ หลังจากที่อวี๋ฮุยพูดถ้อยคำเหล่านี้กับเขา สมาชิกทั้งหมดของตระกูลอวี๋ก็เบนความสนใจมาหาเขาทันที รวมถึงเหล่าผู้อาวุโสด้วย
ครั้งนี้เขาเผชิญเคราะห์ของจริงแล้ว แม้คิดหนีก็ไม่อาจหนีได้
“นั่น…”
เขาลังเลอ้ำอึ้งพูดไม่ออก จะให้เขาพูดสิ่งใดกัน? ไม่มีสิ่งใดที่เขาพูดได้ทั้งนั้น!
มีผู้คนมากมายจับจ้องมองมา ทั้งยังมีประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเหิงและสือเฟิงอยู่ด้วย แม้เขาอยากจะโกหกก็ไม่อาจทำได้!
“เกี่ยวอันใดกับข้า!? ทั้งหมดล้วนเกิดจากตระกูลอวี๋ของพวกเจ้าเอง! อีกทั้ง ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็ยังเป็นเพราะตระกูลอวี๋ของพวกเจ้าอ่อนแอเกินไป ไม่เช่นนั้นจะถูกชาวพื้นเมืองจัดการได้อย่างไร!”
เริ่นลู่กล่าว
คนตระกูลอวี๋ไม่มีสมองเลยหรืออย่างไร?
คิดจะโยนความผิดทั้งหมดใส่หัวเขาอย่างนั้นหรือ?
ช่างโง่งมเสียจริง!
“เลือกหยิบลูกพลับอ่อน! ข้าเองก็เข้าใจเรื่องนี้ได้! แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถลงมือกับตระกูลเริ่นของพวกข้าได้!”
เริ่นลู่เยาะเย้ย ยังคิดที่จะยั่วยุสือเฟิง
แม้ว่าชาวพื้นเมืองเหล่านี้จะมีความสามารถอยู่จริง สามารถจัดการตระกูลอวี๋ทั้งหมดได้ แต่อันดับสิบและห้าสิบของแดนเซียนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ระดับความแตกต่างมีมากขนาดไม่สามารถบรรยายออกมาได้หมดภายในวันเดียว
นี่นับเป็นการจัดอันดับจากทั่วทั้งแดนเซียน การที่สามารถติดหนึ่งในสิบได้นั้นแสดงให้เห็นว่า พวกเขาต้องแข็งแกร่งอย่างถึงที่สุด!
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าตระกูลเริ่นของพวกเขานั้นแข็งแกร่งกว่าตระกูลอวี๋หลายเท่า!
ทว่าภาพซ้ำเดิมก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
ทันทีที่เขาเพิ่งเอ่ยจบ ก็เริ่มมีคนถูกโยนออกมา พวกเขาเหล่านั้นทั้งหมดล้วนเป็นคนของตระกูลเริ่น!
“ไม่นะ! ข้าพูดสิ่งใดก็เกิดสิ่งนั้นหรือ?”
ใบหน้าของเริ่นลู่เขียวคล้ำ ปากของเขาทรงพลังถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
“อย่าคิดว่าข้าจะกลัวนะ! ยอดฝีมือตระกูลของข้าไม่ใช่สิ่งที่ชาวพื้นเมืองอย่างพวกเจ้าจะเปรียบเทียบได้!” เขาตะโกนออกมา
นี่จะต้องเป็นเพราะอนุชนในตระกูลของเขาหลุดกลุ่มออกมาจากเหล่ายอดฝีมืออย่างแน่นอน!
ชาวพื้นเมืองเหล่านี้สามารถจัดการกับตระกูลอวี๋ทั้งตระกูลได้ ย่อมสามารถจัดการกับอนุชนตระกูลเริ่นของพวกเขาได้อยู่แล้ว
แต่หากชาวพื้นเมืองเหล่านี้ต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือตระกูลเริ่น พวกเขาจะต้องแพ้พ่ายอย่างแน่นอน ไม่สามารถต่อกรกับยอดฝีมือตระกูลเริ่นได้!
เขามั่นใจเป็นอย่างมาก
ทว่าความมั่นใจนั้นก็อยู่ได้เพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้น!
เพียงหายใจไม่กี่ครั้ง เขาก็ได้เห็นยอดฝีมือของตระกูลเริ่นถูกโยนออกมาทีละคนทีละคน!
“เป็นไปได้อย่างไร!?”
เขาตกตะลึงกับปากของตนเองแล้ว ปากของเขาช่างสุดยอดเกินไปแล้ว เป็นที่หนึ่งด้านการเกิดสิ่งตรงข้าม!
จะเป็นไปได้อย่างไร!
เขาไม่เชื่อ คิดว่าเรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ!
“ผู้อาวุโสตระกูลข้า เพียงแค่ยกมือขึ้นก็สามารถจัดการพวกเจ้าได้แล้ว!” เขาตะโกนออกมา
ทว่าผลที่ออกมาก็ทำให้เขาตะลึงจนโง่งม
ผู้อาวุโสของตระกูลเขาถูกโยนออกมาทีละคนทีละคน!
“ปากข้าช่างสุดยอดยิ่งนัก!”
เขาอดเอ่ยออกมาไม่ได้ ตั้งแต่ตระกูลอวี๋ไปจนถึงตระกูลเริ่น ไม่ว่าเขาจะพูดสิ่งใดออกมาก็จะเกิดสิ่งตรงข้าม เขาคิดว่าตนเองอาจจะมี ‘ความสามารถพิเศษ‘ มีพลังบางอย่างที่สามารถย้อนกลับให้เป็นสิ่งตรงกันข้ามได้
“สุดยอดบ้าบออันใดของเจ้า! หุบปากอีกาของเจ้าไปเสีย!”
ยอดฝีมือตระกูลเริ่นตะคอกใส่เริ่นลู่อย่างโกรธเกรี้ยว
แม้เริ่นลู่จะไม่รู้ว่า ความสามารถในการย้อนกลับให้เป็นสิ่งตรงกันข้ามของตนเองมาได้อย่างไร แต่เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าก็พิสูจน์ให้เห็นว่าความสามารถด้านนี้ของเขานั้นแข็งแกร่งจริง ๆ จนตัวเขาบังเกิดความอิ่มเอมใจขึ้นมา
“ผู้อาวุโสสาม ท่านพูดเช่นนี้ได้อย่างไร? ข้ามีความสามารถพิเศษถึงเพียงนี้ หนทางในอนาคตย่อมสดใสเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งผู้อาวุโสยังไม่อาจต่อกรกับความสามารถพิเศษนี้ของข้า ท่านยังกล้าดีมาทำเช่นนี้กับข้า!”
เริ่นลู่ตำหนิออกมาเสียงดัง
หากเขาเชี่ยวชาญด้านการใช้พลังความสามารถพิเศษแล้ว เขาก็ไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใดอีกต่อไป!
ต่อหน้าผู้ใดก็ล้วนไม่ต้องกลัวเกรง!
“ความสามารถพิเศษ? เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร!?”
ยอดฝีมือตระกูลเริ่นผู้นั้น ซึ่งก็คือผู้อาวุโสสามสบถด่า “เหตุใดตระกูลข้าจึงผลิตตัวโง่งมเช่นนี้ออกมาได้กัน!”
“ตัวโง่งม? ผู้อาวุโสสาม ท่านพูดเกินไปแล้ว!”
เริ่นลู่ขมวดคิ้ว เขาพิสูจน์ ‘ความสามารถพิเศษ‘ ของตนเองมาหลายครั้งแล้ว ยังจะต้องสงสัยสิ่งใดอีก?
“ผู้อาวุโสสาม ข้าคิดว่าขาของท่านนั้นทั้งตรงและแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ไม่อาจขาเป๋หรือหักได้อย่างแน่นอน!“
เขาเปิดปากเอ่ยออกมา คิดจะใช้พลังย้อนกลับใส่ผู้อาวุโสสาม ต้องการจะแสดงให้ผู้อาวุโสสามเห็นว่า ‘ความสามารถพิเศษ’ ของเขาแข็งแกร่งมากเพียงใด!
หลังจากนั้น เขาจะรอดูว่าผู้อาวุโสสามยังจะกล้าดูแคลนเขาอีกหรือไม่!