บทที่ 3 – อดีตของเธอคนนั้น
ใช่แล้ว.. ต่อไปนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวของเธอคนนั้น.. อย่างน้อยก็เท่าที่เผ่ามังกรจะตามสืบได้ ซึ่งเอาเข้าจริงก็น่าจะสืบได้ทุกอย่างนั่นแหละนะ
เอริเนีย เวริส ทาเนีย.. องค์หญิงจากจักรวรรดิที่เคยยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก แต่ล่มสลายไปเมื่อหลายปีก่อน
เอริเนียนับเป็นลูกนอกสมรสห่างๆ ของจักรพรรดิ ซึ่งมารดาของเธอถูกจักรพรรดินีเกลียดเข้าไส้ทำให้เธอถูกไล่ไปอยู่ขอบของวัง
แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้คนทั่วไปไม่รู้หรอกถ้าไม่ใช่เผ่ามังกรที่โคตรเทพแม้แต่เรื่องสืบข่าวสารอะนะ
แน่นอนว่าแม่ของเธอเองก็ถูกปฏิบัติเช่นเดียวกัน.. อย่างไรก็ตามมันใช่เรื่องน่าปลื้มใจเท่าไหร่นักเพราะแม่ของเธอนั้นก็ไม่ชอบเธอเช่นกัน
ในความเป็นจริงแม่ของเธอก็ไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแม่เช่นเดียวกัน เพราะแม่ของเธอก็เป็นเด็กที่ถูกทิ้งในสลัม
แม่ของเธอเติบโตขึ้นมาจากการขายเนื้อขายตัวให้กับหอ.. โชคยังดีที่เธอเป็นคนที่สวยมาก แน่นอนว่าจักรพรรดิของจักรวรรดิที่ครอบงำเกือบทั้งทวีป
ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังของปีศาจ กองกำลังของมนุษย์ กองกำลังของกึ่งมนุษย์หรืออสูรล้วนอยู่ในอำนาจของเขา
การที่เขาจะหยิ่งผยองรวมถึงมักมากในกามมันจะเป็นเรื่องแปลกอะไร.. แม่ของเอริเนียเป็นหนึ่งผู้หญิงนับร้อยที่จักรพรรดิได้ไปหว่านเมล็ดเอาไว้
แน่นอนว่าที่แม่เอริเนียไม่ปลื้มคือตัวเองท้อง.. เพราะหากไม่ท้องแล้วเธอจะยังสามารถมีอะไรกับจักรพรรดิได้ครั้งต่อไป นั่นแน่นอนว่าเงินทองต้องไหลมาเทมาเช่นกัน
ดังนั้นเธอตึงโทษเอริเนียและเกลียดชังเอริเนีย เคยพยายามฆ่าเอริเนียตั้งแต่อยู่ในท้องจนถึงตอนเป็นทารก.. แน่นอนว่าจักรพรรดินีก็รู้จักสันดานได้คืบจะเอาศอกของแม่เอริเนียเช่นเดียวกัน
ดังนั้นเธอจึงเกลียดแม่เอริเนียยิ่งกว่าสนมคนอื่นๆ ที่มีลูกด้วย… และทัศนคติของจักรพรรดินีก็ไม่ใช่คนดีขนาดนั้น
เธอจึงมองว่าถ้าแม่ยังไง ลูกก็คงยังงั้น.. ดังนั้นที่นั่งของสองแม่ลูกจึงตกที่นั่งลำบากกว่าสนมคนอื่น โดยที่แม่เอริเนียไม่รู้ด้วยซ้ำว่า
สาเหตุที่มาอยู่ตรงนี้เป็นเพราะความโลภมากของตนเอง.. ตอนอายุได้ประมาณ 6 ขวบ เธอถูกประหารพร้อมกับผู้ชายที่ไปมีอะไรด้วย
เนื่องจากจักรพรรดิไม่มาเหลียวแลเธอ จึงค่อนข้างเหงาเลยแอบออกนอกวังไปมีอะไรกับคนอื่น สุดท้ายผลลัพธ์คือถูกจับได้และประหารทั้งผู้ชายและผู้หญิง
เอริเนียเป็นองค์หญิงที่โดดเดี่ยวและถูกดูถูกตั้งแต่ยังเด็ก เธอไม่เคยได้รับความรักจากใครและไม่เคยรู้จักคำว่าความรักเลยด้วยซ้ำ
แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ยังมีความโกรธ.. ยังมีความเกลียดเพราะเธอเป็นแค่เด็ก เธอถูกพี่น้องรังแก ดูถูกอยู่เสมอมา
ยัยโสเภณี ยัยตัณหา.. คำด่า คำดูถูก การถูกรังแกกลั่นแกล้งมากมายรุมมาที่เธอแต่เพียงผู้เดียว
ความเก็บกดของเธอนั้นมันมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุด.. จนท้ายที่สุดก็ไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป.. ตอนอายุได้ 13 ปี..
เธอได้ฆ่าพี่น้องของตัวเองไปมากกว่าสิบคนด้วยมือสองข้าง.. นี่แหละเป็นวันแรกที่บาปหนาของเธอได้ถูกกล่าวถึง คนรู้จักเธอมากขึ้น
ข่าวเรื่องเธอแพร่สะพัดออกไป.. โดยไม่ถามว่าเริ่มขึ้นจากไหนหรือเริ่มเมื่อไหร่ผู้คนมองว่าเธอเป็นองค์หญิงบ้าคลั่งไปโดยปริยาย
ยังดีที่เหล่าเด็กที่ตายนั้นไม่ใช่ลูกที่มีสิทธิ์สืบบัลลังก์ เป็นเพียงเด็กที่สถานะไม่ต่างจากเอริเนียมากเท่าไหร่นัก แถมเนื่องจากเป็นข่าวจากวังจึงถูกสั่งเงียบแทบจะทันที
เอริเนียถูกลงโทษจับขังคุกเป็นเวลา 5 ปีนับจากนั้น.. และในช่วงเวลานี้นี่เองที่จักรวรรดิได้เริ่มเหิมเกริมบุกทำลาย แย่งชิงทุกอย่างจากคนอื่น
ฆ่าฟัน แย่งชิง ทุกอย่างจนท้ายที่สุดก็ถูกกำราบและถูกประหารชั่วโคตรเหง้าไปจนหมดสิ้น ใช่แล้วผู้ที่เคยเป็นขุนนาง เชื้อพระวงศ์ของจักรวรรดิล้วนถูกกุดหัวจนหมด
มีเพียงคนเดียวที่ถูกลืมทิ้งไว้ใต้ดินของซากปรักหักพังก็คือเอริเนีย.. เชื้อสายเพียงหนึ่งเดียวของจักรวรรดิ
เมื่อค้นพบเธอ.. ร่างกายเธอผอมแห้ง.. ดวงตาของเธอตายไผพร้อมกับช่วงเวลาที่ถูกขัง เธอรอดมาได้เพราะคอยกินแมลง กินน้ำที่หยดลงมา..
เธออยู่ภายในนั้นมาตลอดหลายปีที่ถูกลืม เธอจึงถูกเรียกว่าองค์หญิงผู้ถูกทอดทิ้ง.. แต่คำนี้ไม่ได้หมายถึงจักรพรรดิทิ้งเธอ
คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเธอคือเมล็ดที่มีพรสวรรค์ของจักรวรรดิสามารถฆ่าคนตั้งแต่ยังเด็ก พวกมันจึงเข้าใจว่าเธอคือ… คนที่จักรพรรดิชั่วนั้นพยายามเหลือทิ้งเอาไว้
ใช่.. ผู้คนไม่เคยลองมองย้อนกลับไปว่าทำไม ผู้คนมักตัดสินทุกอย่างด้วยอคติ ต่อให้เอาความจริงที่ฉันพูดไปเล่าให้ฟัง ถ้าพวกนั้นมีอคติ
สุดท้ายพวกมันคงคิดว่าเป็นเรื่องแต่งอยู่ดีนั่นแหละ.. คนเราไม่ว่าจะปีศาจหรือมนุษย์ สิ่งมีชีวิตที่ใช้ความคิดในการดำรงชีพมักอยู่กับความคิดตัวเองมากกว่าคุยกับคนอื่นหลายเท่าตัว
การที่จะยึดมั่นในมุมมองของตนเองมันคงเป็นเรื่องที่ฉันสามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นเรื่องปกติ
แต่ฉันเป็นคนที่ไม่ได้ถูกกระทำด้วยตึงสามารถมองแบบเป็นกลางได้จึงสามารถตัดสินว่าทำไมเธอถึงทำแบบนั้นเจอแบบนั้นได้นั่นเอง
หลังจากการพบเจอร่างของเอริเนียที่ใกล้ตาย ผู้คนจึงหวาดกลัวเธอว่าเธอจะบ้าคลั่งเหมือนจักรพรรดิชั่ว คนที่เป็นความหวังของจักรพรรดิชั่ว.. มันก็ต้องชั่วไม่ต่างกัน
น่าเสียดายที่การประหารไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเพราะการบุกรุกของมังกร.. มหาเผ่าพันธุ์ทั้งสี่จึงร่วมมือกันสร้างตัวตนที่ทรงพลังที่รวมพลังของสี่เผ่าเอาไว้
ทว่ามันไม่สามารถทำได้ เพราะแต่ละเผ่านั้นแรกเริ่มเดิมทีก็ไม่สามารถมีลูกข้ามเผ่าได้แต่แรกอยู่แล้วนั่นเอง
แต่ยังมีอยู่อย่างหนึ่งที่สามารถรวมเซลล์ของสี่เผ่าเอาไว้ได้.. นั่นก็คือเชื้อสายจักรพรรดิ .. เชื้อสายที่ไม่ขึ้นอยู่กับเผ่าไหนเลย!
และใช่ คนคนนั้นคือเอริเนีย.. แต่เอริเนียนั้นเป็นคนชั่วจากจักรวรรดิชั่ว หากหล่อนได้พลังที่ทรงพลังที่สุดอาจจะเกิดเรื่องเลวร้ายกับพวกเขาแทน
ดังนั้น.. พวกเขาจึงเริ่มสร้าง ‘ความหวาดกลัว’ ให้เธอและความเกลียดชังให้เธอเหมือนกับการสะกดจิต.. แต่ไม่ใช้พลังพิเศษ
เพราะพลังสามารถลบล้างได้.. พวกมันปลูกฝังลงจิตใต้สำนึก ลงไปยังความทรงจำของเธอ.. เรื่องนี้อาจจะดูโหดร้ายไปสักหน่อย..
แต่พวกนั้นเริ่มทำร้ายเธอเพื่อที่จะสอนให้เธอรู้จักถึงความโหดร้ายจนไม่อาจหันคมดาบมาที่พวกเขาได้ โดยที่ไม่ตระหนักว่าเธอเจอมันมาตั้งแต่เกิดแล้วน่ะนะ
เธอถูกกระทำต่างๆ มากมายแย่งชิงทุกอย่าง.. ทั้งร่างกายและจิตใจของเธอล้วนถูกแย่งชิงแน่นอนว่ามันโหดร้าย..
โดนแย่งพรหมจรรย์ โดนทำร้าย ทุกอย่างๆ ที่เธอจะเจอได้ในชีวิตนี้ล้วนถูกลงมาที่เธอ จนเธอเป็นเหมือนทาส.. ไม่สิ.. ทาสยังมีประวัติศาสตร์ที่ลุกขึ้นมาประท้วง
แต่ว่าเธอ.. เธอกลายเป็นเหมือนก้อนดินก้อนกรวดให้พวกนั้นเหยียบย่ำ.. และสุดท้ายพวกมันก็บอกเธอว่า.. ทุกอย่างเป็นเพราะมังกร
และนั่นเอง.. เธอจึงโยนความเกลียดเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ในหมวดอารมณ์ของเธอมาที่มังกร..
“นั่นแหละคือ เอริเนีย เวริส ทาเนีย องค์หญิงผู้ถูกทอดทิ้ง”
คมดาบของเธอหันมาทิศทางที่ฉันอยู่ แน่นอนว่าฉันไม่มีแรงหรือพลังมากพอที่จะสามารถหลบหลีกการโจมตีของเธอได้
และสิ่งที่เธอพูดฉันก็ไม่เข้าใจเพราะเป็นภาษาของคนในทวีปนี้ ส่วนที่ฉันเข้าใจมังกรพูดเพราะว่าพวกนั้นใช้เทเลพาธีสื่อสารสมองโดยตรงอะนะ
“หลังจากฆ่าแกได้.. ในที่สุด.. ฉันก็จะถูก… ปลดปล่อยสักที!”
เธอพูดภาษาที่ฉันไม่เข้าใจแล้วก็กระโดดพุ่งขึ้นมาพร้อมกับยกดาบและฟันใส่ร่างของฉันแต่ทว่าในตอนนั้นเองคมดาบก็พลันแตกกระจาย!
เธอตกใจแน่นอนว่าฉันเองก็ตกใจเหมือนกัน!คมดาบที่ฟันเข้ามุกอย่างแต่ฟันเกล็ดฉันไม่เข้าด้วยซ้ำ!
“ทำไม!!”
ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ.. ราวกับว่าเธอเองก็ไม่คาดฝันว่าจะเป็นแบบนี้เช่นเดียวกัน
แต่ทว่า
“ถ้า.. ฉันจะตาย.. ฉันก็จะลากคอแกไปตายด้วย!”
ถึงจะไม่รู้ว่าพูดอะไรก็เถอะแต่อันตรายแน่ๆ ฉันยังไม่ทันได้กระโดดหลบด้วยซ้ำวินาทีต่อมาเธอก็ยกนิ้วขึ้น
เศษดาบที่แรกกระจายออกก็พลันเปล่งแสงและพุ่งมาหมุนรอบตัวฉัน..?!
“ฉันจะใช้จิตวิญญาณแห่งเผ่าทั้งหมดเปลี่ยนเป็นผลึกที่เกิดจากความนึกคิดของทุกสิ่งมีชีวิตบนทวีปที่มีต่อแก.. และใช้ผนึกแกให้แกหายไป ถ้าฆ่าแกไม่ได้.. ก็แค่ผนึกแกไปจนตราบชั่วฟ้าดินสลายก็พอแล้ว!!!”
เธอกรีดร้องราวกับปีศาจ ร่างกายของเธอแห้งเหี่ยวลงเพราะบังคับใช้พลังชีวิตของตัวเองในการควบคุมจิตวิญญาณแห่งเผ่าพันธุ์
ในวินาทีนั้น.. เหมือนฉันเข้าใจสิ่งที่เธอจะสื่อ..
เดี๋ยวนะ.. ผนึกเรอะ.. เดี๋ยวสิเฮ้ย.. ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยน—
……..
……
….
ติง… ทุกอย่างเงียบลงเหลือเพียงเสียงของเศษดาบที่ร่วงลงพื้นตามด้วยร่างที่แห้งเหี่ยวของเอริเนียที่ร่วงบนพื้นเธอตายลงไปทั้งแบบนั้น
และดวงตาของเทพมังกร.. ก็แข็งค้างไปทั้งแบบนั้นทว่า.. บัดนี้ร่างกายของเธอและดูเหมือนจะถูกกัดเซาะด้วย.. กลุ่มก้อนที่เหมือนผลึกน้ำแข็งแต่มีหลากสีที่กักขังเทพมังกรไว้ภายในนั้น
คำสาป ความเกลียดชังที่มีต่อมังกร.. มันจะกัดแทะตัว ‘เธอ’ ไปตลอดกาล…
และ.. “ตู้ม!!” แรงกระแทกที่พึ่งระเบิดขึ้นก็สั่นสะเทือนไปทั่วปราสาทมังกร ก่อนที่จะพังถล่มลงมากลบฝังทุกสิ่งทุกอย่างในแห่งนี้…
ปีศาจ.. มนุษย์.. อสูร.. กึ่งมนุษย์ทุกผู้คนต่างเงยมองขึ้นท้องห้าที่บัดนี้ราวกับว่าเหมือนมีบางอย่างได้ถูกลบหายไป
จิตวิญญาณแห่งเผ่าของมังกรที่เคยกดทับดวงวิญญาณทุกอย่างสูญสลายหายไปแล้ว.. ทว่า… พวกเขาในตอนนี้ยังไม่รู้ว่า..
พวกเขาไม่สามารถสืบต่อสายเลือดได้อีกต่อไป