บทที่ 24 – เรื่องใหญ่
“เมื่อไหร่จะจบเนี่ยพี่..?”
“อีกสิบสองชั่วโมง.. เธอเลิกบ่นได้แล้วเพราะคนที่เสนอให้มาก็คือเอง”
“แต่.. ฉันนึกว่ามันจะตื่นเต้นกว่านี้นี่น่า..”
รินนะบ่นกับมิว นับตั้งแต่เริ่มเควสมานี่ก็ผ่านมาแล้วสิบสองชั่วโมงซึ่งถือว่าเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว..
โดยไม่มีอุปสรรคอะไรน่ะนะ ทั้งมิว เอริเนียและรินนะต่างนั่งอยู่เฉยๆ ในห้องนั่งเล่นมาแล้วสิบสองชั่วโมงนั่นเอง
และเพราะเป็นในหอคอยจึงเหมือนย้อนกลับไปในยุคที่ไม่มีทั้งเกมหรืออินเทอร์เน็ต ทำให้ทุกอย่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า
อย่างน้อยก็ในความคิดของรินนะ
แน่นอนว่าสำหรับมิวเองก็สบายๆ เหมือนกันเพราะเขตจิตมังกรคุมไว้แค่บ้านหลังเดียวเท่านั้นเลยไม่นับว่าเป็นการยากอะไร
แม้แต่เนตรมังกรยังไม่จำเป็นต้องถ่างตามอง เพราะอีกฝ่ายเข้ามาสัมผัสกับจิตของมิวโดยตรงแค่มิวตั้งความคิดไว้ว่าให้มันทำงานทันทีที่มีคนเข้ามา
ทุกอย่างก็เกิดขึ้น.. ด้านนอกบ้านจึงมีเสียงกรีดร้องที่ขาดกะทันหันก่อนจะสลายหายไปราวกับโดนลบออกไป
สรุปก็คือพวกเธอไม่ได้ทำอะไรก็สามารถผ่านไปได้ง่ายๆ นั่นแหละนะ ไม่ต้องเหนื่อยหรือออกแรงอะไรด้วยซ้ำ
“ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโกงอยู่เลยค่ะพี่”
รินนะพูดพร้อมนอนแผ่บนโซฟาแบบเบื่อหน่ายไม่มีอะไรให้ทำ มิวมองสภาพรินนะแล้วก็พึมพำ
“ยัยเด็กนี่นิสัยต่างจากเจอกันครั้งแรกแทบจะเหรียญคนละด้านเลย..”
นี่ขนาดรู้จักกันยังไม่ถึงวันด้วยซ้ำ ยัยนี่ทำตัวสบายได้ด้วยขนาดนี้เลย.. กลับกันพอหันมามองเอริเนียก็เหมือนอยู่กับรูปปั้น
เป็นปาร์ตี้ที่ดูบ้าบอชะมัด
มิวได้แต่คิดแบบนั้นอยู่ในใจ
“พี่ว่าอะไรนะ”
“เปล่า.. อีกอย่างคนที่รู้สึกว่าโกงก็ไม่ได้มีแค่เธอหรอก ฉันเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน เควสนี้น่าจะเป็นเควสที่ยากสุดๆ แท้ๆ”
มิวเดินออกไปมองที่หน้าต่าง ด้านนอกห่างออกจากบ้านไปเกือบสิบเมตรมีกำแพงที่มองไม่เห็นอยู่ตรงนั้น
หากถามว่าทำไมถึงรู้ทันทีว่ามีกำแพงทั้งที่มองไม่เห็น… ก็ต้องบอกว่าด้านนอกมีสัตว์ประหลาดที่หน้าตาเหมือนมนุษย์บ้าง
หน้าตาเป็นสัตว์ประหลาดบ้าง.. แต่ดวงตากลวงโบ๋ ก็ดูไม่ต่างจากซอมบี้เท่าไหร่นัก แต่วินาทีที่วิ่งเข้ามาในเขตดังกล่าว
มันก็สลายหายไปทั้งแบบนั้น… อย่างง่ายดายจริงๆ เลยน่ะนะ.. และจำนวนที่มากมหาศาลพุ่งดิ่งเข้ามาไม่หยุดหย่อนเลยทำให้เห็นเหมือนเห็นมีกำแพงบางอย่างอยู่จริงๆ
“ผ่านมากี่ WAVE แล้ว”
มิวถามรินนะ
“อ้ะ.. เดี๋ยวก่อนนะคะ.. อืม WAVE ที่ 32 ค่ะพี่”
รินนะดุหน้าต่างตรงหน้าแล้วก็ตอบ มิวพยักหน้าเธอไม่ค่อยมั่นใจเรื่องการคำนวณจำนวนของศัตรูเท่าไหร่
ในช่วงแรกนั้นศัตรูต่อ WAVE โดยเฉลี่ยนั้นมีเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเท่านั้นแต่ตอนนี้เหมือนจะเพิ่มถึงหลักหมื่นแล้วไม่ก็อาจจะหลักแสน
เพราะอันที่จริงช่วง WAVE หลังๆ จะเริ่มขึ้นช้ากว่าช่วงแรกแบบมากๆ ทั้งที่ช่วงแรกพริบตาเดียวก็ขึ้นแล้ว แน่นอนสาเหตุไม่ได้เป็นเพราะพลังของมิวจัดการศัตรูช้า แต่เพราะศัตรูมันมีเยอะเกินไปต่างหาก
นอกจากนี้มิวไม่รู้ด้วยว่าศัตรูที่บุกกันเข้ามานี่มีเยอะขนาดไหน เธอทำได้เพียงแต่เดาจากอัตราการตายและความเร็วการเปลี่ยน WAVE เท่านั้นเอง
ซึ่งเธอไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น จึงไม่ได้แม่นยำอะไรมาก.. แน่นอนว่าในวินาทีนี้ทั้งมิวและรินนะหรือเอริเนียไม่ได้รับรู้เลยว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่…
เพราะด้านนอกหอคอย.. แสงประตูหอคอยสว่างว้าบ ถี่จนแทบจะมีแสงตลอดเวลาซึ่งเกิดจากมีคนออกจากหอคอยมาติดต่อกันมากเกินไป
ส่วนใหญ่จะไปกันเป็นทีม และแต่ละคนที่ออกมาก็ต่างแบกเพื่อนที่มีสภาพปางตายออกมาด้วย.. แต่ละคนต่างไม่พูดไม่จาเพราะพวกเขาเองก็เต็มไปด้วยความสับสนและงุนงงเหมือนกัน
“บัดซบเอ้ย มันเกิดบ้าอะไรขึ้นที่ชั้นสองวะ”
มีคนหนึ่งที่วิ่งออกมาพร้อมสบถ ชายคนนี้คือหนึ่งใน TOP 100 ของกระดานจัดอันดับหอคอยรั้งอยู่อันดับที่ 79
เนมของเขาคือ ‘บุรุษราตรี’ แน่นอนโดยปกติแล้วถ้าไม่ใช่องค์หญิงหรือองค์ชายจะไม่มีระดับของเนมอยู่ในเนมด้วย
แต่อย่างไรซะเขาก็มีเนมระดับมาควิสเลย ในระหว่างขึ้นไปพิชิตชั้นที่ 7 ที่เขาไม่เคยไปมาก่อนแต่ก็ดันไปชนอยู่ชั้น 2 เพราะจู่ๆ ก็มีสัตว์ประหลาดเปื้อนไวรัสจำนวนมหาศาลที่มากกว่าควรจะมีในชั้นสองบุกเข้ามาซะอย่างนั้น
แน่นอนตลอดปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยเจอเหตุการณ์ไร้สาระแบบนั้นมาก่อนเลย.. อาจจะเพราะสีหน้ากังวลของเขาทำให้คนที่อยู่ด้านนอกต่างพากันสับสนยิ่งกว่าเก่า
คนที่ไม่อยู่ด้านในจึงเริ่มสอบถามเซ้าซี้คนที่หนีออกจากหอคอยพร้อมกันทันที แน่นอนคนที่ออกมาบางส่วนไม่ได้มาจากชั้นสองเช่นเดียวกัน
ทำให้คำตอบดูต่างกันไปพอสมควร..
แต่ทว่าเรื่องหนึ่งที่ชัดเจนยิ่งกว่าอะไร..
ที่ชั้นสองมีบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น.. แม้แต่มาควิสอย่างบุรุษราตรียังต้องอพยพหนีตายออกมาด้วยสีหน้าสับสน
ข่าวนี้แพร่สะพัดออกไปทั่วในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น และแน่นอนว่าเรื่องที่ว่ามี ‘เควสลับ’ ปรากฏขึ้นในชั้นที่สองก็ถูกยกมาพูดกันอย่างแพร่หลาย
และคาดเดากันว่าอาจจะเกี่ยวกับภัยพิบัติในชั้นสองตอนนี้.. สัตว์ประหลาดอาละวาด!!
“บุรุษราตรีครับ ในฐานะผู้อยู่ในเหตุการณ์สิ่งที่คุณเจอคืออะไรกันแน่ครับ?”
นักข่าวที่เตรียมทำข่าวเรื่องนี้กรูกันเข้ามาหาบุรุษราตรีผู้ที่น่าจะแข็งแกร่งที่สุดในเหตุการณ์.. แน่นอนว่าเขาเองก็ตอบตามความจริง
“พูดตรงๆ..ตั้งแต่ฉันเริ่มไต่หอคอยมาก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน.. ฉันไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับไอ้หน้าต่างเควสลับเหมือนที่พวกนายบอกหรือเปล่า”
“แต่ฉันคิดว่ามันต้องเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน… แต่ถ้าดูจากจำนวนแล้ว..”
“ฉันกล้าพูดเลยว่าต่อให้เป็นองค์หญิงหรือองค์ชายทั้งหลายก็คงหืดขึ้นคอแน่.. ถึงฉันจะไม่เคยขึ้นไปชั้น 9 ก็เถอะนะ”
“แต่ก็เคยเห็นรูปผ่านเน็ตมาบ้าง และฉันเห็นตัวที่คล้ายๆ กันนั้นในชั้นสองด้วย”
เขาพูดด้วยความเคร่งขรึม แน่นอนว่าความจริงแล้วองค์ชายองค์หญิงอาจจะไม่หืดขึ้นคอแบบที่เขาว่าจริงๆ ก็ได้
เพราะอย่างไรซะพวกผู้ใช้อารยธรรมก็มักอิจฉาคนที่แข็งแกร่งกว่าตนเองเสมอ ดังนั้นคนเลยคิดว่าเขาอาจจะพูดเกินจริงไปบ้าง
นักข่าวเองก็เหมือนจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่..
“เอ่อ.. นั่นมันค่อนข้างจะ…”
นักข่าวเองก็ไปไม่เป็นกับคำพูดของเขาเหมือนกัน เพราะหากพูดจริงๆ แล้วนอกจากองค์หญิงและองค์ชายทั้งหลายนั้นแทบจะเป็นจุดสูงสุดของความแข็งแกร่ง
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเควสที่อยู่แค่ชั้นสอง… ซึ่งเป็นชั้นที่โคตรจะง่าย.. จะมีของแบบนั้นปรากฏขึ้นมาได้อย่างไร..
“เหอะ พวกแกไม่เชื่อก็ไปถามคนอื่นดูก็ได้.. บัดซบเอ้ย ฉันละอยากเห็นหน้าคนที่มันรับมือกับเจ้าพวกนั้—”
แต่ในขณะที่เขาสบถด้วยความรู้สึกด้อยกว่าเพราะว่าคนที่จัดการพวกนั้นน่าจะเป็นหนึ่งในองค์ชายและองค์หญิงแน่ๆ
แต่ก็คงจะเป็นคนที่เก่งที่สุดในหมู่เนมระดับองค์ชายองค์หญิงแน่ๆ.. เรื่องนี้เขามั่นใจมาก พอรู้ว่ามีคนเก่งขนาดที่รับมือกับศัตรูเป็นแสนๆ…
ไม่สิ.. เขาว่ามันมากกว่านั้นด้วยซ้ำ…
แต่ก่อนที่ทันจะได้พูดจบ
“นั่นมัน!!”
ทุกคนก็อุทานเสียงประหลาดพร้อมกัน ทั้งนักข่าวและคนอื่นต่างพากันเงยหน้าขึ้นไปด้านบน.. ใช่ บนหน้าจอโฮโลแกรมขนาดใหญ่ที่เป็นเหมือนกระดานจัดอันดับ
ในนั้นมีชื่อหนึ่งที่พุ่งพรวดขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้.. ไม่สิ แทนที่จะบอกเป็นชื่อหนึ่งต้องบอกว่าสามชื่อมากกว่า…
และสามชื่อนั้นเหมือนถูกจัดว่าอยู่ในอันดับเดียวกันด้วย.. มันพุ่งขึ้นมาติดอันดับหนึ่งในร้อยก่อนจะพุ่งขึ้นมาติดห้าสิบอันดับแรก
มันเร็วจนคนอ่านไม่ทันว่ามันมีชื่อว่าอะไรบ้าง.. แต่ในวินาทีเดียวนั้นก็พุ่งแซงองค์หญิงไร้เสียงขึ้นเป็นที่หนึ่ง..
ไม่สิ.. ที่หนึ่งยังเป็นองค์หญิงไร้เสียง เหมือนว่าอันดับหนึ่งแต่ทะลึ่งมีกันสองตำแหน่งซะอย่างนั้น.. แถมยังเป็นกันสี่คน!!
“นั่นมันใครวะ”
“เกิดอะไรขึ้น..!!?”
“การไต่ระดับแบบนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
“ชื่อนั่นมันอะไร.. เดี๋ยวนะ.. อะไรวะนะ”
คนแรก.. ‘ไม่มีเนม’ เอริเนีย
“ไม่มีเนมเหรอ เป็นไปได้ได้ไงวะ..”
คนที่ตกใจยิ่งกว่าใครก็คือคาเอะ.. เพราะนางไม่ต้องการให้เอริเนียเป็นที่โด่งดังวินาทีนี้เธอจึงหน้าซีดเผือกกว่าใคร
คนสอง.. ‘ไม่มีเนม’ รินนะ
“เดี๋ยวก่อนๆ.. อันดับแบบนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะเฮ้ย”
ชื่อคนที่สามเหมือนจะมีอะไรแปลกๆ เหมือนกับว่าระบบประมวลผลบางอย่างไม่ได้จนเกิดเป็นข้อความ Error ขึ้นมา
คนสาม.. ‘ไม่มีเนม’ #@$#@–
ก่อนที่มันจะกะพริบ.. เหมือนกำลังดาวน์โหลดข้อมูลบางอย่างและขึ้นข้อความ ‘แปลอัตโนมัติ’
ก่อนจะกลายเป็น..
คนสาม.. ‘ไม่มีเนม’ มิว
“ห้ะ.. เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกับหอคอย?”
*หมายเหตุ บุคคลที่มีทาวเวอร์พอยท์ (Tower Point) เยอะที่สุดในดาวเคราะห์
และในพริบตานั้นเองภาพของคนสามคนก็ปรากฏขึ้นเหมือนกับตอนที่องค์หญิงไร้เสียงเรนะสามารถเคลียร์ชั้นสิบได้…
และ…ทุกคนสนใจแต่เพียงผู้เดียวนั่นก็คือ…
“ผู้หญิงคนนั้นมัน….!!!!”
“คนที่รับการโจมตีขององค์หญิงไร้เสียงคนนั้นได้!!!!”