บทที่ 88 – เรื่องราวของหอคอย
ยังไม่ทันให้มิวได้พูดอะไรร่างกายของมิวก็โดนแสงโอบล้อมแทบจะทันที และก่อนที่จะถูกพาตัวไปเหมือนที่โดนแสงล้อมจะไม่ได้มีแค่มิว
แต่ตัวของเทรต้าเองก็เหมือนจะโดนแสงล้อมเช่นเดียวกัน พอรู้สึกตัวอีกครั้งมิวก็พบว่าตัวเองมาโผล่อยู่ที่ห้องสีขาวโพลน
ด้านหน้ามิวมีเทพธิดาคนดีคนเดิมยืนอยู่ตรงหน้า จะต่างก็แค่เทพธิดาคนนี้ไม่ได้ตัวใหญ่เหมือนตอนเจอครั้งแรก
เพราะขนาดตัวเธอปรับมาเท่าตัวมิวเลย.. สีหน้าของเทพธิดาสาวเหมือนกับกำลังอยากจะถามว่า.. นี่พวกเราเจอกันอีกแล้วเหรอ
“ค่าตัวของข้าไม่ได้ถูกขนาดนั้นนะ สหายข้า.. ช่วยอย่าทำให้ข้าปรากฏตัวทุกครั้งที่จบชั้นจะได้ไหม?”
“…คนที่พามาก็คือหอคอยของเธอไม่ใช่หรือไง”
“มันก็ใช่อยู่หรอกนะ แต่ก็… ช่างเถอะ”
เทพธิดาสาวได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ.. มิวลองสื่อสารกับผู้กล้าเอริเนียดู แน่นอนว่ายังติดต่อได้ เพราะขนาดถูกขังในจักรวาลจำลองยังสื่อสารได้
ที่แห่งนี้ก็คงไม่ต่างกันมากนัก และแน่นอนว่าที่แห่งนี้ไร้ซึ่งกาลเวลา แต่เพราะมิวติดต่อกับผู้กล้าเอริเนียอยู่จึงพาเวลามายังที่แห่งนี้ด้วย
ซึ่งเทพธิดาก็เหมือนไม่ได้ห้ามอะไร..
“นายท่าน เกิดอะไรขึ้น ฉันสัมผัสถึงนายท่านไม่ได้เลย ไม่ใช่ว่าโดนผนึกไปอีกรอบนะคะ”
“….ไม่ใช่ ฉันทำเควสที่หอคอยมอบให้ไม่สำเร็จ เลยกำลังจะได้รับบทลงโทษ ทางนั้นล่ะ เอริเนียยังอยู่กับเธอไหม รินนะด้วย”
“ก็อยู่นะคะ ทำไมเหรอ?”
“เปล่าหรอก ฉันนึกว่าจะถูกบังคับมาที่นี่ด้วยกันเหมือนตอนก่อนจะขึ้นมาชั้นสาม ถ้าไม่ได้มาด้วยก็ค่อยยังชั่ว”
มิวถอนหายใจออกมา เพราะถ้าพาขึ้นไปชั้นสี่ทั้งยังหลับอยู่สองสามคนคงจะไม่ดีเท่าไหร่ แถมมิวอยากจะพารินนะไปหาหมอด้วย
ถึงไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้บ้างไหมก็เถอะ.. เพราะถึงมิวจะฟื้นฟูรินนะกลับมาด้วยดาบ แต่ดาบเล่มนี้ไม่ได้มีความสามารถในการชุบชีวิตคนตาย
มันแค่ฟื้นฟูกลับมา และหากรินนะตายไปแล้วเธอก็คงไม่สามารถฟื้นฟูได้ กล่าวคือรินนะยังไม่ตายนั่นเอง
แต่แม้จะฟื้นฟูกลับมาได้สภาพของเธอก็ไม่สู้ดีนัก เพราะบ้านของเธอหายไปหมดแล้ว อีกอย่างเธอน่าจะสูญเสียความทรงจำด้วย
ในระหว่างที่มิวคิดถึงหลายสิ่งหลายอย่างนั้นเอง เทพธิดาที่เหมือนรอมิวคุยกับผู้กล้าเอริเนียอยู่ก็กระแอมขึ้น
“อะแฮ่ม.. สหายข้า สนใจฟังสิ่งที่เจ้าจะต้องเจอต่อจากนี้ก่อนจะตัดสินใจอะไรดีไหม?”
มิวที่ได้ยินแบบนั้นจึงกลับมามองเทพธิดาสาว เธอเองก็มองมิวเช่นเดียวกัน
“อย่างที่เจ้ารู้ เจ้าทำเควสไม่สำเร็จและต้องได้รับบทลงโทษ.. แต่ไม่ต้องห่วงมีแค่คนที่เห็นเป้าหมายเท่านั้นถึงจะนับว่าได้รับเควสและได้รับบทลงโทษ”
“พูดให้ถูกก็คือ เพื่อนของเจ้าทั้งสองก็ไม่ได้รับบทลงโทษหรอกนั่นเอง”
มิวที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะถึงขั้นเทพธิดาออกมาเองขนาดนี้บทลงโทษเองก็ไม่ใช่อะไรน้อยๆ
มิวที่คิดแบบนั้นเทพธิดาที่เหมือนอ่านความคิดได้ก็รีบพูดขึ้นมาว่า
“ไม่ใช่หรอกสหาย.. ที่จริงมันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงขนาดนั้นหรอก เพียงแต่ว่าเงื่อนไขบทลงโทษน่ะ คือหอคอยมันลงโทษเจ้าไม่ได้ ข้าเลยต้องมาลงโทษแทนอะ”
“เอ้ะ หมายความว่าไง?”
“ก็แบบว่าหนึ่งในสิ่งที่เจ้าต้องรับบทลงโทษคือการเปลี่ยนโครงสร้างตัวตนของเจ้าใหม่หมดน่ะสหายข้า และหอคอยมันทำแบบนั้นกับเจ้าไม่ได้ ซึ่งเหตุผลไม่ต้องบอกก็คงรู้ใช่ไหม?”
“อืม……….”
มิวพยักหน้า เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่หอคอยต้อนรับตั้งแต่แรกแล้วอะนะ เพราะตอนแรกหน้าต่างเควสแทบไม่แจ้งเตือนให้เธอด้วยซ้ำ
แต่เพราะการที่มิวเล่นจัดการสัตว์ประหลาดมอนสเตอร์ไปเยอะ ทางนั้นเลยยอมๆ ให้มา.. ดังนั้นมิวจึงเป็นเหมือนตัวตนที่ไม่ได้อยู่ในกรอบที่หอคอยตั้งไว้
พูดอีกอย่างคือไม่ใช่คนที่ควรจะมาอยู่ในหอคอยนั่นแหละ..
“เพราะแบบนั้นแหละสหายข้า.. ทั้งเจ้าและอีกคนหนึ่งก็มีสภาพไม่ต่างกันมากนัก คือต้องให้ข้าลงมากำหนดตัวตนหรือบทบาทให้เจ้าในชั้นต่อไปน่ะ”
หือ.. มิวที่ได้ยินแบบนั้นก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าไอ้การกำหนดตัวตนหรือบทบาทคืออะไร อันที่จริงเธอก็สงสัยตั้งแต่คำพูดก่อนหน้านี้แล้วล่ะ
ไม่สิ ก่อนอื่นเลยอีกฝ่ายบอกว่าเพื่อนของเธอไม่ได้ถูกพามาด้วยไม่ใช่เหรอ แล้วอีกคนหนึ่งเป็นใคร หมายถึงเทรต้าเหรอ
เดี๋ยวๆๆๆ ไม่ใช่เรื่องนั้น ก่อนหน้านั้น มิวต้องย้อนกลับไปก่อน
“เดี๋ยวนะ เทพธิดา เควสแรกที่ฉันได้รับคือตามหาคนสวมชุดแปลกจากคนในยุคของหอคอย และฉันก็ไปเจอกับเทรต้า ซึ่งน่าจะเป็นคนที่ว่า เควสก็เลยเปลี่ยนไปกลายเป็นว่าฉันพบเป้าหมายแล้วนี่”
“แต่เทรต้าบอกว่าตัวเองไม่ใช่คนจากในหอคอย ไม่ใช่เป้าหมายที่เควสแรกให้ตามหา แต่เควสมันบอกว่าฉันตามหาเจอแล้วนี่มันหมายความว่าไง”
“นอกจากเทรต้าฉันไม่ได้เจอใครเลยนะ!”
มิวพูดแย้งขึ้นมา.. จะว่าไปมันก็ใช่ ตั้งแต่ที่เธอรับเควสมาจนไปเจอกับเทรต้า ช่วยเหลือเทรต้า ทุกอย่างมันชี้ไปบอกว่าเทรต้าคือเป้าหมายที่เธอต้องตามหา
และต้องล้วงความลับ แต่เหมือนว่าเทรต้าจะไม่ใช่ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร เทรต้าโกหกเหรอ จริงๆ เธอยังมีความลับอื่นอีกเหรอ
ไม่สิ เทรต้ารู้เรื่องโลกภายนอก คนในหอคอยไม่น่าจะรับรู้เรื่องโลกภายนอกไม่ใช่เหรอ นี่มันเรื่องบ้าอะไร
สมองมิวรู้สึกเหมือนจะระเบิดออก เทพธิดาสาวที่ได้ยินแบบนั้นก็ตบหน้าผากตัวเองฉาดใหญ่
“อ้ะ.. จะว่าไปข้าก็ลืมอธิบายสหายเหมือนกัน”
“เจ้ายังจำตอนที่เจ้าไปช่วยผู้หญิงคนนั้นได้ไหม”
เทพธิดาสาวที่เหมือนจะพึ่งรู้ตัวเหมือนกันว่ามิวกำลังเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงอยู่ ดังนั้นเธอจึงรีบอธิบายทันที
“หมายถึงเทรต้าน่ะเหรอ?”
“ใช่แล้วตอนนั้นนั่นแหละ คือที่จริงแล้วเป้าหมายที่เจ้าต้องไปช่วยก็อยู่ในที่แห่งนั้นเหมือนกันนั่นแหละนะ เพราะแบบนั้นเควสจึงตัดสินว่าเจ้าพบเป้าหมายแล้วจึงมอบเควสต่อเนื่องให้ทันที”
“ห้ะ.. หมายความว่าไง?”
มิวมึนงงยิ่งกว่าเก่า ที่ที่เธอไปช่วยเทรต้าจากการถูกไล่ล่า คนที่อยู่ตรงนั้นมีแค่แอเรียน เทรต้าและสัตว์ประหลาดตัวยักษ์เท่านั้นนะ
ทว่าในขณะที่กำลังจะพูดต่อว่าไม่มีอะไรแบบนั้นอยู่สักหน่อย มิวก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นภาพของบุคคลตัวหนึ่งที่อยู่ใต้ซากปรักหักพัง
แม้จะเห็นไม่ชัดเพราะตอนนั้นเธอรีบ แต่ก็เหมือนจะมีคนคนหนึ่งอยู่จริงๆ เมื่อเห็นท่าทางที่เหมือนนึกออกของมิว เทพธิดาจึงพูดขึ้น
“นึกออกแล้วงั้นสินะ? คนคนนั้นนั่นแหละ.. ส่วนสาเหตุเพื่อนอีกคนที่ต้องโดนบทลงโทษพร้อมกับเจ้าก็คือสาวน้อยชุดไซไฟนั่นแหละนะ”
“เพราะนางก็เป็นคนที่เห็นเป้าหมายเหมือนกัน แถมหลังจากนั้นเธอก็เข้ามาพัวพันอยู่กับสหาย จนเควสมันจัดให้นางอยู่ในทีมเดียวกันกับเจ้านั่นแหละสหาย”
แน่นอนว่ามิวอาจจะไม่รู้ แต่เทรต้านั้นเห็นคนคนนั้นชัดเจน เธอมีผิวหรือผมที่ซีด ร่างกายผอมแห้ง สวมชุดที่ไม่เข้ากับบรรยากาศยุคกลางรอบด้าน
และเหมือนจะมีแค่ชุดนั่นแหละที่เหมือนจะดูแลอย่างดี ใช่แล้วเธอคนนั้นแหละคือเป้าหมายที่มิวต้องตามหาและล้วงความลับบางอย่าง
ไม่ใช่เทรต้า.. เพียงแต่ว่ามิวเข้าใจผิดคิดไปเองว่าชุดที่ต่างจากยุคสมัยในชั้นนี้คือชุดไซไฟของเทรต้า.. อันที่จริงมันก็ต่างจากยุคสมัยนี้จริงๆ นั่นแหละ
เรียกได้ว่ามันเป็นเรื่องตลกร้ายที่เทรต้าดันบังเอิญมาสวมชุดที่ไม่เข้ากับโลกนี้ แถมไม่ใช่ผู้ใช้อารยธรรมอีก เลยทำให้มิวเข้าใจผิดไป
ทั้งทีความจริงแล้วชุดที่ไม่เข้ากับยุคนี้.. เป็นแค่ชุดที่ดูทันสมัยแบบยุคใหม่ขึ้นมาก็เท่านั้นนั่นเอง ไม่ถึงขั้นชุดไซไฟขนาดที่เทรต้าใส่
มิวที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ร้อง
“ห๊า..?”
ออกมาอย่างมึนงง นี่มันมุกตลกบ้าบออะไรเนี่ย ทุกอย่างมันดูบังเอิญเกินไปจนน่ากลัวเกินไปหรือเปล่าละเนี่ย
เหมือนกับว่าทุกอย่างต้องการให้เธอเข้าใจผิดและทำเควสล้มเหลวเลย.. มิวมองหน้าเทพธิดาด้วยสีหน้าเหลือจะเชื่อ
“ก็อย่างที่ว่านั่นแหละนะ สหาย.. คือเจ้าเข้าใจผิดไปเอง ส่วนสาวน้อยชุดไซไฟของเจ้าก็โดนลูกหลงไปด้วยก็เลยต้องรับบทลงโทษด้วยกันนั่นแหละ”
“เอาล่ะมาเข้าประเด็นหลักของเราดีกว่า”
“เดิมทีถ้าหากเควสสำเร็จ.. เจ้าจะได้รับรางวัลแล้วก็รับเควสต่อเนื่องขึ้นไปยังชั้นต่อไปหรือจะออกนอกหอคอยก่อนได้ แต่กลับเข้ามาจะยังสามารถเริ่มเควสใหม่ต่อได้อีก พูดง่ายๆ คือเควสนี้จะเป็นของเจ้าแน่นอน”
“แต่เพราะเจ้าทำเควสไม่สำเร็จ สิ่งเหล่านั้นจึงไม่เกิดขึ้นและสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นด้านตรงกันข้ามคือ หากเควสต่อเนื่องยังไม่หมด เจ้าจะไม่สามารถออกจากหอคอยได้”
“นั่นคือบทลงโทษที่หนึ่ง”
“ส่วนบทลงโทษบทที่สอง.. เจ้าต้องขึ้นไปยังชั้นสี่โดยการเปลี่ยนแปลงตัวตนและเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ ‘โลก’ นั้นเพื่อทำเควสให้เสร็จ!”
“แน่นอนเพราะว่าการเปลี่ยนแปลงตัวตนและบทบาทของเจ้า.. จะทำให้เจ้าไม่สามารถใช้พลังเต็มที่ของตัวเองได้ เจ้าจะสามารถใช้พลังได้แค่ที่บทบาทของเจ้าจะได้รับนั่นแหละนะ”
“นั่นสินะ.. ถ้าจะให้ข้าอธิบายกฎและบทลงโทษในชั้นถัดไปที่เจ้าต้องได้รับและต้องผ่านเควสเลยก็คือ….”
“เจ้าต้องเป็นส่วนหนึ่งของนวนิยายเรื่องในหอคอยชั้นที่ 4 ..เหมือนกับการที่แต่ละชั้นมีเนื้อเรื่องของมัน เจ้าจะต้องเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องราวดังกล่าวนั่นเอง!”
…….
[Fact]
บุคคลดังกล่าวปรากฏตัวในบท 46 ที่เทรต้ามองเห็น และนั่นแหละคือเป้าหมายตัวจริงที่มิวไม่ได้โฟกัส
[วันนี้มีแค่ตอนเดียว ตอนเย็นไม่มีตอนใหม่ – ผู้เขียน]