ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ – ตอนที่ 2 คุณเซลิสเทียคือนักล่าจริง ๆ ด้วย

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

ตอนที่ 02 คุณเซลิสเทียคือนักล่าจริง ๆ ด้วย

 

ในห้องสมุด

 

“…”

 

ช่วงเวลาระหว่างพักกลางวัน

 

ผมนั่งจดจ้องมองคุณเซลิสเทียตลอดเวลา นั่งจดจ้องมองคุณเซลิสเทียกำลังนั่งอ่านหนังสือ อะ ที่ผมนั่งจดจ้องมองแบบนี้ มันไม่ใช่เพราะว่าผมสนใจหรือคิดอะไรเป็นอื่นนะ

 

แค่ระมัดระวังตัวเองไว้ก็เท่านั้น ระมัดระวังตัวนะ อย่าได้เข้าใจผิดล่ะ

 

“…”

 

“น่าสงสัย”

 

“…”

 

ยิ่งนานเข้ายิ่งน่าสงสัย

 

มีแนวคิดหนึ่งผุดเข้ามาในหัวสมองของผม บางทีนะ คุณเซลิสเทียอาจไม่ได้ต้องการเข้ามาในห้องสมุดเพื่ออ่านหนังสือก็ได้ บางทีจุดประสงค์หลักของการเข้ามาในห้องสมุด

 

อาจมาเพื่อติดตามเหยื่อตัวน้อยอย่างผม ถามว่าทำไมผมถึงคิดแบบนั้น คำตอบของคำถามมันค่อนข้างเป็นอะไรที่ง่ายมากครับ เพราะตลอดเวลาที่ผมนั่งอยู่ในห้องสมุด

 

อยู่มันมาตั้งแต่ต้นเทอม ผมยังไม่เคยเห็นหน้าคุณเซลิสเทียโผล่เข้ามา จวบจนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อนที่คุณเซลิสเทียเริ่มเข้ามาใช้ห้องสมุดจริงจัง เข้ามาช่วงกลางวันเป็นประจำ

 

บอกกล่าวตามตรงไม่ว่าจะมองยังไงมันก็น่าสงสัย

 

“…”

 

ปลายนิ้วมือจับปากกา

 

ขณะบันทึกทุกสิ่งอย่างที่คิดว่าเป็นประโยชน์ บางทีสิ่งที่ผมทำมันอาจเป็นอะไรที่เปล่าประโยชน์ก็ได้ แต่การรับรู้ความเคลื่อนไหวนักล่า มันก็ทำให้เหยื่ออย่างผมรู้สึกปลอดภัยยิ่งขึ้น

 

อย่างน้อยที่สุดก็รู้ว่าเวลาไหนควรไปไหน เวลาไหนควรถอยห่าง

 

“อ่านหนังสือ…”

 

“นอกจากอ่านหนังสือ…”

 

“ก็อ่านหนังสือ…”

 

“…”

 

“มีแต่อ่านหนังสืออย่างเดียวนิ?”

 

ผมเลิกคิ้วมองข้อความที่บันทึกในสมุด

 

คุณเซลิสเทียครับ คุณไม่คิดจะทำอย่างอื่นที่มันแตกแยกแตกต่างสักหน่อยเหรอ เอาแต่อ่านหนังสืออย่างเดียวผมก็ตรวจจับพฤติกรรมไม่ได้สิ อะ เหมือนจะมีผู้ชายเข้ามาคุยด้วย

 

แบบนี้ต้องจด แน่นอนว่าเหตุการณ์สถานการณ์ลักษณะเฉกเช่นนี้ล้วนมีมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ด้วยความสวยของคุณเซลิสเทียที่มีมากมายมหาศาล เลยทำให้ช่วงเวลาส่วนใหญ่ ช่วงเวลาพักเที่ยงของเธอ มักจะมีผู้ชายรุ่นพี่หรือชั้นปีเดียวกันเข้ามาพูดคุยเสมอ

 

วันนี้เองก็เป็นอีกวันที่มีเข้ามาพูดคุย

 

“คุณเซลิสเทียครับ”

 

“พอจะมีเวลาว่างไหมครับ?”

 

“มีอะไรึเปล่าคะ?”

 

“…”

 

“ส่วนใหม่จะใช้เวลาพูดคุยอยู่ประมาณ 5 นาที”

 

เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้นก่อนผู้ชายจะลุกเดินจากไป

 

เท่าที่สังเกตมาตลอดหลายต่อหลายวัน ผมยังไม่เคยเห็นผู้ชายใครคนไหนสามารถพูดคุยกับคุณเซลิสเทียได้เกิน 5 นาทีเลย ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกมาก หรือจะเป็นวิธีการของนักล่า

 

เป็นวิธีการสนทนาเลือกเหยื่อเลือกเป้าหมายต่อ อือออออ~ เป็นไปได้แฮะ แต่สำหรับผมที่ไม่กล้าสนทนากับคุณเซลิสเทียเกิน 3 ประโยค การพูดคุยยาวถึง 5 นาที จึงเป็นอะไรที่

 

เหยื่อตัวน้อยอย่างผมคงจินตนาการไม่ออกเลย

 

“คุณเซลิสเทียคะ?”

 

“อาจารย์มีเรื่องไหว้วานนิดหน่อย?”

 

“พอจะมีเวลาไหมคะ?”

 

“…”

 

“ไม่มีปัญหาค่ะ”

 

คุณเซลิสเทียตอบรับคำขอจากอาจารย์ห้องสมุด

 

หลังจากนั้นคุณเซลิสเทียก็ลุกจากเก้าอี้ ดะ เดี๋ยวก่อนนะ ทะ ทำไมถึงต้องมองผมด้วยล่ะ ในช่วงจังหวะที่คุณเซลิสเทียลุกออกจากเก้าอี้เตรียมเดินเข้าไปรับเรื่องจากอาจารย์

 

มันมีช่วงวูบที่เหมือนเธอจะเหลือบหันสายตามาทางผม นะ นี่มันไม่ดีเลย หรือว่าสัญชาตญาณของนักล่าจะทำงานได้ยอดเยี่ยม ทำงานได้ยอดเยี่ยมจนถึงขนาดรับรู้

 

รับรู้ว่าเหยื่อตัวน้อยอย่างผมกำลังจับจ้องมองอยู่

 

…‘เป็นไปไม่ได้หรอก’

 

“…”

 

ใช่ เป็นไปไม่ได้หรอก

 

ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว เห็นแบบนี้ แต่ผมก็ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์ล่องหนเลยนะ ขอเพียงผมปิดปากพยายามตัวให้นิ่งเงียบที่สุด ก็ไม่มีใครเข้ามาคุยกับผมแล้ว เป็นไงล่ะ เจ๋งใช่ไหม

 

อะ เหมือนจะมีน้ำตาหน่อย ๆ นะ ทะ ที่คนอื่นเมินผมไม่เข้ามาพูดคุย ไม่ใช่เพราะผมไม่มีเพื่อนนะ ผมก็แค่ฝึกฝนพรางตัวเท่านั้น แค่ฝึกฝนลอดเวลาเพื่อเตรียมพร้อมเตรียมตัวรับมือกับนักล่าอย่างคุณเซลิสเทียต่างหาก วะ ว่าแต่ทำไมยิ่งพูดผมยิ่งดูแย่นะ

 

หลังจากคุณเซลิสเดินเข้าไปช่วยเหลืออาจารย์

 

ผมก็บันทึกเขียนข้อความลงไปในสมุด

 

[ สวย / เก่ง / และชอบช่วยเหลือคนอื่น ]

 

[ สวยมาก / หุ่นดีอีกต่างหาก ]

 

[ นักล่า / เหยื่อ ]

 

[ วิธีการหลบหนีจากนักล่า ]

 

“…”

 

ว่าแต่ เอาตามตรงนะ 

 

ไอ้ที่ผมทำนี่

 

มัน โคตรจะโรคจิตเลยไม่ใช่เหรอ?!

 

อ๊ากกกกก!

 

.

 

.

 

.

 

น่าอายจัง

 

เลิกดีกว่า

 

เลิกเขียน

 

 

ตอนเย็น

 

“…”

 

หลังเพื่อนร่วมห้องของผมกลับไปกันหมดแล้ว

 

แต่ผมก็ยังไม่ได้กลับหรอกนะ ถามว่าทำไมเหรอ อืออออ อาจจะเพราะแสงอาทิตย์ยามเย็นบวกกับบรรยากาศเงียบงันของห้องเรียนยามเย็น มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมละมั้ง

 

ฮ่าฮ่าฮ่า เอาเป็นว่าปล่อยผ่านเมื่อกี้ไปเถอะ ผมล้างมือหลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จ พอเงยหน้ามองกระจกก็เห็นเด็กน้อยคนหนึ่งที่ตัวไม่สูงมากนัก มีเส้นผมสีดำปิดทั้งหน้า จนแทบมองอะไรไม่เห็น ใช่ เจ้าคนที่อยู่ในกระจกก็คือผมเองแหละ

 

ผมสะบัดน้ำออกจากมือ

 

“…”

 

ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป

 

ระหว่างทางกลับห้องน้ำมันก็เงียบเหงาตามระเบียบ ปราศจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนไม่มีแม้แต่คนเดียว ซึ่งมันก็ไม่ได้แปลกแยกอะไรออก ออกจะสบายใจด้วยซ้ำที่ได้อยู่คนเดียว

 

แต่พอเปิดประตูกลับเข้าไปในห้องเท่านั้นแหละ

 

“…”

 

“!!!”

 

“…”

 

ดวงตาของผมพลันเบิกกว้าง

 

เบิกกว้างแสดงอาการตื่นตระหนกตกใจให้เห็น มีใครบางคนยังอยู่ในห้องไม่จากหายไปไหน อีกทั้งคนที่หลงเหลืออยู่ยังเป็นคุณเซลิสเทีย คนที่ผมหวาดระแวงขั้นสุดอีกต่างหาก 

 

แต่ที่ทำให้ผมดวงตาเบิกกว้างตื่นตระหนกตกใจ ไม่ใช่แค่คุณเซลิสเทียที่อยู่ในห้องอย่างเดียว แต่เป็นสิ่งที่เธอกระทำในห้องเรียนต่างหาก ฝ่ามือขาวเนียนหยิบจับหลอดปริศนา

 

เป็นหลอดที่บรรจุของเหลวสีแดงสด ก่อนเธอจะดูดดื่มเจ้าของเหลวสีแดงสดผ่านริมฝีปาก สีหน้าหอมหวานรื่นรมย์ทำเอาผมที่เปิดประตูเข้ามาพานพบเห็นถึงกับสั่นสะท้าน

 

อะ ไอ้ที่อยู่ในหลอด มะ มันคือเลือดใช่ไหม

 

“…”

 

คุณเซลิสเทียที่รู้สึกตัวเหลือบหันมองมาที่ผม

 

ดวงตาสีดำที่เคยดึงดูดสายตาใครคนอื่นให้เหลือบหันมอง ตอนนี้มันแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงสดไปแล้วเรียบร้อย เป็นสีแดงสดดุจของเหลวที่บรรจุอยู่ในหลอดปริศนา

 

แดงเปรียบเสมือนกับเลือดที่ไหลออกจากร่างกายเวลาเกิดบาดแผล ผะ ผมที่เห็นถึงกับมือไม้สั่นไปหมด ยิ่งเห็นสายตาอันสุดแสนสยองที่เธอมองมา ผมยิ่งสั่นหนักหน่วงเข้าไปใหญ่

 

กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีผมก็วิ่งออกมานอกห้องไปแล้วเรียบร้อย

 

…‘มะ เมื่อกี้มันคืออะไร’

 

“…”

 

อาจจะเป็นเลือด

 

หรือเป็นอย่างอื่น

 

ละ แล้วถ้าเป็นเลือดล่ะ

 

ถ้าเป็นเลือดแล้ว ทะ ทำไม

 

คุณเซลิสเทียถึง…

 

.

 

.

 

.

 

เอาเป็นว่าอย่าพึ่งไปคิดเรื่องอื่น

 

ตอนนี้เอาตัวให้รอดก่อน

 

วิ่งไปเลยเจ้าขาทั้งสองข้างของผม

 

 

ในห้องเรียน

 

“…”

 

“ตายจริง”

 

“…”

 

เซลิสเทียกะพริบตามอง

 

ขณะเก็บหลอดปริศนาเข้ากระเป๋า สายตาสีแดงสดของหล่อนเหลือบมองตำแหน่งเดิม ตำแหน่งที่ชายหนุ่มร่างเล็กที่พึ่งวิ่งหนีหายจากไป ริมฝีปากคลี่รอยยิ้มเบาบาง

 

เสมือนกับกำลังพึ่งพอใจกับอะไรสักอย่าง

 

“…”

 

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

Status: Ongoing
เพื่อนร่วมห้องของผม คุณเซลิส เธอคือคนแปลกประหลาด ทั้งยังเป็นสาวงามที่สวยที่สุดในโรงเรียนอีกต่างหาก หากจะให้อธิบายความสัมพันธ์ของพวกเราสองคน อธิบายให้เข้าใจ ผมคงไม่พ้นต้องเป็นเหยื่อ ส่วนเธอก็คือนักล่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท