องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! – บทที่ 753 สถานการณ์พลิกผันระหว่างการเดินทางเข้าสู่สุสานหลวง

บทที่ 753 สถานการณ์พลิกผันระหว่างการเดินทางเข้าสู่สุสานหลวง

เบื้องหน้า​นั้น​หนี​เฟิ​่ง​ฟัง​ดู​เข้า​อก​เข้าใจ​ทุกคน​เป็น​อย่างดี

อย่างไร​น้ำเสียง​ที่นาง​ใช้​พูด​ก็​อ่อนโยน​อย่างมาก

ทุกคน​ต่าง​คิด​ว่านาง​เป็น​คนมีเหตุผล​ ​ใจดี​ ​และ​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความซื่อตรง

แต่​อันที่จริง​นั้น​ ​การโต้ตอบ​ของ​นาง​ไม่ได้​เพียง​ช่วย​ให้​หนี​เปียว​เอาตัวรอด​จาก​สถานการณ์​คับขัน​นี้​ได้​เท่านั้น​ ​แต่​มัน​ยัง​ทำให้​ความสำคัญ​ของ​ชัยชนะ​ที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ได้มา​ใน​รอบ​นี้​ลดน้อยลง​ ​ด้วย​การ​ชี้ให้เห็น​ว่า​ชัยชนะ​นี้​ไม่ได้​มี​ความสลักสำคัญ​แต่ประการใด​ ​เพราะ​มัน​ไม่ใช่​ผลลัพธ์​สุดท้าย​ของ​การแข่งขัน

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไม่เคย​พบ​หนี​เฟิ​่ง​ใน​ชาติ​นี้​มาก​่อน​ ​แต่​นาง​รู้จัก​หนี​เฟิ​่ง​ใน​อดีตชาติ​เป็น​อย่างดี​ ​นาง​เป็น​คน​ประเภท​ที่​ปล่อย​ให้​คนอื่น​รับบท​ตัว​ร้าย​ ​แต่​ตัวเอง​จะ​คอย​เติม​เชื้อไฟ​และ​หลบ​อยู่​ข้างหลัง​พวกเขา

หาก​เทียบ​กับ​หนี​หู่​แล้ว​ ​นาง​ทน​ผู้​เป็น​พี่สาว​ของ​เขา​ไม่ได้​มากกว่า​เสียอีก

เด็กสาว​ที่​เป็น​พระ​ชายา​กลับชาติมาเกิด​หรือ

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หัวเราะ​ ​มัน​ไม่ใช่​เรื่องจริง​ ​และ​นาง​ไม่ได้​ทำตัว​ให้​เหมาะสม​กับ​มัน​เลย​แม้แต่​นิดเดียว

แต่​คน​พวก​นี้​ก็​งมงาย​และ​เชื่อ​สายตา​ของ​ตัวเอง​มากกว่า​สิ่ง​อื่น

ดังนั้น​พวกเขา​จึง​พากั​นพ​ยัก​หน้าตา​มทุ​กอย​่าง​ที่​หนี​เฟิ​่ง​พูด

“​คุณหนู​หนี​พูด​ถูก​ ​พวกเรา​เข้าไป​ข้างใน​สุสาน​หลวง​กัน​ดีกว่า​ ​เป้าหมาย​สูงสุด​ของ​พวกเรา​ก็​คือ​พระ​สรีระ​ ​การ​มาถึง​ที่นี่​เป็น​เพียงแค่​ก้าว​แรก​เท่านั้น​ ​ใคร​จะ​รู้​ล่ะ​ว่า​จะ​มี​อันตราย​อะไร​รอ​เรา​อยู่​ใน​นั้น​ ​เรา​รีบ​เข้าไป​ข้างใน​ก่อน​จะ​มืด​ไป​กว่านี​้​ ​แล้ว​พยายาม​ออกมา​ก่อน​ฟ้าสาง​จะ​ดีกว่า​”

หนี​เฟิ​่ง​พอใจ​เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​สนับสนุน​นั้น​ ​นาง​มอง​ไป​ที่​คน​คน​นั้นแล​้ว​ส่ง​ยิ้ม​ให้​กับ​เขา​ ​เป็น​อีกครั้ง​ที่นาง​สามารถ​เอาชนะ​ใจ​บรรดา​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ได้​ทันที

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เม้มปาก​ ​แล้ว​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ว่า​ ​”​คุณหนู​หนี​ ​คนที​่​ทำให้​เรื่องราว​ซับซ้อน​ขึ้น​ก็​คือ​นายท่าน​หนี​และ​น้องชาย​ของ​เจ้า​ ​แต่​เจ้า​กลับ​ชี้นิ้ว​ใส่​ผู้อื่น​แทน​หรือ​ ​ช่าง​น่า​ฉงน​ยิ่งนัก​”

นิ้ว​ของ​หนี​เฟิ​่ง​ชะงัก​ไป​และ​กำ​เข้าหา​กัน​ทันทีที่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ ​แต่​นาง​ก็​สามารถ​กลับมา​สงบ​เยือกเย็น​ได้​อย่างรวดเร็ว​ ​นาง​กระแอม​แล้ว​ตอบ​ว่า​ ​”​เรื่อง​ทั้งหมด​เป็น​เพียงแค่​การ​เข้าใจผิด​เท่านั้น​ ​ท่าน​อาจจะ​ถือสา​น้องชาย​ของ​ข้า​เกินไป​ ​จึง​ทำให้​เรื่องราว​ดำเนิน​มา​จนถึง​ขั้น​นี้​ได้​ ​ท่าน​จะ​รับคำ​ขอโทษ​หรือไม่​ถ้า​ข้า​ขอโทษ​แทน​เขา​”

ทุกคน​ที่ตั้ง​ใจ​ฟัง​ย่อม​รู้​ว่านาง​ไม่​คิด​ที่จะ​ขอโทษ​จาก​ใจ​ ​นาง​เอาแต่​ยืนกราน​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จริงจัง​กับ​สถานการณ์​นี้​เกินไป​ ​ทุกอย่าง​เป็น​เพียงแค่​การ​เข้าใจผิด​ ​และ​ยัง​ฟัง​ดูเหมือน​กับ​ว่า​คนใน​ตระกูล​หนี​เป็น​ผู้บริสุทธิ์​มาต​ลอด

แต่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จะ​ดูเหมือน​คน​ใจแคบ​ทันที​ถ้า​นาง​ปฏิเสธ​ที่จะ​ยอมรับ​คำขอโทษ​ของ​นาง

หนี​เฟิ​่ง​รู้​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เป็น​คน​เช่นใด​ตั้งแต่​ได้​พบ​ครั้งแรก​ ​และ​ยัง​รู้​อีกด้วย​ว่านาง​จะ​ต้อง​ปฏิเสธ​อย่างแน่นอน​ ​และ​นั่น​จึง​เป็นสาเหตุ​ที่​ทำให้​นาง​เลือก​ที่จะ​ตอบโต้​ด้วย​การ​ใช้​ไม้​อ่อน

คำพูด​ของ​นาง​จะ​ทำให้​ฝ่าย​ที่​กำลัง​ข่มเหง​คนอื่น​ไม่ใช่​ตระกูล​หนี​อีกต่อไป​ ​แต่​เป็น​คนที​่​ยืน​อยู่​ตรงข้าม​กับ​นาง

แต่​หนี​เฟิ​่​งก​ลับ​นึกไม่ถึง​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จะ​ยิ้ม​ออกมา​ ​นาง​จ้องมอง​เข้าไป​ใน​ดวงตา​ของ​หนี​เฟิ​่ง​ราวกับ​สามารถ​อ่าน​ความคิด​ของ​นาง​ได้​อย่าง​ทะลุปรุโปร่ง​ ​จากนั้น​จึง​ตอบ​อย่าง​เย็นชา​ว่า​ ​”​ได้​สิ​ ​เช่นนั้น​ก็​เชิญ​ขอโทษ​ข้ามา​เถอะ​”

หนี​เฟิ​่ง​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​กำมือ​เข้าหา​กัน​อีกครั้ง​พร้อมกับ​หรี่​ตาลง​ ​นาง​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จะ​ตอบ​ตกลง​ได้หน้า​ตา​เฉย​ถึง​เพียงนี้​!​ ​อันที่จริง​นาง​ไม่ได้​อยาก​ขอโทษ​อีก​ฝ่าย​มาตั​้ง​แต่แรก​ ​และ​สิ่ง​ที่นาง​เตรียม​ไว้​มี​เพียงแค่​คำพูด​สำหรับ​ทำให้​ทุกคน​เกลียดชัง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เมื่อ​นาง​งับ​เหยื่อ​เท่านั้น

แต่​ตอนนี้​สถานการณ์​พลิกผัน​เสีย​แล้ว

ดูเหมือน​เหยื่อ​ของ​นาง​จะ​ไม่ทันสังเกต​เห็น​เหยื่อ​ล่อ​ที่นา​งบร​รจง​วาง​ไว้​เลย​ด้วยซ้ำ​ ​แล้ว​นับประสา​อะไร​จะ​มาต​กห​ลุม​พราง​ที่นาง​วาง​ไว้​ได้

แม้​คำขอโทษ​จะ​ไม่ได้​มีค่า​อะไร​ไปมา​กก​ว่าการ​แสดง​สำหรับ​นาง​ ​แต่​ความรู้สึก​ราวกับ​ตัวเอง​ต่ำต้อย​กว่า​อีก​ฝ่าย​เช่นนี้​ก็​ทำให้​นาง​รู้สึก​อึดอัด​อย่างมาก

แต่​ต่อให้​ภายใน​จะ​รู้สึก​เช่นไร​ ​หนี​เฟิ​่​งก​็​ไม่เคย​แสดง​อารมณ์​ของ​ตัวเอง​ออกมา​ให้​ใคร​เห็น​ ​นาง​ยังคง​เยือกเย็น​ ​จากนั้น​จึง​กระแอม​ออกมา​อีกครั้ง​ ​แล้ว​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​อ่อนโยน​พร้อมกับ​ไอ​ออกมา​ว่า​ ​”​ข้า​ขอโทษ​”

จู​เก​่​ออ​วิ​๋​นอ​้า​ปาก​ค้าง​เมื่อ​ได้​เห็น​ทุกอย่าง​ที่เกิด​ขึ้น

เขา​ไม่เคย​เห็น​ใคร​สามารถ​ทำให้​คน​ตระกูล​หนี​กล่าว​ขอโทษ​ต่อหน้า​ผู้คน​มากมาย​เช่นนี้​ได้มา​ก่อน​ ​แต่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เพิ่งจะ​พิสูจน์​ให้​เห็น​ว่านาง​เป็น​คนเดียว​ที่สามา​รถ​ทำได้​ ​และ​ยัง​ทำได้​ด้วย​กำลัง​ของ​ตนเอง​อีกด้วย​!

นอกจาก​จู​เก​่​ออ​วิ​๋น​แล้ว​ ​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​คนอื่นๆ​ ​ต่าง​ก็​มอง​ไป​ที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ด้วย​ความชื่นชม​เล็กน้อย​แต่​ก็​ยาก​จะ​ปิดบัง​ได้

น่าเสียดาย​ที่นา​ยน​้อย​เซียว​และ​กลุ่ม​ของ​เขา​ยัง​มา​ไม่​ถึง​ ​ถ้า​พวกเขา​ได้​เห็นภาพ​นี้​ ​พวกเขา​จะ​ต้อง​เข้ามา​เกาะติด​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​และ​บูชา​นาง​เป็นแน่

พวกเขา​เป็น​คน​กลุ่ม​เดียว​ที่​ได้​เห็น​ความสามารถ​ที่แท้​จริง​ของ​นาง​มากับ​ตา

จนกระทั่ง​ถึง​ตอนนี้​ ​นอกจาก​จู​เก​่​ออ​วิ​๋น​แล้ว​ ​ก็​ไม่มีใคร​รู้เรื่อง​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กับ​ค้างคาว​ดูด​เลือด​ฝูง​นั้น​อีก

แน่นอน​ว่า​ถ้า​ทุกคน​รู้เรื่อง​นี้​เข้า​ ​พวกเขา​จะ​ต้อง​ตกใจ​จน​ตัวสั่น​ไป​อีก​นาน

ในเวลานี้​ ​สอง​พ่อ​ลูก​ตระกูล​หนี​ยัง​ไม่รู้​อะไร​เลย​แม้แต่น้อย​ ​พวกเขา​ยังคง​คิด​ว่า​เมื่อ​เข้าไป​ถึง​สุสาน​หลวง​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จะ​ต้อง​คุกเข่า​ร้องขอ​ความช่วยเหลือ​จาก​พวกเขา

นั่น​จึง​เป็นสาเหตุ​ที่​ทำให้​พวกเขา​ต้องการ​เข้าไป​ใน​สุสาน​หลวง​โดยเร็ว​ที่สุด

ต่อให้​เจ้า​พวก​นี้​จะ​โต้คารม​เก่ง​เพียงใด​ ​แต่​พวกเขา​ก็​ยัง​เป็น​เพียงแค่​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ฝีมือ​ธรรมดา​ ​ทันทีที่​พวกเขา​เข้าไป​ใน​สุสาน​หลวง​ ​ตระกูล​หนี​จะ​ได้​อยู่​ใน​ที่​ที่​ตน​คุ้นเคย​ ​เจ้า​เด็ก​เหลือขอ​จอม​อวดดี​ทั้ง​สาม​คน​ควร​เริ่ม​คิดถึง​ชีวิต​อัน​ต่ำต้อย​ของ​ตัวเอง​ได้​แล้ว​!

หนี​หู่​สงบใจ​ลง​ได้​เมื่อ​คิด​เช่นนั้น​ ​แม้​ใน​สมอง​ของ​เขา​จะ​ยังคง​มี​ภาพ​ตอนที่​ตัวเอง​คุกเข่า​ลง​ขอขมา​อีก​ฝ่าย​ผุด​ขึ้น​มา​ไม่หยุดหย่อน​ ​และ​ต่อให้​เขา​จะ​รู้สึก​เหมือน​ถูก​ฝูงชน​ตบหน้า​เข้า​อย่าง​จัง​ ​แต่​เขา​ก็​จำต้อง​ข่ม​ความคิด​เหล่านั้น​เอาไว้​ ​อย่างน้อย​ก็​ใน​ตอนนี้

เขา​จะ​เอาคืน​คน​พวก​นี้​ได้​ก็ต่อเมื่อ​เขา​รู้จัก​ใจเย็น​ให้​มากกว่า​นี้​!

“​ได้เวลา​แล้ว​”​ ​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​คน​หนึ่ง​เอ่ย​ขึ้น​ ​”​ผ่าน​มาค​รึ​่ง​วัน​แล้ว​ ​ต่อให้​มี​กลุ่ม​อื่น​มาถึง​ ​แต่​พวกเขา​ก็​น่าจะ​ถูก​ตัดสิน​ให้​ตกรอบ​อยู่ดี​ ​เรา​ไม่ต้อง​รอ​พวกเขา​ ​และ​เข้า​สุสาน​หลวง​กันได​้​แล้ว​”

ประโยค​นี้​ทำให้​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ที่นั่ง​พักผ่อน​กัน​อยู่​ต่าง​กลับมา​ตื่นตัว​อีกครั้ง​!

อย่างไร​การ​เดินทาง​เข้าไป​ใน​สุสาน​หลวง​ก็​ไม่ใช่​เรื่องเล็ก​ ​ไม่รู้​ว่า​พวกเขา​จะ​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​อันตราย​อัน​ใด​ทันทีที่​เข้าไป​ถึง

พวกเขา​อาจจะ​เป็น​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ ​แต่​พวกเขา​ก็​ยัง​รู้สึก​กลัว

ที่​เป็น​เช่นนั้น​ก็​เพราะ​ที่นี่​เป็น​สุสาน​โบราณ​ ​และ​ยัง​เต็มไปด้วย​สิ่ง​ที่​พวกเขา​ยัง​ไม่เข้าใจ

บรรดา​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ถึงกับ​ตามหา​ผู้อาวุโส​จาก​ภูเขา​ไท่​ไป๋​ให้​มา​เป็น​ผู้นำทาง​ของ​พวกเขา

ผู้อาวุโส​เป็น​คนใน​พื้นที่​ ​เกิด​และ​โต​ที่นั่น​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​คุ้นเคย​กับ​ทุกซอกทุกมุม​ของ​ที่​แห่ง​นี้​เป็น​อย่างดี

แต่​ถ้า​เป็นไปได้​ ​เขา​ก็​ไม่ต้องการ​เข้าไป​ใน​สุสาน​แห่ง​นั้น

ถ้า​ไม่ใช่​เพราะ​เงินราง​วัล​จำนวน​มหาศาล​ ​ก็​คง​ยาก​ที่จะ​เกลี้ยกล่อม​ให้​เขา​เข้าไป​ใน​สุสาน​หลวง​ได้

เขา​เคย​อยู่​ใน​กองทัพ​มาก​่อน​ ​หน่วย​ของ​เขา​มีหน้า​ที่​ใน​การ​ค้นหา​สมบัติ​มีค่า​จาก​สุสาน​ให้​กับ​ราชสำนัก​มาตั​้ง​แต่​สมัย​ราชวงศ์​ก่อน

ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​อาจมี​พลัง​ใน​การขับไล่​ปีศาจ​ ​แต่​การตาม​ล่า​หา​สมบัติ​ไม่ใช่​ความ​เชี่ยวชาญ​ของ​พวกเขา​ ​ดังนั้น​พวกเขา​จึง​จำเป็นต้อง​ให้​ผู้อาวุโส​เข้าไป​ใน​สุสาน​พร้อมกับ​พวกเขา

ตระกูล​หนี​มี​ผู้​มีประสบการณ์​ด้าน​นี้​อยู่​ใน​กลุ่ม​มากกว่า​สอง​คน​ ​ดังนั้น​พวกเขา​จึง​มีโอกาส​ที่จะ​ชนะ​สูง​อย่างมาก​ ​ในขณะเดียวกัน​โอกาส​ที่​พวกเขา​จะ​เจอ​อันตราย​ใน​สุสาน​หลวง​เอง​ก็​ลดน้อยลง​ไป​ด้วย

แต่​นัก​ล่า​สมบัติ​ตาม​สุสาน​เช่นนี้​ก็​ไม่ได้​แข็งแกร่ง​ไป​เสีย​ทุกคน​ ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​คนที​่​เคย​ทำงาน​ให้​กับ​ราชสำนัก​ ​พวกเขา​มักจะ​ยึดติด​กับ​กฎระเบียบ​มากกว่า​คนที​่​ปล้น​สุสาน​เพื่อ​ผลประโยชน์​ตัวเอง

ยกตัวอย่างเช่น​ ​พวกเขา​จะ​ไม่ได้​รับ​อนุญาต​ให้​แตะต้อง​ทองคำ​ใน​ช่วงเวลา​ที่​สำคัญ​ ​หรือ​พวกเขา​ต้อง​จุด​เทียน​ที่​มุม​ตะวันออกเฉียงใต้​ของ​โลงศพ​เท่านั้น

พวกเขา​จะ​ต้อง​ออกมา​จาก​ที่นั่น​ทันทีที่​เทียน​หมด​เล่ม

ว่า​กัน​ว่า​สิ่ง​เหล่านี้​ล้วนแต่​เป็น​ข้อตกลง​ระหว่าง​คน​เป็น​กับ​คนตาย

หนี​เปียว​ไม่สน​ใจ​กฎระเบียบ​พวก​นั้น​เลย​แม้แต่น้อย​ ​สิ่ง​เดียว​ที่​เขา​ต้องการ​ก็​คือ​การ​เอา​พระ​สรีระ​มา​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ​ไม่ว่า​มัน​จะ​ต้อง​แลก​มาด​้ว​ยอะ​ไร​ก็ตาม​ ​แต่​ในเวลาเดียวกัน​นั้น​ ​เขา​ก็​จะ​ทำให้​เจ้า​เด็ก​เหลือขอ​ปาก​คอ​เราะร้าย​ผู้​นี้​ได้​รู้​ว่าความ​เสียใจ​รสชาติ​เป็น​อย่างไร​!

ทันทีที่​เข้าไป​ใน​สุสาน​หลวง​ ​เจ้า​พวก​นี้​จะ​ได้​รู้​เสียที​ว่า​ใคร​กันที่​คุม​ที่นี่​อยู่​!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก นักรบหญิงย้อนเวลามาเจอสังคมอุดมพลังปราณ…และองค์ชายสายคลั่งรัก!

“เจ้าต้องรับผิดชอบ”

“ก็ได้ ท่านต้องการให้ข้ารับผิดชอบอย่างไรหรือ อย่าบอกนะว่าท่านอยากให้ข้าแต่งงานด้วย”

“แต่งงานหรือ…” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจับคางของเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างหยอกล้อ

“ไหนๆ เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ลองมาตรวจสอบเรื่องนี้กันก่อนดีไหม…

ไปเตรียมห้อง!”

เฮ่อเหลียนเวยเวย ราชินีนักรบแห่งศตวรรษที่ 21 ย้อนเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูใหญ่ชื่อเดียวกัน

ย้อนมาวันแรกก็พบว่านางถูกยกเลิกงานแต่งงาน ทั้งยังเจอแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดาหมายหัวเอาชีวิต

ทั้งยังต้องพบว่า โลกนี้วัดค่าของคนด้วยพลังลมปราณ ทว่าร่างนี้ไม่มีลมปราณ จึงถูกเรียกว่า ‘นังคนไร้ค่า’

แต่จู่ๆ โชคชะตาให้นางได้บังเอิญพบหนังสือโบราณ ทำพันธะสัญญากับคนหูหมาป่า ทั้งยังมีหนังสือเรียกตัวจากสำนักไท่ไป๋

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุรุษรูปงามที่ใครต่างก็เกรงใจ นาม ไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ไล่ตามนางไปทุกที่

เพราะในเมื่อนางเคยขโมยจูบแรกเขามา และเขาก็คือบุรุษหน้ากากเงินที่นางเคยพบมาก่อน

ชีวิตใหม่นี้มีของดีอยู่ในมือ จะแกร่งขึ้น จะแก้แค้น จะร้ายกว่าเดิมจนทั่วหล้าต้องตกตะลึง นางไม่เคยกลัว!

กลัวเพียงอย่างเดียว… เขาคนนั้นจะไม่คืนชีวิตสุขสงบให้นาง เล่นไล่จับมันเหนื่อยมากนะรู้ไหม?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท