Breakers (브레이커즈) หยุดลิขิตฟ้า ต่อชะตาช่วยโลก – ตอนที่ 39

Breakers (브레이커즈) หยุดลิขิตฟ้า ต่อชะตาช่วยโลก

 

#ลาเมีย(lamia) ตามตำนานเป็นหนึ่งในภรรยาของเทพซุส ก่อนจะถูกเทพีเฮร่าสาปให้กลายเป็นอสูรกายกินเด็ก ในเวลาต่อมาแผลงเป็นคำเรียกอสูรกายที่สามารถจำแลงแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ ก่อนจะแผลงเป็นคำเรียกอสูรกายจำพวกหนึ่งที่มีร่างครึ่งบนเป็นหญิงสาว ร่างครึ่งล่างเป็นงูในเวลาต่อมา

 

 

 ดูเหมือนว่าต่อจากนี้เขาจะต้องเดินทางตามลำพัง

 

‘ไม่สิ เรายังมีคารัคอยู่นี่หว่า’

 

 สักพักเฟลิซีก็หายไปพร้อมกับเหล่าสาวก พื้นที่รอบค่ายกลจึงเริ่มสงบขึ้น

 

 แม้จะยังเหลือผู้ติดตามของคริสต์และเคทลินอยู่ แต่ก็มีจำนวนไม่มากและเป็นพวกเคร่งขรึมเสียมากกว่า คริสต์กระซิบบางอย่างกับเคทลิน ทั้งคู่หันมาชำเลืองมองอินกองก่อนจะเดินแยกไป

 

 อาจจะดูเหมือนละเลย แต่ทั้งเฟลิซี คริสต์ และเคทลินต่างบอกเขาไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้อินกองไม่คิดติดใจอะไรมาก

 

 เขามีเพียงการประชุมสภาวันพรุ่งนี้ในตารางกำหนดการ เพราะที่นี่คือวังจอมมาร ทำให้ตารางของเจ้าชายกลับดูเรียบง่ายจนเหลือเชื่อ

 

 อิสระเสรี แต่ถ้ามองในอีกแง่ก็คือการปล่อยปละละเลย

 

 คริสต์กับเคทลินไม่ว่างเพราะต้องพบปะเหล่าขุนนาง ต่างกับฉัตรที่ไม่มีใครเลย

 

‘เรามีนัดกันตอนเย็น’

 

 ทำให้เขามีเวลาให้ใช้ตามใจชอบในตอนนี้

 

‘ในที่สุดก็เงียบสงบ’

 

 เหล่าผู้ติดตามรวมถึงประชากรที่มามุงดูต่างก็แยกย้ายกันไปทั้งหมด

 

 คารัคมองไปรอบตัวราวกับหาอะไรบางอย่าง

 

“แกเป็นเจ้าชายใช่ไหม? รึว่าข้าเข้าใจอะไรผิดไป?”

 

“ผมเป็นเจ้าชาย”

 

 ถึงจะไม่มีผู้ติดตามซักตน แต่เขาก็เป็นเจ้าชายอย่างไม่ผิดเพี้ยน

 

“ตามผมมา อย่างแรกเราต้องเก็บสัมภาระ”

 

“รับทราบ”

 

 คารัคยกกระเป๋าขึ้นแบกเตรียมเคลื่อนย้าย

 

“ใต้ฝ่าพระบาท องค์ชายเก้าเพคะ”

 

 มีเสียงเรียกดังขึ้นจากเอลฟ์รัตติกาลรูปงามในเครื่องแบบที่ปรากฏตัวขึ้นตรงประตูทางออก

 

‘อาฮ์ ในที่สุด’

 

 ไม่ว่าจะอย่างไร มันดูผิดธรรมเนียมอย่างมากหากเจ้าชายไม่มีผู้รับเสด็จ

 

“ผู้ติดตามองค์ชายสินะ? ถ้างั้นแกก็คือเพื่อนร่วมงานข้า”

 

 คารัคถามออกมาพร้อมรอยยิ้ม แต่เอลฟ์รัตติกาลนางนั้นเมินมันแล้วเดินเข้าหาอินกอง

 

‘สวยแฮะ’

 

  ด้วยผมสั้นตรงสีม่วงและเรือนรางอันผอมเรียวของเอลฟ์รัตติกาล นางดูเสมือนสาวงามตามชนเผ่าตะวันตก

 

‘แต่ก็แปลกที่เป็นเอลฟ์รัตติกาลไม่ใช่คนธรรพ์’

 

 สิ่งสำคัญคือการที่เขามีผู้ติดตาม ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสตรีโฉมงามอีกด้วย!

 

 อินกองระงับความตื่นเต้นทั้งหมดเอาไว้พร้อมกับกระแอมวางมาดให้สมเป็นเจ้าชาย เอลฟ์นางนั้นมองสำรวจตัวเขาก่อนจะกล่าวบางสิ่งที่ไม่คาดคิดออกมา

 

“ใต้ฝ่าพระบาทใช่องค์ชายเก้า ฉัตร อิกษณาสินะเพคะ?”

 

“หืม? ทำไมรึ?”

 

 หรือว่าเขาไม่ใช่ฉัตร? หรือว่านางจะไม่ใช่ผู้ติดตามของเขา?

 

“ข้าพระพุทธเจ้ามีนามว่าฟลอร่า เซเว่นโซร์ดจากกรมบ้านและที่ดิน เป็นบุญญาธิการอย่างยิ่งที่ได้เข้าเฝ้าใต้ฝ่าพระบาทเพคะ”

 

 ฟลอร่ายังคงกล่าวรายละเอียดต่อไป

 

“ข้าพระพุทธเจ้าได้รับข้อมูลความสำเร็จมาว่า ใต้ฝ่าพระบาททรงสามารถเลือกที่พำนักแห่งใหม่ได้เพคะ”

 

“ฮะ?”

 

 บ้านใหม่?

 

 สาเหตุที่เขาแปลกใจนั้นง่ายมาก แม้สามารถใช้ความสำเร็จแลกสิทธิ์ได้หลายอย่างในบทกวีแห่งผู้กล้า แต่ไม่เคยมีบ้านหรือที่ดินให้เขาเลือกเลยสักครั้ง

 

‘สงสัยเพราะเป็นแซเฟียร์’

 

 แซเฟียร์พักในคฤหาสน์ที่ได้รับจากญาติฝั่งแม่ จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องย้ายที่อยู่ และในความเป็นจริง คฤหาสน์ของเขาก็เรียกได้ว่าดีที่สุดในเขตพระราชวังจอมมาร

 

 ทว่าต่างออกไปในกรณีของฉัตร มีคฤหาสน์หรูหรามากมายที่ดีกว่าบ้านของเขาในปัจจุบัน

 

‘ไม่มีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธ’

 

 อินกองตัดสินใจก่อนจะพยักหน้าอย่างยินดี

 

“เราเข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นเราควรไปยังกระทรวงเกียรติยศเพื่อเลือกใช่หรือไม่?”

 

“ถูกต้องแล้วเพคะ ใต้ฝ่าพระบาทประสงค์ให้ข้าพระพุทธเจ้านำทางหรือไม่เพคะ?”

 

“เชิญ”

 

 อินกองรู้ตำแหน่งที่ตั้งของกระทรวงเกียรติยศดีอยู่แล้ว แต่เขาเลือกให้ฟลอร่านำทาง เผื่อกรณีสถานที่ตั้งอยู่ต่างไปจากในบทกวีแห่งผู้กล้า

 

“รับทราบเพคะ”

 

 ฟลอร่าตอบรับก่อนเริ่มเดินนำทาง

 

 คารัคมองแผ่นหลังนางแล้วหัวเราะออกมา

 

“ฮ่าฮ่า แกเป็นเจ้าชายจริงด้วย”

 

“ก็ผมเป็นเจ้าชาย”

 

 อินกองยักไหล่ก่อนเดินตามฟลอร่าไปพร้อมเจ้าออร์ค

 

&

 

 วังจอมมารไม่ได้ใหญ่โตและอึมครึมน่ากลัวอย่างในเกมทั่วไป

 

 นอกจากมีพระราชวังและป้อมปราการแล้ว ยังมีบ้านพักคฤหาสน์หลากหลาย เรียงรายตามถนนทางเดิน จนดูเสมือนเมืองเสียมากกว่า

 

 เลยไปทางทิศเหนือจากวังจอมมาร ผ่านทางคดเคี้ยวในป่า จึงปรากฏหอคอยอันเป็นที่ตั้งของกระทรวงเกียรติยศ ในหอคอยมีการติดตั้งค่ายกลเคลื่อนมิติไว้ ทำให้พวกเขาเดินทางไปได้ง่าย

 

‘ค่ายกลอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ห้องกระทรวงอยู่ที่ชั้นสอง เหมือนกับในบทกวีแห่งผู้กล้า เป๊ะ’

 

 ถึงกระนั้น การเห็นของจริงด้วยตาก็ต่างจากที่เห็นผ่านเกม

 

 ฟลอร่านำทางพวกเขาจนถึงหน้ากระทรวงก่อนจะลากลับ ท่ามกลางความเสียดายของอินกอง แต่นางก็ทำหน้าที่เสร็จสิ้น

 

 อินกองมองไปยังป้ายที่เขียนว่า ‘กระทรวงเกียรติยศ’ บนประตูขนาดใหญ่ เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด

 

‘คิดถึงจริงๆ’

 

 หากพูดถึงสถานที่อันคุ้นเคยมากที่สุดของเขาในบทกวีแห่งผู้กล้า นั่นย่อมเป็นกระทรวงเกียรติยศแน่นอน นอกจากนี้อิซเบล เจ้าหน้าที่ประจำกระทรวงแห่งนี้ ยังสร้างความประทับใจให้เขาอย่างมาก

 

 อินกองพึงพอใจในความหลังเหมือนตอนที่เขาจดจ้องแวนเดล ก่อนจะตัดสินใจก้าวผ่านประตู

 

 ภายในกระทรวงไม่ได้โอ่อ่ามากมาย เป็นเหมือนห้อง VIP ตามธนาคาร มีโต๊ะตั้งอยู่อย่างเป็นระเบียบพร้อมเจ้าหน้าที่ตนหนึ่ง

 

 ลาเมียผมแดงที่ดูชาญฉลาด

 

 นางคืออิซเบลที่อินกองคิดถึง

 

 ชุดของนางดูเรียบง่ายเหมาะกับลาเมีย นางกำลังจัดการเอกสารบางอย่างอยู่ก่อนจะเหลือบมาเห็นอินกอง

 

 เขาเดินไปหานางที่โต๊ะ

 

“องค์ชายเก้า ฉัตร อิกษณา”

 

 อิซเบลอุทานขึ้นอย่างแปลกใจ ก่อนมาดมืออาชีพของนางจะกลับมาพร้อมรอยยิ้ม

 

“อิซเบลแห่งกระทรวงเกียรติยศน้อมรับองค์ชายเก้า”

 

 นางทักทายเขาอย่างนอบน้อมก่อนจะกล่าวต่อ

 

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ข้ามีโอกาสต้อนรับการมาเยือนครั้งแรกของท่าน”

 

‘เหมือนนางจะไม่รู้จักเราสินะ’

 

 นางบอกว่านี่เป็นการมาเยือนครั้งแรกของฉัตร หรือก็คือเขาไม่เคยมีผลงานเลย

 

 มันน่าเสียใจจนเขาอยากร้องไห้ออกมา ทว่าเวลาทุกนาทีมีค่า เขาวางมาดเจ้าชายก่อนนั่งลงที่เก้าอี้รับรองอย่างสง่างาม

 

“เรามาตรวจสอบความสำเร็จ มีผู้มาแจ้งข่าวว่าเราสามารถเลือกที่อยู่แห่งใหม่ได้”

 

“กรุณารอสักครู่”

 

 อิซเบลวาดนิ้วของนางไปบนอากาศก่อนจะมีภาพจำลองแสดงรายละเอียดปรากฏขึ้น

 

 [องค์ชายเก้า ฉัตร อิกษณา]

 

 [เกียรติยศ ขั้น 0 → 5]

 

 [แต้มผลงานสะสม: 0 → 15,000]

 

 [แต้มผลงานคงเหลือ: 15,000]

 

 [ความดีความชอบจากปฏิบัติการปราบกบฏเผ่าสายฟ้าชาด]

ค้นพบถ้ำของดวอฟ/ประตูมิติ

เอาชนะกองกำลังของผู้นำไคชิน

สังหารไคชิน/ไคดุม หนึ่งในผู้นำเผ่าสายฟ้าชาด

ช่วยชีวิตเจ้าหญิงเฟลิซี ดูมเบลด

ทำลายคลังเสบียงของเผ่าสายฟ้าชาด

ค้นพบ/ยึดครองทั่งวัชรกร

เหรียญเกียรติยศระดับสูงสุดจากปฏิบัติการ

 

 [ระดับเกียรติยศเปลี่ยนเป็นขั้น 5]

 

 [สิทธิ์ใช้งานสิ่งปลูกสร้างในเขตราชวังเพิ่มขึ้น]

 

 [เงินประจำเดือนเพิ่มขึ้นจาก 5 โกลด์ เป็น 500 โกลด์]

 

‘แค่ 5 โกลด์?’

 

 นี่อธิบายการตกแต่งในกระโจมของเขาได้อย่างดี แม้แต่คารัคยังมีเบี้ยเลี้ยงประจำเดือนสูงกว่าเขา

 

 แต่ในตอนนี้เงินประจำเดือนได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 500 โกลด์ และเกียรติยศเขาก็ขึ้นมาเป็นระดับห้า

 

 สิ่งที่เพิ่มขึ้นยังไม่หมดเพียงแค่นี้

 

“น่าอัศจรรย์ใจจริงๆ!”

 

 อิซเบลอุทานออกมาอย่างชื่นชม แก้มของนางแดงระเรื่อ

 

“องค์ชายสร้างความดีความชอบจำนวนมากในภารกิจครั้งแรก นี่เป็นเรื่องที่เยี่ยมยอดมาก อาจจะดูเสียมารยาทไปบ้าง แต่ในตอนแรกที่ได้รับรายงาน ข้าคิดว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น”

 

 ราวกับเคทลินที่เอ่ย ‘สุดยอด’ ออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน อินกองยิ้มรับคำชื่นชมก่อนจะตอบกลับไปอย่างสบายอารมณ์

 

“ขอบใจมากอิซเบล  ทีนี้เราต้องการเลือกที่พักแห่งใหม่ทันทีได้ไหม?”

 

“รับทราบ กรุณารอสักครู่”

 

 อิซเบลตอบพลางวาดนิ้วของนางอีกครั้ง สิ่งที่แสดงในครั้งนี้เป็นภาพจำลองขนาดใหญ่ของวังจอมมาร คล้ายคลึงกับภาพจำลองเทือกเขาจิชก้าที่เขาเห็นตอนใช้ประตูมิติ

 

“ท่านสามารถเลือกใช้หนึ่งในสามคฤหาสน์ที่ว่างอยู่ได้ ทั้งหมดเป็นคฤหาสน์ระดับสอง”

 

 อิซเบลเลื้อยออกจากอีกฟากของโต๊ะมายังบริเวณแผนที่จำลอง มีแสงสีฟ้าลอยขึ้นมาจากสามจุดในแผนที่

 

 ระดับของสิ่งก่อสร้างในวังจอมมารสามารถบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง เช่นพลังเวทที่สามารถรองรับได้ สิ่งปลูกสร้างที่สามารถแต่งเติมได้  

 

 อินกองคิดตัดสินใจระหว่างมองแบบจำลองตรงหน้า คฤหาสน์ทั้งสามอยู่ห่างออกไปในคนละทิศทาง ตะวันออก ตะวันตก ใต้

 

‘ถ้าอยู่ใกล้คริสต์ เคทลิน และเฟลิซีได้จะดีมาก’

 

 คฤหาสน์ของเคทลินอยู่ทางทิศตะวันออก เฟลิซีอยู่ทางตะวันตก ทำให้ทิศใต้ถูกตัดทิ้งในทันที

 

‘ส่วนอนาสทาเชียกับแซเฟียร์ ให้ห่างสุดเท่าที่เป็นไปได้… ’

 

 ท้ายที่สุดเขาก็เลือกคฤหาสน์ทางทิศตะวันออกก่อนจะเงยหน้ามองอิซเบล

 

“หลังนั้น”

 

“รับทราบ ข้าจะส่งเรื่องให้กรมบ้านและที่ดินดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ให้องค์ชาย”

 

 จากนั้นอิซเบลก็ถามเขาเพิ่มเติม

 

“ท่านจะจัดการรางวัลความสำเร็จอย่างไร? ท่านต้องการรับในตอนนี้เลยหรือไม่?”

 

 นั่นเพราะอินกองเลื่อนเกียรติยศจากขั้นศูนย์มาขั้นห้าในทันที และรางวัลในการเลื่อนระดับเพียงหนึ่งขั้นก็มีจำนวนมาก

 

‘รางวัลอาจไม่ใช่เงินทองหรือสิ่งของเสมอไปก็ได้’

 

 เมื่อตอนเล่นแซเฟียร์ มีบ้างที่เขาได้รับรางวัลเป็นสัตว์พาหนะเช่นกริฟฟ่อน ฮิปโปกริฟ คิเมร่า

 

“เป็นไปได้ไหมหากเราต้องการให้ส่งไปยังคฤหาสน์ใหม่?”

 

“รับทราบ ข้าจะจัดการให้ตามความต้องการของท่าน”

 

 อิซเบลยังคงตรงไปตรงมาเหมือนในบทกวีแห่งผู้กล้า

 

“ทีนี้ก็คำถามสุดท้าย องค์ชายฉัตร ท่านต้องการใช้แต้มผลงานในตอนนี้หรือไม่?”

 

 คารัคสับสนเล็กน้อยเมื่ออิซเบลพูดถึง ‘แต้มผลงาน’ แต่อินกองเข้าใจในทันที

 

 หน้าที่ของกระทรวงเกียรติยศไม่ใช่แค่เพียงจัดการความสำเร็จเพียงเรื่องเดียว

 

 เมื่อระดับเกียรติยศเพิ่มขึ้นสายตาจากรอบข้างย่อมดีขึ้น และไม่เพียงแค่นั้น

 

 แต้มผลงานยังสามารถนำมาใช้แลกสิ่งของตามร้านค้าได้ โดยการเสียแต้มผลงานผ่านวิธีนี้จะไม่ทำให้ระดับเกียรติยศลดลงแต่อย่างใด  

 

 อินกองใช้ความคิดสักพักก่อนจะตัดสินใจ

 

“เราต้องการบ่าวรับใช้เพิ่ม เราขอดูรายชื่อทีสิ?”

 

“รับทราบ กรุณารอสักครู่”

 

 อิซเบลกลับไปที่โต๊ะของนางก่อนจะวาดนิ้วอีกครั้ง คารัคเดินเขามาใกล้เพื่อกระซิบถามอินกอง

 

“บ่าวรับใช้? หรือว่าแกจะหมายถึงพวกแรงงานทำสวน?”

 

“ทำนองนั้น นั่นก็เป็นหนึ่งในบ่าวรับใช้”

 

 ถ้าเป็นเพียงแรงงานรับใช้ทั่วไป อินกองไม่มีทางใช้แต้มผลงานแลกแน่นอน สิ่งที่เขาต้องการคือผู้ช่วยดูแลคฤหาสน์ในยามที่เขาไม่อยู่

 

“นี่คือรายชื่อผู้ที่สามารถย้ายไปประจำคฤหาสน์ขององค์ชายเก้าได้”

 

 หน้าจอแสดงรายชื่อทั้งหลายปรากฏขึ้นตามปลายนิ้วของอิซเบล เมื่ออินกองชี้ไปที่หนึ่งในชื่อ ก็มีภาพและรายละเอียดของบุคลากรนั้นแสดงเพิ่มขึ้นมาอีกจอ

 

‘ที่เราต้องการคือผู้ดูแลบ้าน หรือว่าเราจะหาจากรายชื่อเมด/บัตเลอร์เลยดี?’

 

 คฤหาสน์ของแซเฟียร์มีบัตเลอร์คอยดูแลอยู่แล้ว ทำให้นี่เป็นครั้งแรกที่เขาหาตัวบุคลากร

 

‘ความสามารถก็เหมือนๆกัน รึว่าเราจะสัมภาษณ์เพิ่มเองดี?’

 

 เขาพินิจพิเคราะห์รายชื่อทีละบุคคล

 

“องค์ชาย นี่ใช้เอลฟ์ตะกี้รึเปล่า?”

 

 นิ้วของเจ้าออร์คชี้ไปยังด้านล่างของรายชื่อ เขารีบมองตามมันก่อนจะเห็นชื่อที่คุ้นตา

 

 [ฟลอร่า เซเว่นโซร์ด]

 

 [สามารถทำงานเป็นเมด/บัตเลอร์ได้]

 

 [เอกลักษณ์: สาวกผู้ติดตามคาอีล่า เทพีแห่งความฝันและเงามืด]

 

‘นี่แหละ’

 

 อินกองมองไปยังคารัคก่อนทั้งคู่จะพยักหน้าพร้อมกัน

 

&

“เป็นบุญญาธิการที่ได้พบใต้ฝ่าพระบาทอีกครั้งเพคะ”

 

 หลังจากเวลาล่วงเลยไป 15 นาที

 

 ฟลอร่าทักทายพวกเขาอีกครั้งด้วยสีหน้าที่สับสน

 

 อินกองยิ้มให้นางก่อนจะบอกให้นางนำทางไปยังคฤหาสน์

 

“รับทราบเพคะ ข้าพระพุทธเจ้าจะเดินนำทางใต้ฝ่าพระบาทไปยังที่พำนักเพคะ”

 

 นางเดินนำทางอย่างสง่างาม อินกองหันไปลาอิซเบลก่อนจะออกจากกระทรวงเกียรติยศ

 

 คารัคเดินตามออกมาแล้วยักไหล่ให้เขา

 

“มีอะไร?”

 

“องค์ชาย แกเป็นเจ้าชายจริงๆด้วย”

 

“ถูกต้อง ฉะนั้นรับใช้ผมให้สุดความสามารถซะ”

 

 อินกองและคารัคตามฟลอร่าผ่านทางเดินและอาคารหลายแห่ง แต่เนื่องจากคฤหาสน์อยู่ค่อนข้างไกลออกไป ทำให้การเดินเท้าเป็นไปอย่างเหนื่อยอ่อน

 

‘เวลาเหลือเฟือกว่าจะถึงเย็น’

 

 เขายังเหลือนัดกับเคทลินในตอนเย็น

 

 แต่อินกองไม่คิดที่จะอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน

 

 ที่นี่คือวังจอมมาร สถานที่รวมตัวของเหล่าอมนุษย์ที่แสวงหาโอกาสและอำนาจ

 

‘แต่จะทำยังไงให้พวกนั้นหันมาสนใจเรานี่สิ?’

 

 รอยยิ้มอันแยบคายเผยขึ้นบนใบหน้าอินกอง

 

 

Breakers (브레이커즈) หยุดลิขิตฟ้า ต่อชะตาช่วยโลก

Breakers (브레이커즈) หยุดลิขิตฟ้า ต่อชะตาช่วยโลก

Status: Ongoing
จู-อินกอง เกมเมอร์หนุ่มผู้กำลังกระดี้กระด้าเนื่องจากเกมโปรดของเขาได้รับการนำกลับมาทำใหม่ให้ไฉไลยิ่งกว่าเดิมด้วยเทคโนโลยี VR  แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้เขาหลุดเข้ามาเผชิญกับเรื่องต่างๆ ราวกับเข้ามาอยู่ในเกมโปรดที่ว่า เคราะห์ซ้ำกรรมซัดบทบาทของเขาดันเป็นตัวประกอบกระจ้อยร่อยที่จะถูกฆ่าตายกลางเกม  จู-อินกองจึงต้องใช้ประสบการณ์เกมที่เขาสั่งสมเอาไว้หาหนทางเอาตัวรอดจากความตายที่กำลังมาเยือน โดยหารู้ไม่ว่าเขามิเพียงกำลังเปลื่ยนโชคชะตาตัวเอง แต่ยังรวมไปถึงชะตาตัวละครรอบข้างและโลกทั้งใบ  นี่คือเรื่องราวของจู-อินกอง ผู้เป็นพระเอกของโลกใบนี้(?)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท