Breakers (브레이커즈) หยุดลิขิตฟ้า ต่อชะตาช่วยโลก – ตอนที่ 102

Breakers (브레이커즈) หยุดลิขิตฟ้า ต่อชะตาช่วยโลก

#มีเรื่องแจ้งตอนท้าย

 

 วังจอมมารตั้งอยู่ ณ ใจกลางของโลกมาร

 

 นอกเหนือไปจากตำแหน่งที่ตั้งทางยุทธศาสตร์แล้ว สถานที่นี้ยังเป็นศูนย์รวมของขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมจากทั่วทุกทิศ หลากสิ่งที่หาพบได้ยากต่างถูกรวบรวมไว้ที่นี่

 

 หนึ่งในบรรดาสิ่งหายากก็คือสนามบิน

 

 อู่ยานเล็กใหญ่เรียงราย ลานจอด ลู่วิ่ง สถานีรองรับผู้โดยสารและเหล่าผู้ต้อนรับ

 

 ถึงกระนั้นการที่ประชากรจำนวนมากมารวมตัวกันที่สนามบินก็ถือเป็นเรื่องแปลก

 

 ลูกของเหล่านางกำนัลที่ยังไม่สังกัดฝักฝ่าย

 

 ขุนนางวังหลวงพร้อมบริวารของตน

 

 เหล่าบริวารที่มารอต้อนรับเจ้านาย

 

 แม้บุคคลเหล่านี้จะมารวมตัวกันด้วยหลากเหตุผล แต่พวกเขาเหล่านี้ต่างก็รอต้อนรับผู้มาเยือนกลุ่มเดียวกัน

 

 มีนิ้วชี้ไปยังบางสิ่งกลางอากาศ เป็นสัญญาณให้ที่เหลือจับจ้องไปยังจุดนั้น ตามมาด้วยเสียงพูดคุยอื้ออึง

 

 เรือใบลอยมาในอากาศด้วยใบเรือสีดำ

 

 เรือเหาะอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าชายลำดับที่ห้า เจ้าชายซิลวาน ดูมเบลด

 

 เพลิงมังกรทมิฬได้เดินทางมาถึงวังหลวงแล้ว

 

&

 

 คริสต์และเฟลิซีสบตากันโดยมิได้นัดหมาย ก่อนทั้งสองจะจัดแถวสมาชิกคณะเดินทาง

 

 หลังจากเรือลงจอดและลูกเรือทอดท่าเตรียมบันไดทุกอย่างเรียบร้อย เจ้าชายฉัตรเป็นผู้แรกที่ก้าวเท้าลงมา

 

 หลังจากเจ้าชายฉัตรก็ตามมาด้วยออร์คคารัค คริสต์กับเฟลิซีต่างยืนตำแหน่งประกบคู่ซ้ายขวาทั้งสอง เคทลินกับซิลวานยืนประกบคู่คริสต์กับเฟลิซีอีกที ก่อนจะตามมาด้วยเหล่าทหารองครักษ์ที่เหลือ เป็นรูปกระบวนที่มีเจ้าชายฉัตรเป็นศูนย์กลาง

 

 รูปกระบวนที่สื่อความหมายอันเป็นนัยยะ

 

 บุคคลที่อยู่ตรงกลาง… คือผู้นำ

 

 ทายาททั้งห้าของจอมมารไม่เพียงแค่มารวมตัวกัน แต่ยังมีการกระทำอันมีเป้าหมายร่วมกัน

 

 เจ้าชายลำดับที่ห้า เจ้าหญิงลำดับที่หก เจ้าชายลำดับที่เจ็ด เจ้าหญิงลำดับที่แปด…

 

 สี่บุคคลผู้เป็นตัวแทนอำนาจของเผ่าเอลฟ์รัตติกาลและเผ่าไลแคนโทรป

 

 ทำไมพวกเขาเหล่านี้จึงมารวมตัวกัน? ใครกันคือผู้ที่รวบรวมบุคคลกลุ่มนี้?

 

 คำตอบสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน

 

 ชายผู้เดินนำขบวน

 

 เจ้าชายฉัตร อิกษณา

 

 เจ้าชายผู้สำเร็จภารกิจปราบกบฏเผ่าสายฟ้าชาดร่วมกับเจ้าชายลำดับที่เจ็ดและเจ้าหญิงลำดับที่แปด

 

 เขาได้ช่วยเหลือเจ้าหญิงลำดับที่หกระหว่างภารกิจ และนางก็ตอบแทนด้วยการช่วยเหลือเขาในกาลต่อมา

 

 ปริศนาทั้งหมด ไขกระจ่างแล้ว

 

 บ้างรู้สึกยินดี บ้างรู้สึกไม่ปลอดภัย

 

 แต่ทั้งนี้ ทั้งหมดต่างรับรู้ได้โดยพร้อมเพรียง

 

 ขั้วอำนาจใหม่ถือกำเนิดขึ้นในวังจอมมารแล้ว

 

 เจ้าชายที่อายุน้อยที่สุด เจ้าชายกำมะลอฉัตร อิกษณา เป็นผู้นำของขั้วอำนาจใหม่ที่กล่าวถึง

 

&

 

 อินกองฝืนยิ้มระหว่างเดินลงจากเรือเหาะท่ามกลางสายตาที่จับจ้อง ลำพังสีหน้าและแววตาไม่อาจบอกอะไรได้มาก แต่เขาก็รับรู้ได้

 

“เจ๋งโคตร”

 

 ไม่มีใครเลยในครั้งแรก ในครั้งที่สองก็มีเพียงเหล่าบ่าวของเฟลิซี

 

 ครั้งที่สาม…

 

 อินกองกลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจทั้งหมด และในครั้งนี้ยังมีผู้รอต้อนรับเขาอีกด้วย

 

 ฟลอร่าพร้อมบ่าวรับใช้อีกสองตนก้าวออกมาต้อนรับเขาด้วยสีหน้าอันไร้ความรู้สึกอย่างเช่นเคย อินกองถอนหายใจอย่างโล่งอก

 

“ดีมาก”

 

“แกดีใจเรื่องอะไร?”

 

“ดีใจที่ฟลอร่ายังเหมือนเดิม”

 

 คารัคจ้องมองอินกองอย่างงงงวย แต่อินกองก็ยิ้มโดยไม่สนใจมัน

 

 เพียงแค่กัมมะ เซร่า เดเลีย ซีพีร่า และดาฟเน่ก็เกินพอแล้ว อินกองไม่ต้องการเห็นสายตาเยี่ยงนั้นเพิ่มจากฟลอร่า

 

 หลังจากก้าวเท้าลงสู่ผืนดินในที่สุด อินกองก็ได้ยินเสียงซิลวานดังขึ้นจากด้านหลัง

 

“เผ่ามังกรสินะ ถึงจะพยายามหลบซ่อนก็ไม่อาจเร็ดรอดจากเราผู้นี้ไปไ… ”

 

“กลิ่นนี้มัน พวกไนท์แมร์ แถมมากันหมดเลย หึหึ ชอบใจมั้ยละ?”

 

 คริสต์พูดแทรกซิลวาน

 

 ต่างไปจากน้ำเสียงโอ้อวดของซิลวาน เสียงของคริสต์เสมือนนักล่าที่พบเหยื่อติดกับดัก

 

 ไม่มีเผ่ามังกรกับเผ่าไนท์แมร์ในคณะของอินกอง หรือก็คือพวกนี้ต่างออกมาเพื่อสอดส่องสอดแนม

 

 แสดงให้เห็นว่าทั้งสองเผ่าต่างยอมรับอินกอง

 

 และไม่อาจมองข้ามเจ้าชายตนนี้ได้อีกต่อไป

 

“ข้าพระพุทธเจ้าเป็นตัวแทนน้อมรับเสด็จใต้ฝ่าพระบาทเพคะ”

 

 ฟลอร่าก้มคำนับอินกอง ตามมาด้วยบ่าวบริวารจากฝั่งของคริสต์และเฟลิซี

 

 มีทั้งใบหน้าที่อินกองคุ้นเคยจากการเยือนในครั้งที่สอง และใบหน้าที่แปลกใหม่

 

 อินกองออกคำสั่งให้ขนของกลับยังคฤหาสน์ สัมภาระส่วนตัวของอินกองอยู่ในช่องเก็บของ แต่สัมภาระอันมากมายของอมิตาภาเป็นอีกกรณี

 

 ดาฟเน่ที่ยังกอดอมิตาภาอยู่เดินไปพร้อมกับฟลอร่า อมิตาภาตัดสินใจยอมทำตัวราวกับเป็นแรคคูนสัตว์เลี้ยง เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น

 

 เฟลิซีและคริสต์ทิ้งสัมภาระให้เหล่าบริวารจัดการพลางเดินร่วมไปกับอินกอง

 

 เมื่อรวมเหล่าองครักษ์ที่เดินตามด้วยแล้ว คณะบุคคลราวยี่สิบออกเดินไปยังคฤหาสน์ของอินกอง

 

‘กลับบ้านอย่างภาคภูมิ’

 

 ลูกของนางกำนัลหลายตนต่างพยายามเข้ามาพูดคุยกับอินกอง ในบรรดากลุ่มนี้มีซิลาสและเซลีนที่อินกองต้องการทาบทามรวมอยู่ด้วย

 

 อินกองไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปทาบทามบุคลากรที่ต้องการทีละหนึ่ง เมื่อทำตัวเป็นที่โดดเด่น บุคลากรที่ว่าจะมารวมตัวเอง

 

 เป้าหมายแรกระหว่างกลับคฤหาสน์ของอินกองคือกระทรวงเกียรติยศ

 

 เหล่าฝูงชนที่มุงเดินตามส่วนหนึ่งหลีกหนีเมื่อเห็นสถานที่นี้

 

 เมื่อเข้ามาด้านใน แขกทั้งห้ารวมถึงเหล่าผู้ติดตามทำให้ห้องรับรองของอิซเบลดูเล็กลงทันตา

 

 นางส่งรอยยิ้มอันชื่นชมและสับสนในเวลาเดียวกัน

 

“องค์ชายเก้ามีเรื่องให้ข้าประหลาดใจได้ตลอดเวลาเลย”

 

 ร่างกายลาเมียท่อนล่างของนางเลื่อยไปตามพื้นอย่างอารมณ์ดี

 

“อิซเบล เราก็อยู่นี่เช่นกัน”

 

 คริสต์พูดขัดด้วยรอยยิ้มขี้เล่น หากเป็นสถานการณ์ทั่วไปนี่คงเป็นเรื่องที่ดูน่าอาย แต่ด้วยความสนิทสนมของอิซเบลกับบรรดาทายาทจอมมาร นางหัวเราะให้คริสต์อย่างคุ้นเคย

 

“ค่า ค่า รู้แล้วค่า ไม่ได้เจอองค์ชายเจ็ดที่กระทรวงนานพอควรเลย”

 

 คำขานรับอย่างเป็นกันเองทำให้คริสต์พึงพอใจมาก

 

“เราผู้นี้ก็… ”

 

 “เห็นแล้วค่ะองค์ชายห้า องค์หญิงหกกับองค์หญิงแปดก็เหมือนกัน อิซเบลแห่งกระทรวงเกียรติขอน้อมรับ… เพคะ?”

 

‘ยังกับแม่นมยังไงยังงั้นเลย’

 

 ความจริงก็คืออิซเบลอยู่มาก่อนเหล่าทายาทของจอมมารมิตรจะถือกำเนิดเสียอีก นั่นทำให้นางรู้จักกับทายาททุกตน แม้แต่แซเฟียร์ก็เป็นมิตรกับนาง ไบคาลและอนาสทาเซียก็ไม่ต่างไป

 

 อาจจะเป็นการวางตัวกับเหล่าทายาทหรือด้วยมิตรภาพที่นางมีกับจอมมาร อิซเบลเลือกที่จะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

 

 นางวางตัวเป็นกลางและต้อนรับผู้มาเยือนทั้งหมดในฐานะตัวแทนของกระทรวงเกียรติยศ

 

“แล้วในวันนี้องค์ชายเก้ามีอะไรให้รับใช้คะ?”

 

“เราอยากติดตั้งสิ่งปลูกสร้างเพิ่มในคฤหาสน์”

 

&

 

“ไอ้คนลวงโลกฮะ ใครเค้าเรียกที่แบบนี้ว่าโรงหลอมกันฮะ!”

 

 อมิตาภาใช้หางทุบพื้นตีโพยตีพาย

 

 ซึ่งที่อมิตาภากล่าวก็ถูกต้อง อินกองเพิ่งจะติดตั้งโรงหลอม นั่นทำให้สถานที่แห่งนี้เรียกได้ว่าว่างเปล่า

 

“ก็กำลังจะเป็นโรงหลอมไง เรียกว่าเป็นโรงหลอมส่วนตัวเลย อมิตาภาจะจัดตกแต่งยังไงก็ได้ตามใจชอบ ถ้าอยากจะติดตั้งอะไรเพิ่มก็บอกมาได้ทุกเมื่อ”

 

 คำพูดอันเป็นมิตรของอินกองทำให้อมิตาภาใช้มือทั้งสองข้างปิดหน้าปิดตา

 

“อึก คำพูดนั่นทำให้อมิตาภารู้สึกเหมือนจะถูกขังไว้ที่นี่ตลอดชีวิตเลยฮะ”

 

 ไม่ว่าอมิตาภาจะมีฝีมือสูงส่งเพียงไร การสร้างอุปกรณ์หลายชิ้นย่อมต้องใช้เวลาพอสมควร

 

 ระหว่างที่อมิตาภากำลังรันทดกับอนาคตที่ดูเลวร้าย ดาฟเน่ก็ยื่นบางสิ่งให้

 

“อมิตาภา รับปลอกคอนี่ไปสิ สัตว์เลี้ยงทุกตัวในเขตวังหลวงต้องสวมปลอกคอนะ ฉะนั้นอย่าลืมทำตัวให้เหมือนเข้าไว้”

 

‘อมิตาภา ภา ภา ภา  ปลอกคอ คอ คอ คอ สัตว์เลี้ยง เลี้ยง เลี้ยง เลี้ยง’

 

 ปลอกคอที่ว่าไม่ต่างไปจากปลอกคอที่ใช้สวมสุนัข อมิตาภาเงยหน้าขึ้นมองดาฟเน่หลังจากอึ้งกับเสียงที่ดังสะท้อนก้องอยู่ในหู

 

“คงไม่ใช่ว่า… กำลังสนุกอยู่ใช่มั้ยฮะ?”

 

“เหหห ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก”

 

 ดาฟเน่หัวเราะคิกคัก และนั่นทำให้อมิตาภายอมจำนน

 

‘ดีนะที่เรามีดาฟเน่’

 

 อินกองสามารถฝากเรื่องอมิตาภาให้ดาฟเน่เป็นผู้จัดการได้อย่างง่ายดาย เขานำวัตถุดิบทั้งหมดออกจากช่องเก็บของวางกองไว้ที่มุมหนึ่งของโรงหลอม ก่อนจะแยกไปหาสมาชิกที่เหลือ

 

“เหล่าองครักษ์ละครับ?”

 

“หืม? พวกนั้นแยกไปพักผ่อนส่วนตัวนะ ถึงจะเป็นทหารคนสนิทก็ควรจะได้เวลาส่วนตัวไม่ใช่รึ?”

 

 ภาพคารัครายล้อมด้วยสาวงามในทุ่งลาเวนเดอร์ผุดขึ้นมาในหัวของอินกอง จากคำตอบของเฟลิซี

 

 อินกองรู้สึกหงุดหงิดจนเคทลินถามอย่างเป็นห่วง

 

“ฉัตร?”

 

“ไม่มีอะไรครับ”

 

 อินกองลบภาพจำลองออกไปแล้วนั่งร่วมวงสนทนา

 

 เฟลิซีจ้องมองอินกองพลางหัวเราะราวกับรับรู้ว่าเขาคิดอะไร

 

“เอาเป็นว่าจะมีการประชุมสภาในอีกสองวัน นอกจากพวกเราแล้ว ไบคาลออราเบียวนิ แซเฟียร์ออราเบียวนิ วิคเตอร์ออราเบียวนิ อนาสทาเซียออนนี่ก็เข้าร่วมด้วย… หรือก็คือเป็นการรวมทายาททั้งหมดเลยทีเดียว”

 

 แม้แต่ในเกมบทกวีแห่งผู้กล้าก็ไม่มีเหตุการณ์ที่ทายาททั้งหมดมารวมตัวกัน เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าไลแคนโทรปก็ขาดเคทลินกับคริสต์ เหตุการณ์ที่เหลือก็ขาดฉัตรที่ไปหลบซ่อนตัว

 

 ซิลวานสงวนท่าทีเอาไว้ ในขณะที่เคทลินมีท่าทางดีใจปนวิตกกังวล นั่นเพราะนางต้องการจะผูกมิตรกับพี่น้องตนอื่น

 

 คริสต์กุมมือเคทลินแล้วพูดปลอบนาง

 

“อย่าห่วงไปเลย อย่าที่ท่านแม่บอกไว้ว่าวาระการประชุมครั้งนี้ยังไม่แน่ชัดนัก”

 

“วาระการประชุม?”

 

 เฟลิซีถามแทรกขึ้น

 

“ใช่แล้ว เราได้ยินผ่านๆมาว่าวาระการประชุมยังไม่แน่ชัดว่ามีเรื่องลงความเห็นอะไรบ้าง”

 

 บางทีอาจจะเช่นเดียวกับเหตุการณ์ก่อกบฏของเผ่าสายฟ้าชาด

 

 แต่ด้วยที่มติเรื่องราวยังไม่เป็นที่แน่ชัด คริสต์จึงมองว่าไม่ใช่เรื่องที่สำคัญเท่าไรนัก

 

“แล้วก็… ”

 

“แล้วก็?”

 

“มันน่าสนุกใช่มั้ยละ จะเกิดอะไรขึ้นในการประชุมรอบนี้กันแน่นะ? เรารู้สึกพลาดมากที่ไม่ได้ร่วมการประชุมครั้งที่สองของฉัตร”

 

 คริสต์หวังให้เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายขึ้น เรื่องที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมทั้งหมดตกตะลึง

 

 ในทางกลับกันเฟลิซีกุมอกของนางพลางพูดออกมา

 

“ใจฉันรับไม่ค่อยไหวนะ ขอให้ครั้งนี้ผ่านไปอย่างเรียบง่ายนะฉัตร ได้มั้ย?”

 

 สายตาของซิลวานและเคทลินก็จ้องมาทางนี้เช่นกัน อินกองได้แต่ยิ้มรับอย่างกล้ำกลืน

 

 สองวันถัดมา วันที่การประชุมสภาถูกจัดขึ้นอีกครั้ง

 

 คณะของอินกองถูกจัดให้พักอยู่ในห้องรับรอง ไบคาลและเซเฟียร์รอเข้าร่วมประชุมโดยไม่พักผ่อน ทางด้านวิคเตอร์กับอนาสทาเซียต่างก็พักอยู่อีกห้อง ทำให้บรรยากาศในห้องรับรองนี้ค่อนข้างผ่อนคลาย ยกเว้นซิลวาน

 

“เอ่อ ถึงจะบอกว่าสามครั้งแล้วก็เถอะ ข้าก็ยังไม่คุ้นกับไอ้ชุดนี่อยู่ดี”

 

 คารัคพูดพลางจัดตำแหน่งเนคไทของมัน ร่างกายกำยำของนักรบทำให้มันดูดีในชุดสูทเป็นอย่างมาก

 

 อินกองหันมองสมาชิกแต่ละตน เฟลิซีในชุดราตรีสีแดงรัดรูป ซิลวานในชุดสูทสีดำประดับด้วยด้ายทอง ถึงเขาจะไม่อาจใส่ชุดประจำของเขาได้ แต่เขายังคงสวมผ้าปิดตาของเขาเอาไว้

 

 เคทลินสวมชุดราตรีสีน้ำเงินเช่นคราวก่อน

 

 แต่ผู้ที่โดดเด่นที่สุดคือคริสต์ แม้จะมีร่างกายกำยำเช่นเดียวกับคารัค แต่ความรู้สึกที่เขาแผ่ออกมาเปรียบเสมือนหมาป่าในชุดแกะ

 

 อินกองใส่ชุดสูทขาวตัวเดิมเช่นเดียวกับในสองครั้งก่อน นั่นทำให้เฟลิซีไม่พอใจที่เขาใส่ชุดตัวเดิมเข้าร่วมประชุมถึงสามครั้งติดกัน

 

“เอาเป็นว่าขอให้การประชุมครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดีทีเถิด”

 

 เฟลิซีกุมมือสวดภาวนา คริสต์ก็เช่นกันแต่ในทางตรงข้าม

 

 แล้วประตูห้องรับรองก็ถูกเปิดออก

 

&

 

 ทันทีที่ประตูเปิด อินกองก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ

 

 ที่ประชุมอยู่ในความเงียบสงบ แต่ถึงกระนั้นความสับสนก็สามารถรับรู้ได้ท่ามกลางความเงียบสงัดนี้

 

‘ทำไมกัน?’

 

 อินกองกวาดสายตามองไปด้านหน้า ไบคาล แซเฟียร์ วิคเตอร์ อนาสทาเชีย ต่างคุกเข่าอยู่ต่อหน้าจอมมาร

 

 แต่พวกเขาไม่ใช่สาเหตุ หรือก็คือแม้แต่บุคคลทั้งสี่ต่างก็อยู่ในภาวะสับสนเช่นกัน

 

‘อะไรกันแน่?’

 

 อินกองชำเลืองกวาดสายตามากขึ้น แล้วเสียงตกตะลึงของซิลวานจากด้านหลังก็ดังลอดเข้ามา เฟลิซี เคทลิน และแม้แต่คริสต์ที่คาดหวังสิ่งพิเศษก็อดตกตะลึงมิได้

 

 นั่นเพราะที่จุดสูงสุดของที่ประชุมนี้

 

 นอกจากจอมมารมิตรแล้วยังมีอีกหนึ่งบุคคลอยู่ข้างกาย

 

 ปราชญ์ดาบอิชย์

 

 ผู้อาวุโสเผ่าสุรที่ไม่เคยเข้าร่วมการประชุมแม้แต่ครั้งเดียว ผู้ที่มีฝีดาบเป็นหนึ่งในโลกมาร

 

 สายตาของผู้อาวุโสท่านนี้มาหยุดอยู่ที่อินกอง แล้วคำพูดของผู้อาวุโสท่านนี้ก็ทำลายความเงียบลง

 

“ผ่านไปเดือนหนึ่งแล้วสินะ พัฒนาขึ้นบ้างไหมเจ้าชายเก้า?”

 

 คำทักทายอันเรียบง่าย

 

 แต่เป็นคำที่ไม่ง่ายในสถานการณ์ของอินกองตอนนี้เสียเลย

 

 สายตาจำนวนมากพุ่งเป้ามาสู่อินกองพร้อมกับเสียงกลืนน้ำลาย

 

 

#เนื่องจากเว็บต้นฉบับของนิยายเรื่องนี้มีเรื่องประกาศเกี่ยวกับเว็บที่เอานิยายไปแปล (munpia vs wuxia) ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปแน่ชัดกับเจ้าของผลงานที่เป็นผู้แต่งจริงๆเพราะเว็บมุมเปียเป็นแค่ตัวกลาง นิยายเรื่องนี่จึงอาจจะถูกหยุดแปลกลางทาง ทางเว็บวุยเซียก็เอานิยายเกาหลีทั้งหมดออก แล้วนำกลับเข้ามาทีละเรื่องที่คุยเรียบร้อยซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ถูกนำกลับมา (个_个) ตัวผู้แปลโลมาใย้ใหญ่นอนอุตุขี้อู้คนนี้ คาดว่าจะแปลดูลาดเลาไปเรื่อยๆ เมื่อถึงเหตุที่ต้องหายไปอย่างเลี่ยงไม่ได้จึงแจ้งขออภัยมาก่อนครับ ถ้าไม่มีอะไรเกิดคงแปลจนจบเพราะเป็นเรื่องแรกที่หัดแปล ถ้าเกิดก็อาจจะหนีไปแปลนิยายยุ่นแทน เพราะเท่าที่ดูทางเว็บ syosetu กับเจ้าของผลงานฝั่งยุ่นจะเคยคุยตกลงและประกาศอย่างเป็นทางการอนุญาตให้เอานิยายไปแปลได้

#ขออภัยในความไม่สะดวกของผู้อ่านและทางเว็บแมวด้วยครับ

#TheGreatDolphin โลมาตัวใย้ใหญ่

Breakers (브레이커즈) หยุดลิขิตฟ้า ต่อชะตาช่วยโลก

Breakers (브레이커즈) หยุดลิขิตฟ้า ต่อชะตาช่วยโลก

Status: Ongoing
จู-อินกอง เกมเมอร์หนุ่มผู้กำลังกระดี้กระด้าเนื่องจากเกมโปรดของเขาได้รับการนำกลับมาทำใหม่ให้ไฉไลยิ่งกว่าเดิมด้วยเทคโนโลยี VR  แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้เขาหลุดเข้ามาเผชิญกับเรื่องต่างๆ ราวกับเข้ามาอยู่ในเกมโปรดที่ว่า เคราะห์ซ้ำกรรมซัดบทบาทของเขาดันเป็นตัวประกอบกระจ้อยร่อยที่จะถูกฆ่าตายกลางเกม  จู-อินกองจึงต้องใช้ประสบการณ์เกมที่เขาสั่งสมเอาไว้หาหนทางเอาตัวรอดจากความตายที่กำลังมาเยือน โดยหารู้ไม่ว่าเขามิเพียงกำลังเปลื่ยนโชคชะตาตัวเอง แต่ยังรวมไปถึงชะตาตัวละครรอบข้างและโลกทั้งใบ  นี่คือเรื่องราวของจู-อินกอง ผู้เป็นพระเอกของโลกใบนี้(?)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท