กิลด์ซินเนสทีเซีย
ปัง!
“กลับมาแล้วค้า~~!”
ซีฟานเปิดประตูเข้ามาด้วยท่าทางที่เหนื่อยล้า
“ยินดีต้อนรับกลับนะจ๊ะ แล้วเป็นยังไงบ้างทำเควสวันนี้”
“เหมือนถูกหลอกเลยค่ะ”
ซีฟานถลึงตาพร้อมกับเอาหน้าซบลงที่หน้าเคาน์เตอร์
“นี่ค่ะ ภารกิจเรียบร้อยค่ะ”
เธอยื่นใบประกาศให้มิยะ และมืออีกข้างก็ยกกล่องสี่เหลี่ยมกล่องหนึ่งขึ้นมาวางบนโต๊ะ
“โอ้ หายากนะเนี่ยที่กิลด์มาสเตอร์จะให้คนอื่นไปทำเควสนี้”
ชายหัวล้านคนหนึ่งเดินมาข้าง ๆ ซีฟาน พร้อมวางหูของก๊อบลินถุงนึงบนเคาน์เตอร์
“คุณแม่ชีก็พูดแบบนี้แหละค่ะ”
เหมือนที่ผ่านมากิลด์มาสเตอร์นั้น จะเป็นคนทำเควสนี้คนเดียวตลอด
“ก็นะ รางวัลเควสคือพายแอปเปิ้ล คนส่วนมากเลยไม่ค่อยไปทำกัน”
“แต่จริง ๆ แล้วเจ้านั่นน่ะเล็งคุณแม่ชีไว้ต่างหาก” เขากระซิบข้างหูซีฟาน
ก่อนที่ โซ หรือ กิลด์มาสเตอร์จะเดินออกมา
“พูดอะไรระวังปากมั่งก็ดีนะเดป”
เขาทำหน้าบึ้งตึงมองหน้าชายหัวล้านที่ถูกเรียกว่า เดป
ก่อนที่ เดป จะส่งเควสและยิ้มเดินถอยออกไป
หลังจากที่ ซีฟาน ส่งเควสเสร็จ เธอได้มานั่งทานข้าวที่โต๊ะริมกับโซ
“แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ”
“นี่ยังจะถามอีกเหรอคะ ว่าเป็นยังไง”
ซีฟานที่เคี้ยวข้าวแก้มตุ่ย ใช้มือที่ถือช้อนและซ่อมตุบโต๊ะ
“อุนออกอันใอ้ไออู้อับอะไออันอ๊ะ”
“บางที่ เธอก็ซื้อบื้อเกินไปนะ ช่วยกลืนลงไปก่อนจะได้มั้ย”
โซใช้มือกุมขมับ
“คุณหลอกฉันให้ไปสู้กับตัวอะไรกันคะ?”
“ก็หมาป่าเงามังกรไง”
“นั้นแหละคะ นั้นแหละค่ะ”
“แล้วจะพูดซ้ำทำไมเนี่ย”
ท่าทางที่เธอกินข้าวอย่างมูมมาม
ตรงข้ามกับภาพลักษณ์ที่ดูน่ารักสมวัยของเธออย่างมาก
“ก็ ฉันแค่จะทดสอบว่าเธอมีพลังขนาดไหน และมีสกิลอะไรบ้าง ก็ในเมื่อตอนประลองเธอไม่ยอมใช้ออกมาให้หมด”
ซีฟานชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะหลบสายตาไปทางด้านขวา
“ก็มัน…..”
“นั่นแหละฉันเลยจำเป็นต้องทำแบบนั้น เพื่อจะได้รู้ว่าควรสอนเธอไปทางไหนดี ถึงเรื่องพลังเวทย์หรือสกิล ฉันอาจไม่สามรถสอนได้ แต่แนวทางในการเรียนรู้นั้นก็พอมั่นใจอยู่พอตัว”
เขาพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย แม้เหมือนจะชมตัวเองแต่ก็ไม่แสดงอาการใด ๆ
“อ้อ เห็นเขาพูดถึงคุณ แอสเทอรี่ แล้วตอนนี้เธอไปไหนเหรอคะ?”
“ตอนนี้เธอ ไปที่เมืองหลวงอีกสักวันสองวันก็คงกลับมาแล้วล่ะ เดี๋ยวฉันต้องไปแล้วเธอก็รีบกลับที่พักล่ะ”
“ค่า~~”
ห้องกิลด์มาสเตอร์
นกฮูกตัวหนึ่งบินโฉบลงมาตรงขอบหน้าต่าง
ตรงขาของมันมีกระดาษม้วนเล็กมัดอยู่
“หืม เห้อ~ เริ่มแล้วเหรอ คงวุ่นขึ้นแน่ ๆ”
โซ เปิดอ่านกระดาษแผ่นนั้น พร้อมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
.
.
ทางฝั่งของซีฟานที่กลับมาถึงห้องแล้วนั้น
เธอทิ้งตัวลงบนเตียง ตุบ!
“เห้ออออ!เหนื่อยจังเลย”
นกน้อยนามว่าอิ๊กกี้ บินวนรอบตัวเธอส่งเสียง
จิ๊บ! จิ๊บ!
ทางด้านกิ้งก่าสีแดงที่ค่อย ๆ คลานไปมุดอยู่ข้างแขนของเธอก็ส่งเสียง
กิ้ว!
“เป็นวันที่เหนื่อยจริง ๆ แต่ต้องขอบใจพวกเธอทั้งสองเลยนะเนี่ย”
เธอคว้าทั้งสองตัวมากอดไว้
“ถ้าไม่มีพวกเธอทั้งสอง การกลับมาที่ห้องพักต้องเงียบเหงามากแน่ ๆ”
คำพูดของเธอแฝงไปด้วยความเศร้าอยู่เล็กน้อย
ทำให้ทั้งสองตัวส่งเสียงเหมือนปลอบเธอ
กิ่ว~
จิ่บ~
“แต่ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ก็เพราะมีพวกเธอยังไงล่ะ”
เธอยิ้มกว้างและซูพวกเขาทั้งสองตัวขึ้นเหนือหัวก่อนจะโอบกอดไว้อีกครั้ง
“ขอบคุณนะที่ยอมมาด้วยกัน ทั้ง อั๊ค และ อิ๊กกี้ เลย”
ซีฟาน โน้มตัวลงนอนกอดพวกเขาไว้ในอ้อมอก
ก่อนที่ทั้งสามจะหลับไปพร้อมกัน
.
.
.
ณ ที่ไหนสักแห่งหนึ่ง
“จดหมายได้ส่งออกไปแล้วครับ”
ชายชราในชุดพ่อบ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมโค้งตัวลงเล็กน้อย
ตรงหน้าเขามีชายบุคคลที่ยืนมองพระจันทร์เต็มดวงอยู่ตรงระเบียง
ผมสีบรอนซ์ทอง ตาสีฟ้า ดั่งยามค่ำคืน สวมชุดนอนคลุมตัว มือซ้ายถือแก้วไวน์
“หวังว่าเธอจะไปถึงที่นั่นอย่างปลอดภัย”
“ท่าน แอสเทอรี่ เป็นคนมารับด้วยตัวเอง นายท่านโปรดวางใจ”
“พวกเราก็ได้เวลาเริ่มแล้วเหมือนกัน”
เขาหันกลับมายังพ่อบ้านของเขาพร้อมชูแก้วไวน์ขึ้น
ภาพเงาของเขาที่สะท้อนแสงจันทร์นั้น
ช่างเป็นภาพดั่งเทพบุตรที่ถูกโอบล้อมไปด้วยแสงสีเงินของจันทร์
“น้อมรับคำสั่ง”
.
.
.
ก๊อก! ก๊อก!
มิยะ ยืนเคาะประตูอยู่หน้าห้องของ กิลด์มาสเตอร์
“นี่ โซ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ตื่นสักทีเถอะ”
ดูเหมือนการที่เธอต้องมาปลุกเขาทำให้เธออารมณ์เสีย
“ให้ตาเถอะ ทำตัวให้สมกับเป็นกิลด์มาสเตอร์สักวันจะได้มั้ยเนี่ย”
เธอเปิดประตูเข้ามา เดินตรงไปที่หน้าโต๊ะของเขา
“เอ้าไม่อยู่ ออกไปไหนแต่เช้า”
ก่อนที่จะเหลือบไปเห็นกระดาษใบเล็ก ๆ ที่เขียนว่า
[ออกไปชายป่าสักพัก]
“ชอบทำอะไรตามใจชอบอยู่เรื่อย”
เธอถอนหายใจและเดินกลับออกไป
~
~
“แล้วสรุปนายใช้พลังไปเยอะแค่ไหน”
“ข้าพยายามออมแรงไว้ กลัวว่าจะทำให้แม่หนูนั่นบาดเจ็บหนัก คิดว่าน่าจะสัก 5%”
“โห”
“ข้าตกใจกลับท่าที่นาง ปะทะกับลมหายใจมังกรของข้าได้”
“แล้วนายคิดว่า พอจะไปถึงยัยนั่นได้ต้องใช้เวลาเท่าไหร่”
“อืม สัก 5 หรือ 6 ปี อาจจะพอไล่ตาม แต่จะให้เทียบคงยาก”
“นั่นสินะ ก็ยัยนั่นมันปีศาจในคราบหญิงสาวชัด ๆ ”
หนึ่งชายหนุ่ม และ หนึ่ง หมาป่า นั่งคุยกันตรงโขดหินข้างลำธาร
หัวข้อที่คุยดูเหมือนจะเป็นการฝึก ซีฟานให้สูสีกับ แอสเทอรี่
แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยาก
ผู้หญิงที่ ชื่อ แอสเทอรี่ นั้นหากอยู่ฝั่ง มนุษย์เธอเปรียบเสมือนเทพธิดาแห่งสงคราม
แต่หากเป็นฝั่งปีศาจหรือศัตรูของเธอ
เธอเปรียบดั่งสัญญาณเตือนของความพินาศ
นักดาบอันดับ 1 แห่งกิลด์ซินเนสทีเซีย และ วีรสตรีแห่งประเทศ เทอเรีย
นั่นคือนิยามของเธอ ดุดันและสง่างามในคน ๆ เดียวกัน
แต่สำหรับ โซ นั้น เธอเป็นเพียงผู้หญิงบ้าการต่อสู้เพียงเท่านั้น
“เอาเถอะ ยังมีเวลาอีกเยอะ”
เขาลุกขึ้นกระโดดลงจากโขดหิน
“ยังไงก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ช่วยมาด้วยกันหนอยสิ”
เขายืนค้ำสะเอวยิ้มให้ สการ์
ทั้งสองเดินทางไปยังหมู่บ้านที่ห่างจากป่าแห่งนั้นไม่ไกลนัก
“เห็นมีคนรายงานว่า ช่วงนี้มีฝูงของหมาป่าปีศาจเพิ่มขึ้น ก็เลยจะแวะมาดูหน่อย”
โซขี่หลังของสการ์ ที่กำลังวิ่งตรงไปยังหน้าหมู่บ้าน
ทำเอาคนเฝ้ายามหน้าหมู่บ้านถึงกับหน้าเสีย
“เดียวขอไปถามรายละเอียดสักแปบนึง”
เขากระโดดลงก่อนจะยื่นตรานักผจญภัยให้คนเฝ้ายามและเข้าไปในหมู่บ้าน
ส่วนสการ์นั้นนอนรอตรงหน้าหมู่บ้าน
ผ่านไปสักพักนึง โซ ก็กลับมาและกระโดดขึ้นหลังของสการ์
“ออกไปทางเหนือ สัก 10 นาทีจากที่นี่ ไปกันเถอะ”
“แล้วทำไมเจ้าถึงต้องมาทำงานแบบนี้เองล่ะ”
“ก็นั่งอยู่กับกองเอกสารมันน่าเบื่อจะตาน”
เขาทำท่าอีดออดหน้าตาเหนื่อยหน่าย
เมื่อทั้งสองเดินทางมาถึงที่หมาย ก็ได้เดินตรวจดูบริเวณป่าโดยรอบ
“ข้าได้กลิ่นทางนี้”
สการ์ เดินนำหน้าไปทางปากถ้ำ ก่อนจะชงัก
“นี่มัน ไม่น่าใช่แค่ฝูงหมาป่าแล้วมั้งเนี่ย”
ตรงหน้าของโซคือดันเจี้ยนที่กำลังก่อตัว
กลิ่นอายของพลังเวทย์อบอวลจนเตะจมูกของ สการ์
หลังจากที่จอมมารถูกสังหารลง ก็ไม่มีดันเจี้ยนเกิดใหม่อีกเลย
ซึ่งนี่จึงเป็นสัญญาณเตือนว่า
“จอมมารตนใหม่ถือกำเนิดแล้วสินะ”
“นายน่าจะเป็นคนที่รู้ดีที่สุดนี่ว่า คือใคร”
โซ หันหน้าไปมองสการ์ สายตาเขาจริงจังอย่างมาก
“หนึ่งใน ลูกชายของจอมมารคนก่อนที่หนีรอดไปได้ในสงครามกับผู้กล้า”
เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะกัดฟันขู่คำราม
“และเป็นคนที่ทำให้ข้าต้องทิ้งฝูงออกมาเช่นกัน”
ทั้งสองเดินทางกลับหมู่บ้านเพื่อแจ้งให้ผู้คนไม่เข้าไกล้ป่าแห่งนั้นสักพัก
และรีบกลับเข้าเมืองเพื่อเตรียมเอกสารข้อมูลและประกาศเควสพิเศษ
[การเริ้มต้นสำรวจดันเจี้ยน]
————————————————————————————–พิเศษ
การกำเนิดดันเจี้ยน : เกิดจากพลังเวทย์อันมหาศาลที่จอมมารปล่อยออกมาทั่วโลก สัตว์ปีศาจต่าง ๆ จะมีพลังเพิ่มขึ้น และการกำเนิดของสัตว์ปีศาจก็เร็วมากขึ้น
สาเหตุที่ โซ ไม่เข้าไปตรวจสอบดันเจี้ยนนั้น : เพราะการสำรวจเป็นหน้าที่ของนักผจญภัยที่รับเควส หรือ สมัครใจ และ ในดันเจี้ยนก็มีสกิล , พลังเวย์ , อุปกรต่าง ๆ ที่สามารถรับได้จากสัตว์ปีศาจที่ถูกสังหาร นั่นจึงเป็นการแย่งแหล่งรายได้ของนักผจญภัยอีกทางหนึ่ง หากเขาต้องการจะเคลียดันเจี้ยนโดยไม่แจ้ง หน้าที่ของกิลด์มาสเตอร์มีเพียงจ่ายเควสเท่านั้น แต่หากสถาณการณ์จำเป็นสามารถลงมือแบบพิเศษได้