ตอนที่ 02 โดนด่าต่อว่าไม่ทันตั้งตัว
สายตาพวกหล่อนกวาดมองไปทั่วบริเวณ
ก่อนไปหยุดด้านในสุดของห้องพยาบาล ไปหยุดที่อิสตรีนางหนึ่งที่กำลังนอนสงบเสงี่ยมปราศจากสติสัมปชัญญะ พอพบเห็นร่างบุคคลอันเป็นที่รักพวกหล่อนไม่รอช้ารีบพุ่งเข้าหาทันที
แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าไปไหน พวกหล่อนกับไปสังเกตเห็นบางสิ่งอย่างเข้า เห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างเตียงบุคคลอันเป็นที่รัก เห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งเคียงข้างคุณหนูสาว
หัวคิ้วสองสาวพลันขมวดเข้าหาเป็นปม
…‘ผู้ชาย?’
“…”
“นายเป็นใคร?!”
“…”
“ฉันถามว่าเป็นใคร?!”
“มาทำอะไรที่นี่?!”
“…”
“หรือว่าคิดจะทำอะไรคุณหนูเมญ่า?!”
น้ำเสียงแข็งกร้าวตวาดดังลั่นไม่มีเกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น
ในสายตาอิสตรีทั้งสองตัวตนชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังนั่งอยู่เคียงข้างเตียงคุณหนูเมญ่า เปรียบเสมือนมดแมลงตัวน้อยน่ารำคาญเป็นที่สุด บวกกับห้วงอารมณ์ไม่มั่นคง
สุดท้ายปลายพวกหล่อนจึงเลือกเส้นทางออกปากขับไล่เขา ออกปากขับไล่โดยไม่คิดรับฟังสิ่งอื่นใดเลยแม้แต่น้อย กระทั่งครุ่นคิดหาเหตุผลมาไตร่ตรองยังไม่คิดจะทำ
ถึงอย่างนั้นใช่ว่าอะไรจะแปรเปลี่ยน
“…”
“ไสหัวไป!”
“…”
“คิดเข้าหาคุณหนูเมญ่าทั้งที่หมดสติ!”
“สารเลวชั่วช้า!”
“ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“…”
“หรือจะให้ฉันเรียกคนอื่นมาลากตัวไป!”
ต่อหน้าอารมณ์เดือดดาลยากจะเบาบางของสองสาว
ชายหนุ่มร่างสูงเพียงนั่งนิ่งเงียบตามเดิม เรียกได้ว่าท่วงท่าตั้งแต่เข้ามาในห้องเป็นมายังไงก็ล้วนแล้วแต่เป็นมาอย่างนั้นตลอด ไม่มีแปรเปลี่ยน ไม่มีแม้กระทั่งหวั่นไหวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ก่อนจะเจ้าตัวจะใช้ปลายนิ้วเคาะกำแพงส่งสัญญาณบอกกล่าว
กึก!
กึก!
กึก!
“…”
เคาะเบาบางพอให้ได้ยินเสียง
เคาะไปยังตำแหน่งเดียวกับป้ายกฎระเบียบที่วางแปะประดับตามห้อง พร้อมกล่าวตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบตามเดิม หากแต่สำหรับคนที่โดนว่ากล่าวตักเตือน
นี่ไม่ต่างอะไรไปจากการโดนตบหน้าเต็มเรี่ยวแรง
“…”
“ที่นี่ห้องพยาบาลครับ”
“…”
“จะทำอะไรก็ช่วยดูสถานที่ด้วย”
“ผมรู้ครับ ว่าพวกคุณเป็นห่วงคุณหนูเมญ่า”
“แต่ที่นี่ไม่ใช่ห้องเรียน”
“ยิ่งไม่ใช่สถานที่สำหรับเปิดปากร้องตะโกนชี้หน้าด่าทอคนอื่น”
“…”
“ฉะนั้นโปรดระมัดระวัง”
“และรักษากฎระเบียบด้วยครับ”
ทันทีที่ได้ยินคำกล่าวของชายหนุ่มสวมแว่น
พวกหล่อนถึงกับหยุดชะงักนิ่งแข็งค้างไม่คิดพูดจา ก่อนใบหน้าสองสาวจะอาบย้อมไปด้วยสีแดงสด ซึ่งใบหน้าสีแดงสดที่พวกหล่อนแสดงออกมา
หาใช่ความเขินอายเสมือนหญิงสาวพานพบเจอชายหนุ่มรูปงาม แต่มันคือความอับอายที่ตนเองเผลอกระทำผิดพลาดร้ายแรงต่างหาก
สองสาวรีบก้มหัวขอโทษทันทีไม่รีรอให้เสียเวลาเปล่า
“…”
“ขอโทษค่ะ”
“ขะ ขอโทษค่ะ”
“คะ คือพวกเราไม่ได้ตั้งใจ”
“…”
“ช่างเถอะครับ”
“…”
“ครั้งต่อไประวังให้มากก็พอ”
ทราเวียร์ส่ายหน้าไม่เอาความ
อย่าว่าแต่เอาความ
กระทั่งสายตาเขายังไม่คิดเหลือบมองด้วยซ้ำ
พอเห็นชายหนุ่มร่างสูงเลือกนิ่งเงียบไม่คิดพูดจาหรือตอบสนองอะไรออกมา ความรู้สึกมากมายก็เริ่มถูกกระตุ้นเตือนเข้ามาในหัวสมอง เขาเกี่ยวข้องยังไงกับเมญ่า
อะไรที่ทำให้ทั้งสองมาอยู่ด้วยกันในห้องพยาบาล ที่สำคัญทำไมถึงปล่อยให้อยู่กันตามลำพัง หมอสาวประจำห้องพยาบาลหายไปไหน ด้วยความสงสัยอันยากจะหักห้ามใจ
หนึ่งในสองสาวจึงเริ่มกล่าวถามกลับไป
“แล้วคุณเป็นใครคะ?”
“…”
“คนปรกติธรรมดาครับ”
“ไม่มีมากมีน้อยไปกว่านั้น”
ทราเวียร์เพียงตอบเสียงเรียบไม่มีอารมณ์อื่นยุ่งเกี่ยว
สองสาวออกอาการสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อพบเห็นชายหนุ่มร่างสูงลุกจากพื้นที่ของตน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงขยับสาวเท้าก้าวเข้ามาใกล้ ขณะพวกหล่อนเตรียมการโต้ตอบกลับไป
กระเป๋าตังสีดำหรูหราก็ถูกหยิบยื่นให้ทั้งสอง ทั้งยังหยิบยื่นให้ต่อหน้าต่อตา ช่างเป็นอะไรที่ชวนให้รู้สึกแปลกประหลาดใจเหลือเกิน การกระทำของเขาทำหัวสมองมึนงงไปชั่วขณะ
ก่อนพวกหล่อนจะเผลอร้องตอบกลับไป
“…”
“คะ?”
“…”
“กระเป๋าตังคุณหนูเมญ่า”
ทั้งสองลดสายตามาจดจ้องมองกระเป๋าตังในมือชายหนุ่มร่างสูง
หลังจากต่อสู้กับห้วงความคิดของตัวเองอย่างหนักหน่วง ในที่สุดบทสรุปสุดท้ายก็มาถึง มือสองข้างยื่นเข้าหาตรงเข้าคว้ากระเป๋าตังสีดำหรูหราจับแนบแน่นไม่คิดปล่อยผ่าน
ก่อนน้ำเสียงเบาบางจะดังขึ้นในเวลาต่อมา
“…”
“พวกเราจะเก็บเอาไว้ให้ค่ะ”
“…”
“หน้าที่ของผมจบแล้ว”
“ขอตัวครับ” พอกล่าวจบ
ทราเวียร์ก้มหัวเล็กน้อยพอเป็นพิธี
ก่อนก้าวเท้าเดินผ่านหญิงสาวทั้งสองมุ่งหน้าไปยังประตูเตรียมออกสู่นอกห้อง ในฐานะเพื่อนสาวทั้งสองของคุณหนูเมญ่า พวกหล่อนย่อมไม่อาจปล่อยผ่านง่ายดาย
เลยพยายามขวางกั้นพยายามขอบอกให้เขาหยุด
“ดะ เดี๋ยวก่อนค่ะ”
“รอก่อน—”
ตึง!
“…”
น่าเสียดายที่ถ้อยคำร้องขอของพวกหล่อนไม่เป็นผล
แม้กระทั่งช่วงจังหวะเวลาสุดท้ายไม่ว่าสองสาวจะพยายามร้องขอบอกให้หยุดยั้งยังไง
ชายหนุ่มร่างสูงก็ไม่ได้มีท่วงท่าโอนอ่อนให้เห็นเลยแม้แต่น้อย เขายังคงก้าวเท้าเดินหน้าต่อ เดินจนพ้นออกนอกห้องพยาบาลพร้อมปิดประตูปิดกั้นทุกโอกาส หลังออกจากห้องพยาบาลไป
ทราเวียร์ไม่ได้ละจากไปไหนทันที
“…”
ไม่ได้เดินกลับห้องเรียนหรือทำเรื่องขอกลับบ้านตามคำร้องขอของอาจารย์สาว เขาเพียงพิงหลังกับประตูห้องพยาบาลก่อนเงยหน้ามองเพดาน มองด้วยแววตาราบเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์
พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อยอ่อนแรง
“…”
“เรา เปลืองเนื้อเปลืองตัวเกินไปรึเปล่าเนี่ย?”
“…”
ทราเวียร์ถอนหายใจเจือปนไปด้วยห้วงอารมณ์ความรู้สึกมากมาย
ใครจะไปคิดละ ว่าวันหนึ่งเขาจะออกหน้าเข้าช่วยเหลือหญิงสาวคนที่ตนไม่รู้จัก เลือกกระทั่งกระโดดเอาตัวเองไปเป็นเบาะรองรับเรือนร่างงดงามปานเทพธิดา
จนสุดท้ายปลายทางทำให้เขาต้องเป็นฝ่ายได้รับบาดแผลเจ็บปวดมากมายแทน ส่วนหล่อนคนที่เป็นต้นเหตุ นอกจากไม่เป็นอะไรยังไม่มีบาดแผลให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
ฝ่ามือลูบบาดแผลเล็กน้อยคล้ายต้องการปลอบประโลมร่างกาย
…‘ช่างเถอะถือว่าทำบุญละกัน’
“…”
สิ่งที่ควรกระทำก็กระทำเสร็จสิ้นเรียบร้อย
เมื่อไม่มีเหตุผลอยู่ต่อ ขาทั้งสองข้างก็เริ่มนำพาร่างเนื้อที่เต็มไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่เดินหายไปจากทางเดิน หายไปท่ามกลางความว่างเปล่า โดยทิ้งทุกสิ่งอย่างให้เป็นเพียงห้วงความทรงจำ
เป็นหนึ่งความทรงจำที่พร้อมเลือนหายไปได้ตลอดเวลา
“…”