รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 734 โอ๊ย ภาพอักษรของคุณชายงดงามยิ่ง!

บทที่ 734 โอ๊ย ภาพอักษรของคุณชายงดงามยิ่ง!

บท​ที่​ 734 โอ๊ย​ ภาพ​อักษร​ของ​คุณชาย​งดงาม​ยิ่ง​!

เหล่า​ของ​วิเศษ​ก็​ประหลาดใจ​เช่นกัน​ รู้สึก​ว่า​ชางเหยา​เปลี่ยนไป​

ทว่า​ชางเหยา​ผู้​มั่นใจ​ใน​ตัวเอง​เช่นนี้​ ยิ่ง​เป็นที่ชื่นชอบ​ของ​พวก​มัน​เข้าไป​ใหญ่​ ความมั่นใจ​ขับ​ให้​ชางเหยา​งามสะพรั่ง​ขึ้น​

“พวกเรา​เป็น​กรรมการ​ เป็น​สักขีพยาน​ให้​เอง​!”

“ไม่ว่า​ผู้ใด​แพ้​ก็​ห้าม​ผิดคำพูด​!”

เหล่า​ของ​วิเศษ​พา​กัน​ตะโกน​บอก​

“ไม่มีปัญหา​!”

แม้ว่า​ชางเหยา​ใน​วันนี้​แปลก​กว่า​ปกติ​ แต่​มัจฉาสัต​มายา​มั่นใจ​ใน​ตัวเอง​ มัน​ไม่มีทาง​แพ้​ให้​กับ​ชางเหยา​

“เช่นนั้น​ข้า​ยิ่ง​ไม่มีปัญหา​”

ชางเหยา​คลี่​ยิ้ม​ มั่นใจ​กว่า​มัจฉาสัต​มายา​เสีย​อีก​

นาง​จะไม่มั่นใจ​ได้​อย่างไร​

หลาย​วัน​มานี้​ คุณชาย​ดูแล​นาง​เป็น​อย่าง​ดี​ ซ้ำยัง​ถ่ายทอดวิชา​มวย​ไทเก๊ก​แก่​นาง​ ความสำเร็จ​ด้าน​มวย​ไทเก๊ก​ของ​นาง​เรียก​ได้​ว่า​ถึงแก่น​วิชา​ มัจฉาสัต​มายา​คิด​สู้กับ​นาง​ยัง​อ่อน​ฝีมือ​ไป​หน่อย​

แม้ว่า​มัจฉาสัต​มายา​จะติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​คุณชาย​มานาน​กว่า​นาง​ ทว่า​มัจฉาสัต​มายา​มิได้​ถูก​ปฏิบัติ​จาก​คุณชาย​เทียบเท่า​นาง​

นาง​รู้​จาก​พี่​หญิง​ลั่วสุ่ย​ว่า​ ก่อนหน้านี้​มัจฉาสัต​มายา​ถูก​สะกด​ไว้​ใน​โอ่งน้ำ​มาตลอด​ เพิ่ง​ถูก​ปล่อย​ลง​ใน​บ่อน้ำ​ภายหลัง​ และ​ได้รับ​วาสนา​การเปลี่ยนแปลง​ใน​นั้น​

อย่างเช่น​น้ำ​ใน​บ่อน้ำ​ อีก​ทั้ง​อาหาร​ปลา​ฝีมือ​คุณชาย​

สิ่งเหล่านี้​ล้วน​วิเศษ​วิ​โส สร้าง​ประโยชน์​แก่​มัจฉาสัต​มายา​มหาศาล​

ทว่า​นาง​ได้รับ​ผลประโยชน์​มากกว่า​มัจฉาสัต​มายา​!

น้ำผลไม้​และ​อาหาร​ต่าง ๆ​ ที่​คุณชาย​ปรุง​เอง​ รวมถึง​ผลไม้​ที่​คุณชาย​ให้​นาง​ต่าง​ทรงพลัง​กว่า​น้ำ​ใน​บ่อ​และ​อาหาร​ปลา​

และ​สิ่งสำคัญ​ที่สุด​คือ​ มัจฉาสัต​มายา​ไม่เคย​ได้​รับคำ​ชี้แนะ​อัน​ใด​จาก​คุณชาย​ ส่วน​นาง​นั้น​ได้​คุณชาย​ชี้แนะ​หลายอย่าง​ อย่างเช่น​ยาม​คุณชาย​วาดภาพ​บรรเลง​ฉิน​ มัก​อธิบาย​ให้​นาง​ฟังก่อน​เสมอ​

ถึงแม้นาง​มิได้​บำเพ็ญ​วิถี​วาดภาพ​และ​วิถี​ฉิน​ กระนั้น​วิถี​ใน​โลก​นี้​มีอยู่​สามพัน​ ไม่ว่า​แยก​แขนง​ออก​ไป​อย่างไร​ ท้ายสุด​ก็​มีจุดหมาย​เดียวกัน​ การ​ชี้แนะ​เช่นนี้​ช่วย​ให้​นาง​ได้รับ​ผลประโยชน์​มหาศาล​ไม่ต่างกัน​!

ส่วน​มวย​ไทเก๊ก​ คุณชาย​สอน​ให้​นาง​ด้วยตัวเอง​ ยิ่ง​มิใช่เรื่อง​ที่​มัจฉาสัต​มายา​จะเทียบ​เทียม​นาง​ได้​

กล่าว​โดย​ไม่เกิน​จริง​ หาก​มัจฉาสัต​มายา​สู้กับ​นาง​ เหมือน​นำ​สามไป​สู้กับ​เจ็ด​ มัจฉาสัต​มายา​คือ​สาม นาง​คือ​เจ็ด​!

“ได้​ เช่นนั้น​ก็​เข้ามา​เถิด​!”

มัจฉาสัต​มายา​กล่าว​ต่อ​ชางเหยา​ “ว่า​มาสิ บัดนี้​เจ้าอยู่​ขอบเขต​เท่าใด​ ข้า​จะสะกด​ขอบเขต​ลง​ใน​ระดับ​เดียว​กับ​เจ้า!”

“ต้อง​ให้​ข้า​พูด​จริง​หรือ​”

ชางเหยา​หัวเราะ​ “พูด​ไป​ข้า​กลัว​ว่า​ท่าน​จะน้อยเนื้อต่ำใจ​”

“กลัว​ข้า​น้อยเนื้อต่ำใจ​หรือ​”

มัจฉาสัต​มายา​หัวเราะ​ออกมา​เช่นกัน​ มัน​นึก​ขัน​กับ​วาจา​ของ​ชางเหยา​

มัน​มอง​ชางเหยา​พลาง​กล่าว​ “เจ้ามั่นใจ​เกินตัว​ไป​หรือไม่​ คิด​ว่า​ช่วงนี้​ขอบเขต​พลัง​ของ​เจ้ายกระดับ​ขึ้น​มาก​แล้​วจะ​สูงกว่า​ข้า​อย่างนั้น​หรือ​ วางใจ​เถิด​ ใน​เมื่อ​ข้า​เอ่ย​ว่า​จะสะกด​ขอบเขต​ต่อสู้​กับ​เจ้า หมายความว่า​ข้า​มั่นใจ​ว่า​ขอบเขต​ของ​ข้า​สูงกว่า​เจ้า!”

จากนั้น​ มัน​เอ่ย​กับ​ชางเหยา​ด้วย​ความหวังดี​ “ชางเหยา​ ข้า​รู้​ว่า​เจ้าได้รับ​วาสนา​การเปลี่ยนแปลง​บางอย่าง​ ทั้ง​ยัง​คิด​ว่า​วาสนา​การเปลี่ยนแปลง​เหล่านี้​วิเศษ​วิ​โสเป็น​ที่สุด​ แต่​ข้า​ต้อง​บอก​เจ้าว่า​ วาสนา​การเปลี่ยนแปลง​ที่​ข้า​ได้รับ​เกิน​กว่า​ที่​เจ้าจะจินตนาการ​ออก​!”

“อย่างนั้น​หรือ​”

ชางเหยา​หัวเราะ​ออกมา​อีกครั้ง​ “ข้า​ก็​ต้อง​บอก​ท่าน​เช่นกัน​ว่า​ วาสนา​การเปลี่ยนแปลง​ที่​ข้า​ได้รับ​ต่างหาก​ คือ​สิ่งที่​ท่าน​คิดไม่ถึง​”

นี่​มัน​อะไร​?

กำลัง​ยื้อยุด​ก่อน​ประมือ​กับ​มัน​หรือ​อย่างไร​

มัจฉาสัต​มายา​หัวเราะ​ จงใจยืดอก​ขึ้น​ “ข้า​อยู่​ใน​ขั้น​เทียน​ตี้​แล้ว​ เป็น​ถึงครึ่ง​ก้าว​เทียน​ตี้!​ เจ้าเล่า​”

“ครึ่ง​ก้าว​เทียน​ตี้​ถือว่า​อยู่​ใน​ขั้น​เทียน​ตี้​ด้วย​หรือ​”

ชางเหยา​หัวเราะ​ออกมา​เช่นกัน​ เปล่ง​พลัง​ปราณ​ออกมา​ “นี่​ต่างหาก​ ขั้น​เทียน​ตี้​ที่​แท้จริง​!”

แรงกดดัน​เทียน​ตี้​แผ่ขยาย​ นาง​ก้าว​สู่ขั้น​เทียน​ตี้​แล้ว​จริง ๆ​ แม้ว่า​เพิ่ง​ก้าว​เข้าไป​ถึง กระนั้น​ก็​เป็น​เทียน​ตี้ตน​หนึ่ง​แล้ว​!

เรื่อง​นี้​แม้แต่​นาง​เอง​ยัง​สะท้อนใจ​อย่างยิ่งยวด​ แทบ​ไม่อยาก​เชื่อ​!

และ​ทำให้​นาง​นับถือ​คุณชาย​เหลือแสน​ คุณชาย​เก่งกล้า​มาก​จริง ๆ​!

แน่นอน​ว่า​ก่อนหน้านี้​นาง​ติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​คุณชาย​พักใหญ่​ และ​ได้รับ​ผลประโยชน์​ใหญ่หลวง​ ทว่า​หาก​นาง​คิด​จะบรรลุ​จาก​ขอบเขต​นักบุญ​จน​ถึงขั้น​เทียน​ตี้​ใน​เวลา​หนึ่ง​เดือน​กว่า​ก็​แทบจะ​เป็นไปไม่ได้​

ทั้งหมด​นี้​ต้อง​ใช้เวลา​!

อย่างเช่น​พวก​ต้าเต๋อ​ ก็​มิได้​บรรลุ​ขอบเขต​รวดเร็ว​ปานนี้​

พวก​ต้าเต๋​อติ​ด​ตาม​คุณชาย​มานาน​กว่า​นาง​ ได้​รับคำ​ชี้แนะ​มาเยอะ​กว่า​นาง​มาก​

แต่​ทั้งหมด​นี้​ต้อง​ใช้เวลา​กลั่นกรอง​หลอม​รวม​

ที่​นาง​บรรลุ​ขอบเขต​ได้​เร็ว​เช่นนี้​ล้วน​เป็น​เพราะ​ภาพ​อักษร​ที่​คุณชาย​ประทาน​แก่​นาง​!

สมดั่ง​ปรารถนา​!

สมดั่ง​ปรารถนา​จริง ๆ​!

ระหว่างทาง​มาเมือง​ชิงซาน​ นาง​คิด​ไป​ว่า​หาก​หลอม​พลัง​ใน​ตัวนาง​ได้​ไว ๆ​ ก็​คง​ดี​ หลังจากนั้น​ นาง​ก็​หลอม​พลัง​ได้​ไว​ขึ้น​จริง ๆ​ เกิน​กว่า​แต่ก่อน​มาก​!

และ​เพราะเหตุนี้​ นาง​ถึงบรรลุ​ขอบเขต​ได้​อย่าง​ก้าว​กระโดด​ จน​มาอยู่​ใน​ขั้น​เทียน​ตี้!​

หาก​มิใช่เช่นนี้​ อย่าง​มาก​ที่สุด​นาง​ก็​เพิ่ง​บรรลุ​ถึงขอบเขต​สูงสุด​เท่านั้น​ ไม่มีทาง​มาถึงขั้น​เทียน​ตี้​ กระทั่ง​ขอบเขต​จักรพรรดิ​ธรรมดา​ยัง​ไป​ไม่ถึงด้วยซ้ำ​!

ไม่กระมัง​!

หลัง​สัมผัส​ถึงพลัง​ปราณ​ขั้น​เทียน​ตี้​จาก​ตัว​ชางเหยา​ มัจฉาสัต​มายา​แทบ​ลง​ไป​คุกเข่า​ที่​พื้น​!

เป็นไปได้​อย่างไร​กัน​?!

ใบหน้า​ของ​มัน​เปลี่ยนเป็น​สีเขียว​ ขอบเขต​ชางเหยา​สูงกว่า​มัน​อีก​หรือ​นี่​!

มิน่า​ ก่อนหน้านี้​มัน​เอ่ย​ว่า​จะสะกด​ขอบเขต​สู้กับ​ชางเหยา​ ชางเหยา​ถึงหัวเราะ​ไม่หยุด​!

ที่ไหนได้​ มัน​คือ​ตัวตลก​โดยแท้​!

เรื่อง​บ้า​อะไร​กัน​!

มัน​อด​มิได้​เอ่ย​ออกมา​ “เจ้าไป​พบ​กับ​สิ่งมีชีวิต​ขั้น​เทียน​ตี้​ที่​ถ่ายทอด​พลัง​ทั้งหมด​ให้​เจ้าหรือ​ไร​!”

มัน​ไม่เชื่อ​ว่า​ลำพัง​การฝึกฝน​จะเลื่อน​ขอบเขต​ให้​ชางเหยา​ได้​ไว​ปานนี้​ มัน​รู้สึก​ว่า​ความจริง​ต้อง​เป็น​ตามที่​มัน​ว่า​แน่นอน​

“ข้า​ก็​รู้สึก​เช่นนั้น​!”

“ไว​เกินไป​แล้ว​!”

เหล่า​ของ​วิเศษ​ก็​รู้สึก​เหลือเชื่อ​ พวก​มัน​ต่าง​รู้​ว่า​ชางเหยา​ใน​อดีต​อยู่​ที่​ขอบเขต​ใด​

ต่อให้​ชางเหยา​ได้​กิน​โอสถ​ทิพย์​สุด​วิเศษ​วิ​โสจาก​สรวงสวรรค์​ ก็​ไม่มีทาง​เลื่อน​ขอบเขต​ได้​ไว​เช่นนี้​ ทุกอย่าง​ต้อง​ใช้เวลา​ใน​การกลั่นกรอง​หลอม​รวม​

“มาสิ สะกด​ขอบเขต​ต่อสู้​กับ​ข้า​ อ้อ​ ไม่สิ ขอบเขต​ของ​ข้า​สูงกว่า​ท่าน​ ท่าน​ต้อง​ยกระดับ​ขอบเขต​มาสู้กับ​ข้า​”

ชางเหยา​เอ่ย​กับ​มัจฉาสัต​มายา​ด้วย​ใบ​หน้ายิ้ม​ร่า​

ขายหน้า​!

ขายหน้า​ที่สุด​!

นี่​คือ​การเย้ยหยัน​อย่าง​ไม่ปิดบัง​!

มัจฉาสัต​มายา​หน้า​แดงก่ำ​ เดิม​มัน​คิด​ว่า​มัน​จัดการ​ชางเหยา​ได้​ง่าย ๆ​ สุดท้าย​กลับเป็น​ชางเหยา​ที่​จัดการ​มัน​!

“ช่างเถิด​ ท่าน​เป็น​ท่าน​พี่​ชวน​ของ​ข้า​ อย่างไร​ข้า​ก็​ต้อง​ยอม​ท่าน​บ้าง​มิใช่หรือ​ไร​ ข้า​จะสะกด​ขอบเขต​สู้กับ​ท่าน​เอง​”

ชางเหยา​เอ่ย​ยิ้ม​ ๆ ทำ​ท่าจะ​สะกด​ขอบเขต​ของ​ตน​ลง​

“ไม่ต้อง​!”

มัจฉาสัต​มายา​มีความ​ทระนง​ของ​ตน​ หาก​ต้อง​ให้​ชางเหยา​สะกด​ขอบเขต​ลง​ มัน​ต้อง​ขายหน้า​กว่า​เดิม​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​!

มัน​ไม่อยาก​ขายหน้า​อีกแล้ว​!

และ​มัน​ต้อง​การกู้​หน้าที่​เสีย​ไป​ก่อนหน้านี้​กลับมา​!

เอาชนะ​ชางเหยา​ด้วย​การต่อสู้​ข้ามขั้น​คือ​วิธี​ที่​ดี​ที่สุด​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​!

มัน​ฝึกฝน​ใน​บ่อน้ำ​มาตลอด​ พลัง​ที่​บำเพ็ญ​ได้​นั้น​ไม่ธรรมดา​ เหนือกว่า​พลัง​อื่น​มาก​นัก​ ต่อให้​เป็น​พลัง​โกลาหล​ก็​ยัง​ด้อย​กว่า​หน่อย​ ๆ

กอปร​กับ​มัน​ได้​รับคำ​ชี้แนะ​จาก​ต้น​หลิว​ มัน​มั่นใจ​ว่า​สามารถ​เอาชนะ​ชางเหยา​ได้​!

“มั่นใจ​เพียงนี้​เชียว​หรือ​”

ชางเหยา​มอง​มัจฉาสัต​มายา​พลาง​กล่าว​ “ท่าน​ต้อง​ลำบาก​เพราะ​ความมั่นใจ​นี้​แน่​!”

“ลำบาก​ได้​อย่างไร​กัน​ เป็นไปไม่ได้​! ไม่มีทาง​!”

มัจฉาสัต​มายา​กล่าว​ “มาเถิด​ มาสู้กัน​แบบ​นี้แหละ​!”

“ใน​เมื่อ​ท่าน​พี่​ชวน​ยืนกราน​ ก็ได้​ เรา​มาสู้กัน​แบบ​นี้แหละ​”

ชางเหยา​เอ่ย​ยิ้ม​ ๆ

ที่จริง​สะกด​ขอบเขต​หรือไม่​ก็​ไม่ต่าง​ มัจฉาสัต​มายา​จะเข้าใจ​ใน​ความแตกต่าง​ระหว่าง​เขา​กับ​นาง​เอง​ ความแตกต่าง​นั้น​มิได้​เกี่ยวข้อง​กับ​ขอบเขต​เท่าใด​

ฟึ่บ!​ ฟึ่บ!​ ฟึ่บ!​

แสงเซียน​แผ่ซ่าน​ เหล่า​ของ​วิเศษ​สร้าง​มิติ​ขึ้น​มาแห่ง​หนึ่ง​ซึ่งตัดขาด​จาก​ภายนอก​ ให้​เป็น​สนามรบ​ประมือ​ระหว่าง​มัจฉาสัต​มายา​กับ​ชางเหยา​

“ข้า​มีวิชา​มวย​ที่​พี่​หลิว​ถ่ายทอด​ให้​ เจ้าไม่มีทาง​ชนะ​!”

มัจฉาสัต​มายา​ตวาด​ลั่น​ เปล่งประกาย​ทั่ว​ร่าง​ขณะ​สำแดง​วิชา​มวย​ที่​ต้น​หลิว​สอน​ให้​ บุก​ถล่ม​ไปหา​ชางเหยา​

วิชา​มวย​นี้​แกร่งกล้า​อย่าง​แท้จริง​ เป็น​วิชา​ที่​ต้น​หลิว​คิดค้น​ขึ้น​เอง​ และ​ขอบเขต​พลัง​ของ​ต้น​หลิว​นั้น​เหนือชั้นกว่า​จักรวาล​โกลาหล​ทั้ง​ผืน​นี้​

วิชา​มวย​ที่​ต้น​หลิว​คิดค้น​ขึ้น​เอง​จะสบประมาท​มิได้​เด็ดขาด​ ใน​จักรวาล​โกลาหล​ผืน​นี้​ นอกจาก​วิชา​ของ​คุณชาย​ วิชา​อภินิหาร​อื่น​ไม่อาจ​เทียบ​ได้​เลย​!

“เพลง​มวย​หรือ​ ได้​ ข้า​เอง​ก็​เป็น​มวย​อยู่​บ้าง​พอดี​”

ชางเหยา​หัวเราะ​เบา​ ๆ อาภรณ์​พลิ้วไหว​ขณะ​สำแดง​วิชา​มวย​ไทเก๊ก​รับ​การ​โจมตี​

แม้ว่า​นาง​มิได้​สะกด​ขอบเขต​ กระนั้น​ก็​ควบคุม​พลัง​ของ​ตน​ให้​อยู่​ใน​ระดับ​ครึ่ง​ก้าว​เทียน​ตี้​

เมื่อ​ต่อย​มวย​ไทเก๊ก​ออก​ไป​ หมัด​ของ​นาง​และ​มัจฉาสัต​มายา​กระแทก​เข้าด้วยกัน​ ผลสุดท้าย​ มัจฉาสัต​มายา​กระเด็น​ออก​ไป​ใน​พริบตา​ ตัดสิน​แพ้ชนะ​ได้​ทันใด​ มัจฉาสัต​มายา​หา​ใช่คู่มือ​ของ​นาง​ไม่!

“เป็นไปได้​อย่างไร​กัน​!!!”

มัจฉาสัต​มายา​มีสีหน้า​เหลือเชื่อ​ วิชา​มวย​ที่​ต้น​หลิว​สอน​ให้​ยัง​พ่ายแพ้​อีก​หรือ​

ซ้ำยัง​มิได้​แพ้​แค่​นิดหน่อย​ หาก​แต่​เป็นการ​แพ้​แบบ​ราบคาบ​!

มัน​รู้สึก​ถึงความ​ห่าง​ชั้น​อย่าง​ใหญ่หลวง​!

“วิชา​มวย​ที่​พี่​หลิว​ถ่ายทอด​ให้​ข้า​จะแพ้​ได้​อย่างไร​!”

มัน​รับ​ไม่ได้​ ขณะเดียวกัน​ มัน​รู้สึก​ได้​ว่า​ชางเหยา​ควบคุม​พลัง​ให้​อยู่​ระดับ​ครึ่ง​ก้าว​เทียน​ตี้​ หาก​ชางเหยา​ไม่ควบคุม​พลัง​ วิชา​มวย​ที่​ชางเหยา​ต่อย​ออกมา​จะยิ่ง​รุนแรง​กว่า​นี้​ น่ากลัว​ว่า​คง​บดขยี้​มัน​ได้​ใน​เสี้ยว​พริบตา​!

“จะไม่ให้​แพ้​ได้​อย่างไร​! ไม่ต้องสงสัย​เลย​ว่า​ต้อง​แพ้​อยู่แล้ว​!”

“ใช่แล้ว​! เสี่ยว​ชี เจ้ามอง​ไม่ออก​หรือว่า​นี่​คือ​มวย​อะไร​”

เหล่า​ของ​วิเศษ​พา​กัน​ส่งเสียง​ พวก​มัน​จำเพลง​มวย​ที่​ชางเหยา​ใช้ได้​ นี่​คือ​มวย​ไทเก๊ก​ของ​คุณชาย​!

วิชา​มวย​ของ​ต้น​หลิว​ปะทะ​มวย​ไทเก๊ก​ของ​คุณชาย​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​แพ้​ราบคาบ​!

“มวย​…มวย​ไทเก๊ก​!”

มัจฉาสัต​มายา​นึก​ขึ้น​ได้​ มอง​ชางเหยา​ด้วย​สีหน้า​ประหลาด​พลาง​กล่าว​ “เจ้าใช้วิชา​มวย​ไทเก๊ก​ได้​อย่างไร​!”

“เหตุใด​ข้า​ถึงใช้มิได้​”

ชางเหยา​ยิ้มละไม​

มัจฉาสัต​มายา​อึ้ง​งัน​ ขณะเดียวกัน​ก็​เข้าใจ​แล้ว​ทุกอย่าง​

มิน่า​ชางเหยา​ถึงมาอยู่​ที่นี่​ มิน่า​ขอบเขต​พลัง​ของ​ชางเหยา​ถึงสูงเช่นนี้​!

ชางเหยา​ได้​พบ​คุณชาย​แล้ว​แน่​ ๆ!

“เป็น​อย่างไร​ ใน​เมื่อ​กล้า​เดิมพัน​ก็​ต้อง​ยอมรับ​ความพ่ายแพ้​ ท่าน​พี่​ชวน​ จากนี้ไป​ท่าน​ต้อง​เชื่อฟัง​ข้า​นะ​”

ชางเหยา​ยิ้ม​อย่าง​มีความสุข​ ในที่สุด​มัจฉาสัต​มายา​ก็​อยู่​ใน​กำมือ​ของ​นาง​ แม้นว่า​จะมิได้​เต็มใจ​ก็ตาม​

ทว่า​ไม่เป็นไร​

หลังจากนี้​จะดีขึ้น​เอง​

“ข้า​ไม่ยอม​!”

มัจฉาสัต​มายา​เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน​ “ข้า​แพ้​ครั้งนี้​เพียง​ครั้ง​เดียว​ เจ้ามีโอกาส​ทำ​กับ​ข้า​ตามอำเภอใจ​เพียง​ครั้ง​เดียว​เท่านั้น​! ไม่มีทาง​ที่​จากนี้ไป​ข้า​จะยอม​เชื่อฟัง​เจ้าทุกอย่าง​!”

“อย่างนี้​หรอก​หรือ​”

ชางเหยา​เอ่ย​ “เฮ้อ​ คุณชาย​ให้​เนื้อ​ย่าง​ข้า​มาตั้ง​หลาย​ไม้ ข้า​ยัง​คิด​จะให้​ท่าน​พี่​ชวน​กิน​ด้วย​ น่าเสียดาย​ ท่าน​พี่​ชวน​ไม่เต็มใจ​เชื่อฟัง​ข้า​ถึงเพียงนี้​ก็​ช่างเถิด​ ข้า​กิน​เอง​แล้วกัน​!”

ขณะที่​เอ่ย​ นาง​หยิบ​เนื้อ​ย่าง​ออกมา​กิน​หลาย​ไม้

ยาม​มัจฉาสัต​มายา​เห็น​เนื้อ​ย่าง​เหล่านั้น​ ตา​ของ​มัน​แทบ​ค้าง​

คุณชาย​ดี​กับ​ชางเหยา​เกินไป​แล้ว​!

จวบ​จนบัดนี้​ มัน​ยัง​ไม่เคย​กิน​เนื้อ​ย่าง​สัก​ไม้!

ทุกครั้งที่​คุณชาย​ย่าง​เนื้อ​ มัน​ต้อง​น้ำลายสอ​อย่างยิ่งยวด​ ตั้งตารอ​อย่าง​คาดหวัง​ว่า​ต่อ​ให้ได้​กิน​สัก​ชิ้น​เล็ก​ ๆ ก็​ยัง​ดี​!

ทว่า​มัน​มีสิทธิ์​แค่​ดมกลิ่น​เท่านั้น​ ไม่เคย​ได้​กิน​เลย​สัก​ครา​!

และ​ดู​จาก​ท่าทาง​ของ​ชางเหยา​ เห็นได้ชัด​ว่า​นาง​เคย​กิน​มาเยอะ​แล้ว​!

มิหนำซ้ำ​คุณชาย​ยัง​ให้​ชางเห​ยามา​กิน​ต่อ​อีก​ไม่น้อย​!

“ฮึ่ม!”

ถึงกระนั้น​ อย่างไร​มัน​ก็​ไม่ยอม​เสียศักดิ์ศรี​ เบือนหน้า​ไป​อีก​ด้าน​

น้ำลายไหล​ลงมา​ตาม​มุมปาก​มัน​ไม่หยุด​ แต่​มัน​ยัง​ฝืน​หักห้ามใจ​ตัวเอง​ไว้​

หากว่า​ยอมจำนน​ต่อ​ชางเหยา​ ชีวิต​นี้​มัน​คง​ต้อง​อยู่​ใต้​อาณัติ​ชางเหยา​!

“โอ๊ย​ เผลอ​กิน​เสีย​มัน​เปื้อน​เต็มปาก​ ต้อง​หยิบ​ผ้า​มาเช็ด​หน่อย​ มิฉะนั้น​คง​น่าเกลียด​แน่​”

เวลา​นั้น​ ชางเหยา​เก็บ​เนื้อ​ย่าง​กลับ​ไป​และ​เอ่ย​ประโยค​นี้​ออกมา​

“ข้า​นี่​ไม่ไหว​เลย​ นึก​อยาก​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ ไย​จึงหยิบ​ภาพ​อักษร​ที่​คุณชาย​มอบให้​ข้า​ออกมา​เสียได้​!”

ชางเหยา​มีภาพ​อักษร​ใน​มือ​ “ใน​เมื่อ​นำ​ออกมา​แล้ว​ ก็​ขอ​เชยชม​อักษร​ฝีมือ​คุณชาย​อีกหน่อย​แล้วกัน​ ลายมือ​คุณชาย​นี่​งดงาม​จริง ๆ​!”

นาง​คลี่​ภาพ​อักษร​ออก​

“สมดั่ง​ปรารถนา​! คุณชาย​ก็​คือ​คุณชาย​ ทุก​ลำดับ​ขีด​ต่าง​อัศจรรย์​ แฝงไว้​ด้วย​จังหวะ​แห่ง​เต๋า​ขั้นสูง​!”

นาง​เอ่ย​ต่อ​

สมดั่ง​ปรารถนา​!

มัจฉาสัต​มายา​หัน​มอง​ภาพ​อักษร​อย่า​งอด​มิได้​

และ​เมื่อ​มัน​ได้​เห็น​อักษร​บน​นั้น​ สายตา​ของ​มัน​ก็​เปลี่ยนไป​ใน​บัดดล​!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท