รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 735 หลี่จิ่วเต้าคือท่านผู้นั้นหรือ?

บทที่ 735 หลี่จิ่วเต้าคือท่านผู้นั้นหรือ?

บท​ที่​ 735 ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​คือ​ท่าน​ผู้​นั้น​หรือ​?

สมดั่ง​ปรารถนา​!

อักษร​ลายมือ​คุณชาย​!

สิ่งนี้​บ่งบอก​อะไร​?

บ่งบอก​ว่า​คุณชาย​ให้ความสำคัญ​ชางเหยา​มาก​!

มัจฉาสัต​มายา​รู้​ว่า​มัน​คง​ต่อกร​กับ​ชางเหยา​ไม่ได้​แล้ว​ จะให้​ต่อกร​อย่างไร​ คุณชาย​ยังอยู่​ฝ่าย​เดียว​กับ​ชางเหยา​!

“น้อง​เหยา​นี่​เก่งกาจ​นัก​ ได้​อักษร​ฝีมือ​คุณชาย​มาเลย​หรือ​! พี่​ชวน​อิจฉา​เหลือเกิน​!”

มัน​รีบ​กล่าว​กับ​ชางเหยา​ด้วย​ใบหน้า​แย้มยิ้ม​

น้อง​เหยา​?

ชางเหยา​หัวเราะ​ใน​ใจไม่หยุด​ ท่าน​พี่​ชวน​นี่​เรื่อง​อื่น​อาจ​มิได้​เก่งกาจ​นัก​ แต่​มอง​สถานการณ์​เก่ง​เป็น​ที่สุด​! ก่อนหน้า​ เขา​ไม่เคย​เรียก​นาง​ว่า​น้อง​เหยา​ เอาแต่​เรียกชื่อ​เต็ม​ของ​นาง​อยู่​ตลอด​

“ข้า​ไม่ชอบ​บีบบังคับ​ผู้ใด​ ยิ่ง​ให้​บีบบังคับ​ท่าน​พี่​ชวน​ยิ่ง​แล้ว​ใหญ่​ ใน​เมื่อ​ท่าน​พี่​ชวน​เด็ดขาด​เพียงนั้น​ ข้า​คง​ไม่อาจ​เอ่ย​อัน​ใด​ไป​มากกว่า​นี้​แล้ว​! เรื่อง​ใน​อดีต​ปล่อย​ให้​หาย​ไป​ตาม​ลม​เถิด​!”

ชางเหยา​มอง​มัจฉาสัต​มายา​พลาง​กล่าว​ “ไป​ก่อน​นะ​ ข้า​จะไป​เที่ยวเล่น​รอบ​ ๆ เชยชม​ทัศนียภาพ​อัน​ตระการตา​เหล่านั้น​เสียหน่อย​”

“อย่า​เพิ่ง​ไป​!”

มัจฉาสัต​มายา​รีบ​เรียก​ชางเหยา​ไว้​ พร้อม​เอ่ย​ด้วย​ท่าทาง​จริงจัง​ “น้อง​เหยา​ทำ​เช่นนี้​ไม่ถูก​! พี่​ชวน​อยู่​ใน​อาณาจักร​นี้​มานาน​ ใน​เมื่อ​เจ้าอยาก​เที่ยวเล่น​ใน​อาณาจักร​นี้​ ไย​จึงไม่ให้​พี่​ชวน​นำทาง​เจ้าเล่า​ พี่​ชวน​ชอบ​เที่ยวเล่น​ไป​ทั่ว​เป็น​ที่สุด​!”

“เรื่อง​นั้น​…ได้​หรือ​” ชางเหยา​ถามยิ้ม​ ๆ

“ได้​แน่นอน​!”

มัจฉาสัต​มายา​กล่าว​เสียง​ขึงขัง​ “น้อง​เหยา​อย่า​ได้​คิดมาก​ว่า​พี่​ชวน​ประจบ​เจ้า และ​อย่า​คิด​ว่า​พี่​ชวน​หมายตา​เนื้อ​ย่าง​เหล่านั้น​! พี่​ชวน​เพียงแต่​โอบอ้อมอารี​ ชอบ​ช่วยเหลือ​ผู้คน​ เรา​สอง​มาจาก​อาณาจักร​เดียวกัน​ หาก​น้อง​เหยา​ต้องการ​ยล​ทิวทัศน์​งดงาม​ของ​อาณาจักร​นี้​ พี่​ชวน​ย่อม​ต้อง​อาสา​ช่วย​เจ้าเป็น​คน​แรก​!”

หลัง​ชางเหยา​ได้ยิน​คำกล่าว​ของ​มัจฉาสัต​มายา​ก็​เกือบ​หลุด​หัวเราะ​ออกมา​

ไม่ใช่เพราะ​เหตุผล​พวก​นั้น​หรือ​?

เหล่า​ของ​วิเศษ​ตาค้าง​ไป​เช่นกัน​ นึกในใจ​ว่า​ มัจฉาสัต​มายา​กล่าว​ถ้อยคำ​เหล่านั้น​ออกมา​หน้าตาเฉย​ได้​อย่างไร​กัน​

“คือ​ว่า​…ถ้าได้​กิน​เนื้อ​ย่าง​สัก​ไม้ ก็​คง​ยิ่ง​ดี​เข้าไป​ใหญ่​!”

มัจฉาสัต​มายา​กล่าว​ต่อ​

“กิน​อะไร​เล่า​! ไป​กัน​ดีกว่า​!”

ชางเหยา​โบกมือ​กระชาก​คอเสื้อ​มัจฉาสัต​มายา​ หมาย​จะพา​มัจฉาสัต​มายา​ไป​จาก​ที่นี่​

“อย่า​ทำตัว​ป่าเถื่อน​เช่นนี้​สิ!” มัจฉาสัต​มายา​ร้อง​ลั่น​ “รักษา​ภาพพจน์​กุลสตรี​ด้วย​!”

“กุลสตรี​อะไร​อีก​!”

ชางเหยา​ถลึงตา​ใส่มัจฉาสัต​มายา​ “ข้า​เคย​ลั่นวาจา​ไว้​แล้ว​ว่า​จะกำราบ​ท่าน​!”

จากนั้น​ นาง​บอกลา​เหล่า​ของ​วิเศษ​ และ​พา​มัจฉาสัต​มายา​ไป​จาก​ที่นี่​

“เจ้าสอง​คน​นี้​…”

เหล่า​ของ​วิเศษ​หัวเราะ​มิได้​ร้องไห้​ไม่ออก​ มัจฉาสัต​มายา​กับ​ชางเหยา​ช่างเป็น​คู่​ที่​น่าสนใจ​ยิ่งนัก​

ทั้งที่​มัจฉาสัต​มายา​มีใจให้​ชางเหยา​ แต่กลับ​ไม่ยอม​สารภาพ​ความในใจ​เพราะ​ทิฐิ​ อย่าง​มัจฉาสัต​มายา​ จำต้อง​ได้​คน​นิสัย​กล้าหาญ​อย่าง​ชางเหยา​มาปราบ​!

ณ สถาน​ที่หนึ่ง​ใน​ดินแดน​ฝอ​

ที่นี่​ลึกลับ​เป็น​ที่สุด​ ทั้ง​ยังมี​กับดัก​วาง​ไว้​หลาย​ชั้น​ ต่อให้​มีพระ​สมณะแห่ง​พุทธศาสนา​ผ่าน​มา ก็​ไม่มีทาง​รู้ตัว​!

เวลา​นั้น​เอง​ ใคร​บางคน​ก้าว​ออกจาก​กับดัก​หลาย​ชั้น​นั้น​อย่าง​เงียบเชียบ​

ภายนอก​ของ​เขา​ดู​ไม่มีพิรุธ​ ธรรมดา​ดาษดื่น​ ทว่า​นัยน์ตา​คู่​นั้น​พิสูจน์​แล้ว​ว่า​เขา​มิได้​ธรรมดา​อย่าง​ที่​ดูเหมือน​!

ใน​ส่วนลึก​ของ​นัยน์ตา​คู่​นั้น​มีภาพ​การณ์​สยดสยอง​มากมาย​ปรากฏ​ เขา​มิใช่พวก​สามัญ มีภูมิหลัง​ยิ่งใหญ่​แน่นอน​!

และ​ความเป็นจริง​ก็​เป็น​เช่นนั้น​!

เขา​คือ​หนาน​ฉง ใจกล้า​ซ้ำยัง​ระแวดระวัง​ เป็น​ผู้​ที่​หนี​ออก​มาจาก​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​นั่นเอง​

ครานั้น​ จักรพรรดินี​ถูกจับ​เข้าไป​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​เพราะ​ต้องการ​ช่วย​อาจารย์​ของ​นาง​ ต่อมา​ ภาพร่าง​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ปรากฏ​ ทลาย​พันธน​การ​ใน​ปริภูมิ​เวลา​ออก​ สร้าง​เส้นทาง​โบราณ​ขึ้น​มา ส่งพวก​จักรพรรดินี​กลับ​

เขา​ใจเหี้ย​มมาก​พอ​ ติดสอยห้อยตาม​เส้นทาง​โบราณ​หนี​ออกจาก​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​มาด้วย​

ระยะนี้​ เขา​ฟื้น​พลัง​ตัวเอง​ใน​ที่​แห่ง​นี้​มาตลอด​ บัดนี้​ตัว​เขา​คืน​สภาพจน​ประมาณ​หนึ่ง​แล้ว​ จึงยุติ​ขั้นตอน​ฟื้นฟู​พร้อม​ก้าว​ออกมา​

“ข้า​ไป​ไหน​มิได้​ทั้งนั้น​ จำต้อง​อยู่​แต่​ใน​อาณาจักร​นี้​!”

ดวงตา​ของ​เขา​วาว​โรจน์​ เจ้าอุบาย​เป็น​อย่างยิ่ง​ หลัง​หนี​ออกจาก​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​ได้​แล้ว​ เดิม​เขา​ไป​พำนัก​ที่อื่น​ได้​ ทว่า​เขา​มิได้​ทำ​เช่นนั้น​ หาก​แต่​ตาม​เส้นทาง​โบราณ​มาถึงอาณาจักร​นี้​

เพราะ​เขา​รู้ดี​ว่า​ กองกำลัง​ปริภูมิ​เวลา​ไม่มีทาง​รามือ​ง่าย ๆ​ หาก​เขา​ไป​อยู่​ที่อื่น​ เป็นไปได้​ว่า​อาจ​ถูก​กองกำลัง​ปริภูมิ​เวลา​จับ​ไป​อีกครั้ง​

แต่​ถ้าอยู่​ใน​อาณาจักร​นี้​ เขา​จะปลอดภัย​ขึ้น​มาก​

ผู้​ที่อยู่​เบื้องหลัง​พวก​จักรพรรดินี​ก็​อยู่​ใน​อาณาจักร​นี้​ ต่อให้​กองกำลัง​ปริภูมิ​เวลา​ไล่​ตามมา​จริง ๆ​ เขา​ก็​ไม่กลัว​

ถึงอย่างไร​อาณาจักร​นี้​ก็​เป็น​ถิ่น​ของ​ท่าน​ผู้​นั้น​ ท่าน​ผู้​นั้น​ไฉน​เลย​จะยอมให้​กองกำลัง​ปริภูมิ​เวลา​ทำ​ตามอำเภอใจ​ที่นี่​

คิด​แล้วก็​ไม่น่า​เป็นไปได้​!

“ที่นี่​เป็น​ถิ่น​ของ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​หรือ​นี่​!”

เขา​ทรงพลัง​เป็น​หนักหนา​ ไม่จำเป็นต้อง​ตั้งใจ​ตรวจจับ​อัน​ใด​ก็​รับรู้​ถึงสถานการณ์​ทั้งหมด​ใน​ดินแดน​ฝอ​ด้วย​การ​ตั้ง​จิต​เพียง​ครั้ง​เดียว​

เรื่อง​นี้​เป็นที่​คาดไม่ถึง​ของ​เขา​ เขา​ทึ่ง​มาก​จริง ๆ​

พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​เผยแพร่​คำสอน​แห่ง​พุทธศาสนา​ไว้​ใน​จักรวาล​โกลาหล​แห่ง​นี้​ด้วย​หรือ​?

“พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​มีความเป็นมา​อย่างไร​กัน​แน่​!”

เขา​มีสีหน้า​เคร่งเครียด​ขณะ​ครุ่น​คิดในใจ​

ใน​จักรวาล​โกลาหล​ที่​เขา​อยู่​ก็​มีพุทธศาสนา​ และ​พระพุทธองค์​ก็​คือ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​เช่นเดียวกัน​ พระสงฆ์​ใน​พุทธศาสนา​ล้วน​ต้อง​ท่อง​พระนาม​อา​มิตา​พุทธ​

นอกจากนี้​ เท่าที่​เขา​ทราบ​ พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​มีรากฐาน​ใน​จักรวาล​โกลาหล​แห่ง​อื่น​เหมือนกัน​!

ภายใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​มีสิ่งมีชีวิต​จาก​จักรวาล​โกลาหล​มากมาย​ถูก​ขัง​ไว้​ เขา​เอง​ก็​รู้​จาก​ที่นั่น​ว่า​ธรรมะ​คลี่​แผ่​ปกคลุม​ไป​ถึงหลาย​จักรวาล​โกลาหล​ และ​ทั้งหมด​ล้วน​บูชาพระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​!

ซ้ำยัง​ต่าง​มีบุคคล​นาม​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ปรากฏตัว​เหมือน​ ๆ กัน​!

เรื่อง​นี้​น่าสนใจ​ยิ่งนัก​

จักรวาล​โกลาหล​แต่ละ​ผืน​มิได้​เชื่อมโยง​ถึงกัน​ วิชา​ต่าง ๆ​ ที่​ฝึกฝน​ก็​แตก​ต่างกัน​ไป​ ธรรมะ​จะมีอยู่​ใน​จักรวาล​โกลาหล​มากมาย​เพียงนั้น​ได้​อย่างไร​ แล้ว​ยังมี​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​อันเป็น​เหมือน​ศาสดา​ผู้​เผยแพร่​ธรรมะ​กัน​หมด​!

เพียงแต่​เขา​คิดไม่ถึง​ว่า​ ใน​จักรวาล​โกลาหล​ที่​ท่าน​ผู้​นั้น​ประทับ​ก็​มีร่องรอย​ธรรมะ​อยู่​เช่นกัน​ นี่​มัน​หมายความว่า​อย่างไร​

‘เทียบ​กับ​ธรรมะ​ใน​จักรวาล​โกลาหล​ผืน​อื่น​ ธรรมะ​ใน​จักรวาล​โกลาหล​ผืน​นี้​ไม่นับว่า​ทรงพลัง​เท่าใด​ ไม่อาจ​สู้ผู้ใด​ได้​ด้วยซ้ำ​ เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​ท่าน​ผู้​นั้น​หรือไม่​’

เขา​คิดในใจ​

ใน​จักรวาล​โกลาหล​ผืน​อื่น​ ธรรมะ​ถือเป็น​อภินิหาร​วิเศษ​ เป็น​การดำรงอยู่​อัน​ยิ่งใหญ่​ ธรรมะ​ใน​จักรวาล​โกลาหล​ผืน​นี้​กลับ​อ่อนแอ​ไม่เป็นท่า​ ไม่มีแม้แต่​ขอบเขต​เซียน​ซึ่งด้อย​พลัง​เหลือแสน​ เช่นนี้​ดูจะ​เหลาะแหละ​ไป​หน่อย​ ไม่อาจ​เทียบ​กับ​ธรรมะ​ใน​จักรวาล​โกลาหล​อื่น​ได้​เลย​!

ขอบเขต​เซียน​นั้น​อ่อน​พลัง​จริง ๆ​ พุทธศาสนา​ใน​จักรวาล​โกลาหล​ผืน​อื่น​เต็มไปด้วย​สิ่งมีชีวิต​ขอบเขต​โกลาหล​ ซ้ำยังมี​กำลัง​รบ​ระดับสูง​ที่​บรรลุ​เกินขอบเขต​โกลาหล​ขึ้นไป​อีก​ไม่น้อย​

เขา​ไม่รู้​ว่า​เหตุใด​พุทธศาสนา​ที่นี่​ถึงอ่อนด้อย​ปานนี้​ ท่าทาง​ราวกับ​ยัง​ไม่ถึงจุด​รุ่งโรจน์​ นี่​เป็น​เพราะ​ข้อจำกัด​ของ​พุทธศาสนา​เพียง​อย่าง​เดียว​ หรือ​เพราะ​ท่าน​ผู้​นั้น​ประทับ​อยู่​ใน​จักรวาล​โกลาหล​ผืน​นี้​!?

“ต้าเต๋อ…”​

เขา​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​เสียง​เบา​ ต้าเต๋อ​ดึง​ความสนใจ​จาก​เขา​ไป​ได้​

ต้าเต๋อ​คือ​ตัวแปร​ที่​ควบคุม​มิได้​อย่าง​แท้จริง​ เคย​ช่วย​พุทธศาสนา​ไว้​ได้​หลายครั้ง​ยาม​พุทธศาสนา​ประสบ​หายนะ​ ราวกับ​มีพลัง​บางอย่าง​คอย​คุ้มครอง​ต้าเต๋อ​อยู่​

‘ได้รับ​ความ​คุ้มครอง​จาก​วิถี​สวรรค์​หรือ​’

เขา​รู้สึก​ทะแม่ง​ วิถี​สวรรค์​ใน​อาณาจักร​นี้​เบาบาง​อย่างยิ่งยวด​ คล้าย​ว่า​จะ ‘เอาตัวรอด​ไม่ได้​’ ด้วยซ้ำ​ ไฉน​ถึงประคบประหงม​เด็ก​อายุ​ไม่กี่​ขวบ​ปี​เช่นนี้​ได้​?!

‘ไหนจะ​ลูกประคำ​พวง​นั้น​อีก​!’

ต้าเต๋อ​ไม่เพียงแต่​มีวิถี​สวรรค์​คุ้มครอง​ แต่​ยังมี​ลูกประคำ​พวง​หนึ่ง​ใน​มือ​ซึ่งแกร่งกล้า​น่า​พรั่นพรึง​ยิ่งกว่า​ เคย​กำราบ​เซียว​ฮุ่ย​ผู้​มารุกราน​ไว้​ได้​

‘ต้าเต๋อ​ผู้​นี้​มีความเกี่ยวข้อง​กับ​ธรรมะ​ใน​จักรวาล​โกลาหล​อื่น​หรือ​ท่าน​ผู้​นั้น​ใน​อาณาจักร​นี้​กัน​แน่​’

เขา​คิด​เงียบ ๆ​ ใน​ใจ

ไม่ต้องสงสัย​เลย​ว่า​มีผู้อยู่เบื้องหลัง​ต้าเต๋อ​แน่นอน​ ไม่เกี่ยวข้อง​กับ​ธรรมะ​ก็​เกี่ยวข้อง​กับ​ท่าน​ผู้​นั้น​!

มิฉะนั้น​ เด็ก​ไม่กี่​ขวบ​ปี​อย่าง​ต้าเต๋อ​ไม่มีทาง​สามารถ​พอ​จะทำ​เรื่อง​เช่นนั้น​!

ด้วย​พลัง​ขอบเขต​ของ​เขา​ เขา​พยากรณ์​ทุก​เรื่อง​ที่​เขา​ต้อง​การทราบ​ได้​แน่นอน​

ทว่า​เขา​มิกล้า​ทำ​เช่นนั้น​

ไม่ว่า​จะเป็น​ธรรมะ​หรือ​ท่าน​ผู้​นั้น​ต่าง​มิใช่ผู้​ที่​เขา​แตะต้อง​ได้​ หาก​ผลีผลาม​ทำการ​พยากรณ์​ เป็นไปได้​ว่า​จะเกิด​ภัย​ใหญ่หลวง​ต่อ​ตนเอง​!

‘พลัง​ของ​พุทธศาสนา​ที่นี่​อ่อนด้อย​นักหนา​ ข้า​คิด​ว่า​คง​เพราะ​ไม่มีพลัง​จาก​ธรรมะ​คอย​ช่วยเหลือ​เท่าใด​ ถึงได้​รู้สึก​ว่า​ผู้​ที่อยู่​เบื้องหลัง​ต้าเต๋อ​เห็นจะ​เป็น​ท่าน​ผู้​นั้น​มากกว่า​!’

เขา​วิเคราะห์​อย่าง​ละเอียด​

‘นอกจากนี้​ หาก​คิดดู​ดี ๆ​ อีกที​อาณาจักร​นี้​ก็​มีพระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​อยู่​ แต่​ต่อให้​มีพลัง​ธรรมะ​คอย​เจือจุน​ก็​คง​มิได้​ออกฤทธิ์​กับ​ต้าเต๋อ​ คง​ต้อง​ออกฤทธิ์​กับ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ใน​อาณาจักร​นี้​!’

เขา​คิด​ต่อ​

ยิ่ง​เป็นผล​ให้​เขา​คิด​ว่า​ต้าเต๋อ​เกี่ยวข้อง​กับ​ท่าน​ผู้​นั้น​!

‘ดูเหมือน​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ผู้​นั้น​เกี่ยวพัน​ลึกซึ้ง​กับ​ต้าเต๋อ​ ข้า​ไป​สอบถาม​สถานการณ์​จาก​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ก่อน​ดีกว่า​’

เขา​ก้าว​เท้า​ออก​ไป​ พริบตาเดียว​ก็​ถึงตัวพระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​

พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​และ​เซียว​ฮุ่ย​ต่าง​เคย​ถูก​ช่วย​ออก​ไป​ เซียว​ฮุ่ย​ไม่ทราบ​เบาะแส​ แต่​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ยังอยู่​ใน​ดินแดน​ฝอ​

เมื่อ​ครู่​ยาม​เขา​เพิ่ง​ได้​รับรู้​สถานการณ์​ของ​ดินแดน​ฝอ​ก็​ทราบ​ถึงตำแหน่ง​ที่อยู่​ของ​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​

สิบ​ล้าน​รอบ​!

หลาย​รอบ​เกินไป​แล้ว​ จนบัดนี้​วัวตัวผู้​ตัว​นั้น​ยัง​ไม่บรรลุ​ ‘ภารกิจ​’ ที่​เซียว​ฮุ่ย​มอบหมาย​ ยังคง​ทำหน้าที่​ต่อไป​อย่าง​ขยันขันแข็ง​!

และ​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ใน​ยาม​นี้​ไม่เหลือ​ชีวิตชีวา​แม้สัก​เศษเสี้ยว​ สายตา​ว่างเปล่า​ สิ้นหวัง​ต่อ​โลก​ทั้ง​ใบ​!

หนาน​ฉงมุมปาก​กระตุก​ พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ทำ​อะไร​ไว้​หรือ​ ถึงต้อง​ถูก​ทรมาน​ถึงปานนี้​!

เขา​ชี้นิ้ว​ออก​ไป​ คลาย​พลัง​ที่​พันธนาการ​วัวตัวผู้​และ​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​อยู่​

“อ๊ากกกก!​ ข้า​ไม่อยาก​มีชีวิต​อยู่​อีกต่อไป​แล้ว​! ข้า​ยัง​เป็น​ร่าง​พรหมจรรย์​แท้ ๆ​! แต่กลับ​ต้อง​เสีย​ให้​กับ​บุรุษ​ผู้​นี้​! สวรรค์​ ฆ่าข้า​เถิด​!”

หลัง​วัวตัวผู้​ถูก​คลาย​พลัง​ที่​ผนึก​ตนเอง​ออก​ก็​ล้ม​ตึง​ลงพื้น​ แม้ว่า​สภาพ​จิตใจ​ของ​มัน​จะไม่ดี​อย่าง​มาก​ แต่​ยัง​คำราม​เสียง​กราดเกรี้ยว​ออกมา​!

“เสี่ยว​หลาน​ ข้า​ไม่บริสุทธิ์​อีกแล้ว​! พรหมจรรย์​ที่​ข้า​รักษา​ไว้​เพื่อ​เจ้ามาหลาย​ร้อย​ปี​หาย​ไป​แล้ว​! ชีวิต​ของ​ข้า​ยัง​มีความหมาย​อัน​ใด​อีก​เล่า​!?”

วัวตัวผู้​ร่ำไห้​โศกา​

“เจ้าโวยวาย​อะไร​! ผู้​ที่​ต้อง​โวยวาย​สมควร​เป็น​ข้า​ถึงจะถูก​!”

พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ร่ำร้อง​เสียง​หมองหม่น​

ผ่าน​มาตั้ง​นาน​แล้ว​ กิจกรรม​นั้น​มิเคย​หยุด​ลง​แม้แต่​ชั่ว​อึด​ใจเดียว​ เขา​รู้สึก​ว่า​ก้น​นี้​มิใช่ของ​เขา​อีกแล้ว​!

เจ้าวัวตัวผู้​ตัว​นี้​ยัง​มีหน้า​โวยวาย​อีก​!

เขา​ต่างหาก​คือ​ฝ่าย​ที่​ถูก​ขย่ม​!

น่าเวทนา​จน​ทน​มอง​มิได้​!

“เอาล่ะ​”

หนาน​ฉงมอง​วัวตัวผู้​กับ​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ก็​พลัน​รู้สึก​ระคาย​ตา​เป็น​หนักหนา​ จึงพา​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ไป​จาก​ที่นี่​

“ขอบคุณ​ท่าน​ที่​เข้ามา​ช่วย​!”

หลัง​มาถึงอีก​สถาน​ที่หนึ่ง​ พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​รีบ​กล่าว​ขอบคุณ​หนาน​ฉง

ผ่าน​ไป​แล้ว​หลาย​วัน​ แต่​ยัง​ห่าง​จาก​สิบ​ล้าน​รอบ​อีก​มาก​ มิหนำซ้ำ​แต่ละ​รอบ​ของ​วัวตัวผู้​กินเวลา​นาน​ยิ่ง​!

และ​หลังจากนั้น​เรื่อย ๆ​ แต่ละ​รอบ​ของ​วัวตัวผู้​ยิ่ง​ทวี​ความ​นาน​ เพราะ​ระบาย​ออกมา​ยาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ​

“จำบุญคุณ​ของ​ข้า​ได้​ก็​ดีแล้ว​”

หนาน​ฉงกล่าว​ “เล่าเรื่อง​ของ​ต้าเต๋อ​ให้​ข้า​ฟังหน่อย​ จำไว้​ ห้าม​ตกหล่น​แม้แต่​จุด​เดียว​”

ถึงแม้พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ไม่รู้​ว่า​หนาน​ฉงถามเรื่อง​ต้าเต๋อ​เพื่อ​การ​ใด​ กระนั้น​เขา​ก็​มิกล้า​ปิดบัง​ เล่า​ทุกอย่าง​ออกมา​อย่าง​ครบถ้วน​

“ตาม​คาด​!”

หนาน​ฉงหรี่ตา​ลง​ จาก​ข้อมูล​ที่​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​เล่า​ให้​ฟัง เขา​จับ​ประเด็นสำคัญ​ได้​อย่าง​!

ฝีมือ​น่าทึ่ง​ทั้งหมด​ที่​ต้าเต๋อ​สำแดง​ออกมา​ ล้วน​เกิดขึ้น​หลังเขา​กลับ​จาก​เขา​หย​งหมิง​!

ก่อน​ไป​เขา​หย​งหมิง​ ต้าเต๋อ​ยัง​มิได้​น่าทึ่ง​ปาน​นั้น​!

“ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​คือ​ท่าน​ผู้​นั้น​หรือ​”

เขา​สังเกต​ได้​อี​กว่า​ คราว​ต้าเต๋อ​อยู่​ที่​เขา​หย​งหมิง​เคย​เจอ​กับ​ปุถุชน​ผู้​หนึ่ง​นาม​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​

ปุถุชน​หรือ​?

สถานที่​ซึ่งมีผู้ฝึก​ตน​เข้า​ชุมนุม​จะมีปุถุชน​โผล่​ไป​ได้​อย่างไร​ มิหนำซ้ำ​ยังมี​ผู้ฝึก​ตน​มากมาย​เคารพ​ยำเกรง​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เป็น​ที่สุด​

สิ่งสำคัญ​คือ​ ผู้​ที่อยู่​ข้าง​กาย​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ล้วนแล้ว​น่าทึ่ง​กัน​ทั้งสิ้น​!

“ไป​เถิด​ ไปหา​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ผู้​นี้​หน่อย​!”

หนาน​ฉงพา​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ไป​จาก​ที่นี่​ มุ่งหน้า​ไป​ยัง​เมือง​ชิงซาน​

เขา​ตัดสินใจ​ไป​สืบ​ให้​รู้ความ​!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท