รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 737 ที่นี่อ่อนด้อยเกินไป พาข้าไปยังฐานทัพใหญ่ของพวกเจ้าเถิด!

บทที่ 737 ที่นี่อ่อนด้อยเกินไป พาข้าไปยังฐานทัพใหญ่ของพวกเจ้าเถิด!

บท​ที่​ 737 ที่นี่​อ่อนด้อย​เกินไป​ พา​ข้า​ไป​ยัง​ฐานทัพ​ใหญ่​ของ​พวก​เจ้าเถิด​!

“คือ​ว่า​…พี่​ต้น​หลิว​ ซาก​ปริภูมิ​เวลา​เป็น​เพียง​เรือนจำ​แห่ง​หนึ่ง​ มิมีสิ่งใด​น่าดู​ชมเลย​จริง ๆ​!”

หนาน​ฉงอยาก​ร่ำไห้​ อย่า​ให้​เขา​ต้อง​กลับ​ไป​อีก​เลย​ ภายใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​ ไม่มีแม้แต่​เวลา​ไหลผ่าน​ อยู่​ใน​นั้น​ทรมาน​เสีย​ยิ่งกว่า​ตาย​

มิหนำซ้ำ​ใน​นั้น​ยัง​เกิด​พายุ​ปริภูมิ​เวลา​อยู่​เนือง ๆ​ ซึ่งถึงแก่ชีวิต​ได้​ง่าย ๆ​ ไม่มีที่ใด​สยดสยอง​กว่า​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​อีกแล้ว​ใน​ใจของ​เขา​

“ไป​กัน​เถิด​”

ก้าน​หลิว​ก้าน​หนึ่ง​ของ​ต้น​หลิว​ม้วน​หนาน​ฉงขึ้น​มา และ​พา​เขา​ไป​จาก​ที่นี่​

“การ​เดิน​ทางข้าม​ปริภูมิ​เวลา​จะนำพา​พวกเขา​มาหรือ​”

ต้น​หลิว​ถาม

“ใช่…ใช่แล้ว​!”

หนาน​ฉงรู้สึก​แย่​เป็น​ที่สุด​ ต้น​หลิว​คง​มิได้คิด​จะไป​ยัง​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​จริง ๆ​ กระมัง​!

“ดี​”

ต้น​หลิว​เปล่งแสง​ ก้าน​หลิว​ฉวัดเฉวียน​ สร้าง​เส้น​ทางข้าม​เวลา​ขึ้น​มาได้​ใน​ชั่วพริบตา​

จากนั้น​ มัน​พา​หนาน​ฉงก้าว​ขึ้นไป​บน​เส้น​ทางข้าม​เวลา​ เดินทาง​ย้อน​ปริภูมิ​เวลา​

กฎ​แห่ง​กาลเวลา​เดือด​พล่าน​อยู่​รอบ​ ๆ พวกเขา​ก้าว​ผ่าน​ปริภูมิ​เวลา​แล้ว​ปริภูมิ​เวลา​เล่า​ด้วย​ความว่องไว​ จน​มาถึงยุคสมัย​ที่​ห่างไกล​ตั้ง​ไม่รู้​เท่าใด​

“คง​พอใช้ได้​แล้ว​กระมัง​…”

ต้น​หลิว​หยุด​ลง​ รอคอย​การ​มาของ​กองกำลัง​ปริภูมิ​เวลา​

หนาน​ฉงมีใบหน้า​หม่นหมอง​ ต้น​หลิว​ผู้​นี้​มาก​ฝีมือ​แล้ว​ยัง​ใจกล้า​บ้าบิ่น​อีกด้วย​ ถึงกับ​กล้า​ท้าทาย​อำนาจ​ของ​กองกำลัง​ปริภูมิ​เวลา​จริง ๆ​ หรือ​นี่​!

แต่​มาคิดดู​แล้ว​ ต้น​หลิว​ได้​ติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​ท่าน​ผู้​นั้น​ จะมีความกล้าหาญ​ขนาด​นี้​ก็​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​

“ข้า​กลัว​ว่า​ตัว​ข้า​จะถูก​ทิ้ง​ไว้​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​น่ะ​สิ!”

ต้น​หลิว​คง​ไม่เป็นอะไร​มาก​ แต่​เขา​นั้น​ไม่เหมือนกัน​ ใช่ว่า​ต้น​หลิว​จะมาดูดำดูดี​เขา​ หาก​เขา​ถูก​ทอดทิ้ง​จริง ๆ​ คง​จบ​ไม่สวย​แน่​

“คือ​ว่า​…ต้น​หลิว​…ข้า​ยินดี​เป็น​ลิ่วล้อ​ของ​ท่าน​ ทำ​ทุกอย่าง​แทน​ท่าน​ ท่าน​อย่า​ทอดทิ้ง​ข้า​เลย​!”

หนาน​ฉงรีบ​บอก​กับ​ต้น​หลิว​

ต้น​หลิว​มิได้​สนใจ​หนาน​ฉง มัน​ต้องการ​ลิ่วล้อ​ไป​ทำ​อะไร​

ไม่มีประโยชน์​เลย​สักนิด​

“มาแล้ว​”

เวลา​นั้น​ มัน​สัมผัส​ได้​ว่า​ที่นี่​เริ่ม​มีพลัง​ปริภูมิ​เวลา​อัน​น่ากลัว​หลั่งไหล​เข้ามา​ และ​ยัง​เกิด​หลุมดำ​ขนาดใหญ่​ พลัง​บางอย่าง​ถูก​ส่งออก​มาจาก​ใน​นั้น​หมาย​จะสูบ​เขา​และ​หนาน​ฉงเข้าไป​

“ไป​เถิด​”

ต้น​หลิว​พา​หนาน​ฉงเข้าไป​ใน​หลุมดำ​

นี่​ก็​เพราะ​มัน​เลือก​เข้าไป​เอง​ ไม่อย่างนั้น​ พลัง​ใน​หลุมดำ​คิด​จะสูบ​เขา​เข้าไป​ย่อม​มิใช่เรื่อง​ง่าย​

ลมหายใจ​ต่อมา​ พวกเขา​เข้ามา​อยู่​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​ หลุมดำ​ปิด​สนิท​ใน​บัดดล​ และ​ที่นี่​ถูก​ปิดผนึก​อย่าง​สมบูรณ์​

ที่นี่​ไร้​ซึ่งการ​ไหลเวียน​ของ​กาลเวลา​ ต้น​หลิว​มองดู​ดินแดน​แห่ง​นี้​แล้ว​รู้​ได้​ว่า​ไม่ธรรมดา​จริง ๆ​ แต่​ก็​ยัง​ไม่พอให้​ดู​ชมสำหรับ​มัน​ ไม่อาจ​ขัดเกลา​มัน​ได้​

“ข้า​จะไป​คุย​กับ​จ้าว​แห่ง​เรือนจำ​ที่นี่​หน่อย​”

มัน​ไป​จาก​ที่นี่​ จับ​ตำแหน่ง​จ้าว​แห่ง​เรือนจำ​ได้ใน​พริบตา​ จ้าว​แห่ง​เรือนจำ​อยู่​ใน​สถานที่​พิเศษ​แห่ง​หนึ่ง​ของ​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​

“หา​! พี่​หลิว​!”

หนาน​ฉงแทบ​ร้องไห้​ ต้น​หลิว​ไป​ง่าย ๆ​ เช่นนี้​เลย​หรือ​ ทิ้ง​เขา​ไว้​ที่นี่​จริง ๆ​ หรือ​!

เขา​รู้สึก​แย่​เป็น​ที่สุด​ วน​ไป​เวียน​มา ทำ​ทุก​วิถีทาง​ ท้ายที่สุด​ก็​เป็น​เพียง​ความว่างเปล่า​ ต้อง​กลับมา​ที่นี่​อีกครั้ง​!

“หนาน​ฉง!”

“ใช้ได้​นี่​! เจ้าริอ่าน​กลับมา​อีก​หรือ​!”

เสียง​กราดเกรี้ยว​ดัง​ขึ้น​จาก​ทุก​พื้นที่​ของ​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​ หนาน​ฉงรู้สึก​ได้​ว่า​มีพลัง​ปราณ​สยดสยอง​มากมาย​เล็ง​เป้า​มาที่​เขา​!

เขา​รู้ดี​ว่า​เหตุใด​ถึงเป็น​เช่นนี้​

คราวก่อน​ เขา​หลอก​ให้​สิ่งมีชีวิต​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​ร่วมมือ​กัน​จัดการ​พวก​จักรพรรดินี​ ผลสุดท้าย​ สิ่งมีชีวิต​เหล่านี้​ถูก​เส้นทาง​โบราณ​ที่​พวก​จักรพรรดินี​อยู่​สะท้อน​พลัง​จน​อยู่​ใน​สภาพ​น่าเวทนา​

มิหนำซ้ำ​ เขา​ยัง​ย้อน​กลับมา​ใน​ภายหลัง​ สังหาร​สิ่งมีชีวิต​ไป​หลาย​ตน​โดย​ฉวยโอกาส​ที่​พวกเขา​บาดเจ็บสาหัส​ และ​ดูดกลืน​พลัง​ของ​สิ่งมีชีวิต​เหล่านั้น​จน​สิ้นซาก​

ยิ่ง​ทำให้​สิ่งมีชีวิต​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​เคียดแค้น​เขา​มากขึ้น​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

เรื่อง​นี้​เป็นหนึ่ง​ใน​เหตุผล​หลัก​ที่​ครานั้น​เขา​ยอม​เสี่ยงอันตราย​ปาน​นั้น​เพื่อ​หนี​ไป​จาก​ที่นี่​

อย่างไร​เสีย​ เขา​ก็​เป็นที่​ชิงชังของ​ธารกำนัล​ หาก​ไม่หนี​ เลือก​ที่จะ​อยู่​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​ต่อ​ จุดจบ​ของ​เขา​คง​มิได้ดี​นัก​ สิ่งมีชีวิต​ที่​เหลืออยู่​ไม่มีทาง​ยอม​ปล่อย​เขา​ไป​ง่าย ๆ​

“หนาน​ฉง เจ้าคน​เดนตาย​! ข้า​แทบ​แย่​ก็​เพราะ​เจ้า!”

เวลา​นั้น​เอง​ เสียง​ที่​ขุ่นเคือง​ยิ่งกว่า​ดัง​ขึ้น​ จากนั้น​ อสูร​ร้าย​มหึมา​ตัว​หนึ่ง​พุ่ง​ออกมา​ จ้องมอง​หนาน​ฉงด้วย​ดวงตา​แดงก่ำ​ หมาย​จะฉีก​หนาน​ฉงให้​เป็น​ชิ้น​ ๆ!

“เจ้าเป็น​ใคร​!”

หลัง​หนาน​ฉงได้​เห็น​อสูร​ร้าย​ตัว​นี้​ก็​ตกตะลึง​

อสูร​ร้าย​ตัว​นี้​ไม่เหลือ​หนัง​เลย​สักนิด​ ซ้ำยังมี​ชิ้น​เนื้อ​หลาย​ส่วน​ขาดหาย​ไป​ เขา​มอง​ไม่ออก​จริง ๆ​ ว่า​อสูร​ร้าย​ตัว​นี้​เป็น​ผู้ใด​

“ไอ้​ระยำ​…ข้า​คือ​จ้าว​กิเลน​ดำ​!”

อ​สูร้าย​ตัว​นั้น​คำราม​เสียง​โกรธเกรี้ยว​แทบ​คลั่ง​

ครานั้น​ เขา​ร่วมมือ​หลอกล่อ​สิ่งมีชีวิต​ตน​อื่น​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​กับ​หนาน​ฉง มัน​กับ​หนาน​ฉงฉวยโอกาส​ที่​สิ่งมีชีวิต​เหล่านั้น​บุก​โจมตี​พวก​จักรพรรดินี​หนี​ไป​จาก​ที่นี่​ ต่อมา​ หนาน​ฉงเสี่ยงชีวิต​ย้อนกลับ​ไป​

มัน​มิได้​กลับ​ไป​ด้วย​ แต่​หา​ที่ซ่อน​เพื่อ​รักษา​บาดแผล​

หวน​นึกถึง​ครานั้น​ มัน​ยัง​หัวเราะเยาะ​หนาน​ฉงว่า​เป็น​พวก​ตื้นเขิน​ มัน​ต่างหาก​ที่​ฉลาด​หลักแหลม​ คิด​ว่า​หนาน​ฉงเสียท่า​เพราะ​ความ​หัวใส​ของ​ตน​โดยแท้​ กลับ​ไป​เช่นนี้​เท่ากับ​รนหาที่​ตาย​!

สุดท้าย​ มัน​ต้อง​เป็น​ฝ่าย​อึ้ง​ใน​ภายหลัง​ หนาน​ฉงไม่เพียงแต่​ยัง​ไม่ตาย​ ยัง​หนี​ออก​ไป​จาก​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​แล้วด้วย​!

โทสะ​ของ​สิ่งมีชีวิต​ที่​เหลือ​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​จึงถูกระบาย​ใส่ตัว​มัน​ทั้งหมด​!

มัน​ไม่อาจ​นิยาม​ด้วย​คำ​ว่า​อนาถา​ได้​แล้ว​ สถานภาพ​ของ​มัน​เสมือน​มีชีวิต​อยู่​ใน​นรก​โลกันตร์​ ถูก​ทรมาน​สารพัด​!

“จ้าว​กิเลน​ดำ​!”

หนาน​ฉงถึงรู้ตัว​ว่า​เป็น​พลัง​ปราณ​ของ​จ้าว​กิเลน​ดำ​จริง ๆ​

มุมปาก​ของ​เขา​กระตุก​ นี่​คือ​จุดจบ​ของ​ผู้​ที่​หนี​ไม่ทัน​!

“พี่น้อง​เอ๋ย​ วันนี้​เรา​จะสะสางความแค้น​ ไม่ต้อง​อดกลั้น​! แต่​มีเรื่อง​หนึ่ง​ต้อง​เตือน​ไว้​ก่อน​ ห้าม​ทำให้​เขา​ถึงแก่ชีวิต​เด็ดขาด​ เช่นนั้น​คง​เป็นการ​สบาย​เกินไป​สำหรับ​เขา​!”

“ใช่แล้ว​ จะปลิด​ชีพ​เขา​ไป​เลย​มิได้​!”

“ลุย​!”

สิ่งมีชีวิต​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​เดือด​พล่าน​กัน​หมด​ กรู​กัน​เข้าไป​ถ้วนหน้า​ บุก​โจมตี​ไปหา​หนาน​ฉง

จ้าว​กิเลน​ดำ​ก็​ปราด​เข้าไป​ด้วย​ มัน​ต้อง​น่าสังเวช​เช่นนี้​ล้วน​เป็น​เพราะ​หนาน​ฉง แผน​หลอกล่อ​ให้​สิ่งมีชีวิต​ตน​อื่น​ออกโรง​ของ​หนาน​ฉง รวมถึง​เรื่อง​ที่​หนาน​ฉงย้อนกลับ​ไป​สังหาร​สิ่งมีชีวิต​ได้​อีก​หลาย​ตน​เป็นผล​ให้​สิ่งมีชีวิต​ที่​เหลือ​ขุ่นเคือง​ยิ่งขึ้น​ และ​ความแค้น​ทั้งหมด​ต้อง​มาตก​อยู่​กับ​มัน​ มิฉะนั้น​ มัน​คง​ไม่อนาถา​ถึงเพียงนี้​!

มัน​แค้น​หนาน​ฉงเข้ากระดูกดำ​ อยาก​จะกัด​หนาน​ฉงสัก​หลาย​ ๆ คำ​ ให้​หนาน​ฉงได้​ลิ้มรส​ถูก​กัด​เสีย​บ้าง​

“ไสหัวไป​ เจ้ามีสิทธิ์​ลงมือ​ที่ไหน​เสีย​เมื่อไหร่​!”

หารู้ไม่​ ทันทีที่​มัน​ปรี่​เข้าไป​ถึงก็​ถูก​ต่อว่า​ มัน​ไม่มีสิทธิ์​แม้แต่​จะลงมือ​ด้วยซ้ำ​ สุดท้าย​ มัน​ได้​แต่​ถอยกลับ​ไป​อย่าง​จนใจ​

“พี่​หลิว​ช่วย​ข้า​ด้วย​!”

หนาน​ฉงวิ่ง​ไป​พลาง​ ตะโกน​ไป​พลาง​ สิ่งมีชีวิต​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​กรู​มาฆ่าเขา​กัน​หมด​ จะให้​เขา​ต้านทาน​ไหว​ได้​อย่างไร​ จึงคิด​อยาก​ให้​ต้น​หลิว​ช่วย​เขา​

แต่ต้น​หลิว​มิได้​ตอบรับ​ และ​มิเคย​ลงมือ​ช่วย​เขา​

ไม่นาน​นัก​เขา​ก็​ถูก​สิ่งมีชีวิต​จำนวน​หนึ่ง​ล้อม​ไว้​ได้​ จากนั้น​ เขา​ไม่ทัน​ได้​ลงมือ​ก็​ถูก​กำราบ​เสีย​ก่อน​!

สิ่งมีชีวิต​ทั้งหลาย​เคียดแค้น​เขา​จน​ขบ​กราม​แน่น​ หลังเขา​ถูก​ปราบปราม​ได้​แล้ว​ ฝันร้าย​ของ​เขา​ก็​เริ่มต้น​ขึ้น​!

“อ๊ากกก!”​

เขา​คร่ำครวญ​ด้วย​ความเจ็บปวด​ สิ่งมีชีวิต​ทั้งหลาย​ทั้ง​กัด​เขา​ ทั้ง​จับ​เขา​ห้อย​หัว​เพื่อ​โบย​ ร่าง​ของ​เขา​อนาถา​จน​ทน​มอง​มิได้​!

“ขอ​ข้า​กัด​สัก​คำ​เถิด​!”

จ้าว​กิเลน​ดำ​ได้​แต่​ยืน​มอง​ตาละห้อย​อยู่​ไกล​ ๆ นึกในใจ​ว่า​เมื่อใด​จะถึงตา​มัน​ ต่อให้​มัน​ได้​กัด​เพียง​คำ​เดียว​ก็​ยัง​ดี​!

ขณะเดียวกัน​ ต้น​หลิว​มาถึงด้าน​จ้าว​แห่ง​เรือนจำ​

เมื่อ​ครั้ง​ต้น​หลิว​ปรากฏ​กาย​ต่อหน้า​จ้าว​แห่ง​เรือนจำ​ จ้าว​แห่ง​เรือนจำ​ก็​สะดุ้งโหยง​

ห้วง​มิติ​ที่​มัน​พำนัก​อยู่​ไม่ธรรมดา​ สิ่งมีชีวิต​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​ไม่มีทาง​ตาม​มาถึงที่นี่​ ทว่า​ต้น​หลิว​ไม่เพียงแต่​มาได้​ แต่​ยัง​ปรากฏ​กาย​ต่อหน้า​มัน​โดยที่​มัน​ไม่รู้ตัว​ จะมิให้​มัน​สะดุ้ง​ได้​อย่างไร​!

“เจ้าเป็น​ใคร​!”

มัน​ระแวง​ขึ้น​มาทันที​ เค้น​พลัง​ทั้งหมด​ใน​กาย​ถึงขีดสุด​ ทั้ง​ยัง​เรียก​อาวุธ​ชิ้น​หนึ่ง​ออกมา​ เตรียม​บุก​สังหาร​ต้น​หลิว​ทุกเมื่อ​

“ที่นี่​อ่อนด้อย​เกินไป​ ไม่น่าสนใจ​ ฐานทัพ​ใหญ่​ของ​กองกำลัง​เบื้องหลัง​เจ้าอยู่​ที่ใด​ พา​ข้า​ไป​สิ”

ต้น​หลิว​เอ่ย​เสียง​เรียบ​

“เจ้าว่า​อะไร​นะ​?!”

จ้าว​แห่ง​เรือนจำ​สงสัย​ว่า​มัน​ได้ยิน​ผิด​ไป​หรือไม่​ ต้น​หลิว​คิด​จะไป​ยัง​ฐานทัพ​ใหญ่​ของ​พวก​มัน​เชียว​หรือ​

ต้อง​ใจกล้า​ปานใด​ถึงเอ่ย​วาจา​เช่นนี้​ออกมา​ได้​!

“สามหาว​นัก​!”

เวลา​นั้น​เอง​ เสียง​ตวาด​เยือกเย็น​เสียง​หนึ่ง​ดัง​ออกจาก​ส่วนลึก​ของ​ห้วง​มิติ​ จากนั้น​ ร่าง​น่า​พรั่นพรึง​ร่าง​หนึ่ง​ก้าว​ออกจาก​ส่วนลึก​มาถึงที่นี่​

มัน​คือ​ราชัน​เย่​ สถานะ​ใน​กองกำลัง​ปริภูมิ​เวลา​ไม่ถือว่า​ต่ำ​

คราวก่อน​ก็​เป็นมัน​ผู้​นี้​ที่มา​เป็น​กองหนุน​ให้​จ้าว​แห่ง​เรือนจำ​

แต่​ต่อให้​มัน​มาเอง​ก็​มิไหว​ ภาพร่าง​ของ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เก่งกาจ​ไร้​เทียมทาน​ เกิน​กว่า​ที่​มัน​จะต้าน​ได้​ เพียง​พริบตาเดียว​ มัน​ก็​ถูก​กำราบ​ลง​

จากนั้น​ มัน​มิได้​ไป​ไหน​ กลัว​จะเกิด​จลาจล​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​อีก​ จึงพำนัก​ที่นี่​ต่อ​

“ตัว​บ้า​อะไร​ ริอ่าน​คิด​ไป​ฐานทัพ​ใหญ่​ของ​เรา​เชียว​หรือ​!”

นัยน์ตา​ราชัน​เย่​เย็นเยียบ​ จิต​มุ่งร้าย​รุนแรง​ นับแต่​เกิดเรื่อง​หน​ก่อน​ มัน​ก็​อารมณ์ไม่ดี​มาตลอด​ มีโทสะ​อัดอั้น​ใน​ใจเรื่อย​มา

บัดนี้​ ต้น​หลิว​บังอาจ​มาท้า​กัน​ถึงที่นี่​ ยิ่ง​ทวี​ความ​เดือดดาล​ของ​มัน​ขึ้นไป​!

นี่​มัน​เกิด​อัน​ใด​ขึ้น​?

ไม่ว่า​สิ่งมีชีวิต​ชนิด​ใด​ต่าง​ก็​คิด​ว่า​จะชี้นิ้ว​สั่งพวก​มัน​อย่างนั้น​หรือ​?!

พวก​มัน​มิได้​อ่อนแอ​ปาน​นั้น​!

เสียงดัง​ฟึ่บ​ มัน​ชักดาบ​กระดูก​เล่ม​หนึ่ง​ออกมา​ชี้ไป​ที่​ต้น​หลิว​

“แต่เดิม​พวกเรา​จะไม่เข่นฆ่า​ ‘นักโทษ​’ ตามอำเภอใจ​ แต่​เจ้าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง​เอา​เสีย​เลย​ วันนี้​ ข้า​จะประหาร​เจ้าที่นี่​!”

สีหน้า​ของ​มัน​เย็นชา​ ดาบ​กระดูก​เปล่งแสง​ยะเยือก​ชวน​ผวา​ นี่​มิใช่ดาบ​กระดูก​ธรรมดา​ ภายใน​แฝงไว้​ด้วย​พลัง​กล้าแกร่ง​!

“ไม่ต้อง​โมโห​เพียงนั้น​”

ต้น​หลิว​เอ่ย​เสียง​เบา​ “โมโห​ขนาด​นี้​มิใช่เรื่อง​ดี​สำหรับ​พวก​เจ้า”

“น่าขัน​! เจ้าอวดดี​เกินไป​แล้ว​ วันนี้​ เจ้าจะต้อง​ชดใช้​ให้​กับ​ความ​อวดดี​ของ​เจ้า!”

ราชัน​เย่​ยิ้ม​เย็น​ ระเบิด​พลัง​ใน​กาย​ออกมา​เต็มที่​ ชูดาบ​กระดูก​บุก​ไป​สังหาร​ต้น​หลิว​

ต้น​หลิว​โผล่​มาถึงที่นี่​ได้​เป็น​การบ่งบอก​แล้ว​ว่า​ต้น​หลิว​ไม่ธรรมดา​ มิใช่ ‘นักโทษ​’ ทั่วไป​ มัน​มิได้​ประมาท​ต้น​หลิว​ที่อยู่​ใน​ระดับ​นี้​ ทันทีที่​ลงมือ​ก็​ใช้เรี่ยวแรง​ทั้งหมด​ที่​มี!

“ใช่แล้ว​! เมื่อ​ถูก​ขัง​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​ เจ้าก็​คือ​ ‘นักโทษ​’ ของ​พวกเรา​ ไม่ว่า​เรื่อง​ใด​ล้วน​ต้อง​ฟังคำสั่ง​จาก​เรา​ พวกเรา​คือ​นาย​ท่าน​ของ​เจ้า!”

จ้าว​แห่ง​เรือนจำ​บุก​ไปหา​ต้น​หลิว​เช่นกัน​ คลื่น​พลัง​สยดสยอง​กระเพื่อม​อยู่​ใน​อาวุธ​ มัน​ให้ความสำคัญ​กับ​ต้น​หลิว​มาก​ มิได้​ประมาท​เหมือนกัน​

เสียง​ระเบิด​ดัง​ติดต่อ​ อักขระ​ปริภูมิ​เวลา​อัน​น่ากลัว​ทะลัก​ออกมา​ดั่ง​มหาสมุทร​ พลัง​เช่นนี้​เหนือชั้นกว่า​พลัง​โกลาหล​มาก​นัก​ มิใช่ระดับ​เดียวกัน​เลย​ ห่าง​กัน​มาก​โข​!

พวก​มัน​ต่าง​แสยะ​ยิ้ม​เย็นชา​ ต้น​หลิว​บังอาจ​กำแหง​ใส่พวก​มัน​ นั่น​เท่ากับ​รนหาที่​ตาย​!

พวก​มัน​มิใช่ตัวตน​ที่​ต้น​หลิว​ต่อกร​ด้วย​ได้​!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท