หลังจากเฟ่ยหยางกลับมา ทีมงานรายการเพลงของเราได้ประกาศข่าวในคืนนั้น พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า เฟ่ยหยางและเซี่ยนอวี๋จะร่วมงานกันในรอบต่อไปจะ ทันใดนั้นบนโลกออนไลน์ต่างคึกคักขึ้นมาทันที
‘อาจารย์เฟ่ยหยางกลับมาแล้ว!’
‘รอการแสดงของเซี่ยนอวี๋กับเฟ่ยหยางแล้ว!’
‘ฉันคิดว่าเฟ่ยหยางถอนตัวจากการแข่งขันเพื่อจะได้ไม่ต้องร่วมงานกับเซี่ยนอวี๋ซะอีก’
‘เฟ่ยหยางไม่ทำเรื่องแบบนั้นแน่’
‘พวกคุณไม่ได้อ่านข่าวเหรอ ที่เฟ่ยหยางไม่ได้มาเมื่อรอบที่แล้วไม่เกี่ยวข้องกับเซี่ยนอวี๋ เหตุผลสำคัญเพราะพ่อของเขาเข้าโรงพยาบาลเพราะความดันโลหิตสูง มีนักข่าวถ่ายภาพที่เขาดูแลพ่อที่โรงพยาบาล’
‘ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง’
‘งั้นเฟ่ยหยางจะได้รับผลกระทบไหม?’
‘บอกไม่ได้ แต่เข้าใจได้ พ่อเพลงเฟ่ยลาหยุดกับทีมงานรายการทันทีที่รู้ข่าวว่าพ่อมีปัญหาด้านสุขภาพ เขาดูแลพ่ออยู่ข้างเตียงเป็นเวลานาน ความกดดันต้องสูงมากแน่ๆ ’
‘…’
ถึงแม้ทีมงานรายการและเจ้าตัวไม่ได้อธิบายถึงเหตุผลที่ขาดงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทว่าความเคลื่อนไหวของเขาก็ถูกพบและรายงานโดยนักข่าว
นั่นทำให้ใครหลายคนล้มเลิกข่าวลือที่ว่าเฟ่ยหยางลางานเพราะไม่อยากร่วมงานกับเซี่ยนอวี๋
ต้องเข้าใจว่า
ทันทีที่ทีมงานรายการประกาศออกไปว่าเฟ่ยหยางจะไม่เข้าร่วมการแข่งขันหนึ่งสัปดาห์ หลายคนต่างคิดว่าเฟ่ยหยางกำลังหลบเลี่ยงเซี่ยนอวี๋
‘งั้นเฟ่ยหยางกลับมาในครั้งนี้ เวลาในการฝึกซ้อมจะสั้นกว่าปกติใช่ไหม?’
‘ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ การเตรียมตัวและการฝึกซ้อมคงไม่เท่านักร้องคนอื่น’
‘ไม่รู้ว่าอาจารย์เซี่ยนอวี๋เตรียมเพลงอะไรไว้ให้เฟ่ยหยาง’
‘คงไม่ใช่เพลงล้างสมองอีกนะ?’
‘ตอนนี้พ่อเพลงอวี๋เปิดโหมดปลดปล่อยตัวตน’
‘เฮือก!’
‘ผมนึกภาพเฟ่ยหยางร้องเพลงอย่างลำนำพื้นเมืองสุดเจ๋งไม่ออกเลย!’
‘…’
ในการแข่งขันของระยะนี้ เพลงที่เซี่ยนอวี๋หยิบออกมาล้วนมีแต่เพลงล้างสมอง
แตกต่างจากสไตล์เมื่อก่อนของเขาอย่างสิ้นเชิง
เพราะฉะนั้นผู้ชมมากมายต่างสงสัยว่าเซี่ยนอวี๋จะยังคงใช้สไตล์เพลงล้างสมองดังเดิม จนบิดเบือนภาพลักษณ์ของเฟ่ยหยางหรือไม่…
หลายวันต่อจากนั้น
บนโลกเรื่องราวบนออนไลน์ล้วนวนเวียนอยู่กับการถกเถียงประเด็นต่างๆ
ส่วนเฟ่ยหยางรีบใช้เวลาฝึกซ้อมในช่วงเวลาไม่กี่วันนี้
ในที่สุด
วันเวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่เดือนตุลาตม!
นักประพันธ์เพลงและนักร้องต้อนรับการมาถึงของการแข่งขันรอบล่าสุด
ยังคงเป็นการถ่ายทอดสด!
ทันทีที่รายการเริ่มต้นขึ้น ผู้ชมมากมายก็กระหน่ำส่งคอมเมนต์เข้ามา
‘รอเวทีของเซี่ยนอวี๋กับเฟ่ยหยาง!’
‘ราชาเพลงเฟ่ยปรับสภาพจิตใจได้ไหมนะ?’
‘เฟ่ยหยางเสียเปรียบอยู่นะ เวลาเตรียมตัวไม่เต็มที่เท่ากับคนอื่น’
‘นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญคือเฟ่ยหยางจะร้องเพลงล้างสมองแล้ว!’
‘สภาพของเฟ่ยหยางตอนนี้ไม่เหมาะมั้ง?’
‘ถ้าเวทีนี้เฟ่ยหยางได้ที่สองก็พอเข้าใจได้…’
‘พ่อเพลงอวี๋: สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อปณิธานอันดับสอง’
‘…’
พ่อของเฟ่ยหยางเพิ่งอาการพ้นขั้นวิกฤติ
ข่าวนี้ผู้ชมล้วนได้ยินมาแล้ว
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ถ้าหากเซี่ยนอวี๋เตรียมเพลงล้างสมองสนุกสนานไว้ให้เฟ่ยหยาง ทุกคนจะรู้สึกว่าไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก
บนเวที
อันหงคลี่ยิ้มกว้าง
“อย่างที่ทราบกันดีนะครับ เนื่องจากในรอบที่แล้วอาจารย์เฟ่ยหยางไม่ได้มา อาจารย์เซี่ยนอวี๋จึงขึ้นไปร้องบนเวทีด้วยตนเอง ในรอบนี้อาจารย์เฟ่ยหยางกลับมาแล้ว เพราะฉะนั้นเวทีแรกของพวกเราในวันนี้ จึงเป็นการร่วมงานซึ่งยังไม่ประสบผลสำเร็จในรอบที่แล้ว ขอเสียงปรบมือให้กับอาจารย์เซี่ยนอวี๋และนักร้องเฟ่ยหยางของพวกเราด้วยครับ!”
ด้านล่างเวที
เสียงปรบมือดังขึ้น
หลินเยวียนนั่งประจำตำแหน่งนักประพันธ์เพลง
ส่วนเฟ่ยหยาง ขณะนี้กำลังอยู่บนเวที
ทว่าทันทีที่เห็นเฟ่ยหยาง ผู้ชมต่างก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าสภาพจิตใจของเฟ่ยหยางนั้นไม่สู้ดีนัก
“เฟ่ยหยางสภาพจิตใจแย่เลย”
“เขาคงกังวลเรื่องพ่อสินะ”
“ที่จริงนักร้องก็คืองานประเภทหนึ่ง ยุ่งมาก ต้องวิ่งงานไปที่โน่นที่นี่ตลอด ปกติเลยไม่มีเวลาอยู่กับพ่อแม่”
“เวทีนี้ ต่อให้เฟ่ยหยางร้องไม่ดี ฉันก็จะสนับสนุนเขา”
“ถ้าเวทีนี้เซี่ยนอวี๋ให้เพลงล้างสมองแปลกๆ กับเฟ่ยหยาง ก็คงจะฝืนไปหน่อยไหม”
“นั่นสิ”
“สภาพร่างกายและจิตใจของนักร้องมีผลกระทบอย่างมากต่อการทำผลงาน”
“…”
ถึงแม้ทุกคนจะไม่ได้รังเกียจเพลงล้างสมองของเซี่ยนอวี๋ ทว่าในเวทีนี้ ทุกคนต่างรู้สึกว่าเฟ่ยหยางไม่เหมาะกับการร้องเพลงประเภทนี้
จะว่าไปแล้ว
ต่อให้เฟ่ยหยางอยู่ในสภาพที่ดี ถ้าเขาร้องเพลงสไตล์ล้างสมอง ก็คงให้ความรู้สึกขัดแย้งเกินไป
ในขณะนั้นเอง
เฟ่ยหยางพยักหน้าให้กับวงดนตรี
วงดนตรีเริ่มบรรเลงเพลง
เสียงเปียโนผ่อนคลายค่อยๆ ไหลเอื่อย
ขณะเดียวกัน
ข้อมูลข้องเพลงนี้พลันปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
ชื่อเพลง: พ่อ
คำร้อง: เซี่ยนอวี๋
ทำนอง: เซี่ยนอวี๋
ขับร้อง: เฟ่ยหยาง
ผู้ชมล้วนตกตะลึง
เพลงนี้เขียนว่า ‘พ่อ’
และเมื่อได้ฟังท่อนอินโทร เห็นได้ชัดว่าเพลงนี้ไม่ใช่สไตล์เวทมนตร์ล้างสมองเฉกเช่นสามเพลงที่ผ่านมา
ในเวลานี้ทุกคนต่างพากันสะท้อนใจ
นี่คือเซี่ยนอวี๋เชียวนะ
เรื่องที่ทุกคนคิดได้
เซี่ยนอวี๋ก็คิดได้เช่นกัน
สิ่งที่ทุกคนกังวลไม่ได้เกิดขึ้น
มองจากชื่อเพลงแล้ว เห็นได้ชัดว่าเซี่ยนอวี๋เตรียมผลงานชิ้นนี้ไว้สำหรับเฟ่ยหยาง
ช่วงเวลาที่ควรจริงจัง เซี่ยนอวี๋ไม่มีทางล้อเล่นกับความเจ็บปวดของผู้อื่นโดยเด็ดขาด
หลายคนคิดว่า เพลงนี้คือเพลงที่เซี่ยนอวี๋เขียนเพื่อเฟ่ยหยางโดยเฉพาะ
……
บนเวที
เฟ่ยหยางค่อยๆ ยกไมโครโฟนขึ้นมา
“ได้แต่คอยร้องขอ กลับไม่เคยเอ่ยคำขอบคุณ
จนวันที่ฉันเติบโต จึงรู้ว่าลำบากเพียงใด
…”
เดิมทีผู้ชมด้านล่างเวทีกำลังกระซิบกระซาบ ถกเถียงกันว่าสรุปแล้วเซี่ยนอวี๋เขียนเพลงนี้ให้เฟ่ยหยางหรือไม่
แต่เมื่อเสียงของเฟ่ยหยางดังขึ้น ทั้งห้องส่งก็เงียบลงทันใด!
หน้าจอนับไม่ถ้วน
ผู้ชมต่างใจกระตุก และเงียบลงอย่างฉับพลัน คอมเมนต์น้อยลงในชั่วพริบตา
การแสดงในช่วงนี้ ไม่มีกระเบิดพลังเสียงสูง ไม่มีการอวดทักษะฉวัดเฉวียน
เนื้อเพลงอันเรียบง่าย กลับกระตุ้นความทรงจำของผู้คนนับไม่ถ้วนเกี่ยวกับพ่อ
“ทุกครั้งคุณที่เดินออกมามักแสร้งสำทีท่าสบาย”
คลี่ยิ้มบอกกลับไปเถอะหันกลับมาน้ำตารินไหล
…”
เนื้อเพลงบรรยายถึงสิ่งเล็กๆ ซึ่งพบเห็นได้บ่อยครั้งในชีวิต
ทว่าในใจของเฟ่ยหยางกลับเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ตอนนั้นเขาแบกกีตาร์และเดินทางมาไกลจากบ้านเกิด
เงินสองพันสามร้อยหยวนที่พ่อแอบยัดใส่กระเป๋าของเขานั้นยับยู่ยี่
เขาจิตนาการออกเลยว่าคงเป็นเรื่องยากลำบากกว่าพ่อจะหยิบเงินนี้ออกมาได้
เขารุ่งโรจน์ในฐานะราชาเพลง!
แต่เขาก็ยังเป็นเด็กคนหนึ่งจากชนบท
ไม่มีครอบครัวที่ร่ำรวย ไม่มีชีวิตที่สุขสบาย
เงินสองพันกว่าหยวน คือเงินที่พ่อซึ่งเป็นชาวนากรำงานหนัก หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินกว่าจะได้มา
ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดอย่างภาคภูมิใจว่า
ความสำเร็จของตนในตอนนี้ ล้วนมาจากความพยายามและความอดทนของตน
ชีวิตของเขาเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น กล่าวได้ว่าผงาดขึ้นจากรากหญ้า!
ภาพของเขา ปรากฏบนปกนิตยสารมากมาย รอบตัวห้อมล้อมไปด้วยผู้คน!
แต่เมื่อเขาไปดูแลพ่อที่โรงพยาบาลเมื่อไม่นานมานี้ เขาจึงตระหนักได้ว่าพ่อต้องแบกรับความกดดันมากเพียงใดเพื่อให้เขาได้ทำตามความฝัน
ที่แท้ในช่วงชีวิตอันเจ็บปวดของเขา มักจะมีชายคนหนึ่งคอยแบกภาระให้เสมอ
ความสำเร็จของเขานั้นมาจากเพียงเพราะเขาเก่งพอจริงหรือ?
ไม่หรอก
ทั้งช่อดอกไม้และคำชม ไม่ควรเป็นของเขา ถ้าหากปราศจากการสนับสนุนของพ่อ เฟ่ยหยางคงไม่มีอะไรเลย!
เพราะฉะนั้นเฟ่ยหยางจึงกล่าวโทษตัวเอง
ทำไมถึงได้พบเรื่องนี้ช้านัก?
บางทีอาจเป็นเพราะชายผู้โอบอุ้มท้องฟ้าของตนมักจะเงียบงันอยู่เสมอ
อยากย้อนเวลากลับไป
จูงมืออุ่นของคุณไว้
ตอนนี้ไม่มีคุณอยู่ข้างกาย
ภาวนาให้เป็นอยู่อย่างสุขสบาย
…”
……………………………………..