บทที่ 743 ภาพอดีตที่สะท้อน กลับมีเพียงแค่ความมืด!
โฮก!
มีอสูรคำรามพร้อมพุ่งเข้าใส่ทันที อสูรตนนี้คือจักรพรรดิเซียนของเผ่าถาวอู้ ความสามารถในการต่อสู้แบบเดี่ยวนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ในบรรดาจักรพรรดิเซียนทั้งหมดเขานับได้ว่าอยู่ลำดับต้น ๆ
พริบตาต่อมา จักรพรรดิเซียนจากเผ่าเทาเที่ยก็พุ่งตรงเข้ามา ความแข็งแกร่งดุร้ายนั้นมีไม่แพ้กัน!
ยังมีจักรพรรดิเซียนจากเผ่าอื่น ๆ พุ่งตรงออกมายังแนวหน้าสุด
จักรพรรดิเซียนต้นเทียนทะมึน เผ่าเงินจันทร์และเผ่าอื่น ๆ ต่างก็พุ่งเข้ามา เมื่อเทียบกับจักรพรรดิเซียนเผ่ามนุษย์แล้ว พวกเขาล้วนแล้วแต่แข็งแกร่งกว่า
สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือ พวกมันมีจำนวนสมาชิกน้อยเกินไป
หากเผ่าเหล่านี้มีจำนวนสมาชิกมากเท่าเผ่ามนุษย์ จะต้องกลายเป็นมหาตระกูลอย่างไม่ต้องสงสัย สามารถกดดันเหล่ามหาตระกูลของเผ่ามนุษย์ได้
อีกด้านหนึ่ง พรรคกระบี่เซียน ราชวงศ์เฉียนหยวน และกองกำลังเผ่ามนุษย์อื่น ๆ ภายในภพเซียนก็ต่างพุ่งเข้ามาเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่า กองกำลังระดับจักรพรรดิเซียนนั้น ฝั่งของพวกเขามีจำนวนมากกว่าเผ่าอสูรไปไกล
ในยามนี้ไม่มีกองกำลังใดเฝ้ามองดูแล้ว กองกำลังใดที่จักรพรรดิเซียนล้วนเข้าร่วม ดูแล้วน่าตื่นตกใจเสียยิ่งกว่ายามที่จักรพรรดิเซียนจำนวนเกือบร้อยต่อสู้พร้อมกันเสียอีก!
“ฆ่า!”
“จัดการนางเสีย!”
จักรพรรดิเซียนเกือบร้อยคนก่อนหน้าที่เผชิญการโจมตีอย่างหนักต่างระเบิดพลังออกมาอีกครั้ง ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกอย่างเต็มที่ จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่ซีอีกครั้ง
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในภพเซียน กฎเกณฑ์ทั้งหมดพังทลายลง กลายเป็นความว่างเปล่าเกิดหลุมดำขนาดใหญ่หลุมแล้วหลุมเล่า ทั้งยังเกิดเป็นคลื่นพลังอันสับสนพลุ่งพล่าน!
ผู้ใดจะคาดคิดกันว่า วันหนึ่งจักรพรรดิเซียนทั่วทั้งภพเซียนจะต้องระเบิดพลังร่วมกัน จัดการเด็กสาวที่อายุเพียงประมาณยี่สิบปี!?
ภายในใจของสิ่งมีชีวิตภพเซียนต่างอยู่ในสภาพซับซ้อน เกิดความรู้สึกอันยากจะเข้าใจ!
“อามิตาพุทธ!”
บนภูเขาใหญ่แห่งหนึ่ง พระอมิตาภะพุทธเจ้าทอดถอนใจเอ่ยออกมา “ความโลภครอบงำจิตใจ ประหนึ่งไฟโลกันต์ เผาผลาญซึ่งชีวิต เปรียบดั่งกระแสน้ำเชี่ยวกราก จมทุกสรรพสิ่งลงไปอย่างไร้ความปรานี…”
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนอยู่ในสายตา เขารู้ว่าเหตุใดจักรพรรดิเซียนเหล่านั้นจึงโจมตีซีอย่างบ้าคลั่ง ก่อนหน้านี้ยามอยู่ตระกูลกู่ ตัวเขาเองก็เคยเกือบถูกส่งออกไปให้ตามหาซี ทว่าประมุขตระกูลกู่ก็ได้หยุดเรื่องนี้เอาไว้
“บาปหนอ บาปหนอ…”
“อามิตาพุทธ!”
ด้านหลังของเขามีพุทธสาวกจำนวนมากรำพึงสวดมนต์ออกมา
พระอมิตาภะพุทธเจ้าเลือกจะรั้งอยู่ต่อในภพเซียนก็เพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนา ตอนนี้เป็นที่เห็นผลแล้ว มีผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนาอยู่จำนวนไม่น้อย
สาเหตุหลักเป็นเพราะการมายังภพเซียนครั้งล่าสุดของพวกลั่วสุ่ย ร่างเงาของหลี่จิ่วเต้าที่ปรากฏตัวออกมาทำให้กองกำลังและสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในแดนสวรรค์เกิดความสั่นสะเทือนหวั่นไหว พวกเขาต่างไม่กล้าลงมืออันใดกับพระอมิตาภะพุทธเจ้า ทั้งยังเต็มไปด้วยความเคารพเลื่อมใส
หากไม่ใช่เช่นนั้นแล้ว เกรงว่าการเผยแพร่ศาสนาพุทธของพระอมิตาภะพุทธเจ้าจะไม่มีทางราบรื่นเช่นนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการช่วยกวาดล้างครั้งใหญ่ ทำให้กองกำลังต่าง ๆ ในภพเซียนไม่ยอมให้มีกองกำลังใหม่ปรากฏขึ้น
‘เมื่อเร็ว ๆ มานี้ข้าได้ยินเสียงพุทธะราวกับกำลังร้องเรียก เป็นหลักธรรมที่ร้องเรียกข้าอย่างนั้นหรือ?’
พระอมิตาภะพุทธเจ้ารำพึงกับตนเอง
ในช่วงเวลานี้ ภายในใจของเขาปรากฏเสียงพุทธะบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ออกมาหลายครั้ง ให้ความรู้สึกราวกับเป็นเสียงเรียกหา
“เมื่อใดข้าจึงจะสามารถแข็งแกร่งได้เท่านางกัน! จะได้สังหารพวกสารเลวเห็นแก่ตัวพวกนี้ทิ้งเสีย!”
อีกสถานที่แห่งหนึ่ง มีเด็กสาวกำลังจับจ้องมองไปทางร่างของซีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและหดหู่
นางคือชางกวนอิ๋น แม้ว่าขอบเขตการฝึกฝนของนางจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด แต่ช่องว่างระหว่างนางกับมหาตระกูลก็ยังคงห่างไกลเป็นอย่างมาก ยิ่งไม่มีทางเทียบซีได้เลยแม้แต่น้อย
ซีนั้นไร้เทียมทาน อาภรณ์สีขาวพลิ้วไสว นางกลายมาเป็นจุดรวมความสนใจแห่งเดียวในภพเซียน งดงามหาที่เปรียบไม่ได้ ชวนน่าตื่นตะลึงอย่างถึงที่สุด
เลือดและเนื้อสาดกระเซ็นไปทั่ว ไม่มีผู้ใดสามารถต่อกรกับซีได้ แม้จะเป็นถาวอู้ เทาเที่ยที่ดุร้ายทรงพลังที่สุดในหมู่จักรพรรดิเซียนก็ไม่อาจเทียบเคียงได้ ร่างเนื้อของมันถูกบดขยี้ วิญญาณอสูรถูกสยบเอาไว้
นางราวกับหลุดออกมาจากตำนาน เป็นราชันผู้อยู่เหนือชั้นอย่างแท้จริง จักพรรดิเซียนจำนวนมากแพ้พ่ายอย่างต่อเนื่อง โลหิตจักรพรรดิเซียนหลั่งรินรวมกันจนเกือบกลายเป็นธารน้ำสายเล็ก
“ข้าจะเก็บ ข้าจะเก็บ!”
มีร่างอ้วนท้วมร่างหนึ่งกำลังวิ่งต้านแรงกดดันเพื่อเก็บรวบรวมเลือดของจักรพรรดิเซียน
“โลหิตจักพรรดิเซียนล้ำค่าเสียยิ่งกว่าของเหลวใด ๆ! ไม่รู้เลยว่าหากใช้โลหิตเซียนเหล่านี้ปลูกผักจะได้ผลลัพธ์เช่นไร!”
ขอบเขตของเขานั้นไม่สูง เป็นเพียงแค่ขั้นยอดเซียนผู้หนึ่ง ระหว่างเก็บรวบรวมโลหิตจักรพรรดิเซียน ทั่วทั้งร่างของเขาก็ปริร้าว ขุมพลังในโลหิตจักรพรรดิเซียนนั้นยากอย่างยิ่งสำหรับเขาที่จะต้านทานได้
ทว่าเขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้ หยิบแตงกวาขึ้นมาแทะ ก่อนค่อย ๆ เก็บโลหิตจักรพรรดิเซียนทีละนิด
งานอดิเรกที่เขาชื่นชอบที่สุดคือการปลูกผักทุกชนิด ก่อนจะเข้ามายังภพเซียน ตัวของเขานั้นมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก บ่อยครั้งที่ยอดฝีมือมักจะมาวิงวอนขอทานผักที่เขาปลูกขึ้นมา
ครั้งนี้ตัวเขาทุ่มเทหมดทุกสิ่งจริง ๆ เพื่อความต้องการจะดูว่าโลหิตจักรพรรดิเซียนจะสามารถปลูกผักแบบใดขึ้นมาได้ แม้กระทั่งชีวิตของตนเองเขาก็ไม่สนใจ
หากสือเฟิงกับประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนอยู่ที่นี่ พวกเขาจะต้องรู้จักตัวตนของชายอ้วนผู้นี้อย่างแน่นอน นี่คือเซียนอ้วนไม่ใช่หรือ? เมล็ดผักที่พวกเขาเคยมอบให้คุณชายก็เป็นสิ่งที่ชายอ้วนผู้นี้ทิ้งเอาไว้
“ใช้โลหิตจักรพรรดิเซียนปลูกผัก?”
ซีที่แม้จะกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดอย่างถึงที่สุด ก็เบนความสนใจมาทางสถาการณ์เบื้องล่าง สาเหตุหลักเป็นเพราะนางได้ยินคำพูดที่ว่า ‘ใช้โลหิตจักรพรรดิเซียนปลูกผัก’ ทำให้ถูกดึงดูดความสนใจให้มอง
สำหรับนางแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้กดดันอันใดมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจักรพรรดิเซียนจำนวนมากแพ้พ่ายไปแล้ว แรงกดดันที่มีต่อนางก็ยิ่งน้อยลงเรื่อย ๆ
“ความคิดไม่เลว…”
นางแย้มยิ้มเล็กน้อย ชี้นิ้วออกไป ทันใดนั้นก็พลันเกิดละอองแสงอ่อน ๆ โปรยลงมาบนร่างอ้วนท้วม ทำให้รอยปริแตกทั้งหมดในร่างนั้นหายไปทันที อีกทั้งขุมพลังในโลหิตจักรพรรดิเซียนก็ไม่ส่งผลอันใดต่อเขาอีกต่อไป
“เจ้าเก็บได้อย่างสบายใจ ข้าสนับสนุนเจ้าอยู่”
นางเอ่ยกับชายอ้วน
เพียงแค่ถูกซีสังเกตเห็น ชายอ้วนก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก หลังจากได้ยินซีพูดว่า กำลังสนับสนุนเขาอยู่ เขาก็ยิ่งดีใจกระโดดโลดเต้นไปมา
“ขอบคุณ ขอบคุณ! ท่านช่างงดงามและมีจิตใจดี เป็นผู้ที่สมบูรณ์พร้อมที่สุดในโลก!”
เขารีบเอ่ยขอบคุณซี
หลังจากนั้นชายอ้วนก็เริ่มเก็บรวบรวมโลหิตจักรพรรดิเซียนจำนวนมาก
ซียังคงต่อสู้ต่อไป ยิ่งจำนวนจักรพรรดิเซียนน้อยลง ซียิ่งผ่อนคลายมากขึ้น สุดท้ายใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถยุติการต่อสู้ครั้งนี้ลงได้
จักรพรรดิเซียนทั้งหมดของภพเซียนทรุดลงบนพื้น ต่างก็สูญเสียความสามารถในการต่อสู้
“ลงมือก็ย่อมต้องจ่ายค่าชดใช้ ก่อนหน้านี้ข้าบอกกับพวกเจ้าไปแลว”
ซีกล่าวเสียงเรียบ “ข้าไม่คิดสังหารพวกเจ้า แล้วก็ไม่ได้คิดอยากได้สิ่งใดจากพวกเจ้า เพียงแค่ต้องการให้พวกเจ้าช่วยเขา”
นางโบกมือ ทันใดนั้นร่างของชายอ้วนก็มาปรากฏตรงจุดนี้
ชายอ้วนยังคงมึนงงอยู่ เมื่อครู่เขากำลังรวบรวมเลือดของจักรพรรดิเซียน ทว่าจู่ ๆ กลับโผล่มายังจุดนี้
ฝีมือของซีนั้นไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง!
“ช่วยเขา?”
“ช่วยเช่นไร?”
“ช่วยเขาฝึกฝนใช่หรือไม่? ย่อมได้ ไม่มีปัญหา!”
เหล่าจักรพรรดิเซียนตอบกลับอย่างรวดเร็ว คิดว่าซีต้องการให้พวกเขาช่วยชายอ้วนฝึกฝน นี่นับเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
“ช่วยเขาปลูกผัก อืม ใช้โลหิตจักรพรรดิเซียนของพวกเจ้าช่วยเขารดน้ำผัก…” ซีเอ่ย
“อันใดนะ!?”
“ไม่มีทาง!”
ใบหน้าของจักรพรรดิเซียนทั้งหมดแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียว นี่มันคืออันใดกัน ต้องการให้พวกเขาใช้โลหิตจักรพรรดิเซียนรดน้ำผัก!
นี่นับเป็นเรื่องอัปยศอดสูเป็นอย่างยิ่ง!
โลหิตของจักรพรรดิเซียนมีค่ามากมายเพียงใด เพียงแค่หยดเดียวก็ให้ประโยชน์ได้ไม่รู้จบ นี่คือผลตกผลึกของการฝึกฝน ทว่ากลับจะนำไป…รดผัก!!!
สวรรค์ นี่มันชวนให้อึดอัดคับข้องใจเสียยิ่งกว่าการให้พวกเขานำโลหิตจักรพรรดิ ไปช่วยขัดเกลาฝึกฝนเสียอีก!
“ขอบคุณ! จะหาคนที่ดีกว่าท่านไม่มีอีกแล้ว!”
ชายอ้วนดีใจอย่างถึงที่สุด ดวงตาทั้งสองเปล่งประกาย “ข้าอยากปลูกผักดี ๆ ในภพเซียนมากนานแล้ว ตอนนี้ ในที่สุดความฝันของข้าก็สามารถเป็นจริง! ข้าสามารถปลูกผักจำนวนมาก ทำให้สามารถเห็นผักได้ในทุกที่ของภพเซียน กลายเป็นทิวทัศน์ที่งดงามอย่างถึงที่สุด!”
“อย่า!”
“จะทำเช่นนั้นไม่ได้!”
เหล่าจักรพรรดิเซียนต่างตื่นตกใจกลัวขึ้นมา
บัดซบ ภพเซียนนั้นกว้างใหญ่ไพศาล หากต้องการจะปลูกผักให้ทั่ว โลหิตจักรพรรดิเซียนทั้งหมดของพวกเขาก็คงไม่พอ!
ชายอ้วนขบคิดขึ้นมา หากอยากปลูกผักให้เต็มภพเซียนจริง ก็นับเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ ความงดงามยังมีหลายรูปแบบ ไม่สามารถทำให้เป็นแบบเดียวโดยเต็มไปด้วยผักได้
“เช่นนั้นก็เต็มครึ่งหนึ่งของภพเซียน”
สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจ
“ใช่ เจ้าสามารถให้พวกเขาช่วยเจ้าได้”
ซีเปิดปากเอ่ยออกมา
หลังจากนั้น นางก็ตรงไปทางตระกูลเซียว
หญิงสาวไม่กล่าวอันใดมากมาย เลือดต้องจ่ายด้วยเลือด สมาชิกตระกูลเซียวทุกคนที่มีส่วนร่วม นางไม่ปล่อยให้รอดชีวิตไปได้แม้เพียงหนึ่ง สังหารพวกเขาจนสิ้น ทั้งประมุขตระกูลเซียวและจักรพรรดิเซียนอาวุโสอีกหลายคน
“กรรมดีกรรมชั่วย่อมย้อนคืน ทดสอบเช่นไรผลก็ไม่เปลี่ยนแปลง พวกเจ้าก็ทำดีไว้เถิด อย่าได้ทำผิดเช่นนี้อีก ไม่เช่นนั้นครั้งหน้าพวกเจ้าจะต้องสูญสิ้นทั้งตระกูลของจริง!”
นางเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา ก่อนออกจากตระกูลเซียว
ทว่านางยังคงไม่ได้ออกไปจากภพเซียน แต่กลับไปยังดินแดนของตระกูลนาง
สถานที่แห่งนี้หลงเหลือเพียงซากปรักหักพัง สูญสิ้นชีวิตชีวาอันผ่านกาลมาอย่างยาวนาน ซีไม่เอ่ยวาจา เพียงเดินเข้าไปยังพื้นที่ตระกูลทิ้งรอยเท้าเอาไว้เป็นเส้นทาง
นางได้แก้แค้นแล้ว แก้แค้นให้กับบิดามารดาและสมาชิกในตระกูลที่ตายไป แต่แล้วเช่นไรต่อ? บิดามารดาและสมาชิกในตระกูลก็มิอาจหวนคืนกลับมา…
สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความทรงจำของนาง หยาดน้ำตาไหลรินลงมาจากหางตาอย่างไม่อาจข่มกลั้น ใจคิดถึงบิดามารดาและคนในตระกูลยิ่งนัก!
“ข้าต้องการให้ท่านพ่อท่านแม่ของข้าและคนในตระกูลฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง!“
นางกู่ร้องออกมาเสียงต่ำ ลมหายใจขั้นบรรพจารย์เซียนแผ่กระจาย นางต้องการจะย้อนเวลาพลิกหยินหยาง ทำให้บิดามารดาและคนในตระกูลของนางฟื้นคืนชีพกลับมา!
ตู้ม!
ภพเซียนสั่นสะเทือนเลือนลั่น ลมหายใจอันเศร้าโศกแผ่กระจายไปทั่วทั้งภพเซียน บนท้องฟ้าเกิดหยาดพิรุณโปรยลงมา ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดพลันรู้สึกเศร้าและมองขึ้นไปอย่างอดไม่ได้
ขณะเดียวกัน พวกเขาก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นกว่าเดิม
นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของซีอย่างนั้นหรือ!?
น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก เหนือยิ่งกว่าจักรพรรดิเซียนไปไกลจนไม่ได้อยู่ในขั้นเดียวกันแม้แต่น้อย!
ซีระเบิดพลังทั้งหมดของตนเองออกมา ต้องการจะย้อนเวลา ณ ที่แห่งนี้กลับไป ทำให้ทุกอย่างกลับมาเช่นเดิม!
แต่น่าเสียดาย นี่ไม่ใช่สิ่งที่บรรพจารย์เซียนสามารทำได้
ใบหน้าของนางซีดขาว ประสบความล้มเหลวในการย้อนเวลา เรื่องเช่นนี้อย่าว่าแต่บรรพจารย์เซียนเลย เกรงว่ากระทั่งบรรพจารย์เต๋าโกลาหลเองก็ไม่อาจทำได้!
ปริภูมิเวลานั้นไม่ใช่สิ่งใดที่เรียบง่าย ขุมกำลังที่อยู่เบื้องหลังนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง คิดอยากจะย้อนเวลา นับเป็นเรื่องยากอย่างถึงที่สุด
“ข้า…”
นางร้องไห้ออกมา หยาดน้ำตาไม่อาจหยุดริน นางปรารถนาจะได้พบหน้าบิดามารดาอีกสักครั้งจริง ๆ!
ครืน!
กฎบรรพจารย์เซียนแล่นพล่านพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า นางไม่คิดจะย้อนเวลาอีกต่อไป แต่ใช้พลังอันยิ่งใหญ่ดึงภาพในอดีตให้ฉายออกมาอีกครั้ง!
นี่ไม่ใช่การย้อนเวลา เป็นเพียงแค่ภาพสะท้อน ด้วยขอบเขตบรรพจารย์เซียนของนางย่อมสามารถทำเรื่องนี้ได้
แต่สิ่งที่นอกเหนือความคาดหมายกลับปรากฏขึ้น ครั้งนี้นางก็ล้มเหลวเช่นเดียวกัน!
มืดสนิท!
ความมืดมิดไร้ขอบเขตปรากฏเบื้องหน้าของนาง!
ภาพของบิดามารดาและคนในตระกูลไม่ได้ปรากฏออกมา กลับมีเพียงความมืดมิดฉากหนึ่งเท่านั้น!
นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่!?