ตอนที่ 771 ผู้ชนะเลิศมีปัญหา
ในวันที่หญิงสูงวัยผู้ไร้ยางอายถูกตำรวจจับ ข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วย่านซีตานเหมินซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดฝูตัวตัว
การจับกุมหญิงสูงวัยไร้ยางอายนั้นเป็นเหมือนการเชือดไก่ให้ลิงดู
หนึ่งวันหลังจากที่หญิงสูงวัยผู้ไร้ยางอายถูกจับตัวไป ก็เป็นวันเปิดเทอมของมหาวิทยาลัยพอดี
อาสาสมัครจำนวนมากกำลังจะไปเรียน และไม่อาจเป็นอาสาสมัครต่อไปได้
หลินม่ายเผยแพร่งานของเหล่าจิตอาสาลงสำนักข่าวแห่งปักกิ่งในสองวันแรก
เยาวชนผู้เป็นจิตอาสาเพื่อสังคมเหล่านั้นมาถ่ายทอดงานจิตอาสาของพวกเขา เพื่อให้พลังบวกและความรักได้เผยแพร่ต่อไป
ตอนนี้หลายคนรู้แล้วว่าอาสาสมัครคืออะไร ทำให้มีผู้มาสมัครเป็นอาสาสมัครกันเพิ่มมากขึ้น
มีผู้คนมาจากทุกสารทิศ
หลายคนทำงานในโรงงานสองกะ แต่หลังจากเลิกงานก็มาเป็นอาสาสมัคร
สามวันต่อมา รายชื่อครัวเรือนยากจนมากกว่าสามพันครัวเรือนก็ได้รับการสรุป และจะมีการแจกจ่ายสิ่งของเครื่องใช้ในช่วงบ่าย
สถานีโทรทัศน์ CCTV สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น หนังสือพิมพ์ และสื่อต่าง ๆ ต่างมารุมสัมภาษณ์
หลินม่ายมักทำตัวไม่ค่อยเปิดเผย ดังนั้นเธอจึงขอให้ผู้จัดการทังเป็นผู้ให้สัมภาษณ์ ส่วนเธอก็เข้าเรียนในชั้นเรียนด้วยความสบายใจ
หลังจากหิมะตกหนักราวยี่สิบวัน ในที่สุดมันก็หยุดลงหลังจากกิจกรรมการกุศลเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ของหลินม่ายเสร็จสิ้นลง
เช้าตรู่วันต่อมา ในที่สุดดวงอาทิตย์ก็ฉายรอยยิ้มที่หายไปนานและลอยขึ้นสูงบนท้องฟ้า
ภายใต้ดวงอาทิตย์ ทุกคนต่างเผยรอยยิ้ม
แม้ว่ากิจกรรมการกุศลเพื่อเงินอุดหนุนแบบไม่มีค่าตอบแทนจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่กิจกรรมแจกของจำเป็นสำหรับกลุ่มผู้ยากไร้ยังคงดำเนินต่อไป
ไฟแห่งรักไม่เคยมอดดับ
นับตั้งแต่ภัยพิบัติหิมะ หลินม่ายยุ่งมากจนไม่มีเวลาดูแลการแข่งขันนางแบบ
เดิมทีเทปสุดท้ายของการประกวกวางแผนจะออกอากาศในวันที่ 15 ของเดือนแรก
แต่ก็ไม่สามารถดำเนินตามแผนได้เนื่องจากพายุหิมะ การประกวดนางแบบจึงถูกระงับหนึ่งตอน จนตอนสุดท้ายถูกเลื่อนไปออกอากาศในวันเสาร์นี้
ในเวลาสองทุ่มของคืนวันเสาร์ หลายคนนั่งอยู่หน้าทีวีเพื่อชมการแข่งขันรอบสุดท้ายของการประกวดนางแบบแห่งห้องเสื้อจิ่นซิ่ว เช่นเดียวกับครอบครัวของหลินม่าย
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่รอคอยสำหรับการประกาศผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ ผู้ชมจำนวนมากที่นั่งอยู่หน้าทีวีอย่างตื่นเต้น
การประกวดรอบชุดว่ายน้ำกำลังฉายทางทีวี
บรรดาสาวงามผิวขาวสวยและขายาวกำลังเดินบนแคทวอล์คในชุดว่ายน้ำ ซึ่งสะดุดตาอย่างมาก
คุณปู่ฟางจ้องมองทีวีอย่างมีความสุขขณะรับประทานซุปเห็ดหูหนูขาว
คุณย่าฟางกลอกตาใส่เขาและพูดอย่างโกรธเคือง “ตาแก่ตัณหากลับเอ๊ย!”
คุณปู่ฟางไม่สนใจและยิ้มมากขึ้น
หลินม่ายชมว่าปู่ฟางว่าน่ารักน่าเอ็นดู อายุเยอะแล้วยังชอบดูผู้หญิงสวย ๆ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็หันศีรษะไปมองฟางจั๋วหราน
หากเขากล้าที่จะจ้องมองหญิงสาวสวยในทีวีโดยไม่กระพริบตา เธอจะบีบคอเขาอย่างแน่นอน
แต่ฟางจั๋วหรานไม่ได้ดูทีวีเลย เขากำลังจดจ่ออยู่กับการปอกสาลี่
หลินม่ายถามอย่างมุ่งร้าย “ทำไมคุณไม่ดูทีวีล่ะ มีสาวงามมากมายในชุดว่ายน้ำเยอะแยะเลย”
ฟางจั๋วหรานเงยหน้าขึ้นมองทีวีอย่างไม่เต็มใจพลางกล่าว “หน้าตาแบบนั้นเหรอที่เรียกว่าสวย? เทียบภรรยาของผมไม่ได้สักนิด”
แม้ว่าคำพูดของเขาจะดูเกินจริง แต่หลินม่ายก็ชอบฟัง
ฟางจั๋วหรานปอกสาลี่เสร็จแล้วก็ส่งให้หลินม่าย
หลินม่ายรับมาและกัดอย่างมีความสุขก่อนจะเยถาม “ทำไมจู่ ๆ ถึงคิดจะปอกสาลี่ให้ฉันล่ะ?”
ฟางจั๋วหรานกล่าว “ช่วงนี้คุณทำงานหนักเกินไป ผิวของคุณแห้งนิดหน่อย ต้องกินสาลี่เพื่อเติมน้ำให้กับร่างกาย”
หลินม่ายเองไม่รู้สึกว่าผิวของเธอแห้ง แต่ฟางจั๋วหรานสังเกตเห็น หัวใจของเธอพลันรู้สึกอบอุ่นในความใส่ใจของเขา
แม้เธอจะเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง แต่ผู้หญิงที่แข็งแกร่งก็ชอบความรู้สึกที่ได้รับการดูแลและเอาใจใส่เช่นกัน
ในตอนท้ายของการประกวดมีการมอบรางวัลต่าง ๆ เช่น รางวัลรองชนะเลิศ รางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง และรางวัลขวัญใจช่างภาพ
เหมาเซียงเอ๋อร์ได้รับเลือกเป็นผู้ชนะเลิศ ซึ่งทำให้หลินม่ายประหลาดใจ
แม้ว่าหล่อนจะทำได้ดีมาโดยตลอด แต่นี่คือรอบชิงชนะเลิศ มีคนอย่างน้อยแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่ดีกว่าหล่อน
ไม่มีทางที่หล่อนจะได้เป็นผู้ชนะเลิศ และกรรมการก็ยังตัดสินให้หล่อนคว้ารางวัล ‘ขวัญใจเยาวชน’ อีกด้วย
หลายคนเกิดความสงสัยว่าหล่อนได้รับคัดเลือกได้อย่างไร
เนื่องจากรายการได้รับการบันทึกพร้อมวางแผนออกอากาศเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงมีการแก้ไขก่อนจะออกอากาศ ฉากที่ไม่ดีทั้งหมดล้วนถูกตัดออก
ดังนั้นหลินม่ายจึงมองไม่เห็นปฏิกิริยาของผู้ชมในการประกวดและผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ที่มีต่อการคัดเลือกเหมาเซียงเอ๋อร์ในฐานะผู้ชนะเลิศ
พวกเขาตะลึงพอ ๆ กับที่เธอเป็น
หลังจากดูทีวี ทั้งคู่ก็กลับไปที่ห้องนอนของตน
หลินม่ายโทรหาใครบางคนในขณะที่ฟางจั๋วหรานกำลังอาบน้ำ
เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นที่ปลายสายอย่างรวดเร็ว “คุณเป็นใครครับ?”
น้ำเสียงนั้นฟังดูตื่นตัวและเย็นชา
หลินม่ายไม่ได้พูดอะไรมากมาย “ฉันคือหลินม่าย ฉันต้องการให้คุณติดตามและตรวจสอบเหมาเซียงเอ๋อร์ ผู้ชนะการประกวดการประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่วในคืนนี้ ดูว่าหล่อนติดต่อกับใครและทำอะไรในช่วงไม่กี่วันนี้มานี้ อย่าลืมรวบรวมหลักฐานให้ครบทุกอย่างด้วยนะคะ”
อีกฝ่ายตอบรับแล้ววางสาย
ชายลึกลับที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์คือสหายน้องชายของเฉินเฟิง มือขวาของเขาที่ชื่อเซิ่งหนิงเฉียว
หลินม่ายต้องการให้เขาอยู่กับเธอเพื่อที่เขาจะได้ติดตามหลินเพ่ย
เมื่อหลินเพ่ยรู้ว่าเธอเกิดใหม่ เธอต้องระวังหลินเพ่ยให้มาก
นั่นเป็นเหตุผลที่เซิ่งหนิงเฉียว ต้องติดตามเธออย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าเมื่อใดที่หล่นอจะได้รับการปล่อยตัวจากคุก
เพื่อให้ออกจากคุกได้เร็วขึ้น หลินเพ่ยถึงรายงานความผิดที่พ่อแม่ของหล่อนเคยก่อให้กับตำรวจและส่งพวกเขาเข้าคุก
หลินม่ายเดาว่าหลินเพ่ยต้องมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในอนาคตเพื่อเปลี่ยนชีวิตของเธออีกครั้ง
ตามที่หลินม่ายคาดไว้ เซิ่งหนิงเฉียวรายงานเรื่องนี้กับเธอเมื่อไม่กี่ปีก่อน
เขาได้รับข่าวว่าในเดือนมกราคม เรือนจำที่หลินเพ่ยอาศัยอยู่เกิดไฟไหม้ขึ้นเนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจร
หลินเพ่ยช่วยชีวิตผู้คุมในเรือนจำหลายคนที่เกือบเสียชีวิตในกองเพลิง
หล่อนได้รับความดีความชอบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปไม่น้อย และโทษทัณฑ์ของหล่อนก็ลดลงอย่างมาก
นอกจากนี้ หลินม่ายยังได้รับรายงานว่าหลินเจี้ยนกั๋วและภรรยาของเขาได้รับการลดโทษสองครั้ง โดยจะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำในเดือนมีนาคมและเมษายน
งานที่หลินม่ายให้กับเซิ่งหนิงเฉียวคือควบคุมหลินเพ่ยทันทีที่หล่อนถูกปล่อยตัวจากคุก จากนั้นให้รายงานกับเธอ และเธอจะจัดการกับหลินเพ่ยเอง
แต่ตอนนี้มีเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนก่อนที่หลินเพ่ยจะได้รับการปล่อยตัวจากคุก ดังนั้นเธอจึงให้เซิ่งหนิงเฉียวช่วยสอบสวนเหมาเซียงเอ๋อร์ก่อน
เห็นได้ชัดว่าเหมาเซียงเอ๋อร์ผู้ชนะเลิศได้มาจากเส้นทางที่ผิด และหลินม่ายไม่ต้องการให้เงินรางวัลจำนวนสามหมื่นหยวนจากห้องเสื้อจิ่นซิ่วตกอยู่ในกระเป๋าของคนแบบนี้
เพราะอารมณ์และความหยาบคายของเหมาเซียงเอ๋อร์ อาจทำให้ความนิยมของห้องเสื้อจิ่นซิ่วของเธอลดลง
แม้จะมีปัญหากับผู้ชนะการประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่ว แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่ออารมณ์ของหลินม่าย เธอยังคงนอนหลับสนิทในตอนกลางคืน
เมื่อเธอตื่นขึ้นก็เป็นอีกวันที่แดดจ้า แต่แสงแดดยังไม่อบอุ่นพอสำหรับเธอ
หลังอาหารเช้า หลินม่ายขับรถไปยังสำนักงานในปักกิ่งโดยสวมเสื้อโค้ทขนสัตว์คอลเลคชันล่าสุดจากห้องเสื้อจิ่นซิ่ว
เธอวางแผนเมื่อปีที่แล้วว่าจะทดสอบการตลาดโดยเปิดร้านปิ้งย่าง ร้านหม้อไฟ และร้านอาหารตุ๋นสักสองสามแห่งในเมืองหลวงในปีนี้
เมื่อมาถึงสำนักงานปักกิ่ง ผู้ปฏิบัติงานที่อยู่สูงกว่าระดับกลางทั้งหมดมาถึงแล้ว
เมื่อถึงคราวที่หัวหน้าแผนกการเงินและการบัญชีจะเป็นผู้พูด เขาก็ส่งถ้อยแถลงบางอย่างให้หลินม่าย
เขาบอกเธอว่าในภัยพิบัติหิมะนี้ สินค้าทั้งหมดจะขายในราคาทุน
แต่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงมากมายที่ไม่ได้นำมาพิจารณา
ในความเป็นจริงเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ ตลาดฝูตัวตัวต้องจ่ายไปเกือบหนึ่งแสนหยวน
หนึ่งแสนหยวนอาจเป็นเงินจำนวนมากสำหรับบริษัทอื่น แต่สำหรับหลินม่ายนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ทุกวันนี้เธอมีธุรกิจมากมายและร่ำรวย
แน่นอนว่าเงินที่เสียไปจะได้คืนในไม่ช้า
นับตั้งแต่ตลาดฝูตัวตัวช่วยแบ่งเบาความยากลำบากกับชาวเมืองปักกิ่งในช่วงที่เกิดภัยพิบัติหิมะ ตลาดก็จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในตอนนี้
คนทั่วไปมักเลือกที่จะเดินทางมาซื้อธัญพืช น้ำมัน และอาหารสดที่ตลาดฝูตัวตัว
ตอนนี้ผลประกอบการรายวันของตลาดฝูตัวตัวเป็นสองเท่าของช่วงก่อนเกิดภัยพิบัติหิมะ
ความเมตตาที่เธอมีต่อเพื่อนมนุษย์ทำให้เธอได้รับสิ่งดีตอบแทน
หลังจากอ่านรายงานแล้ว หลินม่ายก็ส่งคืนให้กับหัวหน้าแผนกการเงินและการบัญชี เธอขอให้ผู้จัดการซุนช่วยหาร้านค้าสองสามแห่งในเมืองหลวงเพื่อเปิดร้านขายหลู่ไช่และร้านหม้อไฟ
หลังจากการประชุม หลินม่ายขับรถกลับบ้าน
เธอนั่งลงในห้องและเตรียมจะอ่านหนังสือ ทว่าโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงกลับดังขึ้น
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
นางแบบผู้ชนะคิดไม่ซื่อเสียแล้วสิ ต้องติดสินบนอะไรกรรมการไว้แน่ๆ เลย
ยัยหลินเพ่ยยังไม่เน่าอีกเหรอเนี่ย ไม่เป็นไร เอาไว้กำจัดยัยไป๋ซวงต่อ
ไหหม่า(海馬)