บทที่ 747 ปลอมแปลงด้วยพลังระดับบรรพจารย์เซียน หลี่จิ่วเต้าไม่มีทางรู้ตัว!
ในจักรวาลกว้างใหญ่ไพศาล การที่สิ่งมีชีวิตที่ต้องการออกจากจักรวาลโกลาหลของตนเป็นเรื่องแสนยากเข็ญ นอกเสียจากสิ่งมีชีวิตที่ก้าวพ้นขอบเขตโกลาหลไปแล้ว ถึงไปจากจักรวาลโกลาหลได้ง่ายดาย
มิฉะนั้น แทบไม่มีทางออกจากจักรวาลโกลาหลได้เลย
นี่ก็เป็นเหตุผลที่สิ่งมีชีวิตซึ่งดำรงตนอยู่ในจักรวาลโกลาหลไม่รู้ว่าข้างนอกยังมีจักรวาลโกลาหลอื่นอยู่
ส่วนเรื่องที่สิ่งมีชีวิตระดับบรรพจารย์เซียนอยากไปจากจักรวาลโกลาหลยิ่งเป็นไปไม่ได้ ไม่มีวันพบทางออก
ทว่าซีไม่เหมือนกัน
ภาพสะท้อนฉายให้เห็นเส้นทางที่ออกจากจักรวาลโกลาหลผืนนี้ ซีเพียงแต่ตามเส้นทางนั้นไปก็ออกจากจักรวาลโกลาหลผืนนี้ได้
เพียงแต่ต้องใช้เวลานานกว่าหน่อย
“บุรุษตัวน้อย รอพี่สาวกลับมาเมื่อใด พี่สาวจะประคบประหงมเจ้าเป็นอย่างดี!”
อาภรณ์สีขาวของซีพลิ้วไหว มุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็วในอวกาศประดุจแสงดาวตก
…
ขณะเดียวกัน หลี่จิ่วเต้ากำลังทะลุทะลวงหมู่เมฆตามใจนึกบนหลังกิเลนไฟ เคลิบเคลิ้มไปกับความสุขที่ได้ ‘โบยบิน’
ทันใดนั้น เขาชะงักกึก เอ่ยเสียงแผ่วเบา “เหมือนมีคนกำลังนินทาข้าอยู่เลย”
เขาไม่รู้เพราะเหตุใด จู่ ๆ ก็เกิดความรู้สึกเช่นนี้ในใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ
แต่กลับคิดไม่ตกว่าผู้ใดจะนินทาเขา จึงขี่กิเลนไฟ ‘โบยบิน’ ไปบนพื้นเมฆต่อ
ส่วนพวกลั่วสุ่ยนั่งอยู่ในรถลาก
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ล่วงเลยไปกว่าปีแล้ว
พวกหลี่จิ่วเต้าใกล้จะพ้นจากอาณาเขตดินแดนหยิน
และเรื่องที่หลี่จิ่วเต้ารู้สึกเสียดายคือ เดินทางมาตั้งนาน ก็ยังไม่พบซีเสียที!
“ยิ่งไม่อยากพบยิ่งพานพบ ยิ่งไม่อยากพบยิ่งพานพบจริง ๆ!”
เวลานั้นเอง ภายในภูเขาใหญ่ลูกหนึ่ง ใครบางคนได้เห็นหลี่จิ่วเต้าผู้โบยบินอยู่ท่ามกลางผืนเมฆ เขาพลันเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันขึ้นมา ตาลุกเป็นไฟ
เขาไม่พอใจอย่างมาก เดิมเคยคิดว่าจะรีดไถเงินจากพวกหลี่จิ่วเต้าได้ก้อนใหญ่ สุดท้ายเขาก็ขาดทุนย่อยยับ!
ใช่แล้ว เขาก็คือชายชราผู้ขาย ‘ของวิเศษที่ปุถุชนยังใช้ได้’ ให้กับหลี่จิ่วเต้า
เขาช่ำชองด้านเล่ห์หลอก ปลอมแปลงสิ่งของได้เก่งยิ่ง เปลี่ยนวัตถุมีญาณอันไร้ค่าเป็น ‘ของวิเศษ’ ได้เสมอ แล้วค่อยขายออกด้วยราคาสูง
แต่เขากลับเป็นฝ่ายเสียเปรียบให้หลี่จิ่วเต้า!
‘ของสวะ’ ที่เขานึกเอาเองว่าไร้ค่าเมื่อได้อยู่ในมือหลี่จิ่วเต้า กลับกลายเป็นยอดศาสตราสะท้านโลกา เขาเสียหายหนักหนา!
ครานั้น เขาอยากบุกกลับไปชิงของวิเศษเหล่านั้นกลับมา
ทว่าต่อมา จิตใต้สำนึกของเขาตื่นขึ้นและหยุดเขาไว้ บอกเขาว่าด้วยฝีมือที่เขามีในตอนนั้นไม่มีทางสร้างยอดศาสตราเช่นนั้นขึ้นได้ ที่ ‘ของสวะ’ พวกนั้นกลายเป็นยอดศาสตรา เป็นผลมาจากหลี่จิ่วเต้าเสียส่วนใหญ่
หลี่จิ่วเต้าเปลี่ยน ‘ของสวะ’ เหล่านั้นเป็นยอดศาสตรา!
เขาคิดดูแล้วก็เห็นด้วย ด้วยขอบเขตพลังของเขาในครานั้น อาวุธอภินิหารสักชิ้นยังสร้างขึ้นมิได้ แล้วจะสร้างยอดศาสตราสะท้านโลกาเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร
ต่อมา ด้วยการชักนำของจิตใต้สำนึก เขาได้ไปยังสถานที่แล้วสถานที่เล่า เพื่อทำการ…ขุดศพ!
เฮ้อ อย่าให้เอ่ยถึงช่วงเวลาในตอนนั้นเลย น่าคลื่นเหียนเป็นที่สุด
เขาต้องขุดศพทุกวี่วัน ขุดศพหลากหลายประเภท แล้วเริ่มดูดกลืนพลังจากศพเหล่านั้นเพื่อเพิ่มพูนพลังตัวเอง
ศพเหล่านี้ล้วนมิใช่ศพธรรมดา ต่างเป็นศพระดับเซียนขึ้นไป กระนั้นเขาก็ยังสะอิดสะเอียด ระคายใจนักหนา ก่อนดูดกลืนหลอมรวมพลังทุกครั้ง เขาต้องอาเจียนยกใหญ่ แล้วถึงเริ่มการดูดกลืนพลังได้จริง ๆ
ขอบเขตพลังของตัวเขาก็ยกระดับขึ้นทีละขั้นเพราะเหตุนี้ จนจิตสำนึกที่แท้จริงค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา
เขาคือบรรพจารย์ฝู หนึ่งในเก้ายอดบรรพจารย์เซียน!
เขามิได้ตายจากสงครามปะทะความพิศวงลางร้ายในครานั้นจริง ๆ มีจิตสำนึกบางส่วนหลงเหลือไว้ หลังได้ดูดกลืนพลังจากศพเซียนจำนวนมาก ในที่สุดความทรงจำเมื่อครั้งเป็นบรรพจารย์เซียนก็ตื่นขึ้น
“น่าคลื่นไส้นัก ข้าถูกจิตใต้สำนึกของข้าหลอกเอาหรือนี่!”
เขาด่ากราดอย่างทนมิไหว รู้สึกแย่จากใจจริง
บรรพจารย์เซียนมีฐานะสูงส่งปานใด ใช่ว่าจะเป็นกันได้ด้วยการฝึกฝน บรรพจารย์เซียนทั้งเก้าอย่างพวกเขาเป็นบรรพจารย์เซียนแต่กำเนิด เมื่อคราวพลังโกลาหลวิวัฒนาสรรพสิ่งออกมา พวกเขาได้รับผลดีอย่างมาก
หากมิใช่เช่นนั้น น่ากลัวว่าพวกเขาคงมิได้เป็นถึงบรรพจารย์เซียน
และพวกเขาผู้เป็นถึงบรรพจารย์เซียนทะนงปานใด ไฉนเลยจะทำเรื่องดูดกลืนพลังจากศพได้ ไม่มีทางเลย!
สำหรับพวกเขา เรื่องเช่นนี้ถือเป็นความอัปยศสูงสุด!
ก่อนนี้จิตสำนึกบรรพจารย์เซียนของบรรพจารย์ฝูยังไม่ตื่นขึ้น หากได้ฟื้นฟูขึ้นมาก่อน เขาไม่มีทางดูดพลังจากศพแน่!
ศพเซียนเหล่านี้ล้วนเป็นกำลังรบเหนือขั้นเซียนผู้ตายในสงครามปะทะความพิศวงลางร้าย จวบจนบัดนี้ยังมีศพเซียนเหลืออยู่คณานับ
และนั่นก็สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องนี้ เรื่องที่บรรพจารย์เซียนตนอื่นมิได้ดูดกลืนพลังจากศพเหล่านี้!
หากบรรพจารย์เซียนตนอื่นดูดพลังจากศพเหล่านี้ไปแล้ว ไม่มีทางที่จะยังเหลือศพอยู่มากมายเช่นนี้!
เห็นได้ชัดว่าบรรพจารย์เซียนตนอื่นยอมฟื้นตัวช้าหน่อย ยังดีกว่าต้องกระทำการน่าคลื่นเหียนเช่นนี้
มีเพียงเขาที่ละทิ้งฐานะบรรพจารย์เซียน กระทำการไร้ยางอายแบบนี้!
‘อ๊ากกกก!’
เขาคำรามในใจ ยิ่งคิดยิ่งโมโห
ครานั้น เพราะเขากำลังจะพบอันตรายถึงชีวิต จิตใต้สำนึกจึงถูกบีบคั้นออกมา ต่อมา จิตใต้สำนึกพาเขาก้าวสู่เส้นทางฟื้นคืน
จิตใต้สำนึกเพียงต้องการให้เขาฟื้นพลังโดยไว เรื่องอื่นนั้นมิได้แยแสแม้แต่น้อย และเพื่อป้องกันมิให้เขาหยุดดูดกลืนพลังจากศพเหล่านี้หลังจิตสำนึกบรรพจารย์เซียนตื่นขึ้น ยังระงับจิตสำนึกบรรพจารย์เซียนของเขาเรื่อยมา ไม่ยอมให้เขาได้ตื่นขึ้นก่อน!
สวรรค์! ระหว่างนี้ เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าดูดกลืนพลังไปตั้งกี่ศพ ขุดไปตั้งกี่หลุม!
สิ่งมีชีวิตที่ตายในสงครามใหญ่นั้นมากเสียยิ่งกว่ามาก มีทุกระดับขั้น ขั้นจักรพรรดิเซียนก็มีไม่น้อย
ในสถานการณ์ที่เขาได้ดูดกลืนพลังอย่างบ้าคลั่ง จึงฟื้นพลังได้ว่องไวยิ่งยวด!
สุดท้าย เขาคืนสภาพโดยสมบูรณ์ จิตสำนึกบรรพจารย์เซียนตื่นขึ้น มีกำลังรบระดับบรรพจารย์เซียนอีกครั้ง!
เขาโมโหแทบบ้า!
ขุดหลุมเอาศพเพื่อดูดกลืนพลังถือเป็นจุดด่างพร้อยใหญ่หลวง ต่อให้จิตสำนึกบรรพจารย์เซียนของเขาฟื้นขึ้นมาแล้วก็ทนมิไหว!
ทว่าโมโหส่วนโมโห เขาก็ทำอะไรมิได้
จะให้เขาขจัดจิตใต้สำนึกตนเองหรืออย่างไร!
เช่นนั้นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บก็ยังเป็นตัวเขาเอง!
“ช่างเถิด เลิกคิดเรื่องพวกนี้เสีย บัดนี้ข้าต้องการแก้แค้นที่ถูกพวกเขาลวงเอาก่อน!”
บรรพจารย์ฝูเอ่ยเสียงเคียดแค้น
เปลี่ยน ‘ของสวะ’ จำนวนหนึ่งเป็นยอดศาสตราได้ดื้อ ๆ ต่อให้เป็นเขาในตอนนี้ก็ทำมิได้
เขาใคร่ครวญอย่างละเอียดแล้ว คิดว่าของเหล่านั้นหาใช่ ‘ของสวะ’ อย่างน้อยวัตถุดิบก็ไม่ธรรมดา!
มิฉะนั้น เหตุใดพวกหลี่จิ่วเต้าต้องซื้อ ‘ของสวะ’ เหล่านั้นจากมือเขาด้วย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หลี่จิ่วเต้าดูออกว่า ‘ของสวะ’ เหล่านี้ทำจากวัตถุดิบไม่ธรรมดา ถึงได้ยอมซื้อไว้!
“ข้าต้องทวงสิ่งที่ข้าขาดทุนไปคืนมาให้หมด!”
ดวงตาของเขาเป็นประกาย ตัดสินใจเปิดร้าน ‘แลกของ’ เพื่อแลกของที่เขาขายขาดทุนไปกลับมา
“ด้วยขอบเขตของข้าในตอนนี้ นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น” เขาคลี่ยิ้ม
จากนั้น เขาคว้าดินขึ้นจากพื้นกำหนึ่งแล้วเอ่ยยิ้ม ๆ “นี่คือดินโกลาหล ก่อกำเนิดได้ทุกสิ่ง เมล็ดพันธุ์ธรรมดาเมื่อโปรยลงก็กลายเป็นโอสถวิเศษสะท้านโลกาได้!”
ระหว่างที่เขาเปล่งวาจา ดินในมือเขาก็เริ่มแวววาวขึ้น ดูอัศจรรย์อย่างมาก!
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงภาพมายา
เขาต้องการใช้สิ่งที่โหลยโท่ยที่สุดแลกวัตถุดิบสะท้านโลกาเหล่านั้นของเขากลับมา!
“วางใจเถิด ต่อให้เป็นของที่ย่ำแย่ที่สุด พวกเขาก็ไม่มีทางรู้ตัว”
บรรพจารย์ฝูยิ้มอย่างมั่นใจ
เขาปลอมแปลงด้วยพลังระดับบรรพจารย์เซียน พวกหลี่จิ่วเต้าไฉนเลยจะรู้ตัว
เป็นไปไม่ได้เลย!