แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 783 ป้าใหญ่ฝู เก๋อเก๋อแห่งราชวงศ์ชิง

ตอนที่ 783 ป้าใหญ่ฝู เก๋อเก๋อแห่งราชวงศ์ชิง

ตอนที่​ 783 ป้า​ใหญ่​ฝู เก๋​อ​เก๋​อ​แห่ง​ราชวงศ์​ชิง

หลิน​ม่าย​หัน​ศีรษะ​ไป​มอง​ ก่อน​เห็น​ใบหน้า​ของ​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ที่​บิดเบี้ยว​ด้วย​ความโกรธ​

เธอ​หัวเราะ​อย่าง​เหยียดหยาม​ “ได้รับ​การปล่อยตัว​หลังจาก​รับโทษ​แล้ว​เหรอ​? แล้ว​มาหา​ฉัน​ทำไม​? อยาก​ให้​ฉัน​ส่งคุณ​กลับ​ไป​ที่​ห้องขัง​เพื่อ​กิน​ข้าวแดง​ใน​คุก​อีก​เหรอ​?”

รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ค่อย ๆ​ หาย​ไป​

เมื่อคราว​ที่​หลิน​ม่าย​เข้าไป​ยัง​สถานที่​จัดงาน​ เขา​ไม่ได้​ลัก​ลอบทำ​บางอย่าง​ต่อรถ​ของ​เธอ​

เป็น​เพราะ​เขา​คิด​แผนการ​ที่​ดีกว่า​นั้น​ได้​

แผนการ​นี้​ไม่เพียง​ทำร้าย​หลิน​ม่าย​อย่าง​รุนแรง​และ​ทำให้​เธอ​เจ็บปวด​ปางตาย​ แต่​ยัง​ฉ้อ​โกงเงิน​จำนวนมาก​ของ​เธอ​มาได้​อีกด้วย​

หลังจากที่​หลิน​เพ่​ย​ได้รับ​การปล่อยตัว​จาก​คุก​ หล่อน​จะได้​ไม่ต้อง​ใช้ชีวิต​อย่าง​ลำบาก​ร่วมกับ​เขา​ และ​เขา​สามารถ​เลี้ยงดู​หล่อน​ให้​มีชีวิต​ที่​ดี​ได้​

แต่​เมื่อ​เห็น​ท่าทาง​เยาะเย้ย​ของ​หลิน​ม่าย​ อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ก็​โกรธ​จน​แทบจะ​ระเบิด​ทันที​

นัง​สารเลว​คน​นี้​ส่งเขา​เข้า​คุก​โดย​ไม่สำนึกผิด​ แล้ว​กล้า​ดี​ยังไง​ถึงทำ​กับ​เขา​แบบนี้​?

หล่อน​ไม่อยาก​มีชีวิต​อยู่แล้ว​หรือ​อย่างไร​?

แผนการ​อัน​ยอดเยี่ยม​ที่​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​คิด​จะแก้แค้น​หลิน​ม่าย​ก็​คือ​ แสร้ง​ทำเป็น​สงบศึก​และ​คืนดี​กับ​เธอ​ เพื่อให้​เธอ​ตายใจ​และ​ริเริ่ม​ให้เงิน​เขา​ใช้เหมือน​เมื่อก่อน​

หลังจาก​รีดไถ​เงิน​ของ​เธอ​จน​หมดสิ้น​ เขา​ก็​จะนำ​เงิน​ทั้งหมด​ที่​ได้​จาก​หลิน​ม่าย​ไป​มอบให้​หลิน​เพ่​ย​ จากนั้น​ก็​ขับไส​ไล่ส่ง​หลิน​ม่าย​ออก​ไป​

หาก​ผู้หญิง​คน​นี้​ถูก​ล่อลวง​อีกครั้ง​ เธอ​จะต้อง​สิ้นหวัง​มาก​แน่นอน​ และ​ความสิ้นหวัง​นั้น​อาจ​นำพา​ไป​สู่การฆ่าตัวตาย​ ซึ่งจะเป็นเรื่อง​น่ายินดี​อย่างยิ่ง​สำหรับ​เขา​

ผู้หญิง​เลว​อย่าง​หล่อน​ไม่สมควร​มีชีวิต​บน​ใน​โลก​นี้​

เหตุผล​ที่​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​มั่นใจ​ว่า​ตราบใดที่​เขา​แสดง​ความกรุณา​ต่อ​หลิน​ม่าย​ นัง​สารเลว​คน​นี้​จะต้อง​กลับ​มาหา​เขา​โดย​ไม่ลังเล​ เป็น​เพราะ​หลิน​ม่าย​เคย​ชื่นชอบ​เขา​มาก่อน​!

เขา​ไม่เคย​เห็น​หญิงสาว​ราคา​ถูก​เท่า​หลิน​ม่าย​มาก่อน​เลย​ใน​ชีวิต​

ทั้งที่​รู้​ว่า​เขา​ไม่รัก​เธอ​ แต่​เธอ​กลับ​ทุ่มเท​ให้​เขา​ได้​ เป็น​เหมือน​สุนัข​โง่เขลา​ที่​ต่อให้​เอา​ไม้ไล่​ตี​ก็​ไม่ยอม​จากไป​ไหน​

แม้ว่า​เธอ​จะส่งเขา​เข้า​คุก​ใน​ภายหลัง​ แต่​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ก็​คิด​วิเคราะห์​แล้ว​ว่า​ นั่น​ไม่ใช่สัญญาณว่า​เธอ​ไม่รัก​เขา​ แต่​เป็น​สัญญาณว่า​เธอ​รัก​เขา​มากเกินไป​

เป็น​เพราะ​รัก​มาก​จึงทำให้​เกลียด​มาก​

เพราะ​เธอ​อิจฉา​ใน​ความ​ใจดี​ของ​เขา​ที่​มีต่อ​พี่สาว​ตัวเอง​ เขา​จึงคบคิด​กับ​พี่สาว​ของ​เธอ​และ​วางแผน​ต่อต้าน​เธอ​

นั่น​เป็น​เหตุผล​ที่​เธอ​โกรธ​มาก​จน​เสียสติ​และ​ส่งเขา​เข้า​คุก​

เขา​ติดคุก​มาเป็นเวลา​สอง​ปี​ และ​นัง​สารเลว​หลิน​ม่าย​ควรจะ​สงบ​ลง​ได้​แล้ว​

อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​คาดคิด​ว่า​หลิน​ม่าย​จะตื่นเต้น​มาก​จน​น้ำตาไหล​เมื่อ​เห็น​เขา​กลับมา​

อย่างไรก็ตาม​ ทั้งหมด​ที่​เขา​เห็น​ใน​ดวงตา​ของ​หญิงสาว​คือ​ความ​ดูถูก​เหยียดหยาม​และ​ความ​สะอิดสะเอียน​

เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​สบประมาท​ใน​ใจ ความรัก​ของ​ผู้หญิง​คน​นี้​ที่​มีต่อ​เขา​ยัง​ไม่หาย​ไป​อีก​เหรอ​?

คน​อย่าง​เธอ​สมควร​ถูก​ทอดทิ้ง​เยี่ยง​ขยะ​!

เนื่องจาก​หลิน​ม่าย​ยังคง​โกรธ​อยู่​ การ​เกลี้ยกล่อม​ให้​เธอ​ใจเย็น​ลง​จึงเป็น​หนทาง​ที่​ดี​ที่สุด​

อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​พยายาม​ข่มอารมณ์​ไม่ให้​ยื่นมือ​ออก​ไป​และ​บีบ​คอ​หลิน​ม่าย​จน​ตก​ตาย​ เวลานี้​ดวงตา​ของ​เขา​แดงก่ำ​

“ม่าย​จื่อ​ เรา​ไม่ได้​เจอกัน​มาเนิ่นนาน​ ทำไม​ถึงพูดจา​โหดร้าย​เหมือน​มีด​แหลม​ทิ่ม​อก​แบบ​นั้น​กับ​ฉัน​ล่ะ​?”

หลิน​ม่าย​เผย​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ “แล้ว​ทำไม​ฉัน​จะพูด​แบบ​นั้น​กับ​คุณ​ไม่ได้​?”

อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ถูก​เยาะเย้ย​จน​เกือบ​เสียสติ​

แต่​มีเสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​ใน​ใจคอย​เตือน​เขา​อยู่​เสมอ​ ‘อดทน​ อดทน​เข้า​ไว้​!’

เพื่อที่จะ​โกงเงิน​จาก​นัง​สารเลว​คน​นี้​และ​นำ​ไป​ปรนเปรอ​หลิน​เพ่​ย​ เขา​ต้อง​ไม่หุนหันพลันแล่น​

เขา​หยุดนิ่ง​ชั่วขณะ​ ก่อน​กล่าว​คำ​อย่าง​ใจเย็น​ “ม่าย​จื่อ​ เธอ​รู้​บ้าง​ไหม​ ว่า​ฉัน​ต้อง​ทนทุกข์ทรมาน​แค่​ไหน​ใน​คุก​? ฉัน​ถูก​คนพาล​ใน​เรือนจำ​แย่ง​อาหาร​ไป​ ถูก​เฆี่ยนตี​อย่าง​รุนแรง​ แล้ว​ยัง​…”

เขา​กล่าว​คำ​พลาง​น้ำตาไหล​พราก​ด้วย​ความคับแค้นใจ​

มัน​เป็นเรื่อง​ที่​ขมขื่น​ยิ่งนัก​ เขา​ต้อง​สูญเสียศักดิ์ศรี​ความเป็นชาย​ใน​คุก​แห่ง​นั้น​

เขา​กล่าว​คำ​อย่าง​ละล่ำละลัก​ “ใน​ตอนนั้น​ฉัน​คิด​ที่จะ​ตาย​ด้วยซ้ำ​ ถ้าไม่ใช่เพราะ​ความคิด​ที่​อยาก​พบ​เธอ​เป็น​ครั้งสุดท้าย​ที่​คอย​ดึง​รั้ง​ฉัน​ไว้​ ฉัน​คง​ไม่มีชีวิต​อยู่​จนถึง​วัน​ปล่อยตัว​”

ใน​ถ้อยคำ​เหล่านี้​ อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ไม่ได้​โกหก​แม้แต่​คำ​เดียว​

ทุกครั้งที่​เขา​ต้องการ​ความ​สะดวกสบาย​และ​ความอบอุ่น​ สิ่งแรก​ที่​เขา​นึกถึง​คือ​หลิน​ม่าย​นัง​ผู้หญิง​แพศยา​

เมื่อ​ได้รับ​ผลประโยชน์​ที่​ต้องการ​ เขา​คิด​แค่​ว่า​จะต้อง​มอบ​มัน​ให้​หลิน​เพ่​ย​ เขา​ไม่เคย​นึกถึง​พ่อแม่​หรือ​ครอบครัว​ตัวเอง​ด้วยซ้ำ​

นอกจากนี้​เขา​ยัง​วิเคราะห์​ด้วย​จิตวิทยา​ มัน​เป็น​ความจริง​ที่ว่า​หลิน​ม่าย​สุนัข​ตัวเมีย​นั้น​เคย​ชื่นชอบ​และ​อุทิศ​ตน​ให้​เขา​มากมาย​มาก่อน​

เมื่อนั้น​เขา​จึงคิดถึง​ความ​ใจดี​ของ​เธอ​ และ​จะไม่มีวัน​ลืม​เธอ​เลย​ ซึ่งนั่น​คือ​ความจริง​ทั้งหมด​

ใน​ช่วงชีวิต​นี้​มัน​เป็นไปไม่ได้​ที่​เขา​จะรัก​หลิน​ม่าย​ เขา​แค่​ต้อง​การเล่นสนุก​กับ​เธอ​และ​หลอก​ใช้เธอ​เท่านั้น​

หลังจาก​รับฟัง​ถ้อยคำ​ดังกล่าว​ หลิน​ม่าย​ก็​แสร้ง​ทำเป็น​เสียใจ​ “น่าเสียดาย​ ทำไม​คุณ​ถึงไม่ทรมาน​และ​ตก​ตาย​ใน​คุก​นั้น​ไป​เลย​ล่ะ​? ทำไม​ถึงต้อง​ยืนกราน​ที่จะ​มีชีวิต​ออกจาก​คุก​? คุณ​ไม่รู้​หรือว่า​คน​อย่าง​คุณ​มีชีวิต​อยู่​ก็​เปลือง​อาหาร​และ​อากาศ​ไป​เปล่าๆ​?”

สิ้น​เสียง​กล่าว​ เธอ​เหยียด​ยิ้ม​อย่าง​ดูถูก​ ก่อน​ขึ้นรถ​และ​ขับ​ออก​ไป​

เขม่า​ควัน​สีดำ​พ่น​ใส่ทั่ว​ศีรษะ​และ​ลำตัว​ของ​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​จน​ทำให้​เขา​สำลัก​

เขา​ยกมือ​ปิด​จมูก​ป้องกัน​ควัน​สีดำ​เหล่านั้น​ ดวงตา​จ้องมอง​รถ​เบนซ์​ของ​หลิน​ม่าย​ที่​ขับ​หาย​ไป​จาก​สายตา​อย่าง​รวดเร็ว​ขณะ​เผย​ยิ้ม​มุ่งมั่น​บน​ใบหน้า​

เขา​เคย​เห็น​ประโยค​หนึ่ง​ใน​หนังสือ​ คน​ที่​เคย​รัก​คุณ​มาก่อน​ หาก​เขา​หมด​รัก​แล้​วจะ​เพียง​ปล่อย​คุณ​ไป​ และ​ไม่โกรธ​เกลียด​

เพราะ​ไม่มีความเกลียดชัง​ใด​ที่​ปราศจาก​ความรัก​

แต่​เห็นได้ชัด​ว่า​นัง​แพศยา​ยังคง​เกลียด​เขา​มาก​ ซึ่งหมายความว่า​เธอ​ยังคง​รัก​เขา​นั่นเอง​

ตราบใดที่​เขา​วนเวียน​ไป​ทักทาย​เธอ​อีก​สอง​ถึงสามครั้ง​ เธอ​จะต้อง​กลับ​มาหา​เขา​อย่าง​แน่นอน​

เมื่อ​นึกถึง​สิ่งนี้​ รอยยิ้ม​ชั่วร้าย​พลัน​ปรากฏ​ขึ้น​ที่​มุมปาก​

ขณะที่​เขา​กำลัง​จากไป​ หญิง​ชรา​วัย​ห้าสิบ​เศษสวม​เสื้อ​โค้ท​ขนสัตว์​สีดำ​เดิน​ตรง​มาหา​เขา​

หล่อน​กระซิบ​ถาม “พ่อ​หนุ่ม​ เมื่อ​ครู่​เธอ​พูด​เรื่อง​อะไร​กับ​ผู้หญิง​คน​นั้น​หรือ​? ฉัน​เห็น​ว่า​ผู้หญิง​คน​นั้น​พูดคุย​กับ​เธอ​ด้วย​ท่าทาง​หยิ่งยโส​”

อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ไม่ต้องการ​พูดคุย​กับ​หญิง​ชรา​คน​นั้น​ใน​ตอนแรก​

แต่​เมื่อ​เห็น​ว่า​นาง​แต่ง​ตัวดี​และ​ดู​มีฐานะทางการเงิน​ที่​มั่นคง​

เขา​เปลี่ยนใจ​ในทันที​และ​วางแผน​ที่จะ​หลอก​โกงเงิน​จาก​หญิง​ชรา​ช่างพูด​และ​ชอบ​ยุ่ง​เรื่อง​ชาวบ้าน​คน​นี้​ด้วย​

ตั้งแต่​เดินทาง​สาย​นี้​จาก​เมือง​เจียง​เฉิงไป​จนถึง​เมืองหลวง​ อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​เก็บเกี่ยว​ประสบการณ์​มาก​พอควร​ และ​หญิง​ชรา​เป็น​ผู้​ที่​สามารถ​หลอก​โกง​เงินได้​ง่าย​ที่สุด​

เขา​แสร้ง​ทำตัว​น่าสงสาร​และ​แต่ง​เรื่องเศร้า​ขึ้น​มา

บอก​กล่าวว่า​ผู้หญิง​หยิ่งยโส​ที่​นาง​เห็น​เมื่อ​ครู่​คือ​แฟน​ของ​เขา​เอง​

แฟน​สาว​ของ​เขา​เป็น​คน​วัตถุนิยม​ ชอบ​ใช้จ่าย​ทรัพย์สิน​ของ​ครอบครัว​และ​ยืม​หนี้สิน​จาก​ต่างประเทศ​เพื่อให้​หล่อน​ได้มา​ที่​เมืองหลวง​

โดย​ไม่คาดคิด​ หลังจากที่​แฟน​สาว​ได้​ตั้งหลัก​อย่าง​มั่นคง​ใน​เมืองหลวง​ ด้วย​รูปลักษณ์​ที่​โดดเด่น​ของหล่อน​ หล่อน​เข้าหา​ทายาท​คนรวย​รุ่น​สอง​และ​ทอดทิ้ง​เขา​ไป​

เขา​ทำงาน​อย่าง​หนัก​เพื่อ​หา​เงินทุน​ โดย​หวัง​ว่า​จะได้​กลับ​ไป​คบ​กับ​แฟน​สาว​อีกครั้ง​ แต่​หล่อน​กลับ​ปฏิเสธ​อย่าง​ไม่ใย​ดี​และ​บอก​ให้​เขา​ไปให้พ้น​

เมื่อ​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​แกล้ง​ทำเป็น​กลั้น​น้ำตา​และ​กล่าว​คำ​ต่อ​ “แม้หล่อน​จะอยาก​ให้​ผม​ไป​ แต่​ผม​จะไป​ที่ไหนได้​ ผม​ไม่มีเงินทอง​เพียง​พอที่จะ​ซื้อ​อาหาร​กิน​ด้วยซ้ำ​”

หญิง​ชรา​เห็นอกเห็นใจ​เขา​อย่าง​สุดซึ้ง​หลังจาก​รับฟัง​เรื่องราว​ และ​เชิญให้​เขา​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​นาง​ก่อน​

นาง​เป็น​หญิง​ชรา​อายุ​มาก​ที่​แทบจะ​เป็น​ยาย​ของ​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ได้​ ต่อให้​พา​ชายหนุ่ม​แบบ​เขา​กลับบ้าน​ ก็​จะไม่มีใคร​นินทา​ว่าร้าย​

ยุค​สมัยนี้​ไม่มีใคร​คิด​สกปรก​ไป​ใน​ทาง​นั้น​

แต่​หาก​เปลี่ยนเป็น​ชาย​ชรา​กับ​เด็กสาว​แทน​ ผู้คน​คง​คิด​ไป​ใน​ทิศทาง​นั้น​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​มีความสุข​มาก​ที่จะ​มีบ้าน​ไว้​ซุก​หัวนอน​และ​อิ่ม​ท้อง​ เขา​แสร้ง​ทำเป็น​ปฏิเสธ​เล็กน้อย​ ก่อน​จะกล่าว​ตกลง​

การ​ไป​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​หญิง​ชรา​คน​นี้​ ทำให้​เขา​สามารถ​ประหยัด​เงิน​ค่า​อาหาร​และ​ค่าเช่า​ได้​

และ​เมื่อ​ไป​เรือนจำ​ใน​เดือน​หน้า​ เขา​ยัง​สามารถ​ซื้อ​ไก่ย่าง​ไป​ฝาก​หลิน​เพ่​ย​ได้​

ทั้งสอง​เดิน​ไป​ด้วยกัน​จนถึง​บ้าน​ของ​หญิง​ชรา​ขณะ​พูดคุย​กัน​ตลอดทาง​

อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ได้​รู้​ว่า​หญิง​ชรา​ชื่อ​ฝูโช่วกุ้ย​

ฝูโช่วกุ้ย​พูด​ด้วย​สีหน้าบูดบึ้ง​ “แม้ว่า​ชื่อ​ของ​ฉัน​จะเรียบง่าย​ แต่​แซ่ของ​ฉันนั้น​สูงส่งมาก​ แซ่ของ​ฉัน​เป็น​นามสกุล​ของ​กองพล​ธงเหลือง​ใน​ราชวงศ์​ชิง หาก​นี่​ยัง​เป็น​สมัย​ราชวงศ์​ชิง ฉัน​ก็​จะเป็น​เก๋​อ​เก๋​อ*”​

(*格格 คำ​เรียก​พระ​ธิดา​ของ​เจ้าชาย​หรือ​เชื้อพระวงศ์​ใน​สมัย​ราชวงศ์​ชิง เทียบ​ได้​กับ​ท่านหญิง​ หม่อม​เจ้าหญิง​)

เมื่อ​ได้​ฟังว่า​นาง​พูดถึง​ราชวงศ์​ชิง หัวใจ​ของ​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ก็​เต้น​รัว​

ใน​ช่วง​ไม่กี่​ปี​ที่ผ่านมา​ นโยบาย​ระดับชาติ​ได้รับ​การปรับปรุง​ คน​ทั่วไป​สามารถ​พูด​สิ่งใด​ก็ได้​ตามที่​ต้องการ​ ตราบใดที่​ไม่ผิดกฎหมาย​

หาก​ฝูโช่วกุ้ย​พูด​คำ​เหล่านี้​ใน​ช่วง​ปี​ 1960 ถึง 1970 นาง​คง​ถูก​ลงโทษ​สถาน​หนัก​จน​แทบ​ไม่อยาก​มีชีวิต​อยู่​ต่อ​

ฝูโช่วกุ้ย​ยัง​บอก​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​อี​กว่า​ นาง​เป็น​นักวิทยาศาสตร์​ที่​เกษียณอายุ​จาก​สถาบัน​วิทยาศาสตร์​แห่ง​ประเทศ​จีน​

เมื่อ​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ได้​ได้​รับฟัง​สิ่งนี้​ เขา​ก็​แสร้ง​ทำเป็น​ตกตะลึง​

เขา​ชื่นชม​ปัญญาชน​อย่าง​มาก​ แต่​ก็​สงสัย​ว่า​ฝูโช่วกุ้ย​กำลัง​พูด​โม้

หญิง​ชรา​วัย​เดียวกัน​เก้า​ใน​สิบ​คน​ไม่รู้หนังสือ​ เมื่อ​พูดว่า​เป็น​นักวิทยาศาสตร์​หญิง​ก็​ยิ่ง​หา​ได้​ยาก​

เขา​จะโชคดี​ขนาด​นี้​ได้​อย่างไร​ ถึงขนาด​ได้​บังเอิญ​มาพบ​กับ​หญิง​ชรา​ที่​เป็น​นักวิทยาศาสตร์​!

แต่​เมื่อ​มาถึงบ้าน​ของ​ฝูโช่วกุ้ย​และ​เห็น​ว่า​เป็น​บ้านใหญ่​ที่​มีถึงสามห้องนอน​ เขา​จึงเชื่อ​ใน​คำพูด​ของ​นาง​

สภาพ​ที่อยู่อาศัย​ใน​เมือง​ค่อนข้าง​คับแคบ​มาก​ หาก​ฝูโช่วกุ้ย​ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์​ นาง​จะได้รับ​การ​จัดสรร​บ้าน​สามห้องนอน​ได้​อย่างไร​?

ด้วย​เพราะ​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​เติบโต​ใน​ชนบท​และ​จากนั้น​ถูก​จำคุก​สอง​ปี​ ดังนั้น​เขา​จึงไม่ได้​เห็น​โลก​มาก​นัก​

เขา​ไม่รู้​ว่า​ตั้งแต่​ต้นปี​ 1970 ประเทศ​ได้​ให้ความสนใจ​อย่าง​มาก​กับ​สภาพ​ความเป็นอยู่​ของ​นักวิทยาศาสตร์​

พวกเขา​ทั้งหมด​จัด​อยู่​ใน​บ้านพัก​ขนาดใหญ่​ที่​มีสามห้องนอน​และ​หนึ่ง​ห้องนั่งเล่น​ พร้อมทั้ง​ห้องครัว​และ​ห้องน้ำ​ที่​แยก​เป็น​สัดส่วน​

บ้านพัก​ที่​เพียบพร้อม​แบบนี้​มีไว้​ให้​พวกเขา​ได้​อยู่​ใน​ยาม​ที่​บ้านเมือง​ลำบาก​

ตอนนี้​สภาพ​ในประเทศ​ดีขึ้น​ พวกเขา​ได้​จึงรับ​อนุญาต​ให้​ย้าย​เข้าไป​อยู่​บ้านพัก​ขนาดใหญ่​เหล่านี้​ได้​

บ้านพัก​ร่วม​ประเภท​นี้​ถูก​จัดสรร​ให้​กับ​สมาชิก​ทุกคน​ของ​สถาบัน​วิทยาศาสตร์​แห่ง​ประเทศ​จีน​

สามีของ​ฝูโช่วกุ้ย​ที่​เสียชีวิต​ไป​นาน​แล้ว​เป็น​ช่างซ่อมบำรุง​ใน​สถาบัน​วิทยาศาสตร์​แห่ง​ประเทศ​จีน​ และ​ทั้งคู่​ได้รับ​การ​จัดสรร​ให้​อยู่​ใน​บ้านพัก​สามห้องนอน​

อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ไม่คาดคิด​ว่า​ฝูโช่วกุ้ย​จะเป็น​นักวิทยาศาสตร์​ของ​สถาบัน​วิทยาศาสตร์​แห่ง​ประเทศ​จีน​จริง ๆ​ แล้ว​นาง​จะเกษียณอายุ​ทันทีที่​อายุ​ห้าสิบ​ได้​อย่างไร​

นักวิทยาศาสตร์​ส่วนใหญ่​ยังคง​ทำงาน​จน​อายุ​ 60 หรือ​ 70 ปี​ ตราบเท่าที่​ยัง​ทำได้​ พวกเขา​จะยืนกราน​ส่องแสง​ให้​กับ​ประเทศ​ต่อไป​

ใน​ชีวิต​ที่แล้ว​หลิน​ม่าย​ได้​เห็น​นักวิทยาศาสตร์​ระดับชาติ​หลาย​คน​ที่​มีอายุ​เกิน​ 80 ปี​และ​ยัง​ต้อง​ดิ้นรน​หา​งาน​ทำ​

ใน​คืน​แรก​ที่​เข้า​พัก​ใน​บ้าน​ของ​ฝูโช่วกุ้ย​ อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ไม่เพียง​ได้​กิน​ซาลาเปา​นึ่ง​ใหม่​เท่านั้น​ แต่​ยัง​ได้​ดื่ม​ซุป​เนื้อ​แกะ​ร้อน​ ๆ อีกด้วย​

นี่​เป็น​อาหาร​จาน​เนื้อ​มื้อ​แรก​ที่​เขา​ได้​กิน​ตั้งแต่​เข้าไป​ใน​เรือนจำ​

ขณะที่​กำลังกิน​ซุป​เนื้อ​แกะ​อย่าง​มีความสุข​ เขา​ก็​หวน​คิดถึง​หลิน​เพ่​ย​ภรรยา​ของ​เขา​ ค่ำ​คืนนี้​หล่อน​จะได้​กิน​อะไร​ใน​คุก​?

เป็นไปไม่ได้​ที่​หลิน​เพ่​ย​จะกินดีอยู่ดี​ใน​คุก​ แต่​ครอบครัว​ของ​หลิน​ม่าย​คงจะ​ได้​กิน​หรู​อยู่​สบาย​

ไม่ว่า​จะลูกชิ้น​ไข่มุก​ ทอด​มันปลา​ กุ้ง​ตุ๋น​น้ำมัน​ ผักโขม​ผัด​ดอก​กะหล่ำ​ และ​ซุป​วุ้นเส้น​เต้าหู้​

อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ที่​ไม่ได้​กิน​อาหาร​ดี​ๆ มาเป็นเวลา​นาน​รู้สึก​หิวโหย​มาก​จน​น้ำลายไหล​เมื่อ​ได้​เห็น​อาหาร​มากมาย​บน​โต๊ะ​

เมื่อ​ป้า​ใหญ่​ฝูเห็น​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​กำลังกิน​อาหาร​อย่าง​มีความสุข​ สัญชาตญาณ​ความ​เป็น​แม่ของ​นาง​ก็​ระเบิด​ออกมา​

นาง​ตัก​เนื้อ​แกะ​ทั้งหมด​ใน​ชามตัว​ตัวเอง​ให้​กับ​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​และ​กล่าว​อย่าง​ใจดี​ “รีบ​กิน​ตอนที่​มัน​ยัง​ร้อน​อยู่​ซะนะ​”

ความอบอุ่น​แทรกซึม​เข้ามา​ใน​หัวใจ​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ชั่วขณะ​ เขา​แสร้ง​ทำเป็น​ปฏิเสธ​เล็กน้อย​ ก่อน​จะยก​ชามดื่ม​ซุป​เนื้อ​แกะ​อึก​ใหญ่​

ป้า​ใหญ่​ฝูคิด​ว่าที่​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ต้อง​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​ ทั้งหมด​เป็น​เพราะ​แฟน​เก่า​ที่​ไร้เหตุผล​ของ​เขา​

สีหน้า​ของ​นาง​พลัน​บิดเบี้ยว​น่าเกลียด​เล็กน้อย​ “เสี่ยว​อู๋​ เธอ​จะปล่อย​แฟน​เก่า​ไป​แบบนี้​น่ะ​หรือ​?”

อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่เข้าใจ​ และ​ถามด้วย​ความ​งุนงง​ว่า​ “แล้ว​ผม​จะทำ​ยังไง​ได้​อีก​ล่ะ​ครับ​หาก​ไม่ปล่อย​หล่อน​ไป​?”

“เธอ​ไป​สร้าง​ความวุ่นวาย​ทำลาย​ชื่อเสียง​ที่​บ้านพัก​และ​หน่วยงาน​ที่​หล่อน​ทำงาน​ได้​นะ​ หล่อน​จะได้​ไม่อาจ​กลับมา​ที่​เมืองหลวง​ได้​อีก​! ไม่ต้อง​กังวล​ ฉัน​จะไป​ตามหา​แฟน​เก่า​คน​นั้น​และ​สะสางบัญชี​กับ​เธอ​เอง​!” ดวงตา​ป้า​ใหญ่​ฝูฉายแสง​เหี้ยมเกรียม​ไร้​ปรานี​

คำพูด​ของ​นาง​ทำให้​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​กลัว​จน​เกือบ​ฉี่รด​กางเกง​

ทุกสิ่ง​ที่​เขา​บอก​กับ​ป้า​ใหญ่​ฝูล้วน​เป็นเรื่อง​โกหก​

หาก​ป้า​ใหญ่​ฝูไป​ตามหา​หลิน​ม่าย​กับ​เขา​เพื่อ​ชำระ​แค้น​ เรื่อง​โกหก​ทั้งหมด​ที่​เขา​บอก​ไป​จะไม่ถูก​เปิดโปง​หรือ​?

เขา​ส่าย​หัว​ปฏิเสธ​ “ช่างเถอะ​ครับ​ ปล่อย​ให้​อดีต​เป็น​อย่าง​ที่​มัน​ควร​เป็น​ดีกว่า​ และ​ให้เกียรติ​หล่อน​บ้าง​”

ป้า​ใหญ่​ฝูโคลง​ศีรษะ​ “เธอ​ใจดี​กับ​หล่อน​เกินไป​แล้ว​!”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

หลงตัวเอง​ไป​ไหม​ แหม​ ม่าย​จื่อ​สวย​รวย​ขนาด​นั้น​คงจะ​กลับมา​ชายตามอง​แก​หรอก​นะ​ไอ้​สวะ​เสี่ยว​เจี๋ยน​

ขอ​เตือน​ว่า​ป้า​อย่า​นึก​เอ็นดู​สวะ​นี่​เลย​ค่ะ​ ถ้าไม่อยาก​หาเหาใส่หัว​

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

Status: Ongoing

หลินม่ายได้กลับมาเกิดใหม่ในวันแต่งงานของตัวเอง​ และพบว่าทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวสามีต่างก็ยังเป็นเศษสวะกันเหมือนเดิม​ แต่ขอโทษเถอะ…หลินม่ายคนนี้ไม่ใช่หลินม่ายคนเดิมแล้ว​ ใครหน้าไหนมารังแกฉัน​ คราวนี้แม่จะซัดให้หงาย​​ จะงัดมารยาสาไถทุกกระบวนมาใช้แก้เผ็ดมันให้หมด! จากนั้นก็จะหย่ากับสามีกะหลั่วแยกตัวออกมาสร้างฐานะแบบสวยๆ​ ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท