บทที่ 758 สุนัขพื้นเมืองดูแล้วน่าจะเฝ้าบ้านได้ดีที่สุด หวังว่าเจ้าจะรู้ความไม่ปฏิเสธเกียรตินี้!
“เจ้านับเป็นสิ่งใดกัน เชื่อหรือไม่เพียงแค่ข้าเตะครั้งเดียวก็สามารถฆ่าเจ้าได้แล้ว?”
อสูรตนหนึ่งในบรรดาอสูรทั้งเก้าทนไม่ไหว ตะโกนออกมาใส่สุนัขสีดำ
“ก่อนหน้านี้พวกเราเพิ่งจะทานหม้อไฟเนื้อสุนัขไปอย่างเอร็ดอร่อย วันนี้กลับมีสุนัขสีดำกระโดดออกมาหาถึงที่ อันใดกัน เจ้าอยากจะกระโดดลงหม้อด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือ!”
มันตะโกนต่อ
“เจ้าพูดอันใดออกมากัน!?”
สุนัขสีดำมองอสูรตนนั้นด้วยสายตาเย็นเยียบ ทำให้อสูรที่ตกเป็นเป้าสายตาขนลุกขนชันขึ้นมาทันที!
กลัวอันใดกัน?
คุณชายก็อยู่ตรงนี้!
อสูรตนนั้นคิดขึ้นมา ก่อนจะไม่หวาดกลัวอีกต่อไป
มันยืดหลังตรง เชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งยโส ดวงตาหรี่ลงครึ่งหนึ่งมองไปทางสุนัขสีดำ แววตาสามส่วนคือเยาะเย้ย อีกสามส่วนเย็นชา และอีกสี่ส่วนไม่แยแส
“หูสุนัขทั้งสองข้างของเจ้ามีประดับอย่างนั้นหรือ? จึงฟังสิ่งที่ข้าพูดไม่ออก?”
มันเอ่ยต่อ “ข้าจะพูดอีกครั้ง สำหรับสุนัขอย่างเจ้า เพียงแค่ข้าเตะครั้งเดียวก็สามารถฆ่าเจ้าได้แล้ว!”
หลี่จิ่วเต้าได้ยินเช่นนั้นแล้ว ภายในใจพลันอดหัวเราะไม่ได้
ฟังแล้วอสูรตนนี้ช่างดูห้าวหาญ…
“เช่นนั้นเจ้าก็ออกมาเสีย แสดงให้ข้าดูว่าเจ้าจะสังหารข้าด้วยการเตะครั้งเดียวได้อย่างไร”
สุนัขสีดำมองไปยังอสูรตนนั้นแล้วเอ่ยออกมา
“ไปเสีย แสดงให้สุนัขสีดำได้ดูว่าเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”
หลี่จิ่วเต้าพูดกับอสูรตนนั้นด้วยรอยยิ้ม
“เอ๋?”
อสูรตนนั้นตกตะลึงจนโง่งมไปโดยพลัน คุณชายจะปล่อยให้มันไปสู้จริง ๆ หรือ?
ไม่นะ!
มันอยากจะร้องไห้ออกมา มันจะเอาความกล้าจากที่ใดไปสู้กับสุนัขสีดำ สุนัขสีดำน่ากลัวเกินไป เกรงว่าเพียงแค่สุนัขสีดำจามออกมาก็สามารถสังหารมันได้อย่างง่ายดายแล้ว
แม้ว่ามันจะบรรลุขอบเขตเซียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่นั่นก็ยิ่งทำให้มันสามารถสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของสุนัขสีดำมากกว่าเดิม สุนัขสีดำไม่ใช่ตัวตนที่มันสามารถต่อกรได้ด้วยแต่อย่างใด
ไม่ไกลกัน ต้าเต๋อและพวกอ้ายฉานเห็นแล้วอดปิดปากหัวเราะไม่ได้
เห็นได้ชัดว่าอสูรตนนี้เพียงแค่กำลังข่มขวัญ มันจะแข็งแกร่งถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ทันทีที่คุณชายบอกให้อสูรตนนี้ลงมือจัดการจริง ๆ มันก็พลันตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที
“เอาล่ะ ข้าจะไปเอง”
หลี่จิ่วเต้าหัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา เขาเองก็มองออกว่าอสูรตนนี้เพียงแค่ข่มขวัญ การที่เขาบอกให้มันออกไปสู้ ก็เป็นเพียงแค่การล้อเล่น เขาไม่คิดจะให้อสูรตนนี้ออกไปสู้จริงแต่อย่างใด
เขาก้าวออกไปด้านหน้า มองไปทางสุนัขสีดำแล้วเอ่ยออกมา “ข้าเองก็เห็นว่าเจ้าไม่เลวเช่นกัน เจ้าสามารถอยู่กับข้าเพื่อช่วยเฝ้าบ้านได้ สุนัขพื้นเมืองดูแล้วน่าจะช่วยเฝ้าบ้านได้ดีที่สุด หวังว่าเจ้าจะไม่ปฏิเสธเกียรตินี้!”
การมีสุนัขมาคอยเฝ้าบ้านให้เป็นเรื่องที่ดี ตัวเขานั้นได้วางแผนที่จะเลี้ยงสุนัขมานานแล้ว
สุนัขขาวรอบที่แล้วใช้การไม่ได้ มันดูดุร้ายจนเกินไป หากเขานำมันกลับไปยังลานเล็กจริง ก็เกรงว่าจะทำให้เพื่อนบ้านตื่นตกใจได้
ทว่าสุนัขสีดำตัวนี้ไม่เลวเลย มันเป็นสุนัขพื้นเมือง แม้ว่าท่าทางที่แสดงออกมาในตอนนี้จะดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อมองภาพลักษณ์โดยรวมแล้วก็ไม่ได้ดูดุร้ายแต่อย่างใด อีกทั้งยังดูมีการศึกษาได้รับการสั่งสอนมาอย่างดี หากเขานำมันกลับไปด้วย ก็รู้สึกได้ว่าไม่เพียงแต่จะทำให้เพื่อนบ้านไม่ตื่นตกใจ ทว่ายังดึงดูดความสนใจของเหล่าเพื่อนบ้านได้เสียด้วยซ้ำ
“โฮ่ง!”
สุนัขสีดำเห่าออกมา ไม่เอ่ยสิ่งใดอีก พุ่งกระโจนเข้าใส่หลี่จิ่วเต้าโดยพลัน!
เฝ้าบ้าน!
คำนี้กระตุ้นมันอย่างรุนแรง ทำให้ประสบการณ์ครั้งเยาว์วัยปรากฏขึ้นมาในหัวของมัน!
ข่าวลือเกี่ยวกับมันในแดนบรรพโกลาหลนั้นเป็นเรื่องจริง
ครั้งยังเยาว์มันถูกเผ่านมนุษย์รับเลี้ยงไว้ ทว่าน่าเสียดายที่ครอบครัวมนุษย์นั้นไม่ใช่ครอบครัวที่ดีแต่อย่างใด ทุกคนล้วนชั่วร้ายอำมหิตเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะบุตรชายคนเล็กของบ้านที่มีจิตใจเหี้ยมโหดกว่าผู้ใด
ครอบครัวมนุษย์ส่งมันไปให้บุตรชายคนเล็กเล่น
บุตรชายคนเล็กผู้นั้นใช้ไฟเผามัน ใช้ไม้ตีมัน นอกจากนี้ยังถึงกับตัดหางมันออกครึ่งหนึ่งเพื่อดูว่ามันจะสามารถงอกหางกลับขึ้นมาใหม่ได้หรือไม่
ไม่ง่ายเลยกว่าที่มันจะสามารถหนีรอดออกมาได้
หากช้ากว่านี้อีกสักนิด มันคงจะถูกบุตรชายคนเล็กผู้นั้นทรมานจนตายเสียแล้ว!
และนี่ก็เป็นเหตุผลที่มันชิงชังเผ่ามนุษย์!
ใช่แล้ว มันคือราชันสุนัข ราชันสุนัขผู้เลื่องชื่อระบือนามในแดนบรรพโกลาหล!
แม้ว่าประสบการณ์ในครั้งเยาว์วัยจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดอย่างมาก แต่ก็ทำให้มันเติบโตขึ้นจนแข็งแกร่งได้
หลังจากที่มันก้าวเดินบนเส้นทางแห่งการฝึกฝนแล้ว มันก็มีความสามารถมากพอจะฟื้นฟูความเสียหายบนร่างของมันให้กลับมาสมบูรณ์เช่นเดิม ทว่ามันก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น
มันเก็บรอยแผลเป็นเหล่านี้เอาไว้ เพื่อคอยใช้เตือนใจตนเอง ไม่ให้หลงลืมประสบการณ์อันเจ็บปวด และจะต้องก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ
วิธีการนี้ได้ผลเป็นอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่มันเผชิญอุปสรรคที่พยายามครั้งเล่าครั้งเล่าก็ไม่อาจผ่านไปได้ มันจะหันมามองร่องรอยแผลบนตัวเพื่อตักเตือนตนเอง หากยังไม่สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ มันก็จะเป็นแค่เพียงสุนัขตัวน้อย ๆ เหมือนเมื่อวันวาน พร้อมจะถูกทรมานและดูแคลน!
ด้วยแรงกระตุ้นเช่นนี้ ในที่สุดมันก็สามารถทลายขีดจำกัดขึ้นไปได้ทีละขั้นทีละขั้น ก้าวขึ้นไปยังขอบเขตที่สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถเทียบเคียงกับจ้าวดินแดนได้ในที่สุด
“โง่เขลาเบาปัญหายิ่งนัก ฝึกฝนจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้แล้ว แต่กลับไม่ได้ลงมือสังหารคนในครอบครัวนั้นให้สิ้น ทำเพียงแค่สั่งสอนบทเรียน!”
สุนัขสีดำเอ่ยออกมาด้วยความรังเกียจ ดูแคลนตนเองในอดีต หากเป็นตอนนี้ มันจะทำเพียงแค่ลงมือสั่งสอนบทเรียนได้อย่างไร?
ไม่มีทาง!
มันจะต้องทำให้คนในครอบครัวนี้เผชิญหน้ากับการอยู่ไม่สู้ตาย ต้องมีชีวิตอย่างเจ็บปวดไปตลอดกาล!
ทว่าตอนนี้ กลับมีมนุษย์ผู้หนึ่งกล้าเอ่ยว่า ‘เฝ้าบ้าน’ ต่อหน้ามัน ทำให้มันทนไม่ได้ ต้องการจะมอบบทเรียนให้มนุษย์ผู้นี้ได้รับ สิ่งที่ไม่ได้ทำกับมนุษย์ครอบครัวนั้นในครั้งอดีต มันจะเอามาทำกับมนุษย์ผู้นี้แทน!
สุนัขสีดำไม่ได้ดูแคลนมนุษย์ที่อยู่เบื้องหน้า กลับกันมันจริงจังเป็นอย่างมาก มันไม่อาจมองสิ่งใดจากมนุษย์ผู้นี้ออก ทำให้รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง มนุษย์ผู้นี้ไม่ได้สามัญธรรมดาแต่อย่างใด!
แสงดีดำปกคลุมทั่วฟ้าดิน ลมหายใจอันน่าสยดสยองแผ่กระจาย สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในเมืองพากันตัวสั่นเทา นี่มันพลังขั้นใดกัน? พวกเขาต่างไม่รู้!
รู้เพียงแค่ว่า หากพลังนี้ตกใส่ร่างของพวกเขา แม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียว วิญาณของพวกเขาก็จะแตกสลาย ตายตกลงอย่างสมบูรณ์!
อีกด้านหนึ่ง สีหน้าของหลี่จิ่วเต้ายังคงสงบนิ่ง
เขาหยิบเอาหินก้อนเล็กออกมา ก่อนรำพึงกับตนเองว่า “หินห้าประภา โยนใส่หน้าคน อย่างไรเสียก็โดน ไม่รู้ว่าหากเป็นหน้าสุนัขจะได้ผลหรือไม่?”
นี่คือถ้อยคำแนะนำหินห้าสีของบรรพจารย์ฝู
เขารู้สึกว่ามันควรจะโยนใส่หน้าสุนัขได้ ไม่จำกัดเพียงหน้าของมนุษย์เท่านั้น จึงขว้างหินก้อนเล็กนั้นออกไป
เพียงแต่ว่าวิถีที่ขว้างออกไปดูจะ…ห่างไกลเกินไปเสียหน่อย
“เจ้า…ตาบอดหรืออย่างไร!”
สุนัขสีดำส่งเสียง ‘พรืด’ อดส่งเสียงหัวเราะดังลั่นออกมาไม่ได้
อันใดกัน มนุษย์ผู้นี้หวาดกลัวความแข็งแกร่งที่มันสำแดงออกมาจนโง่งมแล้วหรือ หากไม่ใช่เพราะขาดกลัวจนมือสั่น เช่นนั้นแล้วจะพลาดเป้าไปได้มากขนาดนี้ได้เช่นไร?
มันพุ่งเข้าใส่ด้วยร่างกายใหญ่โตอย่างถึงที่สุด ทว่าทิศทางที่ก้อนหินถูกขว้างนั้นห่างออกไปไกลลิบ จนสามารถกล่าวได้ว่าคนละทิศกันเลยทีเดียว!
นี่จะต้องเป็นเพราะหวาดกลัวมันอย่างแน่นอน ภายในหัวใจเกิดความขลาดเขลาขึ้นมา หมดความคิดที่จะต่อกร!
คิดดูแล้วก็น่าจะใช่
ยอดฝีมือเช่นนั้นจะปรากฏตัวขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้อย่างไร?
ก่อนหน้านี้มันอาจจะคิดมากไปเอง มนุษย์ผู้นี้ไม่ได้แข็งแกร่งดั่งที่มันคิด
ทว่าในตอนนั้นเอง พลันมีเสียง ‘ปัง’ ดังขึ้น ก่อนที่มันจะร่วงลงไปบนพื้น เพราะถูกบางสิ่งกระแทกเข้าที่หน้า!
‘เหมือนกับที่ข้าคิดเอาไว้เลย’
หลี่จิ่วเต้ายิ้มจาง ๆ พร้อมกับคิดขึ้นมาในใจ
เขาขว้างหินเช่นนี้ด้วยความตั้งใจ เพียงแค่ต้องการจะดูว่าหินห้าประภาจะแม่นยำไม่พลาดเป้าจริง ๆ
แม่นยำไม่พลาดเป้า หมายความว่าไม่ว่าเขาจะขว้างออกไปเช่นไรก็ล้วนเข้าเป้า
ชายหนุ่มพึงพอใจกับผลการทดสอบเป็นอย่างมาก แม่นยำไม่พลาดเป้าอย่างแท้จริง แม้ว่าเขาจะขว้างไปอีกทาง แต่ขอเพียงแค่กำหนดเป้าหมายเอาไว้ในใจ หินห้าประภาก็สามารถขว้างโดนได้
“ยอดเยี่ยม”
เขาโบกมือ หินห้าประภาก็ลอยกลับไปในมือของเขาทันที ความคิดที่จะเรียกใบหญ้าออกมาสลายหายไปทันที
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยใช้หินห้าประภามาก่อน ดังนั้นจึงไม่รู้ถึงพลังที่แท้จริงของหินห้าประภา และเกิดความไม่มั่นใจว่า หินห้าประภาจะสามารถขว้างใส่หน้าสุนัขสีดำได้หรือไม่
ดังนั้น เขาจึงได้ลอบเตรียมตัว หากหินห้าประภาไม่ได้ผล เขาก็จะใช้ใบหญ้า
“โฮ่ง!”
สุนัขสีดำส่งเสียงร้องออกมาอย่างกราดเกรี้ยว ใบหน้าเป็นรอยบุ๋มลงไปด้วยหินห้าประภา มันถูกต้อนจนอยู่ในสภาพจนมุมเช่นนี้ได้อย่างไร? มันไม่อยากจะเชื่อแม้แต่น้อย!
เมื่อหินห้าประภาปะทะเข้ากับใบหน้าของมัน มันไม่อาจหลบเลี่ยงได้ ถึงขั้นไม่อาจสัมผัสได้เสียด้วยซ้ำ เรื่องนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้กับมันที่เดินมาถึงขอบเขตสูงล้ำเช่นนี้
เรื่องเช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้น!
มันตระหนักขึ้นมาได้โดยพลันว่ามนุษย์ที่อยู่เบื้องหน้า แข็งแกร่งกว่าที่มันคิดเอาไว้มาก
ไม่เช่นนั้นคงจะทำเช่นนี้ไม่ได้!
“เจ้าจะต้องตาย! ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเจ้าได้!”
ดวงตาของมันกลายเป็นสีแดงก่ำ เสียงที่เปล่งออกมาผิดเพี้ยนเป็นอย่างมาก บนร่างของมันมีขนพิศวงงอกออกมาอย่างรวดเร็ว ปกคลุมขนสุนัขสีดำดั้งเดิมของมัน
ลมหายใจอันน่าสยดสยองแผ่กระจายออกไป ราวกับว่าวันโลกาวินาศได้มาถึง ม่านหมอกแห่งความตายปกคลุมจิตใจของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในเมือง อารมณ์ด้านลบทุกอย่างระเบิดออกมา มีทั้งเศร้า เจ็บปวด หม่นหมอง และโทสะเป็นต้น
‘พลังพิศวง!’
ดวงตาของกิเลนไฟเบิกกว้างจนแถบจะถลนออกมา มันตะโกนเสียงดังภายในใจ
ถึงตอนนี้มันไม่สงสัยอีกต่อไป มั่นใจแล้วว่าสุนัขสีดำที่อยู่เบื้องหน้าคือราชันสุนัขจากแดนบรรพโกลาหล!
ส่วนสาเหตุที่ราชันสุนัขมีนิสัยเปลี่ยนไปอย่างมาก ตอนนี้มันเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว!
ที่แท้ราชันสุนัขก็ติดเชื้อจากพลังพิศวง!
ไม่น่าแปลกใจเลยที่นิสัยของราชันสุนัขจะแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก ถึงกับให้ท้ายส่งเสริมพญางูปา ไม่สนใจการกดขี่ข่มเหงที่สามารถพบได้ทุกหนแห่งในเมือง!
หลังจากติดเชื้อพลังพิศวงแล้ว ความดำมืดภายในจิตใจจะถูกดึงดูดออกมา จากนั้นก็จะค่อย ๆ ถูกกัดกินจนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตพิศวง ไม่ใช่ตัวตนเดิมอย่างสิ้นเชิง
‘ราชันสุนัขต้องไปสมรภูมิมาอย่างแน่นอน!’
มันคิดขึ้นในใจ ไม่เชื่อสักนิดว่าราชันสุนัขจะแปรพักตร์ไปอยู่ฝั่งความพิศวง จะต้องเป็นราชันสุนัขที่เข้าสู่สมรภูมิและทำการต่อสู้กับความพิศวงจนติดเชื้ออย่างแน่นอน!
ความจริงแล้ว สิ่งที่มันคิดไม่ได้ผิด ในช่วงที่ผ่านมา สิ่งมีชีวิตพิศวงเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทำให้การสู้รบดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด ยอดฝีมือจำนวนมากในแดนบรรพโกลาหลถูกเรียกตัวเข้าไปยังสมรภูมิ
ราชันสุนัขเองก็ไปที่นั่น ทั้งยังยืนหยัดต่อสู้ในแนวหน้า มุ่งสังหารสิ่งมีชีวิตพิศวง
มันดุดันเป็นอย่างยิ่ง สังหารยอดฝีมือฝั่งความพิศวงไปมากมาย จนดึงดูดความสนใจจากฝั่งความพิศวงเข้า
ด้วยเหตุนี้ บรรพจารย์ความพิศวงจึงได้ลงมือกับราชันสุนัขเป็นการส่วนตัว ทำให้ราชันสุนัขถูกความพิศวงแพร่เข้าใส่
เดิมทีจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นกับราชันสุนัข
เมื่อบรรพจารย์พิศวงผู้นั้นพุ่งตรงเข้ามาหามัน มันก็เลือกที่จะล่าถอย อย่างไรเสียความแตกต่างของพลังก็มีมากเกินไป มันไม่สามารถต่อกรกับบรรพจารย์พิศวงได้
ทว่าขณะที่มันกำลังล่าถอย กลับถูกลอบแว้งกัด!
บรรพจารย์เฝยอี๋ลงมือบังคับส่งมันไปหาบรรพจารย์พิศวง!
มันเกือบจะตาย แต่ยังดีที่บรรพจารย์ก่วงหลิงลงมือช่วยเหลือเอาไว้ได้ทันเวลา ทำให้มันไม่ต้องตายตกลงในน้ำมือของบรรพจารย์พิศวง
ทว่ามันก็ยังติดเชื้อพลังพิศวงจำนวนไม่น้อยมาจากอาการบาดเจ็บ
มันถึงถอนตัวออกจากสมรภูมิ กลับไปยังแดนบรรพโกลาหล เดิมทีมันต้องการจะหาสถานที่เพื่อกำจัดพลังพิศวงในร่างกายทิ้งเสีย
แต่ผู้ใดจะคาดคิดกันว่า มันจะบังเอิญพบเข้ากับรอยแยก ก่อนตกลงมายังอาณาจักรแห่งนี้
อีกทั้งมันยังประเมินพลังพิศวงต่ำเกินไป มันไม่สามารถกำจัดพลังพิศวงเหล่านี้ออกไปได้ นิสัยจึงแปรเปลี่ยนไปอย่างมากเพราะพลังพิศวงเหล่านี้
ยามนี้มันถูกหลี่จิ่วเต้าทำให้โกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด ภายในใจเต็มไปด้วยจิตสังหาร มันได้ละทิ้งจิตใจที่ต่อต้านไปอย่างสิ้นเชิง เปิดรับพลังพิศวงเข้ามาอย่างเต็มที่!
“ฆ่า!”
ราชันสุนัขกู่ร้องออกมา ตัวมันในตอนนี้ไม่ใช่มันอีกต่อไป ความคิดเดียวที่มีอยู่คือการฆ่าเท่านั้น!