ทุกคนล้วนคิดว่าฉู่ขวงจะยอมจำนนและขอโทษแต่โดยดี
และคลังหนังสือซิลเวอร์บลูจะยอมลบข้อความ
แฟนคลับบรรพกาลจำนวนมากโน้มน้าวแกมบีบบังคับชาวเน็ตและผู้ซึ่งผ่านไปมาจำนวนมาก ก่อให้เกิดความกดดันมหาศาลของความเห็นสาธารณะ!
นี่ไม่ใช่พลังซึ่งคนคนหนึ่งหรือบริษัทสักแห่งหนึ่งจะต้านทานได้!
ทว่าไม่มีใครคาดคิด!
ว่าพวกเขาเลือกที่จะต้านทานจนวินาทีสุดท้าย!
ฉู่ขวงไม่ยอมถอย คลังหนังสือซิลเวอร์บลูก็ไม่ยอมถอย!
พวกเขาไม่เพียงไม่ยอมถอย หนำซ้ำยังเลือกเผยแพร่ผลงานล่วงหน้า!
แฟนคลับบรรพกาลต่างหัวเสียกันถ้วนหน้า!
ประธานสมาคมวิจัยบรรพกาลซึ่งมีชื่อว่าจินเผย เป็นขาใหญ่คนหนึ่งในแวดวงวัฒนธรรม ออกแถลงด้วยความเดือดดาล
“ดื้อรั้นเหลือเกิน ผมขอประกาศคว่ำบาตรบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ในนามส่วนตัวและในนามสมาคมวิจัยบรรพกาล จะให้ใครมาสบประมาทและดูหมิ่นผลงานโบราณชิ้นเอกนี้ไม่ได้!”
ไม่นาน
ในสมาคมวิจัยบรรพกาล
บุคลากรในแวดวงวัฒนธรรมคนอื่นๆ ซึ่งนำโดยจินเผย ต่างออกมาส่งเสียง เรียกร้องให้แฟนคลับบรรพกาลคว่ำบาตรบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ!
เรื่องราวบานปลายมาถึงขั้นนี้ แทบไม่มีวี่แววว่าจะยุติลง
คลังหนังสือซิลเวอร์บลูและฉู่ขวงทำให้ทั้งวงการต้องตกตะลึง ไม่มีใครเข้าใจพวกเขา
‘วู่วามไปหรือเปล่า…’
‘แค่ขอโทษ แล้วพูดปลอบใจไปก็จบ’
‘ถึงยังไงก็เป็นแค่ข้อความโปรโมต’
‘จำนวนแฟนคลับบรรพกาลเยอะจนน่ากลัว ถ้าคนกลุ่มนี้คว่ำบาตรบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ จะส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่ออิทธิพลของหนังสือเรื่องนี้’
‘เรื่องนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อตัวฉู่ขวง’
‘นิยายเรื่องนี้เผยแพร่ล่วงหน้าออกมา จะต้องถูกนำมาเปรียบเทียบกับบรรพกาลอย่างแน่นอน จะไหวหรือ?’
‘คนเขาใช้ภาษาโบราณเขียน ในแง่ของคุณค่าทางวรรณกรรม ลำพังแค่ปริมาณของบทกวี ก็ไม่ใช่สิ่งที่นิยายแฟนตาซีทั่วไปจะเปรียบเทียบได้แล้ว’
‘แฟนคลับบรรพกาลวางก้ามก็เรื่องหนึ่ง แต่พวกเขาก็มีคุณสมบัติมากพอให้วางก้ามจริงๆ ’
‘…’
อิทธิพลของฉู่ขวงน่ากลัวก็จริง!
ทว่าในครั้งนี้ คู่แข่งของฉู่ขวงไม่ใช่นักเขียนสักคนหนึ่ง!
คู่แข่งของฉู่ขวง คือวัฒนธรรมเรื่องบรรพกาลซึ่งพัฒนามานับร้อยปี!
แวดวงนิยายสืบสวนสอบสวน มีผลงานขายดีติดอันดับมากมาย
แต่เนื่องจากเหตุผลด้านยุคสมัยและระยะเวลาในการพัฒนา จึงยังไม่ก่อเกิดเป็นวงวัฒนธรรมของตนเอง
ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงบรรดาผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการซึ่งศึกษาวิจัยผลงานของพวกเขา…
ลำพังจุดนี้ บรรพกาลจึงไม่ใช่คู่แข่งที่นักเขียนหนังสือขายดีทั่วไปจะเผชิญหน้าได้ง่ายๆ !
ถึงขั้นที่มีคนสงสัยว่าภายใต้แรงกดดันจากบรรดาขาใหญ่ในแวดวงวัฒนธรรมประดังมาพร้อมกัน บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศอาจถูกระงับการเผยแพร่
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้หลายคนรู้สึกประหลาดใจก็คือ
ทางสมาคมวรรณศิลป์ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยแสดงจุดยืนใด ประหนึ่งไม่ได้รับรู้ความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในแวดวงนิยายขณะนี้…
ท่าทีที่คลุมเครือเช่นนี้ ทำให้ใครหลายคนไม่เข้าใจ
ตามหลักแล้ว สมาคมวรรณศิลป์ควรลุกขึ้นยืนตั้งแต่แรก
จนกระทั่งเย็นวันนี้
ในที่สุดสมาคมวรรณศิลป์ส่งเสียงออกมา
ทว่าการส่งเสียงในครั้งนี้ของสมาคมวรรณศิลป์ กลับทำให้หลายคนต้องตกตะลึง
‘การแข่งขันในโลกศิลปะและวัฒนธรรม แต่ไหนแต่ไรมาล้วนตัดสินด้วยผลงาน การเอะอะโวยวายล่วงหน้าย่อมไร้ความหมาย แฟนบรรพกาลทั้งหลายโปรดยุติการร้องเรียนเรื่องการบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศในทันที นิยายเรื่องนี้ไม่ได้ฝ่าฝืนกฎระเบียบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ทั้งนี้ขอให้แฟนคลับผู้สนับสนุนฉู่ขวง โปรดอย่าเสียเวลาบนโลกออนไลน์ ผลงานใหม่ของฉู่ขวงจะได้รับการเผยแพร่ในวันพรุ่งนี้ ทุกท่านรอติดตามแล้วจะรู้เอง’
ตัดสินด้วยผลงาน?
พรุ่งนี้จะรู้เอง?
ในที่สุดก็มีคนได้กลิ่นไม่ชอบมาพากล
‘แม่เจ้าโว้ย!’
‘สมาคมวรรณศิลป์ต้องการให้บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศขึ้นสู้บนสังเวียนเดียวกับบรรพกาล!?’
‘นี่คือให้ฉู่ขวงประชันวรรณกรรมกับบรรพกาล?’
‘นี่มัน…’
‘แข่งได้หรือ?’
‘จะเอาอะไรไปแข่ง?’
‘แบบนี้ไม่ได้ช่วยอะไรเลย จะให้บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศสู้กับบรรพกาล?’
‘…’
จบเห่แล้ว ฉู่ขวงพังไม่เป็นท่า!
ถึงแม้สมาคมวรรณศิลป์ไม่ได้ช่วยเหลือ ถึงขั้นที่กล่าวตำหนิพฤติกรรมซึ่งแฟนคลับบรรพกาลร้องเรียนเรื่องบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศโดยไร้เหตุผล แต่กลับปล่อยให้หนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงไปประชันวรรณกรรมกับนิยายชุดบรรพกาลซึ่งก่อกำเนิดปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมมาช้านานเนี่ยนะ?
จะสำเร็จได้อย่างไรกัน?
ขณะเดียวกัน
แฟนคลับบรรพกาลกลับยิ่งกระหยิ่มใจ!
นี่คือการทุ่มก้อนหินลงบนเท้าตนเอง!
บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศของคุณอ้างตนว่าเทียบได้กับบรรพกาลไม่ใช่หรือไง!
งั้นพรุ่งนี้มาดูกัน ว่าบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจะเทียบกับบรรพกาลได้อย่างไร!
……
ในขณะนั้น
ทั้งอินเทอร์เน็ตเงียบลงฉับพลัน
การออกหน้าของสมาคมวรรณศิลป์ราวกับทำให้คลื่นลมสงบลงได้โดยสมบูรณ์
แต่ว่า
ทุกคนต่างรู้ดี!
พายุฝนกำลังจะมา!
เมื่อบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พายุลูกใหญ่จะโหมซัด แฟนคลับบรรพกาลจะพยายามยกผลงานสองเรื่องนี้ขึ้นมาเปรียบเทียบกันอย่างแน่นอน!
ทว่าบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจะแข่งขันกับนิยายชุดบรรพกาลได้อย่างไร
นิยายสามสี่เรื่องก่อนหน้านี้ของฉู่ขวง ล้วนไม่มีคุณสมบัติมากพอ
ลำพังความเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและคุณค่าทางศิลปะเพียงอย่างเดียว ก็ถูกบรรพกาลเหยียบจมดินแล้ว…
และภายใต้ความสงบซึ่งไม่อาจคาดเดาอนาคตได้นี้เอง
ในที่สุดเวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่วันต่อมา
เช้าวันนี้ แฟนคลับของฉู่ขวงจำนวนมากต่างรีบไปยังร้านหนังสือเพื่อซื้อบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
จำนวนแฟนคลับของฉู่ขวงยังคงน่าสะพรึงกลัว
และนี่คือช่วงเวลาที่ฉู่ขวงต้องการแรงสนับสนุนมากที่สุด
ดังนั้นหลายคนจึงซื้อบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศโดยไม่ต้องคิด เพื่อแสดงการสนับสนุนต่อฉู่ขวง!
ในร้านหนังสือ
ทันทีที่ซื้อหนังสือเรื่องนี้ บางคนพลิกอ่านดู ทันใดนั้นดวงตาก็พลันเบิกกว้าง…
นิยายเรื่องนี้ มีถึงสองเวอร์ชัน!
เวอร์ชันปัจจุบัน!
และเวอร์ชันภาษาโบราณ!
ถ้าจำไม่ผิดละก็ บรรพกาลก็เขียนด้วยภาษาโบราณ
แน่นอนว่าวรรณกรรมซึ่งสืบทอดมาแต่สมัยโบราณคือฉบับภาษาโบราณ เนื้อหาเต็มไปด้วยลำนำและบทกวี
นวนิยายในยุคสมัยนั้นล้วนให้ความสำคัญกับเรื่องราว ขณะเดียวกันก็บากบั่นแสวงหาความเป็นศิลปะและวัฒนธรรม
ทว่าฉู่ขวงเป็นคนสมัยใหม่ แต่กลับเขียนบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศฉบับภาษาโบราณ?
ต้องมั่นใจในระดับภาษาของตัวเองถึงขั้นไหนกัน
‘เชี่ยย!’
‘เวอร์ชันภาษาโบราณ!’
‘แบบนี้คือเทียบกับบรรพกาลได้จริงๆ แล้ว!’
‘ก่อนหน้านี้ฉันยังคิดว่า นิยายสมัยใหม่จะไปเปรียบเทียบกับผลงานที่ตกทอดมาตั้งแต่ยุคโบราณได้ยังไง ไม่มีทางเทียบกันได้หรอก แต่พอมีเวอร์ชันภาษาโบราณ ทีนี้ก็สถานการณ์ก็ต่างออกไปแล้ว!’
‘แม่เจ้าโว้ย!’
‘ฉบับภาษาโบราณ ผมอ่านไม่รู้เรื่องเลย’
‘ไหนขออ่านหน่อย…อห ฉันก็อ่านไม่รู้เรื่อง!’
‘มีใครอ่านรู้เรื่องบ้าง ช่วยดูหน่อยว่าเวอร์ชันภาษาโบราณอยู่ระดับไหน’
‘คนธรรมดาอย่างเราๆ วิเคราะห์ไม่ออกหรอก เห็นชัดๆ ว่าเวอร์ชันภาษาโบราณเอาไว้ให้ตัวท็อปในโลกวรรณกรรมอ่าน!’
‘ฉันขอกลับไปอ่านเวอร์ชันสมัยใหม่แต่โดยดี…’
‘รอผู้รู้ลุกขึ้นมาบอกพวกเราว่าเวอร์ชันภาษาโบราณอยู่ระดับไหน’
‘ที่จริงฉบับภาษาโบราณไม่ใช่อ่านไม่รู้เรื่องเสียทั้งหมด ถ้าไม่อ่านพวกบทกวีหรือเพลงในนั้น ส่วนเนื้อเรื่องก็ไม่มีปัญหานะ’
‘ส่วนของเนื้อเรื่องค่อนข้างเป็นภาษาปัจจุบันอยู่’
‘แต่ผมสบายใจกับการอ่านเวอร์ชันสมัยใหม่มากกว่า ตั้งแต่โครงสร้างและลีลาในการเขียนล้วนอ่านสบาย ฝีมือของฉู่ขวงไม่มีอะไรต้องอวยแล้ว’
‘…’
แม้ว่าทุกคน จะเปิดอ่านบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศฉบับภาษาโบราณ ก็ยังมีบางคนที่งุนงง
ต่อให้อ่านออก ก็ยากที่จะนำมาเปรียบเทียบบรรพกาล และแยกแยะได้ในเวลาอันสั้น
อย่างไรก็ตาม หลายคนยังคงซื้อติดมือมาทั้งสองฉบับ
อีกด้านหนึ่ง
ขาใหญ่หลายคนในแวดวงศิลปะวัฒนธรรมติดตามเรื่องนี้ก็ซึ่งบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศซึ่งเพิ่งวางแผงเช่นเดียวกัน
……
ในกลุ่มแลกเปลี่ยนด้านวรรณกรรมสักกลุ่มหนึ่ง
ถูกต้องแล้ว
นี่คือกลุ่มของบรรดาขาใหญ่ซึ่งเคยแสดงทัศนะเชิงลึกด้านวัฒนธรรม ครั้นเพลงขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์ปล่อยออกมา
ขอแนะนำอีกสักรอบ
สมาชิกทุกคนในกลุ่มนี้โดยพื้นฐานแล้วเป็นบุคคลสำคัญในโลกวรรณกรรม และยังมีบุคคลสำคัญบางคนในโลกวัฒนธรรมที่สามารถเขียนหนังสือร่วมสมัยได้
คนกลุ่มนี้ก็ตื่นตระหนกกับความปั่นป่วนระหว่างของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศและบรรพกาล
ขณะที่อ่านหนังสือ สมาชิกในกลุ่มมีการถกเถียงกันบ้าง
‘เสี่ยวหลี่จื่อจะให้ฉันอ่านบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศให้ได้ บอกว่าให้ฉันประเมินหน่อยว่าหนังสือเรื่องนี้เทียบกับบรรพกาลแล้ว เรื่องไหนดีกว่ากัน’
‘ครั้งนี้เสี่ยวหลี่จื่ออวยหนักมาก’
‘เสี่ยวหลี่จื่อก็ส่งเรื่องนี้ให้ฉันเหมือนกัน เขาในฐานะคนในสมาคมวรรณศิลป์ ถ้ายกย่องนิยายเรื่องหนึ่งได้ขนาดนี้ ฉันเองก็ชักจะสนใจบ้างแล้ว’
‘นิยายชุดบรรพกาลถึงจะมีข้อบกพร่อง แต่โดยรวมแล้วนับว่ายอดเยี่ยมมาก’
‘ใช่ ไม่นับว่าเป็นวรรณกรรมชิ้นเอก แต่คุณค่าด้านวรรณกรรมไม่นับว่าต่ำ’
‘ดูเหมือนว่าเสี่ยวหลี่จื่อน่าจะส่งเรื่องบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศให้พวกเราทุกคน น่าสนใจ’
‘…’
หลังจากสนทนาสักพัก ในกลุ่มก็เงียบลง
เห็นได้ชัด
ว่าต่างคนต่างแยกย้ายกันไปอ่านหนังสือ
ไม่เพียงในกลุ่มนี้
บนโลกออนไลน์ก็เงียบไปเช่นกัน
เบื้องหลังของความเงียบงันนี้ กลับมีบางอย่างพร้อมเคลื่อนไหว…
หลินเยวียนไม่ได้อ่านหนังสือ
นิยายเผยแพร่ไปแล้ว ทว่าการเผยแพร่บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศฉบับนิยายนั้น เป็นเพียงการเริ่มต้นสำหรับหลินเยวียน
แต่ไม่ใช่บรรพกาลจะถูกมองเป็นคู่แข่ง
หลินเยวียนเพียงแต่คิดว่าตนมีความรับผิดชอบและภาระผูกพันในการพัฒนาวัฒนธรรมของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
โลกที่มีเพียงวัฒนธรรมของบรรพกาลคงจะเงียบเหงาและน่าเบื่อเกินไปหน่อย
ภาพยนตร์…
อนิเมชัน…
โดจิน…
สปินออฟ…
สิ่งที่นิยายชุดบรรพกาลมี บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศก็มีเช่นกัน
แต่สิ่งที่นิยายชุดบรรพกาลไม่มี บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศมี!
ขณะนั้น
หลินเยวียนเลือกที่จะเริ่มต้นการเดินทางในครั้งนี้ด้วยบทเพลง
เพลงนี้ เขาร้องด้วยตัวเอง
และเพลงนี้มีชื่อเพลงว่า ‘หงอคง’
เขาจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้วัฒนธรรมของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ได้รับความนิยมมากที่สุด
ด้วยเหตุนี้เอง หลินเยวียนจึงไม่รีรอที่จะหยิบยืมอิทธิพลจากความร่วมมือของตัวตนทั้งสาม
จนกระทั่งช่วงเย็น
เขาจึงบันทึกเพลง ‘หงอคง’ สำเร็จ
หลินเยวียนไม่ได้รีบร้อนปล่อยในทันที เขารอดูความเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์ก่อน
น่าจะมีความเคลื่อนไหวแล้วนะ…
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อ่านเร็ว
บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศซึ่งมีเจ็ดถึงแปดแสนตัวอักษร น่าจะอ่านจบภายในหนึ่งวัน
ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าหลินเยวียนมีทักษะด้านการคำนวณเวลาที่ดี
เมื่อเขากดเข้าอินเทอร์เน็ต หลายคนก็อ่านบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจบพอดี
แม้ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับความคึกคักก่อนหน้าสงครามระหว่างแฟนคลับฉู่ขวงและแฟนคลับบรรพกาลแล้ว โลกออนไลน์ในเวลานี้เงียบกริบประหนึ่งผืนทะเลสงบนิ่ง ประหนึ่งผิวน้ำท่ามกลางแสงอาทิตย์สาดส่อง
ทุกอย่างเงียบสงบ
แต่กลับมีพายุตั้งเค้ามาแต่ไกล
ในที่สุด!
ก็มีคนทำลายความเงียบสงัด!
ผู้ที่ทำลายความเงียบสงัดนี้ ก็คือประธานคนก่อนของสมาคมวรรณศิลป์!
แม้ว่าเขาจะเกษียณแล้ว แต่เขายังคงเป็นชายชราซึ่งมีอิทธิพลและเป็นที่นับหน้าถือตาอย่างมากในโลกวัฒนธรรม!
‘ผมอ่านบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศโดยไม่อาจละลายตาจากหนังสือ ตกเย็นดวงตาของผมพร่ามัว ไม่สามารถทนต่อการอ่านเป็นเวลานานได้อีก จึงขอให้ภรรยาอ่านสามสี่บทสุดท้ายให้ฟัง ทว่าผ่านไปนานในใจกลับไม่สงบสงสักที ผมมีความรู้สึกสามประการอยากแบ่งปันกับทุกคน ประการแรก เทพปกรณัมขนานแท้ซึ่งโลกวัฒนธรรมบลูสตาร์เฝ้ารอมานานหลายร้อยปีถือกำเนิดขึ้นในที่สุด ผมจะรอคอยวันที่มันผลิดอกออกผล ประการที่สอง เจ้าฉีเทียนต้าเซิ่ง เจ้าวานรจอมดื้อรั้นคือผู้ทำลายประตูวังสวรรค์อย่างแท้จริง ประการที่สาม บรรพกาลคือผลงานคลาสสิกซึ่งได้ก้าวเข้าสู่ห้องบรรทม[1] แต่บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเป็นทั้งผลงานชิ้นเอกร่วมสมัย และเป็นหอเกียรติยศแห่งเทพปกรณัม’
ในวันนี้
เมฆและสายลมปรวนแปร
กระบองทองปลุกคลื่นลูกใหญ่
ฉีเทียนต้าเซิ่งถล่มวังสวรรค์
ท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้คนนับไม่ถ้วน มวลพายุซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนได้เริ่มต้นเปิดฉากขึ้น
[1] ก้าวเข้าสู่ห้องบรรทม หมายถึงได้รับคัดเลือก เข้าตา หรือเตะตา เปรียบเปรยกับการที่จักรพรรดิเลือกเข้าบรรทมในห้องของสนมในสมัยก่อน