รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 762 ท้องฟ้าพร่างพราวด้วยแสงดาว ใครบางคนยุ่งกับของของข้า!?

บทที่ 762 ท้องฟ้าพร่างพราวด้วยแสงดาว ใครบางคนยุ่งกับของของข้า!?

บท​ที่​ 762 ท้องฟ้า​พร่างพราว​ด้วย​แสงดาว​ ใคร​บางคน​ยุ่ง​กับ​ของ​ของ​ข้า​!?

ท้องฟ้า​สีคราม​ ก้อน​เมฆสีขาว​ มหาสมุทร​เรียบ​นิ่ง​ไร้​คลื่น​ ไม่นาน​นัก​ บรรพ​จารย์ฝู​ก็​มาอยู่​บน​เกาะ​แห่ง​หนึ่ง​

เขา​รอบคอบ​มาก​ มิได้​วางมาด​เสมือน​ผู้​สูงส่งแต่อย่างใด​ หาก​แต่​ตั้งใจ​ทำที​นอบน้อม​ เมื่อ​เข้าใกล้​เกาะ​แล้วก็​รีบ​ลงมา​เดินเท้า​เพื่อ​ขึ้น​เกาะ​ เป็นการ​แสดงถึง​ความเคารพ​ที่​มีต่อยอด​ฝีมือ​ท่าน​นั้น​

“ไม่รู้​ว่า​ท่าน​ผู้​นั้น​ยังอยู่​ที่นี่​หรือไม่​…”

เขา​คิดในใจ​ มิสู้จะมั่นใจ​เท่าใด​ แม้ว่า​พลัง​ปราณ​นั้น​มีจุดกำเนิด​จาก​ที่นี่​ ทว่า​เจ้าของ​พลัง​ปราณ​นั้น​อาจ​ผ่าน​มาที่นี่​เพียง​ครู่เดียว​แล้วไป​จาก​ก็ได้​

“ท่าน​อาวุโส​อยู่​หรือไม่​ ข้าน้อย​ฝูไห่​เดินทาง​มาเยี่ยมเยียน​!”

เขา​เอ่ย​เสียง​นบนอบ​ รอคอย​เสียง​ตอบรับ​จาก​ท่าน​ผู้​นั้น​

แต่​รอ​อยู่​นาน​ก็​มิได้​คำตอบ​จาก​ท่าน​ผู้​นั้น​ นี่​ท่าน​ไป​เสียแล้ว​หรือ​

“ท่าน​อาวุโส​ ข้าน้อย​ฝูไห่​ตั้ง​ใจมาเยี่ยมเยียน​ด้วย​ความสัตย์จริง​!”

เขา​ไม่อยาก​ยอมแพ้​ จึงเอ่ย​ขึ้น​อีกครั้ง​ รู้สึก​ว่า​ท่าน​ผู้​นั้น​ยัง​ไม่ไป​ไหน​ เพียงแต่​ไม่อยาก​พบ​เขา​เท่านั้น​

น่าเสียดาย​ที่​ไม่ได้รับ​การตอบรับ​แต่อย่างใด​

“ท่าน​อาวุโส​ ก่อน​นี้​ท่าน​เคย​จับ​สัมผัส​แสงลำ​หนึ่ง​ใช่หรือไม่​ ใน​นั้น​ยังมี​ใบ​หญ้า​ใบ​หนึ่ง​แฝงไว้​! ข้าน้อย​มาคราวนี้​โดย​นำ​หญ้า​ต้น​นั้น​มาให้​! หวัง​ว่า​จะได้​พบ​หน้า​ท่าน​อาวุโส​!”

เขา​เอ่ย​ขึ้น​อีกครั้ง​

พริบตา​ที่​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ตวัด​ใบ​หญ้า​ออก​เป็น​กระบี่​ พลานุภาพ​กล้าแกร่ง​ปาน​นั้น​ เขา​เชื่อ​ว่า​ท่าน​ผู้​นั้น​ย่อม​สัมผัส​ได้​

ตาม​คาด​ เขา​คิด​ไม่ผิด​ ท่าน​ผู้​นั้น​ยัง​ไม่ไป​จริง ๆ​ ยังอยู่​ที่นี่​และ​ให้​การตอบรับ​เขา​

“หืม​ ก่อน​นี้​ข้า​นอน​อยู่​ ไม่ทันสังเกต​ว่า​มีแขก​ ฮ่า ๆ อาวุโส​อะไร​กัน​เล่า​ ข้า​หา​ได้แก่​ปาน​นั้น​ไม่ ใน​เมื่อ​มาแล้ว​ย่อม​คือ​แขก​ เข้ามา​เถิด​สหาย​”

เสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​บน​เกาะ​ จากนั้น​ ประตู​แสงบาน​หนึ่ง​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​เบื้องหน้า​บรรพ​จารย์ฝู​ ภายใน​เป็น​โลก​ใบ​เล็ก​ที่​มีสิ่งแวดล้อม​ยอดเยี่ยม​

นอน​หรือ​

หลอก​ผู้ใด​กัน​!

บรรพ​จารย์ฝู​บ่น​อุบ​ใน​ใจ ตัวตน​ระดับ​นี้​ต่อให้​หลับ​อยู่​จริง ๆ​ ก็​ไม่มีทาง​ไม่รับรู้​อัน​ใด​หลังเขา​มาที่นี่​

เห็นได้ชัด​ว่า​ไม่อยาก​สนใจ​เขา​

ต่อมา​ได้ยิน​ว่า​เขา​นำ​หญ้า​ต้น​นั้น​มาด้วย​ ถึงได้​ต้องการ​พบ​หน้า​เขา​

ท่าน​ผู้​นั้น​ก็​เคย​สัมผัส​กระบี่​นั้น​ได้​เห็น​ ๆ รู้​ว่า​ใบ​หญ้า​ใบ​นั้น​น่าทึ่ง​เพียงใด​

จากนั้น​ เขา​เดิน​เข้าไป​ใน​ประตู​แสง เข้าไป​ถึงโลก​ใบ​เล็ก​ด้านใน​

ที่นี่​มหัศจรรย์​อย่าง​แท้จริง​ กฎ​แห่ง​โกลาหล​ไหลเวียน​อยู่​ทั่ว​ทุกที่​ บรรพ​จารย์ฝู​สะท้อนใจ​ หาก​เขา​ได้​อยู่​ใน​โลก​ใบ​เล็ก​นี้​ ด้วย​พลัง​จาก​กฎ​แห่ง​โกลาหล​เหล่านี้​ เขา​จะบรรลุ​สู่ขอบเขต​โกลาหล​ได้​แน่​!

ท่าน​ผู้​นั้น​เป็นยอด​ฝีมือ​จาก​แดน​บรรพ​โกลาหล​จริง ๆ​!

มิฉะนั้น​ ที่นี่​คง​ไม่มีกฎ​แห่ง​โกลาหล​ที่​เข้มข้น​อุดมสมบูรณ์​ถึงเพียงนี้​

แม้ว่า​เขา​จะไม่เคย​สัมผัส​กับ​กฎ​แห่ง​โกลาหล​มาก่อน​ แต่​ก็​รับรู้​ได้​ว่า​กฎระเบียบ​นี้​เหนือกว่า​กฎ​วิถี​เซียน​ของ​เขา​มาก​

เหนือ​กฎ​วิถี​เซียน​ขึ้นไป​คือ​สิ่งใด​ ย่อม​ต้อง​เป็น​กฎ​แห่ง​โกลาหล​

“มาแล้ว​หรือ​สหาย​? ฮ่า ๆ มาสนทนา​กัน​ด้าน​นี้​”

เสียง​นั้น​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​ จากนั้น​ ภาพ​เหตุการณ์​สับเปลี่ยน​ไปมา​ใน​สายตา​บรรพ​จารย์ฝู​ เขา​มาถึงศาลา​แห่ง​หนึ่ง​

บรรพ​จารย์ฝู​ได้​พบ​กับ​ท่าน​ผู้​นั้น​!

อย่าง​ที่​คิด​ ท่าน​ผู้​นั้น​ดู​อายุ​ไม่มาก​นัก​ ราว ๆ​ วัยกลางคน​ สวม​อาภรณ์​นักพรต​ มือถือ​พัด​พับ​ ท่าทาง​สง่าสุภาพ​เป็น​ที่สุด​

“ท่าน​อาวุโส​!”

บรรพ​จารย์ฝู​รีบ​คำนับ​ท่าน​ผู้​นั้น​

“ไม่ต้อง​เกรงใจ​ ข้า​บอก​แล้ว​มิใช่หรือ​ ใน​เมื่อ​มาแล้ว​ย่อม​คือ​แขก​ เจ้าไม่จำเป็นต้อง​เกรง​ เรียกขาน​กัน​เป็น​สหาย​ก็​พอ​”

ท่าน​ผู้​นั้น​คลี่​ยิ้ม​ มิได้​วางมาด​อัน​ใด​ เป็นกันเอง​เหลือแสน​

บรรพ​จารย์ฝู​คิดไม่ถึง​จริง ๆ​ นึกในใจ​ว่า​ผู้​ที่​มาจาก​แดน​บรรพ​โกลาหล​นั้น​ระ​ดับจิต​ใจสูงยิ่งนัก​ ก่อน​นี้​เขา​คิด​ว่า​ท่าน​ผู้​นั้น​จะเข้าถึง​ยาก​ ไม่เห็น​ตัว​ละครเล็ก​เยี่ยง​เขา​อยู่​ใน​สายตา​ ทว่า​แท้จริง​แล้ว​มิใช่เลย​ ท่าน​ผู้​นั้น​ปฏิบัติ​ต่อ​เขา​ดีมาก​

“ข้า​ไฉน​เลย​จะกล้า​เรียกขาน​ท่าน​เป็น​สหาย​! หาก​ท่าน​ไม่รังเกียจ​ ข้า​ขอ​เรียก​ท่าน​ว่า​พี่ใหญ่​ได้​หรือไม่​!”

บรรพ​จารย์ฝู​กล่าว​ กล้า​เรียก​สหาย​จริง ๆ​ ที่ไหน​ เขา​มิได้​โง่เง่าเช่นนั้น​

“ได้​…พี่ใหญ่​ก็ได้​”

ชาย​วัยกลางคน​หัวเราะ​ “เชิญนั่ง​เถิด​ ลิ้มรส​ชาเสียหน่อย​ นี่​คือ​น้ำค้าง​หยก​ปรานี​ เป็น​ใบชา​ที่​หา​ได้​ยาก​ยิ่ง​ ข้า​เอง​ก็​เหนื่อย​แทบ​แย่​กว่า​จะได้มา​จำนวน​หนึ่ง​ ใช้รับรอง​แขก​อัน​ทรงเกียรติ​เท่านั้น​”

มารยาท​งามปานนี้​เลย​หรือ​!?

บรรพ​จารย์ฝู​อึ้ง​กับ​ไมตรีจิต​นี้​ คิดไม่ถึง​เลย​จริง ๆ​!

เขา​นั่งลง​จิบ​ชาอึก​หนึ่ง​ แล้ว​ต้อง​ตะลึง​อยู่​ตรงนั้น​ สสาร​ที่​เจือ​อยู่​ใน​ชานี้​ล้ำเลิศ​เกินไป​ หลัง​เข้า​ปาก​ไป​แล้ว​คำ​หนึ่ง​ เขา​รู้สึก​กระปรี้กระเปร่า​ไป​ทั้ง​ร่าง​ ได้​รับประโยชน์​เป็น​คูณ​ทวี​ใน​ทุก ๆ​ ด้าน​!

“ขอบคุณ​พี่ใหญ่​ที่​ต้อนรับ​เป็น​อย่าง​ดี​!”

บรรพ​จารย์ฝู​กล่าว​ขอบคุณ​เสียง​รัว​ เขา​คิดไม่ถึง​จริง ๆ​ ว่า​จะเป็นเกียรติ​ถึงเพียงนี้​ และ​ก็​เข้าใจ​ขึ้น​มาในเวลาเดียวกัน​ว่า​ หญ้า​ต้น​นั้น​ไม่ธรรมดา​แน่นอน​ มีภูมิหลัง​ยิ่งใหญ่​ มิฉะนั้น​ ชาย​วัยกลางคน​ผู้​นี้​ไฉน​เลย​จะรับรอง​เขา​ดี​เช่นนี้​

เป็นไปไม่ได้​เลย​

‘เจ้าล่อ​บ้องตื้น​ เจ้าตัว​มีตา​หา​มีแวว​ไม่ เจ้าทำให้​เจ้านาย​ของ​เจ้าพลาด​วาสนา​ครั้ง​ใหญ่​เพียงใด​ไป​รู้​บ้าง​หรือไม่​!’

เขา​นึก​ดูแคลน​ใน​ใจ เจ้าล่อ​บ้องตื้น​นั่น​ช่างไร้​สมอง​จริง ๆ​ ถึงกับ​คิด​ว่า​หญ้า​ที่​เขา​นำมา​ด้วย​เป็น​ของปลอม​ เขา​อยาก​หัวร่อ​นัก​

แต่ทว่า​ เขา​ต้อง​ขอบคุณ​ความ​โง่เขลา​ของ​ล่อ​ตัว​นี้​ หาก​มิใช่ว่า​ล่อ​ตัว​นี้​โง่พอ​ เขา​ไฉน​เลย​จะมีโอกาส​ได้​ข้องแวะ​กับ​ท่าน​ผู้​นี้​ แล้ว​ยัง​ได้​นั่ง​ดื่ม​ชากับ​ท่าน​ผู้​นี้​ ซ้ำยัง​เป็น​ชาอัน​ล้ำค่า​!

เขา​ไม่รู้สึก​ว่าการ​ยก​หญ้า​ต้น​นี้​ให้​ท่าน​ผู้​นั้น​เป็น​เรื่องใหญ่​อัน​ใด​ เพราะ​ปล่อยวาง​ได้​นาน​แล้ว​ ถึงเก็บ​หญ้า​ต้น​นี้​ไว้​ใน​มือ​ก็​เปล่าประโยชน์​ หาก​มิได้​บรรลุ​ขอบเขต​โกลาหล​ เขา​ไม่มีทาง​รู้เท่า​ถึงการณ์​ใน​ปรมัตถ์​ของ​หญ้า​ต้น​นี้​

และ​ลำพัง​ตัว​เขา​เอง​ เขา​แทบ​ไม่มีทาง​บรรลุ​ขอบเขต​โกลาหล​ได้​เลย​

แน่นอน​ว่า​ เรื่อง​จะเป็น​เช่นนั้น​ได้​คือ​แดน​บรรพ​โกลาหล​ยัง​ไม่ปรากฏ​ออกมา​

หาก​แดน​บรรพ​โกลาหล​ปรากฏ​ออกมา​แล้ว​ และ​เขา​ได้​เข้าไป​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ ก็​ย่อม​มีโอกาส​บรรลุ​ขอบเขต​โกลาหล​ขึ้น​มาก​

ทว่า​สถานการณ์​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​นั้น​ยัง​ไม่ชัดเจน​ เขา​มีหญ้า​วิเศษ​สูงส่งปานนี้​ไป​ก็​มิใช่เรื่อง​ดี​ เป็นไปได้​ว่า​อาจ​ถูก​ยอด​ฝีมือ​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​จับได้​ ถึงคราว​นั้น​ ไม่แน่​ว่า​เขา​จะยัง​รอด​อยู่​ได้​หรือไม่​

มนุษย์​นั้น​ไม่ผิด​ ผิดที่​ครอบครอง​สมบัติ​ เขา​เข้าใจ​เหตุผล​ข้อ​นี้​ดี​

อนาคต​นั้น​ไม่แน่นอน​ ซ้ำยัง​เต็มไปด้วย​อันตราย​ มิสู้ให้​เขา​นำ​หญ้า​ต้น​นี้​ออกมา​เสีย​ตอนนี้​เพื่อ​ได้​สาน​สัมพันธ์​กับ​ท่าน​ผู้​นี้​ เช่นนี้​จึงจะได้ประโยชน์​มากกว่า​

รอ​จน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ปรากฏ​แล้ว​ เขา​ยัง​สามารถ​ใช้สายสัมพันธ์​นี้​หา​ที่​พึ่งพิง​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ เช่นนี้​จะมีอนาคต​ที่​ดี​ยิ่งขึ้น​

และ​เท่าที่​เห็น​ใน​ตอนนี้​ เขา​ตัดสินใจ​ได้​ถูกต้อง​แล้ว​ ท่าน​ผู้​นี้​ดีมาก​ เป็น​คน​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​

“ไม่ต้อง​เกรงใจ​”

บรรพ​จารย์ฝู​มีท่าที​ถ่อมตน​กับ​คำขอบคุณ​ของ​อีก​ฝ่าย​

“ข้า​นำ​หญ้า​ต้น​นี้​มาก็​เพื่อ​มอบให้​พี่ใหญ่​ และ​หวัง​ว่า​จะได้​ติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​ท่าน​และ​เป็นกำลัง​ให้​ท่าน​!”

บรรพ​จารย์ฝู​ยิ้มแป้น​พะเน้าพะนอ​ นำ​หญ้า​ต้น​นั้น​ออกมา​ ก้ม​ศีรษะ​ยื่น​ให้​ชาย​วัยกลางคน​ด้วย​ความ​นอบน้อม​

ที่จริง​ เหตุผล​หลัก​ที่​เขา​ยอม​ยก​หญ้า​ต้น​นี้​ให้​เพราะ​เขา​ถูก​กิเลน​ไฟเล่นงาน​จน​อเนจอนาถ​ ไม่อาจ​กล้ำกลืน​ความ​คับแค้น​นี้​ได้​ และ​อยาก​แก้แค้น​โดยเร็ว​

ร่องรอย​ของ​แดน​บรรพ​โกลาหล​ที่​กำลังจะ​ปรากฏ​ออกมา​นั้น​ชัดเจน​แจ่มแจ้ง กระนั้น​ท้ายที่สุด​ก็​ยัง​ไม่แน่นอน​ หาก​แดน​บรรพ​โกลาหล​ไม่ปรากฏ​ออกมา​ หรือ​อาจ​ปรากฏ​ออกมา​หลัง​ผ่าน​ไป​แล้ว​อีก​นานแสนนาน​เล่า​

ใช่ว่า​เป็นไปไม่ได้​

“หญ้า​อะไร​เล่า​ กล่าว​เช่นนี้​เหมือนว่า​ข้า​ยอม​พบ​น้องชาย​เพราะ​หญ้า​ต้น​นี้​! ข้า​ขอ​บอก​น้องชาย​ให้​ชัดเจน​ มิใช่เพราะ​สาเหตุ​นั้น​เลย​ ข้า​รู้สึก​ว่า​ข้า​กับ​น้องชาย​ถูกชะตา​กัน​ ถึงได้​ยอม​พบ​น้องชาย​! เมื่อ​ได้​พบ​แล้วก็​เป็น​เช่นนั้น​จริง​ ถูกคอกัน​เป็น​ที่สุด​!”

ชาย​วัยกลางคน​โบกมือ​รัว​

ทว่า​ดวงตา​ทั้งสอง​ของ​เขา​จับจ้อง​อยู่​บน​หญ้า​ใน​มือ​บรรพ​จารย์ฝู​

สิ้น​ประโยค​ หน้าตา​ของ​เขา​พลัน​อึมครึม​ลง​ใน​บัดดล​

“ข้า​รู้​แน่นอน​ว่า​พี่ใหญ่​มิได้​พบ​ข้า​เพียง​เพราะ​หญ้า​ต้น​นี้​ แต่​เพราะ​วาสนา​ระหว่าง​เรา​สอง​พี่น้อง​! เรื่อง​นั้น​น้อง​เข้า​ใจดี​!”

บรรพ​จารย์ฝู​ก้มหน้า​ไว้​ตลอด​เพื่อ​แสดง​ความเคารพ​ต่อ​ชาย​วัยกลางคน​ ไม่ทัน​ได้​เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​ชาย​วัยกลางคน​มืดครึ้ม​จน​ฝน​ใกล้​ตก​ลงมา​แล้ว​

“พี่ใหญ่​หรือ​ คน​กักขฬะ​เช่น​เจ้ามีสิทธิ์​เรียก​ที่ไหน​กัน​!?”

ชาย​วัยกลางคน​ด่า​กราด​ด้วย​ความ​โกรธเกรี้ยว​ โมโห​จน​อก​แทบ​ระเบิด​

เจ้าบรรพ​จารย์ฝู​นี่​เลวทราม​นัก​ นำ​หญ้า​เส็งเคร็ง​ต้น​หนึ่ง​มาต้มตุ๋น​เขา​หรือ​!?

อะ​…อะไร​กัน​!?

บรรพ​จารย์ฝู​หน้าตา​มึนงง​ เกิด​อัน​ใด​ขึ้น​ ท่าน​เป็น​คน​บอก​ให้​เรียก​พี่ใหญ่​มิใช่หรือ​

เขา​นึก​ชอกช้ำ​ เหตุใด​ชาย​วัยกลางคน​ผู้​นี้​ถึงอารมณ์​รุนแรง​ปานนี้​ เปลี่ยน​อารมณ์​ไว​เสีย​ยิ่งกว่า​สตรี​! ก่อน​นี้​เขา​เรียก​ว่า​ท่าน​อาวุโส​ ชาย​วัยกลางคน​กลับ​ไม่ยอม​

บัดนี้​เขา​ยอม​เรียก​พี่ใหญ่​แล้ว​กลับ​ทำ​ท่าที​เช่นนี้​ใส่อีก​!

“ถ้าอย่างนั้น​…เรียก​ท่าน​อาวุโส​ดี​หรือไม่​”

เขา​เอ่ย​อย่าง​ระมัดระวัง​ ลอบ​ชำเลือง​ชาย​วัยกลางคน​

ไม่มอง​ไม่เท่าไหร่​ พอได้​มอง​ ก็​เห็น​ฝ่ามือ​ข้าง​หนึ่ง​หวด​มาใส่เขา​!

เสียงดัง​ตึง​ ร่าง​ถูก​หวด​กระเด็น​ กระดูก​หน้าแตก​เป็น​เสี่ยง​ ๆ ฟัน​หลุด​ร่วง​จาก​ปาก​ตาม​สายโลหิต​!

เขา​ล้ม​อยู่​ที่​พื้น​ ทรมาน​ใจนักหนา​ พี่ใหญ่​ไม่ได้​ ท่าน​อาวุโส​ก็​ไม่ได้​ แล้ว​ต้อง​เรียก​ว่า​อะไร​เล่า​!

“ท่าน​ให้​ข้า​เรียก​ด้วย​คำ​ใด​ข้า​จะเรียก​ด้วย​คำ​นั้น​ ขอ​เพียง​ท่าน​ไม่ขุ่นเคือง​!”

เขา​เอ่ย​เสียง​ร่ำไห้​

“เรียก​กับ​ย่า​แก​สิ!”

ชาย​วัยกลางคน​ใบหน้า​เย็นเยียบ​ ประชิดตัว​และ​หิ้ว​คอ​บรรพ​จารย์ฝู​ขึ้น​มาอัด​เสีย​น่วม​ ตบหน้า​ไม่หยุด​

ตัว​บ้า​อะไร​ ยัง​มีหน้า​มาแสดงละคร​ต่อหน้า​เขา​อีก​

ใช่สาเหตุ​จาก​สรรพนาม​เรียกขาน​ที่ไหน​!?

“อย่า​…อย่า​ตี​อีก​เลย​ ข้า​เรียก​ก็ได้​ กับ​ย่า​แก​สิ…”

บรรพ​จารย์ฝู​ถูก​อัด​จน​สติแตก​ ถึงกับ​เรียกขาน​ออก​ไป​ว่า​ ‘กับ​ย่า​แก​สิ’

“ไอ้​%#&…!”

ชาย​วัยกลางคน​บัน​ดาลโทสะ​ ด่า​กราด​ออก​ไป​ อัด​แรง​ยิ่งขึ้น​ ไอ้บ้า​นี่​ บังอาจ​ด่า​เขา​เช่นนี้​เลย​หรือ​

สุดท้าย​ เขา​อัด​บรรพ​จารย์ฝูจน​ชีวิต​เกือบ​หาไม่​ แล้ว​โยน​ออก​ไป​

เขา​เอ่ย​เสียง​ไม่สบอารมณ์​ “ไสหัวไป​!”

บรรพ​จารย์ฝู​ถูก​ทำร้าย​จน​เนื้อตัว​ดูไม่ได้​เลย​สัก​ที่​ คน​ทั้งคน​อยู่​ใน​สภาวะ​บอบช้ำ​ เอ่ย​เสียง​กระซิก​ “ท่าน​…อย่า​ขุ่นเคือง​นัก​เลย​ ข้า​จะไสหัวไป​…จะไสหัวไป​เดี๋ยวนี้​! แต่ก่อน​ข้า​ไป​ ขอ​ข้า​นำ​หญ้า​วิเศษ​สูงส่งต้น​นั้น​ไป​ด้วย​ได้​หรือไม่​”

เมื่อ​ครู่​ยาม​ชาย​วัยกลางคน​อัด​เขา​ หญ้า​ต้น​นั้น​กระเด็น​ตก​ออก​ไป​ที่​ด้าน​หนึ่ง​

“หญ้า​วิเศษ​สูงส่งหรือ​!?”

โทสะ​ของ​ชาย​วัยกลางคน​เพิ่ง​ผ่อน​ลง​ ก็​พุ่งพรวด​อีก​ครั้งหลัง​ได้ยิน​คำกล่าว​ของ​บรรพ​จารย์ฝู​

“วิเศษ​กับ​ย่า​แก​สิ!”

เขา​ปรี่​เขา​ไป​อีกครั้ง​ ขึ้น​คร่อม​บรรพ​จารย์ฝู​ออกแรง​ตี​อย่าง​บ้าคลั่ง​ ตบหน้า​หลาย​ฉาด​จน​ดาว​เต็ม​หัว​บรรพ​จารย์ฝู​ สติ​เริ่ม​พร่า​เลือน​

ใบหน้า​ของ​บรรพ​จารย์ฝู​โดน​หวด​จน​เละ​ ไม่อาจ​ทน​มอง​ได้​ บรรพ​จารย์ฝู​เอ่ย​ใน​ใจว่า​ใบหน้า​ของ​เขา​ไป​ทำ​อะไร​ให้​ผู้ใด​หรือ​ เหตุใด​ใคร ๆ​ ต่าง​เล็ง​มาที่​ใบหน้า​ของ​เขา​!?

ก่อน​นี้​กิเลน​ไฟถีบ​หน้า​เขา​จน​เละ​ บัดนี้​ ชาย​วัยกลางคน​ก็​หวด​หน้า​เขา​จน​เละ​ ใบหน้า​ของ​เขา​น่า​ชิงชังปาน​นั้น​เลย​หรือ​!?

ชาย​วัยกลางคน​หวด​จน​พอใจ​แล้ว​ ถึงลุก​ออกจาก​ตัว​บรรพ​จารย์ฝู​ เดิน​ไป​อยู่​ตรง​ต้น​หญ้า​ที่​หล่น​อยู่​บน​พื้น​

เขา​ย่ำเท้า​ลง​ไป​ ยี​หญ้า​ต้น​นั้น​จน​แหลก​!

“หญ้า​…ของ​ข้า​!”

หลัง​บรรพ​จารย์ฝู​เห็น​ชาย​วัยกลางคน​ย่ำ​หญ้า​ต้น​นั้น​จน​เละ​ ก็​รู้สึก​แย่​ยิ่งกว่า​ถูก​ฆ่าเสีย​อีก​

ต้น​หญ้า​สูงส่งเช่นนี้​ ถูก​ย่ำยี​จน​แหลกลาญ​ สวรรค์​ ผลาญ​เกินไป​แล้ว​!

เขา​ปวด​หัวใจ​ราวกับ​มีมด​ร้อย​ล้าน​ตัว​เข้ามา​กัด​ขั้ว​หัวใจ​!

ถึงไม่เห็น​ใน​สายตา​ก็​ไม่เห็น​ต้อง​ทำ​เช่นนั้น​เลย​!

ไม่ชอบ​ก็​ให้​ข้า​นำ​กลับ​ไป​สิ!

จำเป็นต้อง​ทำลาย​ทิ้ง​เช่นนี้​เลย​หรือ​!

เขา​ร้องไห้​จน​น้ำตา​แทบ​เหือดแห้ง​ กระนั้น​ก็​มิกล้า​เอ่ย​คำ​ใด​ กลัว​จะถูก​ชาย​วัยกลางคน​สังหาร​ เขา​คลาน​ขึ้น​จาก​พื้น​อย่าง​ยากลำบาก​ หมาย​จะไป​จาก​ที่นี่​

“รอ​ก่อน​! บ้วน​ชาของ​ข้า​ที่​ดื่ม​ไป​เมื่อ​ครู่​ออกมา​!”

ชาย​วัยกลางคน​มาอยู่​เบื้องหน้า​บรรพ​จารย์ฝู​อีกครั้ง​ นึกได้​ว่า​บรรพ​จารย์ฝู​ดื่ม​ชาของ​เขา​ไป​หนึ่ง​ถ้วย​

“หา​?”

บรรพ​จารย์ฝู​นิ่งอึ้ง​ตะลึงงัน​ จากนั้น​ เขา​ถูก​ชาย​วัยกลางคน​หิ้ว​คอ​ขึ้น​ด้วยมือ​ข้าง​หนึ่ง​ อีก​ข้าง​หนึ่ง​กำ​เป็น​หมัด​ ต่อย​ท้อง​เขา​อย่าง​แรง​

เขา​สำนึก​เสียใจ​แทบ​บ้า​ รู้​อย่างนี้​เขา​ไม่น่า​ดื่ม​ชาถ้วย​นั้น​เลย​!

ชาถ้วย​เดียว​ยัง​จะคิด​เอาคืน​จาก​เขา​ ยอด​ฝีมือ​จาก​แดน​บรรพ​โกลาหล​อะไร​กัน​ จิตใจ​คับแคบ​ดั่ง​รู​เข็ม​!

แสงดาว​พร่างพราว​อยู่​บน​ฟากฟ้า​ แสงจันทร์​ตก​กระทบ​ผืนน้ำ​ สตรี​โฉมสะคราญ​นาง​หนึ่ง​นั่ง​อยู่​บน​พระจันทร์​เสี้ยว​ด้วย​ท่าทาง​เกียจคร้าน​ เด็ด​ดาว​ดวง​หนึ่ง​ลงมา​อย่าง​ไม่ใส่ใจ แล้ว​เชยชม​มัน​บน​ฝ่ามือ​

ภาพ​นี้​งดงาม​ยิ่งนัก​ สตรี​โฉมสะคราญ​ผู้​ไร้​มลทิน​ แม้กระทั่ง​ดวงดาว​ดารดาษ​บน​ท้องฟ้า​ยัง​หม่นหมอง​ลง​เมื่อ​อยู่​เบื้องหน้า​นาง​

ทันใดนั้น​ คิ้ว​เรียว​ของ​นาง​กระตุก​

“ใคร​บางคน​…ยุ่ง​กับ​ของ​ของ​ข้า​?”

นาง​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ คล้าย​ว่า​สนอกสนใจ​เป็นอย่างมาก​

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท