บทที่ 764 ไม่ใช่สัญญาณดี จำเป็นต้องกำจัด!
หลี่จิ่วเต้าวางพัดด้ามจิ๋วลงบนโต๊ะ เตรียมพร้อมจะวาดภาพต่อ
วัสดุที่ใช้ทำพัดไม่เลวเลย โครงและตัวพัดล้วนหาพบได้ยาก เขาไม่ต้องการปล่อยมันทิ้งไป
ใบหน้าของศิษย์พี่หลวนเขียวคล้ำ ในความคิดของเขา การที่คนผู้นี้วาดภาพของศิษย์น้องต่อ นับเป็นการดูหมิ่นต่อศิษย์น้องอย่างมาก เขาจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
หากจะมีคนวาดภาพนั้นต่อ คนผู้นั้น…จะต้องเป็นเพียงเขาเท่านั้น!
หลีเยว่เองก็รู้สึกไม่พอใจ ความกรุ่นโกรธเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนใบหน้างดงาม คนผู้นี้คุยโวเกินไปแล้ว อันใดคือกล่าวว่าเพียงแค่ได้คำชี้แนะจากเขา จะต้องสามารถพัฒนาได้หลายขั้น?
ซ้ำยังต้องการวาดภาพนางต่ออีก...
เจ้าสามารถวาดได้หรือ?
ภาพที่นางวาดลงบนพัดไม่ได้มีอยู่จริง เป็นเพียงแค่ภาพฉากที่คิดขึ้นมาในใจของนางเมื่อยามนั้น ไม่ต้องพูดถึงหลี่จิ่วเต้าเลย กระทั่งเป็นตัวนางในยามนี้ยังยากที่จะวาดภาพต่อให้เสร็จสมบูรณ์
เห็นได้ชัดว่า บุรุษผู้นี้ไม่เห็นสิ่งที่นางทิ้งเอาไว้อยู่ในสายตา เพียงแค่นึกสนุก ต้องการจะแสดงฝีมือหาความสนุกสนาน
นางรู้สึกว่าตนเองไม่ได้ความเคารพ
คุยโว ไม่เคารพคน นางเริ่มรู้สึกชังหลี่จิ่วเต้าขึ้นมาเล็กน้อย
“ข้าจะทำให้เขาไม่อาจลงพู่กันได้!”
สีหน้าของศิษย์พี่หลวนไม่เป็นมิตร เขาชี้นิ้วไปทางพัดด้ามจิ๋ว โถมพลังอันยิ่งใหญ่เข้าไป ต้องการให้หลี่จิ่วเต้าไม่อาจลงพู่กันได้
ขอบเขตของเขาสูงล้ำเป็นอย่างยิ่ง ในสถานที่ที่เขาอยู่ก็ยังนับว่าโดดเด่น คนตัวเล็ก ๆ เช่นหลี่จิ่วเต้านั้น เขาไม่เห็นอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย คิดว่าแม้จะเป็นเพียงแค่ความคิดของเขา ก็ไม่ใช่สิ่งที่หลี่จิ่วเต้าจะสามารถเทียบเคียงได้
ขณะนั้นเอง หลี่จิ่วเต้าก็นำพู่กัน หมึก และจานฝนหมึกมาวางบนโต๊ะ
“คุณชาย ให้ข้าช่วยท่านฝนหมึกเถิด”
ลั่วสุ่ยเดินเข้าไปอย่างแช่มช้า แต่ดูงามสง่า หลีเยว่ที่เฝ้าดูถึงกับเบะปาก หลี่จิ่วเต้าผู้นี้ต้องการจะอวดความสามารถต่อหน้าลั่วสุ่ยใช่หรือไม่?
ดูเหมือนนางจะพบสาเหตุที่หลี่จิ่วเต้าต้องการจะวาดภาพต่อแล้ว
ศิษย์พี่หลวนเดิมทีนั้นมุ่งความสนใจไปที่หลี่จิ่วเต้า จึงไม่ได้สังเกตดูพวกลั่วสุ่ย เมื่อลั่วสุ่ยก้าวออกมาด้านหน้า เขาจึงเพิ่งได้เห็น
งดงามเป็นอย่างยิ่ง!
งดงามจนเขาเหม่อลอยไปชั่วครู่ ถูกลั่วสุ่ยทำให้ตกตะลึง
ในใจพลันเกิดความริษยาขึ้นมา เหตุใดข้างกายหลี่จิ่วเต้าจึงมีสาวงามหาพบได้ยากอยู่กัน?
‘ต้องการจะอวดโอ้เพื่อให้คนงามชื่นชมเลื่อมใส? คิดอันใดอยู่! ข้าจะทำให้พู่กันของเจ้าหักทันทีที่แตะลงไป!’
เขาเอ่ยในใจด้วยความบึ้งตึง เสริมพลังเข้าไปมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่ต้องการทำให้หลี่จิ่วเต้าไม่อาจลงพู่กันได้ เขาต้องการจะทำให้หลี่จิ่วเต้าเสียหน้า เพียงแค่ลงพู่กันไปก็หักลง!
“ศิษย์พี่หลวน พู่กัน หมึก และจานฝนหมึกของคนผู้นี้ดูไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง…”
คิ้วเรียวงามของหลีเยว่ขมวดลง นางไม่เหมือนศิษย์พี่หลวน ความสนใจของนางนั้นอยู่ที่พู่กัน หมึก และจานฝนหมึกที่หลี่จิ่วเต้านำออกมา
เมื่อได้ยินที่หลีเยว่พูด ศิษย์พี่หลวนจึงหันความสนใจไปที่พู่กัน หมึก และจานฝนหมึก
“ใช่…ไม่ธรรมดา!”
เขารู้สึกประหลาดใจขึ้นมาด้วยความคาดไม่ถึง เพราะไม่อาจมองเห็นระดับของพู่กัน หมึก และจานฝนหมึกได้ เต๋าที่ไหลเวียนอยู่ด้านบนพวกมันสูงล้ำเป็นอย่างยิ่ง นับว่าเป็นสมบัติในหมู่สมบัติอย่างแน่นอน
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาสามารถหยิบพัดด้ามจิ๋วมาคลี่ออกได้อย่างง่ายดาย ผู้ที่ถือครองพู่กัน หมึก และจานฝนหมึกเช่นนี้ได้ จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไรกัน?!”
หลีเยว่กล่าวต่อ “เพียงแต่ไม่รู้ว่าเขามาปรากฏตัวที่จักรวาลโกลาหลแห่งนี้ด้วยเหตุใด หรือว่าเขาเองก็เหมือนข้า ออกเดินทางเที่ยวเล่นไปทั่ว?”
หลังจากเห็นพู่กัน หมึก และจานฝนหมึก นางก็แน่ใจทันทีว่าหลี่จิ่วเต้าไม่ใช่สิ่งมีชีวิตในจักรวาลโกลาหลแห่งนี้ ของเช่นพู่กัน หมึก และจานฝนหมึกไม่มีทางปรากฏขึ้นมาในจักรวาลโกลาหลแห่งนี้แน่
นางรู้สึกว่าหลี่จิ่วเต้าอาจมาจากสถานที่เดียวกันกับนาง
“มีความเป็นไปได้มาก! ดูเหมือนเขาจะเป็นคุณชายจากตระกูลใหญ่มาเที่ยวเล่นที่นี่!”
ศิษย์พี่หลวนพยักหน้า คิดเช่นเดียวกับหลีเยว่
“ดูแล้วข้างกายของเขามีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากติดตาม เมื่ออยู่ในจักรวาลโกลาหลระดับต่ำเช่นนี้ เขานับว่ามีอำนาจเด็ดขาดจริง ๆ สามารถเพลิดเพลินไปกับความเคารพยำเกรงที่สิ่งมีชีวิตในจักรวาลแห่งนี้มอบให้ เขาช่างเป็นเด็กน้อยเสียจริง!”
ศิษย์พี่หลวนเยาะเย้ยถากถาง ทัศนคติที่มีต่อหลี่จิ่วเต้านั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด
ไม่มีเหตุผลอื่นใด เขาถือว่าหลีเยว่เป็นของหวงแหนของเขา ไม่อนุญาตให้มีชายอื่นใดแตะต้องหลีเยว่ กระทั่งวาดภาพต่อก็ไม่ได้!
วาดภาพต่อ สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร? นี่เป็นการร้อยไข่มุกต่อหยก*[1]ไม่ใช่หรือ?!
เขาจะยินยอมได้อย่างไร!
หลีเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย นางรู้สึกว่าคำพูดของศิษย์พี่หลวนไม่ค่อยจะเหมาะสมนัก ถ้อยคำเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยถากถาง ทำให้นางแอบคิดว่าเกิดอันใดขึ้นกับศิษย์พี่หลวน? เหตุใดท่าทางจึงดูชิงชังต่ออีกฝ่ายนัก…
อีกด้านหนึ่ง ลั่วสุ่ยฝนหมึกด้วยความจริงจังอย่างระมัดระวัง ทั้งยังดูชำนาญ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางฝนหมึกให้คุณชาย ก่อนหน้านี้นางก็มักจะช่วยคุณชายฝนหมึกบ่อย ๆ
“ได้คุณชายมาวาดภาพต่อให้ พัดนี่จะต้องยอดเยี่ยมขึ้นมาก”
นางกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “หากคนวาดยังมีชีวิตอยู่ จะต้องตื่นเต้นดีใจมากอย่างแน่นอน! คุณชายกำลังจะทำให้ภาพวาดและพัดนี้กลายเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างถึงที่สุด!”
นางไม่ได้มีเจตนาจะยกยอคุณชาย สิ่งที่นางพูดล้วนมาจากใจจริงของนาง
นี่เป็นเพราะพู่กัน หมึก และจานฝนหมึกชุดนี้ไม่ธรรมดามากเกินไป เป็นของสำคัญที่คุณชายแทบนำออกมาใช้เพียงน้อยครั้ง นางสามารถสัมผัสความต่างชั้นเหนือธรรมดาที่มีมากกว่าพู่กัน หมึก และจานฝนหมึกชุดอื่น ๆ อย่างชัดเจน
คุณชายเหนือธรรมดาสามัญเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังใช้พู่กัน หมึก และจานฝนหมึกที่ไม่อาจจินตนาการคุณค่าได้ออกมา ไม่จำเป็นต้องจินตนาการเลยว่าของชิ้นนี้จะทรงพลังมากขึ้นเพียงใด
หลังจากได้ยินคำพูดของลั่วสุ่ยแล้ว สีหน้าของหลีเยว่และศิษย์พี่หลวนพลันมืดครึ้มลง
ลั่วสุ่ยหมายความว่าอย่างไร?
ดูเหมือนจะกล่าวว่าการได้หลี่จิ่วเต้ามาวาดภาพต่อ นับเป็นเกียรติอย่างถึงที่สุด!
“ไม่รู้ความ!”
ศิษย์พี่หลวนตะคอก “กบในก้นบ่ออย่างไรเสียก็เป็นเพียงแค่กบในก้นบ่อ ไม่เคยเห็นท้องฟ้ากว้างใหญ่ คิดว่าสิ่งที่ตนเองเห็นคือผืนนภาทั้งหมด!”
“อย่าพูดยกยอมากเกินไปเลย”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อย่างไรเสียภาพวาดครึ่งหนึ่งบนนี้ยังเต็มไปด้วยข้อบกพร่องมากมาย คิดจะเปลี่ยนให้กลายเป็นภาพวาดที่สมบูรณ์ก็ยังนับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก”
นี่กำลังพูดจาไร้สาระอันใดกัน!
ศิษย์พี่หลวนโกรธจนไม่สามารถข่มกลั้นเอาไว้ได้ เดิมทีได้ยินประโยคแรกของหลี่จิ่วเต้า เขายังคิดจะเอ่ยว่าอย่างน้อยหลี่จิ่วเต้าก็มีความประมาณตน แต่คำพูดครึ่งหลังของหลี่จิ่วเต้าทำให้เขาระเบิดโทสะออกมา
“ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดที่ไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน!”
ศิษย์พี่หลวนขบฟันแน่ ส่งพลังไปยังพัดด้ามจิ๋วอีกครั้ง คราวนี้เขาต้องการทำให้หลี่จิ่วเต้าอับอายขายหน้าจนไม่กล้าผยองอีกต่อไป!
“ยโสเกินไปแล้ว!”
กระทั่งหลีเยว่ก็ยังอดส่ายหัวครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ได้ คำพูดเหล่านี้คุยโวเกินไป เพื่อโอ้อวดต่อหน้าลั่วสุ่ยแล้ว ช่างเสแสร้งวางมาดใหญ่โต!
เมื่อหมึกถูกฝนออกมาแล้ว หลี่จิ่วเต้าก็หยิบพู่กันขึ้นมา เตรียมจะเริ่มวาดภาพต่อ
เขายังไม่ได้ลงพู่กันในทันที ทว่าคิดพินิจก่อนจะร่างภาพอันสมบูรณ์ขึ้นมาในใจเสียก่อน
อีกครึ่งของภาพวาด เขาต้องการจะวาดต่อให้สมบูรณ์ หากมีภาพเต็มให้อ้างอิงคงไม่ยาก แต่เมื่อมีเพียงแค่ภาพครึ่งแรกให้ดูอย่างเดียว ก็นับว่าไม่ได้ง่ายดายแต่อย่างใด เป็นการทดสอบทักษะการวาดภาพและจินตนาการของเขาอย่างมาก
“รีบลงพู่กันเสียสิ มัวรีรออันใดอยู่!”
ศิษย์พี่หลวนยิ้มเย้ย เขาแทบอดทนรอให้หลี่จิ่วเต้าจรดพู่กันลงมาไม่ไหวแล้ว ต้องการจะดูฉากที่หลี่จิ่วเต้าโดนตบหน้า
ทำลายพู่กันอันใดนั่น เขาไม่คิดเรื่องนั้นอีกต่อไป พู่กันนั่นพิเศษเหนือชั้นเป็นอย่างมาก เขารู้สึกว่าต่อให้เป็นร่างของเขามาเมื่อมาอยู่ที่นี่ แม้จะพยายามอย่างสุดความสามารถ ก็ไม่อาจทำลายพู่กันด้ามนี้ได้
แต่เขามั่นใจว่าหลี่จิ่วเต้าจะต้องไม่สามารถวาดภาพลงพู่กันด้ามจิ๋วได้
เขารู้จักบุตรแห่งสวรรค์ผู้โดดเด่นทั้งหมดในสถานที่ที่เขาอยู่ ทว่าเขาไม่มีความประทับใจใดเกี่ยวกับหลี่จิ่วเต้า แสดงให้เห็นว่าหลี่จิ่วเต้าไม่ใช่บุตรแห่งสวรรค์ผู้โดดเด่นแต่อย่างใด
ตัวเขาเองแม้อยู่ในกลุ่มบุตรแห่งสวรรค์ผู้โดดเด่นก็ยังเปล่งประกาย สามารถยืนอยู่บนยอดด้านบนได้ หลี่จิ่วเต้าจะนับเป็นสิ่งใดได้กัน แม้จะมีพู่กันอันไม่ธรรมดาด้ามนี้ ก็ไม่มีทางเทียบเคียงเขาได้อย่างแน่นอน
ทว่าเขาก็ไม่ได้ประมาทแต่อย่างใด ใช้พลังทั้งหมดเท่าที่มีเสริมพลังให้กับพัดด้ามจิ๋ว
“คงประมาณนี้”
รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากของหลี่จิ่วเต้า ภาพวาดอันสมบูรณ์ถูกเขาร่างขึ้นมาในใจเรียบร้อยแล้ว
เขาจุ่มหมึก เตรียมตัวลงพู่กัน
“เอาเลย!”
ศิษย์พี่หลวนราวกับได้เห็นฉากที่หลี่จิ่วเต้าถูกทำให้อับอายจากการลงพู่กันไม่ได้ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มร่าขึ้นมา
“ช่างไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ คิดว่าเพียงแค่มีสมบัติบางอย่างติดตัวมาจากตระกูลก็สามารถทำตัวกำเริบเสิบสานได้ เด็กหนอ ยังเป็นเด็กเสียจริง…”
เขาเอ่ยราวกับตนเป็นผู้อาวุโส เยาะเย้ยถากถางหลี่จิ่วเต้าอย่างไม่ได้มีการปิดบังแม้สักนิด
“ข้าเคยเห็นคนประเภทนี้มามากนัก ตนเองไม่มีความสามารถแต่อย่างใด ทำได้เพียงพึ่งบารมีและสมบัติที่สะสมกันมาในตระกูลเท่านั้น ไม่ต่างอันใดไปจากปรสิต มอด และแมลง ในอนาคตก็ไม่อาจประสบความสำเร็จอันใด” เขาพูดต่อ
ทว่าเพียงพริบตาต่อมา ใบหน้าของเขาก็พลันซีดเผือดลง ก่อนจะกลายเป็นสีแดงก่ำ!
เหตุการณ์ที่เขาคาดเอาไว้ไม่ได้เกิดขึ้นแต่อย่างใด!
หลี่จิ่วเต้าสามารถจรดพู่กันลงไปได้อย่างง่ายดาย คลื่นแสงที่ไม่อาจมองเห็นและอธิบายได้เปล่งออกมาจากพู่กัน ทำให้พลังทั้งหมดบนพัดด้ามจิ๋วถูกระงับลง ไม่สามารถใช้พลังออกมาได้แม้แต่น้อย!
สิ่งนี้ทำให้เขาคับข้องใจเป็นอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้เขาเอ่ยเยาะเย้ยหลี่จิ่วเต้าตั้งมากมาย ทว่าหลี่จิ่วเต้านั้นไม่ได้ถูกตบหน้า แต่เป็นเขาที่ถูกตบหน้าอย่างแรง!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าหลีเยว่!
เขารู้สึกอับอายขายหน้าอย่างถึงที่สุด!
“ข้าประเมินเขาต่ำไป! ไม่สิ ไม่ได้ประเมินเขาต่ำไป ข้าประเมินพู่กันในมือเขาต่ำไปต่างหาก!”
เขาพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิดใจ “ข้าคาดไม่ถึงว่าพู่กันในมือของเขาจะทรงพลังถึงเพียงนี้ กระทั่งเมื่ออยู่ในมือมดตัวจ้อยเช่นเขาก็ยังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!”
เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?
หลีเยว่ไม่เอ่ยอันใด นางรู้สึกว่าตัวของหลี่จิ่วเต้าเองนั้นก็ไม่ได้ธรรมดา…
นางไม่อาจสัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลังใด ๆ บนร่างของหลี่จิ่วเต้า ราวกับว่าหลี่จิ่วเต้านั้นไม่ได้ใช้พลังออกมา ทั้งหมดล้วนเป็นเพียงพลังจากพู่กันในมือของเขา
สามารถสำแดงฤทธิ์อันทรงพลังเพียงนี้โดยไม่จำเป็นต้องใช้พลังได้จริงหรือ?
นางรู้สึกจริง ๆ ว่าหลี่จิ่วเต้านั้นไม่ได้ธรรมดาสามัญ!
“รอก่อนเถิด!”
ในตอนนั้นเอง ศิษย์พี่หลวนก็พูดขึ้นมา
จากนั้นเพียงไม่นานก็มีแสงหนึ่งเส้นทะยานมา ร่างของเขามาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง พร้อมกับความคิดที่กลับเข้าไปในร่าง
จนกระทั่งหลังจากร่างของเขามาถึง พวกลั่วสุ่ยก็ยังไม่สังเกตเห็นสิ่งใดเลย
ศิษย์พี่หลวนไม่ได้เปิดเผยตัวตนออกมา
เขาไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน นี่นับเป็นการแข่งขันอย่างลับ ๆ ระหว่างเขากับหลี่จิ่วเต้า เช่นนั้นแล้วเขาจะเปิดเผยตัวตนเพื่อสิ่งใดกัน?
นี่นับเป็นการลดศักดิ์ศรีของเขา!
“หยุดมันเสีย!”
เขาส่งเสียงเย็นชา พลังทั้งหมดในร่างระเบิดออก ส่งพลังไปยังพัดด้ามจิ๋ว
“เป็นไปได้อย่างไร!”
ทว่าเขาก็ต้องนิ่งค้างไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นสีหน้าก็พลันดำคล้ำลง ราวกับจะสามารถเค้นหมึกออกมาได้
พ่ายแพ้อีกแล้ว!
เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้!
หลี่จิ่วเต้ายังคงวาดพู่กันต่อไป มีแสงที่มองไม่เห็นและไม่อาจอธิบายได้กระเพื่อมบนพู่กัน พลังของเขาที่ถ่ายทอดให้พัดไม่อาจทำสิ่งใดได้ ทั้งหมดล้วนถูกระงับเอาไว้!
ไม่ธรรมดาจริง ๆ ด้วย…
ดวงตาของหลีเยว่เป็นประกาย เพียงแค่พึ่งพาพลังจากพู่กัน จะสามารถหยุดยั้งการระเบิดพลังจากร่างของศิษย์พี่หลวนได้อย่างไร?
ไม่มีทางเป็นไปได้!
ตัวของหลี่จิ่วเต้าเองก็ต้องทรงพลังเป็นอย่างมาก เมื่อรวมกับพลังของพู่กันแล้ว จึงสามารถยับยั้งพลังของศิษย์พี่หลวนที่ระเบิดออกมาได้
‘ข้ายังคงไม่อาจสัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลังบนร่างของเลย…นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?’
หลีเยว่คิดขึ้นมาในใจ ‘ไม่มีพลังแผ่ออกมาเลยได้อย่างไร แน่นอนว่าเขาจะต้องมีวิธีการบางอย่างเพื่อปิดซ่อนมันเอาไว้…’
จัดการ!
จำเป็นต้องจัดการ!
เมื่อศิษย์พี่หลวนห็นดวงตาเปล่งประกายของหลีเยว่ ภายในใจก็พลันรู้สึกอัดอั้นเป็นอย่างมาก หลีเยว่ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อชายผู้นี้ นับว่าไม่ใช่สัญญาณที่ดีแต่อย่างใด!
เขาจำเป็นต้องกำจัดสัญญาณเหล่านี้ทิ้งทั้งหมด!
“พึ่งพาเพียงสมบัติเท่านั้น นับว่ามีความสามารถที่ใดกัน ยกเว้นสมบัติ เขาจะมีสิ่งใดอีก!”
ศิษย์พี่หลวนกล่าวออกมาอย่างเย้ยหยัน “ข้าจะต้องทำให้เขาเข้าใจความจริงข้อนี้!”
ทันใดนั้น ร่างของเขาก็พลันสลายหายออกไปจากสถานที่แห่งนี้
ต้องการแข่งภูมิหลังอย่างนั้นหรือ?
น่าขันนัก นิกายของเขานั้นเป็นหนึ่งในนิกายสูงสุด ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวสิ่งใด!
เขากลับไปยังนิกายเพื่อต้องการยืมสมบัติมาจัดการกับหลี่จิ่วเต้า!
[1] ร้อยไข่มุกต่อหยก (珠联璧合) หมายถึง ผูกสัมพันธ์กัน หรือเข้ากันได้ดี