Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 1009 อันดับที่ห้า

ตอนที่ 1009 อันดับที่ห้า

  ไม่นานชูฮันก็พาคนของเขาไปจากฐานลับลูกผสมการซุ่มโจมตีของเขาตั้งแต่แรกเริ่มจนจบ ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คาดไว้…มันสมบูรณ์แบบ

  แต่สิ่งที่ชูฮันไม่ทันคิดถึงก็คือกองทัพลูกผสมถูกแบ่งออกเป็นสองทีมทีมแรกนั้นมีลูกผสมเพียงแค่สามร้อยตัว ทั้งหมดจะเป็นลูกผสมระยะสูงหมด ความสามารถจึงสูงมากพอที่จะทำให้ทหารของเขาปวดหัว ถึงกระนั้นการที่ไม่มีคนของชูฮันบาดเจ็บเลยสักคนก็แสดงให้เห็นแล้วว่ากองทัพลูกผสมระยะสูงสามร้อยตัวไม่ได้เป็นภัยคุกคามสำหรับกองทัพเขี้ยวหมาป่าเลยแม้แต่น้อย

  ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่กองทัพลูกผสมทีมแรกซึ่งนำโดยตี่ตงนั้นให้ความร่วมมือง่ายเกินไปพวกมันกินเนื้อหนูที่ชูฮันจัดหามาไปในปริมาณเยอะพอควร ทั้งที่มียาพิษผสมอยู่แต่พวกมันยังสามารถสู้กับทหารของเขาได้อีก ซึ่งถ้าเป็นลูกผสมปกติที่มีระยะต่ำๆคาดว่าพวกมันคงจะตายคาที่ทันทีไปแล้ว

  กลุ่มลูกผสมระดับสูงที่เหลือรอดในตอนท้ายที่มีจำนวนไม่ถึงร้อยตัวโดยระยะต่ำสุดกลุ่มก็เป็นถึงลูกผสมระยะ 4 ทว่าบนสนามต่อสู้ พวกมันกลับไม่สามารถต้านทานการโจมตีได้เลย พวกมันแต่ละตัวค่อยๆล้มตายลงไปเรื่อยๆเพราะพวกลูกผสมระยะสูงที่เหลืออยู่ไม่มีกำลังใจเหลือที่จะต่อสู้แล้ว

  ดังนั้นสงครามในครั้งนี้จึงไม่ได้ยากอะไรเลย ทั้งหมดตกลงไปในหลุมที่ชูฮันวางเอาไว้

  ชูฮันไม่มีทางที่จะเอาชีวิตทหารกองทัพเขี้ยวหมาป่าของเขามาเสี่ยงแน่ๆถ้าไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของศัตรูมาก่อนอยู่แล้ว

  ผลของการทดสอบในครั้งนี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจอย่างมากลูกผสมระยะสูงสามร้อยตัวถูกฆ่าตายหมดแล้ว

  มันไม่น่าเชื่อ?

  ส่วนข้อมูลที่เก็บได้จากเหตุการณ์นี้ก็ถือว่ามีค่าอยู่เหมือนกันและชูฮันก็ได้ยินชื่อนั้น…

  อู๋หลิงฉิง

  กองทัพลูกผสมระยะสูงอีก700 ตัวยังมีชีวิตอยู่ในภูเขาแห่งนี้ ลูกผสมที่เหลืออยู่พวกนั้นต่างหากที่คือศัตรูที่แท้จริงของเขา

  ซึ่งนี้ก็คือสาเหตุหลักที่ครั้งนี้ชูฮันสั่งให้ไม่ต้องเก็บกวาดสนามรบไม่ใช่เพื่อให้ผู้คนได้มาเห็นว่าสนามรบมันนองเลือดมากขนาดไหนหรือเพื่อสร้างชื่อเสียงความน่าเกรงขามของกองทัพเขี้ยวหมาป่า เพราะที่จริงแค่นี้ชื่อเสียงของกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็มีมากเกินพอแล้ว

  แต่เหตุผลหลักจริงๆของชูฮันในการปล่อยทิ้งสนามรบเละเทะที่นองไปด้วยเลือดไว้ก็เพื่อจะให้อู๋หลิงฉิงและกองทัพลูกผสมที่เหลือได้เห็น

  จุดประสงค์ก็คือ…การข่มขวัญ!

  ศพของซอมบี้เป็นหมื่นๆตัวประกอบกับลูกผสมสามร้อยตัวที่ชิ้นส่วนร่างกายฉีกขาดเละเทะอย่างน่าอนาถ ภาพนี้จะสร้างผลกระทบได้ไม่มากก็น้อย เมื่อพวกลูกผสมได้เห็นยามที่พรรคพวกของตัวเองมีสภาพเช่นนี้ แน่นอนว่ามันจะต้องมีความขลาดกลัวก่อตัวขึ้นในใจของทุกคน

  สิ่งที่ชูฮันต้องการก็คือสิ่งนั้นเอง…

  ซึ่งกองทัพลูกผสมทีมที่สองก็เดินทางมาถึงอย่างรวดเร็วภาพที่เห็นนั้นเหนือเกินกว่าความคาดหมายของทุกคนไปไกล พวกมันไม่อยากเชื่อว่าทหารกองทัพเขี้ยวหมาป่าของชูฮันที่มีคนกว่าสามร้อยคนจะสามารถจัดการลูกผสมทั้งหมดได้ขนาดนี้

  แม้ว่าตอนนี้ชูฮันจะจัดการกองทัพลูกผสมทีมแรกไปได้แล้วแต่ยังอย่างไรสถานการณ์มันก็ไม่เปลี่ยน

  เพรากองทัพลูกผสมระยะสูงเจ็ดร้อยตัว…ไม่ใช่จำนวนน้อยเลย!

  แม้แต่ค่ายใหญ่ๆทั้งหลายถ้าต้องเจอกองทัพลูกผสมเจ็ดร้อยตัวก็ต้องทรมานราวกับอยู่ในนรก…มันคือฝันร้ายของทุกคน

  เพราถ้าไม่ระวังตัว…อาจจะพลาดท่าได้

   อู๋หลิงฉิงเป็นคนแบบไหน? ชูฮันที่เดินนำหน้าทหารของเขาไปไกลพอตัวก็กระซิบถามเฉินยู่เทียนที่อยู่ข้างๆ

   เป็นคนที่ระมัดระวังตัวมากเป็นคนที่มีความสามารถจนมู๋เย๋มอบหมายหน้าที่ให้เองกับมือ  เฉินยู่เทียนตอบ  และก็ยังเป็นลูกผสมเต็มตัวหญิงคนแรก มีพลังการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา เกรงว่าจะไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายๆ 

   ผู้หญิง? ชูฮันขมวดคิ้ว

  อย่างไม่คาดคิดลูกผสมระดับสูงที่รู้ทันแผนของเขากลับกลายเป็นผู้หญิง ในบริบทของโลกาวินาศ ลูกผสมส่วนใหญ่จะเป็นพวกคนโฉดถึงสามารถกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันได้และจำนวนช่องห่างระหว่างลูกผสมผู้ชายและผู้หญิงก็ห่างกันอย่างมาก

  ผู้หญิงที่สามารถกลั้นใจกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันได้อาจจะมีเป็นบางส่วนแต่ลูกผสมผู้หญิงที่สามารถก้าวข้ามผ่านสิ่งกีดขวางและความอิจฉานับไม่ถ้วนจนกลายเป็นแกร่งกล้ากว่าลูกผสมผู้ชายเกือบทั้งปวงได้มีแต่สาเหตุเดียว

  เป็นเพราะว่า…คนคนนั้นไม่มีความกลัว!

  ดังนั้นพอได้รู้ว่าลูกผสมชั้นสูงและมีความสามารถมากวึ่งเขากำลังจะต้องรับมือในอีกไม่นานเป็นผู้หญิงชูฮันก็ตระหนักได้ในทันทีว่าวิกฤตครั้งนี้แตกต่างไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา

  ชูฮันเหลือบมองเฉินยู่เทียนและถามต่อ แล้วสถานะของตี่ตงกับมู๋เย๋คืออะไร? แล้วถ้าเทียบกับอู๋หลิงฉิงล่ะ? 

  เขาจำเป็นต้องรู้จักความสามารถที่เฉาะเจาะจงของศัตรูให้ครบถ้วนก่อนจะทำการตัดสินใจ!

   ตี่ตงคิดว่าตัวเองเก่งกาจกว่าใครแต่ที่จริงมันไม่ใช่  เฉินยู่เทียนวิเคราะห์บุคลิกลักษณะ  มันเป็นพวกขี้ขลาดไร้สมอง อวดดีและเย่อหยิ่ง แถมยังสร้างความขุ่นเคืองให้ลูกผสมหลายตัวไม่น้อย แม้ว่าพลังการต่อสู้เป็นถึงหนึ่งในสิบอันดับสูงสุดของเมืองหยิน แต่แท้จริงแล้วเอาแต่เกาะชื่อเสียงของมู๋เย่ล้วนๆ ห่างชั้นจากอู๋หลิงฉิงเป็นโยชน์ 

   แล้วพลังของอู๋หลิงฉิงมากขนาดไหน? ชูฮันสังเกตได้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้ที่ไม่ธรรมดา

  ตี่ตงก็เป็นลูกผสมที่แข็งแกร่งและมีฝีมืออย่างมากเหมือกนันแต่เป็นเพราะในตอนนี้ตี่ตงตกอยู่ในฤทธิ์ยาและสภาพจิตใจที่โดนทำลายจนสิ้นหวัง มันจึงไม่ได้ปล่อยพลังที่แท้จริงออกมา แต่ถึงกระนั้นแม้แต่ซูเฟิงที่เป็นคนที่ทรงพลังที่สุดของทีมก็ยังทำได้แค่ล้อมตี่ตงเอาไว้ไม่ให้หนี ถึงจะพยายามโจมตีกี่ครั้งก็ยังไม่สามารถฆ่าตี่ตงได้สักที

  ถ้าไม่ใช่เพราะแผนที่ชูฮันวางเอาไว้กับซูเฟิงตั้งแต่แรกละก็การจะฆ่าตี่ตงคงเป็นเรื่องยากจนเป็นไปไม่ได้ ที่จริงแล้วเป็นเพราะชูฮันและซูเฟิงร่วมพลังกันถึงฆ่าตี่ตงได้สำเร็จ

  เมื่อได้ฟังที่เฉินยู่เทียนบอกว่าอู๋หลิงฉิงนั้นทรงพลังและฉลาดกว่าตี่ตงไปไกลชูฮันจึงอยากรู้ว่ามันจะมากขนาดไหน?

  ทั้งๆที่ตี่ตงเองก็ได้รับความไว้วางใจจากมู๋เย๋เหมือนกันหากก็ไม่ได้เก่งกาจเท่ากับอู๋หลิงฉิง นี้คือสิ่งที่สะท้อนถึงความพิเศษของอู๋หลิงฉิง แสดงว่าความสามารถของเธอจะแสดงออกมาได้แค่เมื่อต่อสู้

  สงครามครั้งหน้าคงจะดุเดือดไม่เบาเลย!

   อู๋หลิงฉิงเป็นลูกผสมที่แข็งแกร่งอันดับที่5 ของเมืองหยิน อย่ามองว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงหรือว่านำไปเทียบกับความสามารถของลูกผสมผู้หญิงที่เคยเจอ  เฉินยู่เทียนเกรงว่าชูฮันจะชะล่าใจและอาจจะพลาดได้ จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือน  ที่สำคัญที่สุดคืออู๋หลิงฉิงเป็นคนขี้สงสัยและระแวดระวังกับทุกอย่าง เป็นคนที่อ่อนไหวสุดๆสามารถตรวจจับได้ทุกอย่าง ดังนั้นมันจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้แผนหลอกเธอ 

  ชูฮันนิ่วหน้าทันที…อย่างที่คิดอู๋หลิงฉิงสามารถข้ามผ่านลูกผสมจำนวนมากไปได้จนได้รับความไว้วางใจจากมู๋เย๋ แสดงว่าระดับความรุนแรงของการต่อสู้คงน่าสะพรึง

   มีจุดอ่อนมั้ย? ชูฮันถามถึงคำถามที่สำคัญที่สุด

   มัน…มัน…ผมก็สงสัยบางอย่างอยู่… เฉินยู่เทียนคิดอยู่พักหนึ่ง  อู๋หลิงฉิงกลายเป็นคนเย็นชา มันอาจจะเป็นเพราะกระบวนตอนที่กลายเป็นลูกผสมของเธอ เพราะหลังจากโลกาวินาศเธออดอยากมากจนทนไม่ไหวและกินลูกสาวตัวเองที่อายุแค่สองเดือน 

   ชั่ว! ชูฮันด่าออกมา

  ถึงกลับกินลูกตัวเองถึงได่กลายเป็นลูกผสม คนแบบนี้คงกล้าทำได้ทุกอย่าง

  ในตอนนั้นเองหลูปิงเซ่อก็เดินเข้ามาและส่งยิ้มให้ชูฮัน ดังนั้นถ้าอู๋หลิงฉิงได้เห็นเด็กสาวหรือเด็กที่อายุน้อยกว่าหนึ่งปี มันก็เป็นไปได้ที่จะไปสะกิดแผลในใจและเสียสมาธิได้ 

   นั่นก็ใช้ได้ ชูฮันพูดพึมพำกับตัวเอง

  ขณะที่เฉินยู่เทียนยังคงอึ้งอยู่อดไม่ได้ที่จะไปหันมองหน้าชูฮันด้วยความข้องใจ…ตอนนี้ชูฮันคงไม่ได้กำลังคิดหาทางเอาตัวเด็กผู้หญิงมาเป็นเหยื่อล่ออยู่ใช่มั้ย?

  นี้มัน…

  โหดร้ายเกินไป!

  เมื่อไหร่ก็ตามที่เด็กทารกปรากฏตัวขึ้นมันไม่มีโอกาสที่จะรอดชีวิตไปได้เลย ถึงจะคิดอย่างนั้นหากเฉินยู่เทียนก็ไม่ได้พูดออกมา เพราะสงครามครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมากและเขี้ยวหมาป่าจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!

 

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Status: Ongoing

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง

สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น

วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว

ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ

และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้

และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย

นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท