ตอนที่ 595 ดรอปของมากมาย
ยังเป็นสูตรเดิม
ยังเป็นรสชาติที่คุ้นเคย
ยังเป็นเสียงคำรามของมังกรร้าย!
ตามด้วยเสียงมังกรคำรามที่ดังกังวาน พลังฝ่ามือรูปมังกรสีฟ้าใสถูกปล่อยออกจากฝ่ามือที่ดูเหมือนไร้เรี่ยวแรงของเยี่ยเว่ยหมิง ขณะที่ปัดกรงเล็บมังกรของฮวาเถี่ยกั้นออกไป ก็กลืนกินทั้งตัวเขาเขาไปด้วยเช่นกัน!
จากนั้น ท่านวีรบุรุษฮวาที่ฉายาทวนจงผิงไร้เทียมทานท่านนี้ก็กระเด็นถอยหลังไปท่ามกลางเสียงดังกระหึ่ม
-39765
หลังจากโจมตีสำเร็จหนึ่งครั้ง เยี่ยเว่ยหมิงก็พลันกระโดดขึ้นมา กลิ่นอายสังหารที่เก็บกดไว้บนตัวนานแล้วก็ปล่อยออกมาหมดในชั่วพริบตาเดียวเช่นกัน สภาพซึมเซาสาหัสปางตายเหมือนก่อนหน้านี้เสียที่ไหน
นี่ก็คือจุดที่เยี่ยเว่ยหมิงระมักระวังตัวเองมาก
เขาไม่ได้ฝากความหวังไว้ที่นิสัยของฮวาเถี่ยกั้น หรือหวังว่าฉางซิงอวี่กับน้องดาบจะปกป้องตนได้เต็มที่ระหว่างที่ถูกฮวาเถี่ยกั้นโจมตีอย่างดุเดือด
หากเทียบกับคนอื่นแล้ว เขายอมเชื่อในศักยภาพของตัวเองมากกว่า!
ดังนั้น หลังจากหลังจากฟันหนึ่งกระบี่สะท้านฟ้าด้วยท่า ‘มารสวรรค์ทลาย’ ตอนอยู่ใต้กองหิมะแล้ว เขาก็กลืน ‘ยาลูกกลอนโชคลาภอมตะ’ เม็ดสุดท้ายที่อยู่บนตัวทันที
ผลข้างเคียงหลังจากใช้ ‘มารสวรรค์ทลาย’ ถูกเยียวยาจนหายดีด้วยสรรพคุณของ ‘ยาลูกกลอนโชคลาภอมตะ’ ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
ซึ่งหลังจากนั้น สภาพอ่อนแอที่เยี่ยเว่ยหมิงแสดงออกต่อหน้าฮวาเถี่ยกั้น ก็ล้วนเป็นผลงานการแสดงทั้งนั้น!
จุดประสงค์ก็เพื่อทำให้ฮวาเถี่ยกั้นเผยโฉมหน้าที่แท้จริงต่อหน้าตี๋อวิ๋นและสุ่ยเซิงที่เป็น NPC คนสำคัญของเนื้อเรื่อง ทำให้การกระทำของตนที่โจมตีสังหารเขากลายเป็นเรื่องที่ชอบธรรม
ทั้งยังได้ถือโอกาสวางกับดักเขาด้วย
เป็นเรื่องที่สวยงามจริงๆ!
เพียงแต่สิ่งเดียวที่ไม่สมบูรณ์แบบก็คือ เมื่อเยี่ยเว่ยหมิงวางกับดักฮวาเถี่ยกั้นสำเร็จแล้ว ผลการโจมตีกลับไม่ได้ตามที่คาดการณ์ไว้
ฮวาเถี่ยกั้นสมกับเป็น BOSS ใหญ่เลเวลร้อยยี่สิบห้าจริงๆ ไม่เพียงแค่วิชาทวนที่ลึกล้ำร้ายกาจ กรงเล็บอินทรีทั้งคู่เขาก็ฝึกจนแข็งแกร่งทนทานยิ่งกว่าเหล็กเช่นกัน ‘มังกรซ่อนกบดาน’ ที่เยี่ยเว่ยหมิงรวบรวมพลังมานานก่อนปล่อย แม้ทำให้เขาสะเทือนจนนิ้วชา พลังชีวิตเหนือศีรษะลดลงเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังทำไม่ได้ถึงขั้นบาดเจ็บถึงกระดูกและเส้นเอ็น (เส้นเอ็นขาด กระดูกแตก)
หรือพูดได้อีกอย่างว่า ฝ่ามือนี้ของเยี่ยเว่ยหมิงนอกจากทำดาเมจแล้ว ก็ไม่ได้สร้างผลกระทบมากมายต่อพลังต่อสู้ของฮวาเถี่ยกั้น
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
อย่าลืมนะว่าวันนี้นอกจากตัวเองแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังมีสหายอีกสองคนคอยทำงานประสานกันอยู่ข้างๆ!
ดังนั้น ฝ่ามือนี้ของเขาอาจจะไม่ต้องสร้างความเสียหายต่อกระดูกและเส้นเอ็นของฮวาเถี่ยกั้นเสมอไป ขอเพียงโจมตีจนกระเด็นได้ตามมาตรฐานของฝ่ามือสยบมังกรก็พอแล้ว!
ขณะมองฮวาเถี่ยกั้นกระเด็นถอยหลังด้วยฝ่ามือของเยี่ยเว่ยหมิง น้องดาบกับฉางซิงอวี่ที่รวบรวมพลังเสร็จตั้งนานแล้วก็ลงมือพร้อมกัน ดาบจันทราหิมะเงินกับดาบสองคมสามแฉกแบ่งโจมตีไปทางไหล่ซ้ายและขวาของฮวาเถี่ยกั้นที่กระเด็นถอยหลังกลับมา
BOSS ที่ค่าพลังชีวิตเกือบเต็มแบบนี้ แม้จะถูกคริติคอลดาเมจจากท่าไม้ตายสักครั้งสองครั้งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อยู่ดี หากเทียบกันแล้ว ควรลงมือที่กระดูกข้อต่อซึ่งจะส่งผลต่อพลังต่อสู้โดยตรงหลังจากถูกโจมตี นั่นถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ทว่าฮวาเถี่ยกั้นที่ตัวลอยอยู่กลางอากาศ แม้จะไร้แรงให้ยึดเกาะ แต่เขาก็ยังไม่ใช่ลูกพลับอ่อนที่บีบง่ายแต่อย่างใด
ในฐานะยอดฝีมือที่เชี่ยวชาญทั้งการใช้ทวนเดี่ยวและทวนคู่ในเวลาเดียวกัน ฮวาเถี่ยกั้นแตกต่างจากนักทวนคนอื่น แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจใช้สองมือกุมทวนยาวได้ แต่ก็ยังอาศัยความสามารถที่ฝึกมาตอนใช้ทวนคู่ ใช้มือข้างเดียวกุมทวนตวัดไปข้างหลังหนึ่งที ปัดการโจมตีสุดแรงที่สะสมพลังมานานของฉางซิงอวี่ได้อย่างหวุดหวิด
แต่นี่คือการดิ้นรนครั้งสุดท้ายเท่าที่เขาจะทำได้แล้ว
ขณะที่ดันทุรังปัดทวนยาวของฉางซิงอวี่ออก ดาบจันทราหิมะเงินในมือน้องดาบก็ปาดบนบ่าเขาแล้ว
-24343
ภายใต้บทบาทของเจตจำนงแห่งดาบ ชั่วพริบตาเดียวแขนซ้ายของเขาก็ถูกโจมตีจนเกิดผลเส้นเอ็นขาดแล้ว!
ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง แขนขาทั้งสี่ของฮวาเถี่ยกั้นพิการไปแล้วหนึ่งข้าง แม้ครั้งแรกที่ตกลงพื้นยังทรงตัวได้ แต่พลังต่อสู้ก็ถูกน้องดาบหั่นไปเกินครึ่งแล้ว
ซึ่งตอนนี้เอง เยี่ยเว่ยหมิงเปลี่ยนกระบี่ในมือจาก ‘กระบี่ไร้โลหิต’ เป็น ‘กระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดง’ อีกครั้งอย่างเงียบเชียบ ร่างพุ่งออกมาราวกับสายฟ้า แสงกระบี่ที่ดูธรรมดาแทงออกมา ภายใต้การเคลื่อนไหวอันรวดเร็วของร่างกาย กระบี่ของเขาก็รวดเร็วไร้ที่เปรียบเช่นกัน
พเนจรสุดขอบฟ้า!
กระบี่นี้มาเร็วเกินไป ฮวาเถี่ยกั้นเองก็เพิ่งทรงตัวได้ เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่มีทางหลบได้แล้ว จึงทำได้เพียงแข็งใจชูทวนในมือขึ้นมา
แกร๊ง!
ฉึก!
ฉึก!
-12974
-12886
……
ฮวาเถี่ยกั้นแม้จะต้านกระบี่หลัก ‘กระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดง ได้ แต่มิอาจต้านปราณกระบี่สองสายที่มากับ ‘หนึ่งปราณแปรสาม’ ได้ ภายใต้กระบวนท่านี้ พลังชีวิตเขาถูกพรากไปอีกสองหมื่นห้าพันกว่าแต้ม
ที่ร้ายแรงกว่านั้นก็คือ เมื่อปราณกระบี่สองสายของเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีถูกเป้าหมาย ก็ทำให้ฮวาเถี่ยกั้นเจ็บปวดเและเคลื่อนไหวช้าลง จากนั้นก็ตามติดด้วยการโจมตีโหดๆ ของน้องดาบและฉางซิงอวี่ ทำให้เขาถูกโจมตีต่อเนื่องอีกหลายกระบวนท่า
ตอนนี้ผู้เล่นยอดฝีมือทั้งสามคนยืนล้อมฮวาเถี่ยกั้นไว้สามมุม เขาไม่อาจปลีกตัวหนีออกไปได้เลย
ภายใต้การโจมตีของทั้งสามคน บาดแผลบนตัวฮวาเถี่ยกั้นยิ่งสาหัสขึ้นเรื่อยๆ ค่าพลังชีวิตก็ลดลงไม่หยุด ทำให้พลังต่อสู้ของเขาลดลงทีละน้อยท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้
โดยเฉพาะตอนที่เส้นเอ็นบนขาซ้ายของเขาถูกเอฟเฟ็กต์เจตจำนงแห่งดาบตัดขาด ก็ยิ่งตกอยู่ในสภาพน่าเวทนาที่ไร้ความสามารถต่อต้านโดนสิ้นเชิง
สุดท้ายท่าเด็ดและท่าไม้ตายต่างๆ ของสามยอดฝีมือก็ทักทายบนตัวฮวาเถี่ยกั้นจนชีวิตที่เอาตัวรอดไปวันๆ ของเขาจบลง
[ติ๊ง! ทีมของคุณโจมตีสังหาร BOSS โหมดปกติเลเวล 125 ฮวาเถี่ยกั้น ฉายาทวนจงผิงไร้เทียมทานสำเร็จ รางวัลภารกิจ: ค่าประสบการณ์ 7000000 แต้ม ค่าตบะ 950000 แต้ม!]
เมื่อร่างของฮวาเถี่ยกั้นค่อยๆ ล้มลง ผู้เล่นทั้งสามถึงได้ถอนหายใจพร้อมกัน
โจมตีซ้ำไปซ้ำมาอยู่ตั้งนาน หลังจากวางแผนและเดิมพันมาสารพัดวิธี ตอนนี้กำจัดภัยคุกคามทั้งหมดในหุบเขาหิมะแห่งนี้ได้แล้ว การเดินทางมาที่หุบเขาหิมะครั้งนี้ถือว่าทำภารกิจสำเร็จโดยสมบูรณ์…
…เสียที่ไหนกัน!
ทุกคนลงแรงไปมากขนาดนั้น สังหารปรมาจารย์ดาบโลหิตกับฮวาเถี่ยกั้นไม่ใช่เพื่อประกาศความเป็นธรรมให้ยุทธภพ
ก่อนที่จะได้จัดการกับรางวัลที่ได้มา จะนับว่าภารกิจสำเร็จโดยสมบูรณ์ได้อย่างไร
ไม่มีอะไรต้องพูด ในฐานะศูนย์กลางที่แท้จริงของทีม เยี่ยเว่ยหมิงไม่คิดจะแย่งสองคนนั้นคลำศพ เขาโบกมือบอกให้น้องดาบกับฉางซิงอวี่แยกกันไปดูที่ BOSS สองคนนั้นว่าได้อุทิศคุณูปการไว้มากขนาดไหนหลังจากตาย ดฮณ๊ฯดฯฌซ,
พูดถึงเรื่องคลำศพ เยี่ยเว่ยหมิงพบว่าในบรรดาคนที่เขาเจอ ผู้หญิงมักจะกระตือรือร้นกับเรื่องนี้มากกว่าผู้ชาย
ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเช่นกัน
ทั้งสองคลำศพพร้อมกัน แต่เป็นน้องดาบที่เปิดรายการไอเทมดรอปของปรมาจารย์ดาบโลหิตก่อน แสดงให้ทุกคนเห็นว่าหลังจาก BOSS ใหญ่โหมดปกติเลเวลร้อยสามสิบตายแล้วได้นำความตื่นเต้นประหลาดใจแบบใดมาสู้ผู้เล่นกันแน่
[คัมภีร์ดาบโลหิต (ระดับสูง)] วิทยายุทธ์ระดับสูงที่ประกอบด้วยวิชากำลังภายใน ‘คัมภีร์ดาบโลหิต’ และ ‘วิชาดาบโลหิต’ การถ่ายทอดส่วนที่สำคัญที่สุดในนั้นยังคงเป็นความลับของเจ้าสำนักรุ่นก่อน เงื่อนไขการฝึก: …
[ดาบโลหิต (อาวุธล้ำค่า)] สมบัติล้ำค่าของสำนักดาบโลหิต บนคมดาบเปล่งแสงสีเลือดอ่อนๆ มีค่าสเตตัสไม่เป็นรองอาวุธล้ำค่าใดๆ
โจมตี +1000
กำลังภายใน +50%
เลเวลวิชาดาบ +1
เลเวลวิชาดาบ +1!
[อาทิตย์อัสดงสีเลือด (อาวุธล้ำค่า)] ต่างหูที่ปรมาจารย์ดาบโลหิตรักที่สุด ว่ากันว่าผู้ที่ครอบครองจะได้ใช้เอฟเฟ็กต์พิเศษที่ได้ผลมากกว่าปกติ
โจมตี +200
กำลังภายใน +20%
เลเวล ‘คัมภีร์ดาบโลหิต’ +1!
[ดาบพระจันทร์เย็น (อาวุธล้ำค่า)] กระบี่ของสุ่ยไต้ น้องเล็กของกลุ่มบุปผาร่วงโรยโปรยตามน้ำ ‘ดาบพระจันทร์เย็น’ คมกริบอ่อนช้อย
โจมตี +600
กำลังภายใน +50%
ท่าร่าง +200
เลเวลวิชาตัวเบา +1!
[ดาบแห่งสัจจะ (อาวุธล้ำค่า)] ดาบของพี่ใหญ่กลุ่มบุปผาร่วงโรยโปรยตามน้ำ ‘ดาบใหญ่ลู่แห่งสัจจะ’ ในตัวดาบมาพร้อมาสง่าราศีของผู้เปี่ยมด้วยสัจจะ
โจมตี +800
กำลังภายใน +50%
พละกำลัง +200
เลเวลวิชาดาบ +1!
[เสื้อคลุมขนอินทรี (อาวุธล้ำค่า)] เสื้อคลุมที่ทำจากขนของราชาอินทรีแห่งหุบเขาหิมะ ในนั้นแฝงไว้ด้วยความรักความห่วงใย
พลังชีวิตสูงสุด+2000
กำลังภายในสูงสุด +2000
เลเวลวิชากำลังภายใน +1
เลเวลวิชาตัวเบา +1!
[เงิน: 3214 เหรียญทอง!]