บทที่ 1070 ให้อะไรเป็นสินสอดเจ้าสาวล่ะ
บทที่ 1070 ให้อะไรเป็นสินสอดเจ้าสาวล่ะ
ซูเสี่ยวเถียนรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินคำตอบ
ปัญหาเรื่องเงินแก้ได้เมื่อไรอย่างอื่นก็ไม่ต้องไปสนใจหรอก ตอนนี้โรงงานเรายังทำกำไรช่วงปีใหม่จากแพ็กเกจของขวัญอยู่
มากพอจะเอาไปซื้อที่ดินเลย
ซูเสี่ยวเถียนค้างอยู่หนึ่งคืนเลยได้มีช่วงเวลานั่งกินข้าวด้วยกัน สองผู้อาวุโสมีความสุขมาก
เช้าวันต่อมาเด็กสาวเดินทางกลับ
ฟ่านชูฟางหยิบชุดเครื่องนอนสีแดงสดมาให้
“พี่สามหนูกำลังจะแต่งงาน ปู่รองกับย่าไม่ได้ไปร่วมงานด้วยเลยมอบอันนี้ให้เป็นของขวัญแต่งงานจ้ะ”
เพราะพวกเขากลับไปแต่งที่บ้านเกิด น่าเสียดายที่เราไม่สามารถเข้าร่วมได้
ซูเสี่ยวเถียนไม่ปฏิเสธ เพราะรู้ว่านี่คือความปรารถนาของพวกเขาจึงตกลงรับไว้
“หนูขอขอบคุณปู่รองย่ารองในนามของพี่สาม หลังปีใหม่จะบอกให้พี่ ๆ มาอวยพรปีใหม่นะคะ!” ซูเสี่ยวเถียนยิ้ม
ฟ่านชูฟางดีใจมาก “ได้จ้ะ หนูจะมากับพวกเขาด้วยก็ได้นะ”
“มาอยู่แล้วค่ะ หนูรออั่งเปาจากปู่ย่าอยู่นา!” เด็กสาวออดอ้อน
“ดูเจ้าเด็กคนนี้ซิ นึกว่าจะคิดถึงกันที่แท้คิดถึงเงินเสียได้!”
ต่งหยวนจงหัวเราะ ที่น้ำเสียงของภรรยาเต็มไปด้วยความเอ็นดูหลาน
“เป็นหลานรักเรานี่นา ต้องมีอั่งเปาอยู่แล้วละ!”
ฟ่านชูฟางหยิบกระเป๋าอีกใบส่งให้
“อันนี้เป็นเสื้อผ้าที่ย่ารองซื้อให้หนูไว้ใส่ปีใหม่นะ”
ด้วยความที่หญิงชรารักเด็กคนนี้ราวกับหลานแท้ ๆ จึงเตรียมเสื้อผ้าไว้ตามฤดูกาลเสมอ
ปีใหม่นี้ก็ไม่พลาดเช่นกัน
ซูเสี่ยวเถียนเคารพรักพวกท่านด้วยความจริงใจ
เวลามีเรื่องดี ๆ หรือไปไหนมาไหนตนไม่เคยลืมเอากลับไปฝากทั้งสองคนด้วย
เด็กสาวรับเอาไว้ พร้อมยกยิ้มขอบคุณ
“หนูกลับบ้านก่อนนะคะ ไว้กลับจากหนานหลิ่งจะมาหานะ”
“ไปเถอะ ๆ ไปดูด้วยว่าโรงงานที่นั่นเป็นยังไงบ้าง” ต่งหยวนจงว่า “เหล่าฉางฝากมาบอกนะ ไว้กลับมารายงานแกด้วยเน้อ!”
เพราะเคยได้ยินข่าวคราวว่าที่นั่นจะมีการก่อสร้างโรงงานกับฟาร์มเลยอธิบายเพิ่ม
ซูเสี่ยวเถียนตอบรับ
“หนูว่าจะไปดูฟาร์มกับโรงงานที่นั่นพอดีค่ะ ชีวิตคนในหมู่บ้านจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับสองสิ่งนี้แล้ว”
เธอเชื่อมั่นในตัวซูฉางจิ่ว เขาจะต้องทำได้แน่นอน
แล้วก็รู้ด้วยว่าอีกฝ่ายวางแผนลาออกย้ายมาเมืองหลวง
ไม่รู้คนรับช่วงจะทำหน้าที่ได้ดีหรือเปล่าเนี่ยสิ
มันเป็นกิจการของหมู่บ้านและชุมชน ซึ่งมีหมู่บ้านหนานหลิ่งเป็นเจ้าของร่วมด้วย ที่จริงซูเสี่ยวเถียนอยากจะลงทุนและถือหุ้นบางส่วนเหมือนกัน
“ปู่สบายใจแล้วละ!” ต่งหยวนจงกำลังจะออกไปข้างนอกพอดีจึงเดินมาด้วยกัน
ทีแรกจะพาไปส่งบ้าน แต่เด็กน้อยปฏิเสธ
เพราะเป็นรถที่รัฐบาลมอบให้ หากเอามาส่งเธอคงดูไม่ดีกับปู่รองเท่าไร
ต่งหยวนจงก็คะยั้นคะยอ
ตระกูลซูชัดเจนในเรื่องนี้มาก และจะไม่เอาเปรียบใครเพราะแค่มีความสัมพันธ์กับพวกเรา
ทั้งยังบอกอีกว่าต่อให้เป็นญาติก็ต้องทำตัวให้ดี
เพื่อไม่ให้ต่งหยวนจงโดนหางเลขไปด้วย
“ได้ ๆ กลับบ้านระวัง ๆ นะ อย่างเอื่อยเฉื่อยเล่า”
ชายชราเตือน
หลังจากส่งปู่รองเสร็จ ซูเสี่ยวเถียนก็เดินไปรอรถพร้อมกระเป๋าสองใบ
สมัยนี้แท็กซี่มีน้อยมาก คนส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถประจำทางจนชิน ถ้าคุ้นเคยก็ไม่มีอะไรยากหรอก
ถึงการมีรถส่วนตัวจะสะดวก แต่ฐานะทางบ้านในตอนนี้ยังไม่มีกำลังพอให้ซื้อหรอก
รถคันหนึ่งราคาเท่ากับบ้านเลย
มันเป็นของสิ้นเปลืองและอนาคตจะสูญเสียมูลค่าไป ซึ่งแตกต่างจากลานบ้าน
คนฉลาดอย่างซูเสี่ยวเถียนจะต้องไม่ใช้เงินอย่างไร้ประโยชน์
ต้องใช้ให้หลักแหลมที่สุด
พอกลับไปถึง พวกคุณย่าซูก็อยู่กันเต็ม
เธอหยิบเครื่องนอนที่ฟ่านชูฟางมอบให้ออกมาชม
“ไอหยา ดูสี ดูคุณภาพสิ รู้เลยว่าย่ารองของหนูตั้งใจมากแค่ไหน” หญิงชราเอ่ยด้วยความตื้นตันใจ
“เราส่งให้พวกพี่สามใช้กันเถอะค่ะ!”
ซูเสี่ยวเถียนมองสีแดงอันร้อนแรงแล้วรู้สึกร่าเริงมาก
หลานชายตระกูลซูมีบ้านเป็นของตัวเอง คุณปู่คุณย่าเคยบอกไว้แล้ว
เพราะบ้านที่เราอยู่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของซูเสี่ยวเถียน หญิงชราจึงไม่ปล่อยให้หลานชายอยู่กินที่นี่
หลานสะใภ้อาจมีความคิดไม่ดีก็ได้ บางเรื่องชี้แจงให้ชัดเจนตั้งแต่ต้นจะดีกว่า
ถึงจะไม่ได้เรียนหนังสือมา แต่ตนมีวิธีจัดการเป็นของตัวเอง และสิ่งที่ทำล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้น
ตอนนี้ทุกคนอยู่กันอย่างมีความสุขด้วยคำสอนของคุณย่าซู
“ได้จ้ะ เอาไปเลยก็ได้นะ ย่าว่าตกแต่งให้เสร็จก่อนพอกลับจากหนานหลิ่งจะได้ให้พวกเขาเข้าอยู่เลย”
ซูซานกง “…”
ต้องรู้สึกยังไงที่โดนแยกตัวออกมาแล้วเนี่ย?
มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนี่นา พี่ใหญ่พี่สะใภ้ใหญ่ยังอยู่กันดีเลย
เขากับเสี่ยวเฉ่าก็ไม่น่าจะติดขัดอะไรเช่นกัน
“เย็นพรุ่งนี้หาเวลาไปแต่งบ้านกันเถอะ!” คุณย่าซูจัดการให้เสร็จสรรพ
ส่วนคนอื่น ๆ เห็นด้วย
“แล้วก็ซานกงจะให้ของหมั้นอะไรกับเสี่ยวเฉ่าล่ะ?”
ตระกูลซูมีทรัพย์สินอยู่บ้าง และแจกจ่ายให้หมดแล้ว
เมื่อก่อนไม่กล้าจะหยิบมา แต่เดี๋ยวนี้ไม่เป็นไรแล้วละ
เวลาคนในเมืองแต่งงาน เขายังซื้อแหวน ซื้อสร้อยอะไรมากมายให้แก่ภรรยาเลย
“แม่เตรียมไว้ส่วนหนึ่งแล้วครับ ผมเห็นว่ามีสร้อยคอเส้นเล็กเส้นหนึ่ง แล้วก็ต่างหูอีกคู่ที่ทำจากทองคำแท้ครับ”
คุณย่าซูพยักหน้า
นโยบายเปิดกว้างไม่น้อย แต่เราก็ยังระมัดระวังอยู่ตลอด หากโดนหมายหัวเข้าคงไม่ดีเท่าไร
หลานชายทำแบบนี้ก็ดีแล้ว
“อย่างอื่นไว้หลังแต่งค่อยให้เสี่ยวเฉ่าเถอะ!”