เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 1098 ผู้หญิงสามคนรวมตัวกันช่างวุ่นวาย[1]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 1098 ผู้หญิงสามคนรวมตัวกันช่างวุ่นวาย*[1]

บทที่ 1098 ผู้หญิงสามคนรวมตัวกันช่างวุ่นวาย*[1]

แต่เฉินซิ่วหย่วนอยากเล่นกับพี่สาวมากกว่า

ทว่าพี่สาวยังอยู่กับแม่จึงทำได้เพียงเล่นกับพี่รองแทน

เพื่อเป็นการปลอบใจน้องจึงชวนมาวาดรูปด้วยกัน

เฉินซิ่วหย่วนชอบวาดรูปมาก แต่ไม่เก่งเท่าไร

ชายหนุ่มอยากบอกมากว่าให้ยอมแพ้เถอะ

แต่อีกฝ่ายไม่ยอม

โชคดีที่เฉินจื่ออันบอกว่าไม่รู้อนาคตเขาจะเป็นจิตรกรหรือเปล่า วาดไว้เป็นงานอดิเรกก็พอ

เพราะแบบนั้นจึงไม่ได้เรียกร้องอะไรเยอะ

ทั้งสองคนมีช่วงเวลาที่ดีร่วมกัน

สองอาหลานทำความสะอาดบ้านเสร็จก็เดินทางไปตลาด

ช่วงฤดูหนาวที่ลี่เฉิงไม่ได้หนาวมาก เด็กสาวจึงสวมเสื้อผ้าสบาย ๆ แล้วตามผู้เป็นอาไป

คงเพราะผู้นำในลี่เฉิงล้วนมาจากต่างถิ่น พื้นที่พักอาศัยที่ทางรัฐบาลจัดมาให้จึงมีคนอยู่ไม่น้อย

หลังจากเดินออกไป พวกเธอก็ได้พบกับผู้หญิงสองคนที่อายุมากกว่าซูหม่านซิ่วเล็กน้อย

คงสงสัยที่เห็นเจ้าตัวพาเด็กสาวหน้าตาสะสวยมา

“หม่านซิ่ว เธอกลับบ้านไปฉลองปีใหม่นี่นา แล้วทำไมถึงพาสาวงามกลับมาด้วยเล่า?”

คนเอ่ยคือหญิงวัยห้าสิบกว่า

แม้อายุมากกว่าอย่างเห็นได้ชัดแต่เธอสวยไม่หยอก รู้เลยว่าสวยมาตั้งแต่สาว ๆ ต่อให้อายุเยอะก็ยังสวยไม่สร่าง

อีกอย่างการแต่งตัวของอีกฝ่ายก็ดูดีมาก คงได้รับการดูแลจากครอบครัวที่ร่ำรวยและมีการศึกษาแน่นอน

“พี่สะใภ้ คนนี้เป็นหลานสาวฉันเองค่ะ ชื่อเสี่ยวเถียน”

ซูหม่านซิ่วสลับกันแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายได้รู้จักกัน

“เสี่ยวเถียน ท่านนี้คือคุณป้าเซี่ย ส่วนอีกท่านคือคุณป้าจ้าวจ้ะ!”

ซูเสี่ยวเถียนกล่าวทักทาย

สามีของคนทั้งสองถือเป็นที่รู้จักและมีหน้ามีตาในย่านที่พักอาศัยของรัฐบาล

แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับเฉินจื่ออันผู้นำที่อายุน้อยที่สุดย่อมเทียบไม่ได้อยู่แล้ว

ทั้งสองจึงต่างอิจฉาซูหม่านซิ่ว

เราจะไปทำอะไรได้ล่ะ?

คนทั้งสองต่างทำสีหน้าปั้นยิ้ม แต่ใจคิดดูถูกแม่บ้านนอกคนนี้อยู่

พวกเธอทั้งสองมาจากครอบครัวฐานะดี มีการศึกษา ถึงช่วงก่อนหน้านี้จะลำบาก แต่เราก็ผ่านพ้นมาได้แล้ว และทุกอย่างก็เรียบร้อยดี

การงานที่ทำในลี่เฉิงก็มีแต่คนอิจฉา

และตอนที่หางานถึงได้รู้ว่าซูหม่านซิ่วไม่มีใบรับรองการศึกษา

แน่นอนว่าในที่ส่วนตัว เราพูดถึงไม่น้อยว่าอีกฝ่ายเป็นพวกไร้การศึกษาไม่ได้รับการสั่งสอน

กระทั่งต่อมาก็ได้พบว่าเจ้าตัวเป็นนักเขียน เขียนหนังสือได้ เลยเริ่มพูดน้อยลง

แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่สำคัญที่สุดหรอกนะ

ถ้าให้ผู้หญิงเรา ๆ พูด ตำแหน่งหน้าที่การงานสูงส่งของสามีเป็นตัวกำหนดสถานะน่ะ

เฉินจื่ออันอายุยังน้อย แต่ได้เป็นผู้นำเสียแล้ว อนาคตคงอีกยาวไกล

ส่วนสามีเคยบอกไว้ด้วยว่าอย่าไปทำให้ซูหม่านซิ่วขุ่นเคือง

เพราะอย่างนั้น ชีวิตของเธอตั้งแต่มาอาศัยอยู่ที่นี่จึงสบายเป็นอย่างมาก

แต่ก็มีบางคนพยายามประจบประแจงเพื่อสานสัมพันธ์นะ

และในหมู่คนพวกนั้นก็คือคุณป้าจ้าวนั่นเอง

ทว่าน่าเสียดายที่สองสามีภรรยาคู่นี้มีลูกชายแค่คนเดียว

คุณป้าจ้าวมีลูกชายสองคนและลูกสาวอีกหนึ่งซึ่งอายุอานามไม่น้อยกันแล้ว ถึงเวลาหาคู่ครองเสียที

พอได้พบกับซูเสี่ยวเถียน จึงคิดหาหนทางสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับเฉินจื่ออันทันที

แม้จะเป็นแค่หลานสาวฝ่ายบ้านแม่ซูหม่านซิ่ว ไม่ใช่หลานสาวแท้ ๆ ของเฉินจื่ออัน แต่เรื่องที่สามีดีต่อภรรยาเป็นที่รู้กันทั้งนั้น

สถานะของเด็กคนนี้คงต่ำกว่าแน่นอนเพราะมาจากตะวันตกเฉียงเหนือเหมือนกัน

ต่อให้ถูกผู้เป็นอาจับแต่งตัวสวยงาม แต่ก็ปกปิดชาติกำเนิดไม่ได้หรอกนะ

ตอนนี้จ้าวอวี้เหลียนคิดเยอะแยะไปหมด แม้กระทั่งคิดไปถึงเรื่องที่ว่าซูหม่านพาเด็กสาวมาก็เพื่อหาสามีดี ๆ ให้เธอ

และยิ่งคิดมากเท่าไร เธอก็รู้สึกว่าความคิดของตนถูกต้องเท่านั้น

“เสี่ยวเถียนใช่ไหมจ๊ะ? ไอหยา หน้าตาดีจังเลย ปีนี้อายุเท่าไรแล้ว เรียนหนังสือมากี่ปีแล้วจ๊ะ? จบมัธยมต้นหรือยัง?”

ลูก ๆ ทั้งสามของจ้าวอวี้เหลียนเริ่มทำงานหลังจากเรียนจบมัธยมปลายทันที และลูกสะใภ้ในอุดมคติก็ต้องเป็นคนที่จบมัธยมปลายด้วยเช่นกัน

แต่เด็กตรงหน้าไม่น่าจบมัธยมปลายหรอก

พื้นที่ชนบทมีใครให้ลูกสาวเรียนหนังสือบ้าง? ดีหน่อยก็คงจะศัพท์ได้แค่ไม่กี่คำหรอก

ไอ้ที่หวังว่าเรียนจบมัธยมต้น ดูเหมือนประถมคงไม่ได้เรียนมาด้วยซ้ำ

ต้องบอกว่าจ้าวอวี้เหลียนทำการบ้านมาไม่ดีเลย

ปกติซูหม่านซิ่วไม่ได้อวดให้ฟังหรอก

จ้าวอวี้เหลียนจึงไม่รู้ว่าครอบครัวฝั่งแม่ของผู้หญิงคนนี้มีลูกหลานเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยหลายสิบคน

ฝ่ายคนได้ยินก็ตกใจไปครู่ใหญ่

ปกติไม่เคยทำตัวสนิทสนม ไหงวันนี้กลายเป็นแบบนี้เสียได้? น่าอึดอัดใจจัง

“หลานสาวฉันเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ที่เมืองหลวงค่ะ พอดีเป็นช่วงปีใหม่เลยตามฉันมาเที่ยวที่ลี่เฉิงน่ะ”

ถึงจะไม่อยากโอ้อวด แต่ตนต้องปกป้อง

คนอื่นทำเธอ เธอไม่ว่า

แต่อย่ามาทำใส่หลานสาวโดยเด็ดขาด

ด้วยเหตุนี้ เรื่องนี้จึงถูกเปิดเผย

จ้าวอวี้เหลียนพลันตกใจ

หลังจากนั้นก็หัวเราะ

ใจพร่ำบ่นว่าไอ้พวกปลอมเปลือก ไม่ได้ดูสารรูปหลานตัวเองเลยหรือไงว่าเพิ่งอายุเท่าไร?

อายุแค่นี้ต่อให้ที่บ้านส่งไปเรียนหนังสือ คงไม่จบมัธยมปลายด้วยซ้ำแล้วจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ยังไง?

“สาวน้อยอายุเพิ่งจะเท่าไรเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้วหรือ? เกณฑ์อายุที่พวกเขารับน้อยขนาดนี้หรือจ๊ะ?”

เพราะคิดว่าซูหม่านซิ่วกำลังโกหก จ้าวอวี้เหลียนจึงไม่คิดเกรงใจและตั้งใจจะเปิดโปง

ซูเสี่ยวเถียนจะไม่เข้าใจการกระทำพวกนั้นได้ยังไง?

ดูก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายคิดว่าอาใหญ่โกหก

เธอยิ้มบาง ๆ “คุณป้าจ้าวอยู่ลี่เฉิงคงไม่ทราบ เมื่อหลายปีก่อนทางโรงเรียนมัธยมอันดับ 7 ของเมืองหลวงเปิดห้องพิเศษด้วยค่ะ พวกเราเป็นนักเรียนในชั้นเรียนนั้นเอง จึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ตั้งแต่อายุยังน้อยเลยค่ะ!”

จ้าวอวี้เหลียนไม่ยอมเชื่อ ห้องพิเศษอะไรกัน?

ทำไมไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลย?

ฝ่ายเซี่ยซูเสียนเคยได้ยินข่าวคราวมาบ้าง

ตอนนั้นเองสายตาซึ่งมองเด็กสาวจึงต่างออกไป

เห็นจ้าวอวี้เหลียนหมายจะกล่าวถึงรีบแทรกทันที “ฉันได้ยินว่าเด็ก ๆ ในห้องเรียนพิเศษเก่งกันทุกคนเลย ไม่คิดว่าวันนี้จะได้มาเจอหนึ่งในสมาชิกเลยจ้ะ”

ถึงจะสงสัยว่าทำไมซูหม่านซิ่วแม่บ้านนอกมีหลานสาวเรียนอยู่ที่นั่น แต่เพราะความคิดห้ามทำให้ขุ่นเคืองจึงได้แต่เอ่ยชมและคอยเตือนจ้าวอวี้เหลียน

[1] ผู้หญิงสามคนรวมตัวกันช่างวุ่นวาย เป็นการเปรียบเปรยว่า ที่ไหนมีผู้หญิงจะมีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท