ตอนที่ 506 สถานการณ์เสี่ยงตาย
ที่จริงแล้ว เป้าหมายแรกของเยี่ยเว่ยหมิงไม่ใช่ศัตรูที่อยู่บนสนามรบนี้
แต่เป็นหมิ่นโหรวกับอาจ่งที่ถูกจับตัวเป็นเชลยตั้งแต่ก่อนที่เขากลับสือชิงจะปรากฏตัว!
สาเหตุที่กำหนดกลยุทธ์แบบนี้ ที่จริงเป็นเพราะเยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกตั้งแต่แรกว่าว่าภารกิจที่ชื่อ ‘เคล็ดกระบี่ภูเขาหิมะ’ แปลกมาก
ดูจากตัวหนังสือแล้ว เหมือนการ ‘โจมตีสังหาร’ ศัตรูหนึ่งคนล้วนได้รับผลตอบแทนไม่น้อย เหมือนเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยมมากด้วย
แต่อย่าลืมว่าเป้าหมายแรกสุดที่พวกเขามาที่นี่ ไม่ใช่การต่อสู้อย่างกล้าหาญกับคนอื่น แต่มาเพื่อช่วยคน!
ซึ่งในภารกิจก็บอกเหมือนกันว่าเป้าหมายหลักของเขาครั้งนี้น่าจะเป็นการช่วยคน ไม่ใช่การต่อสู้
แต่ข้อมูลแนะนำที่ขึ้นมาในภารกิจนี้ กลับค่อยๆ เบี่ยงเบนประเด็นสำคัญที่ผู้เล่นสนใจอย่างแยบยล เปลี่ยนจากช่วยคนเป็นประลองฝีมือกับคนของสำนักภูเขาหิมะ
แบบนี้เท่ากับวางกับดักพาผู้เล่นไปทำผิดกฎ
แต่สำหรับผู้มากประสบการณ์ที่เคยงัดข้อกับระบบมาแล้วอย่างเยี่ยเว่ยหมิง กับดักแบบนี้ยังเด็กน้อยเกินไป
ด้วยประสบการณ์การทำภารกิจที่ยาวนานของเขา จึงไม่ได้รับผลกระทบจากรางวัลที่แสดงให้เห็นภายนอกเลย เขาจดจำไว้ตลอดว่าเป้าหมายเดิมก็คือช่วยคน!
ดังนั้นที่เขาเลือกโจมตีทีละคนก่อนก็เพื่อก่อกวนศัตรู บีบให้อีกฝ่ายต้องหาทางรับมือ
นี่คือแผนลับ เมื่อศัตรูเจอกับกลยุทธ์แบบนี้ ก็ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกัน
แต่ไม่ว่าจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เขาก็จะเลือกใช้วิธีการกำหนดเป้าหมายที่แน่นอน หาทางล่อกำลังหลักของฝ่ายศัตรูจากหน้าวัดไปอยู่ที่อื่น
ส่วนความมั่นใจที่ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงใช้กลยุทธ์แบบนี้ ก็มาจากศักยภาพที่แข็งแกร่งของเยี่ยเว่ยหมิงเอง!
ในโลกของจอมยุทธ์คุณธรรม ความแข็งแกร่งเฉพาะบุคคล คือสิ่งที่สร้างภัยคุกคามถึงชีวิตต่อกลุ่มก้อนเล็กๆ ได้
เมื่ออยู่ต่อหน้าเยี่ยเว่ยหมิงที่มีศักยภาพเหนือกว่าโดยสมบูรณ์ ต่อให้พวกเขาสร้างค่ายกลกระบี่ที่มั่นคงขึ้นมาป้องกัน เยี่ยเว่ยหมิงก็ใช้ ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ เลือกยิงหัวทีละคนได้อยู่ดี
นี่คือสถานการณ์ที่ไม่มีทางแก้ไขได้เลย!
แต่อีกฝ่ายกลับให้ความร่วมมือมาก ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาอยากยืนกระจายกันเพื่อใช้อาวุธลับพรากพลังชีวิตของเยี่ยเว่ยหมิง จุดนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดีในความคาดหมาย
เมื่อเห็นว่าในกระบวนทัพของฝ่ายศัตรูมีเพียงสองคนที่ยังยืนอยู่ตำแหน่งหน้าประตูวัด เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งเข้าไปใช้ท่า ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ทันที
เขาไม่ได้หวังว่าฝ่ามือเดียวของเขาจะปลิดชีพผู้เล่นสองคนตรงหน้าได้ แต่ขอเพียงโจมตีให้พวกเขาถอยได้ ตนก็จะถือโอกาสพุ่งเข้าวัดร้างไปช่วยหมิ่นโหรวกับอาจ่งออกมาได้แล้ว
ทว่าสิ่งที่ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงคิดไม่ถึงก็คือ ตอนเผชิญหน้ากับ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ สุดอันธพาลของเขา หนึ่งในสองคนตรงหน้าแทนที่จะหลบแต่กลับก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว แล้วใช้ท่า ‘อูฐทิศประจิม’ ของ ‘เคล็ดกระบี่ภูเขาหิมะ’ รับมือ!
ต้องทราบไว้ว่า ‘เคล็ดกระบี่ภูเขาหิมะ’ แม้จะเรียบง่ายสง่างาม แต่เมื่อเทียบกับเคล็ดกระบี่มากมายในใต้หล้า ก็นับเป็นประเภทที่กระบวนท่าเยอะ แต่ต่อให้จะกระบวนท่าเยอะอย่างไร แต่นั่นก็เป็นการเทียบกับเคล็ดกระบี่ทั่วไประดับเดียวกันเท่านั้น สุดท้ายรากฐานของวิชานี้ก็หนีไม่พ้นแนวทางกระบี่ที่เน้นความคล่องตัว
อาศัยเคล็ดกระบี่ที่ดูเหมือนมีกระบวนท่าเยอะแบบนี้มาสู้กับ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ สุดแข็งแกร่งในใต้หล้า ถือว่าไม่ประมาณกำลังตัวเองไปหน่อยหรือเปล่า
แต่เมื่อเห็นแสงที่กลืนเข้าคายออกบนคมกระบี่กับเสียงร้องบนตัวกระบี่ของเขา ทุกอย่างอธิบายชัดเจนว่าอีกฝ่ายอยากปะทะกับเยี่ยเว่ยหมิงซึ่งๆ หน้า!
เยี่ยเว่ยหมิงแม้จะสงสัย แต่ก็ไม่ลังเลที่จะใช้ฝ่ามือนี้ถล่มไปบนคมดาบของอีกฝ่าย
ปั้ง!
-9306
หมดแรง!
เมื่อฝ่ามือและคมดาบชนกัน ผลที่ออกมาก็เป็นไปตามคาด ศิษย์สำนักภูเขาหิมะเจอกับฝ่ามือที่ค่าสเตตัสเหนือกว่าโดยสมบูรณ์ของเยี่ยเว่ยหมิง ทำให้เกิดดาเมจเกือบหมื่นแต้มทันที พลังชีวิตตกลงเกินครึ่ง ขณะเดียวกันฝ่ามือนี้ก็ทำให้เขาถอยหลังต่อเนื่องสามก้าว รู้สึกปวดชาที่แขนขวา กระบี่ล้ำค่าเกือบหลุดมือ
แค่ติดสถานะหมดแรง ก็ทำให้พลังต่อสู้ของเขาลดฮวบลงเกินครึ่งแล้ว
ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ก็เพียงพอให้อธิบายได้ว่าศิษย์สำนักภูเขาหิมะที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ธรรมดา
ผู้เล่นที่มาขวางฝ่ามือของเยี่ยเว่ยหมิงซึ่งหน้าได้ ในเกมนี้ก็นับได้ว่าเป็นยอดฝีมือเหนือยอดฝีมือแน่นอน
สิ่งที่ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงตกใจกว่านั้นก็คือ หลังจากผ่านการประมือเมื่อครู่นี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงกำลังภายในกลุ่มหนึ่ง พลังกลุ่มนี้ฉวยโอกาสตอนที่ฝ่ามือกับกระบี่สัมผัสกันเจาะเข้ามาในเส้นลมปราณของร่างกาย
กำลังภายในเหล่านี้ไม่ได้สร้างดาเมจใดๆ ต่อเขา แต่กลับส่งผลกระทบต่อการโคจรปราณแท้ของเขา ทำให้ชั่วขณะนั้นเขารู้สึกว่าเดินลมปราณไม่สะดวก เคลื่อนไหวได้ไม่คล่องตัวเท่าเมื่อก่อนด้วย
เป็นวิชาที่ประหลาดจริงๆ!
อีกทั้งกำลังภายในและเคล็ดกระบี่ของผู้เล่นคนนี้ก็เหมือนจะเหนือกว่าขุนเขาลำธารย่อมพานพบ ศิษย์พี่ใหญ่ของสำนักภูเขาหิมะด้วย!
สำนักภูเขาหิมะมียอดฝีมือระดับนี้โผล่มาตั้งแต่เมื่อไร
เดี๋ยวกลับไปต้องติดต่อไปถามขุนเขาลำธารย่อมพานพบสักหน่อยแล้ว
เมื่อในใจคิดแบบนี้ สุดท้ายเยี่ยเว่ยหมิงก็เริ่มประเมินศิษย์สำนักภูเขาหิมะคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างจริงจัง
กลับเห็นว่าคนคนนี้ก็เหมือนผู้เล่นส่วนใหญ่ อายุประมาณยี่สิบ แต่รูปร่างกับสูงใหญ่กำยำเป็นพิเศษ ประกอบกับใบหน้าที่หล่อเหลาเหมือนถูกแกะสลัก ย่อมทำให้คนเกิดความรู้สึกว่าแข็งแกร่งและพึ่งพาได้
แค่รูปลักษณ์ภายนอกอย่างเดียวก็มีสง่าราศีมากแล้ว เหมือนแม่ทัพที่ผ่านสนามรบมาอย่างโชกโชน ไม่หวาดกลัวต่อความท้าทายใดๆ
อีกทั้งดูจากการใช้ดาบโจมตีก่อนหน้านี้ ก็ไม่ใช่พวกที่ท่าดีทีเหลวเช่นกัน ผู้มีฝีมือปรากฏอยู่ทุกยุคจริงๆ ดูถูกวีรบุรุษในใต้หล้าไม่ได้
ตอนที่สายตาของเยี่ยเว่ยหมิงจ้องไปยังศิษย์สำนักภูเขาหิมะที่มีวิชากำลังภายในประหลาด ศิษย์สำนักภูเขาหิมะอีกคนที่เคยยืนอยู่เคียงกันก็ฉวยโอกาสยื่นกระบี่เข้ามา ใช้ท่า ‘ดอกเหมยประชันหิมะ’ แทงตรงมายังหัวใจของเยี่ยเว่ยหมิง
ขณะเดียวกันนี้เอง ข้างหลังเยี่ยเว่ยหมิงก็มีลมแรงพัดมาสองวูบ พอหันไปมองกลับเห็นศิษย์สำนักภูเขาหิมะสองคนเหวี่ยงโซ่สองเส้นออกมาแล้ว ฉวยโอกาสตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงถูกสกัดฝีเท้าขยุ้มโซ่มาทางบ่าขวาและซี่โครงซ้ายของเขา
อาวุธประเภทโซ่กรงเล็บบินถือเป็นอาวุธพิเศษที่พบน้อยมากท่ามกลางผู้เล่น หรือจะเรียกว่าเป็นอาวุธที่อยู่ตรงกลางระหว่างอาวุธธรรมดากับอาวุธลับก็ได้ ดาเมจไม่สูง แต่กลับจำกัดการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ได้ จัดเป็นอาวุธประเภทใช้ควบคุมเหมือนวิชากรงเล็บและวิชามือคว้าจับ
แต่สิ่งที่ต่างกันก็คือความสามารถในการควบคุม อาวุธประเภทนี้ใช้มือ เวลาฝึกยากกว่าวิชามือคว้าจับเยอะ
ค่าประสบการณ์ที่ต้องใช้สำหรับทักษะเลเวลเดียวกันก็มากกว่าวิชากรงเล็บและวิชามือคว้าจับเกินหนึ่งเท่า!
ที่จริงก็เข้าใจได้ว่าต้องตั้งค่าแบบนี้ อาวุธอ่อนที่ใช้โซ่ควบคุม เวลาใช้งานขึ้นมาจะคล่องเหมือนใช้สองมือของตัวเองได้อย่างไร
นอกจากนี้ เนื่องจากใช้กำลังภายในเป็นสื่อนำ ประสิทธิภาพการควบคุมหลังจากโซ่กรงเล็บบินถูกเป้าหมายก็ไม่ดุดันเหมือนวิชามือคว้าจับเลเวลเดียวกัน จัดเป็นอาวุธประเภทลงทุนมากแต่ได้ผลครึ่งเดียว
เมื่ออยู่ในสถานการณ์ทั่วไป ของประเภทนี้ดึงดูดความสนใจผู้เล่นได้ยากมาก
แต่กรงเล็บบินสองเส้นนี้ เมื่ออยู่ที่นี่ในเวลานี้ กลับเป็นสิ่งที่สร้างภัยคุกคามต่อชีวิตให้เยี่ยเว่ยหมิงได้!
เพราะตอนนี้เขาได้รับผลกระทบจากวิชากำลังภายในประหลาด ร่างกายเคลื่อนไหวช้าลงนิดหน่อย ถ้าอยากจะหลบก็ไม่ทันแล้ว ตอนอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้ามีผู้เล่นสองคนที่ถนัดวิชามือคว้าจับพุ่งเข้ามา เยี่ยเว่ยหมิงแค่พลิกฝ่ามือกวาดกระบี่แนวขางก็สั่งสอนพวกเขาได้แล้ว
แต่ยามเผชิญหน้ากับโซ่กรงเล็บบิน การโจมตีของเขากลับสร้างภัยคุกคามไม่ได้มาก
เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ฝ่ายศัตรูมีเยอะกว่าตัวเอง ไม่ว่าแขนจะถูกล็อกหรือคมกระบี่ถูกก่อกวน ผลที่ได้ก็คือหายนะที่ถึงแก่ถึงชีวิต!
เมื่อนึกย้อนถึงท่าทางไม่สะทกสะท้านของผู้เล่นสำนักภูเขาหิมะที่เคยรับกระบี่ของเขาก่อนหน้านี้ อย่าบอกนะว่าฉากที่อยู่ตรงหน้า ที่จริงอีกฝ่ายวางแผนไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว เป็นสถานการณ์เสี่ยงตายที่พุ่งเป้ามาที่เยี่ยเว่ยหมิงคนเดียว