เย็นวันนั้น
บัญชีปู้ลั่วทางการของสตาร์ไลท์ประกาศข่าว
‘นิยายเทพปกรณัมระดับหอเกียรติยศซึ่งได้รับการยอมรับและประชาสัมพันธ์จากสมาคมวรรณศิลป์ บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ กำลังจะผลิตเป็นซีรีส์ในเร็วๆ นี้ เซี่ยนอวี๋รับหน้าที่ผู้เขียนบท’
ไม่กี่วินาทีผ่านไป บัญญีทางการสตาร์ไลท์จึงโพสต์อีกครั้ง
‘บทเพลงโปรซีรีส์โมตบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศซึ่งเซี่ยนอวี๋ถ่ายทอดออกมาจากหัวใจ หงอคง!’
อุก!
ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อเห็นข้อความทั้งสองนี้!
บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ จะสร้างเป็นซีรีส์?
ทั้งที่นิยายเรื่องนี้เพิ่งปล่อยมาได้แค่ไม่กี่วันเนี่ยนะ?
ผู้คนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงการแถลงขอโทษซึ่งมาพร้อมกับการโปรโมตซีรีส์บรรพกาลเวอร์ชันใหม่อย่างแยบยลของจินเผย
นี่คือผลสืบเนื่องจากสงครามครั้งบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
จากรูปการณ์แล้ว สงครามระหว่างบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศและบรรพกาลยังไม่สิ้นสุดลง!
ทั้งสงฝั่งยังคงโรมรันพันตูกันต่อไป!
ก่อนหน้านี้สิ่งที่ทั้งสองฝั่งประลองกันคือนิยาย
ตอนนี้ สิ่งที่ทั้งสองฝั่งประลองกันคือซีรีส์!
และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ…
ครั้งนี้เซี่ยนอวี๋ออกโรงแล้ว!
ทุกคนต่างรู้ดีว่า เซี่ยนอวี๋และฉู่ขวงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
เมื่อบรรพกาลและบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศปะทะกัน หลายคนจึงรู้สึกประหลาดใจว่า
ทำไมเซี่ยนอวี๋ไม่ออกโรง
ต้องเข้าใจก่อน
ว่าแม้แต่อิ่งจือยังออกโรงช่วยฉู่ขวง วาดรูปโปรโมตบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ!
ทว่าเซี่ยนอวี๋ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเพื่อนสนิทคิดไม่ซื้อกลับปราศจากการเคลื่อนไหว จนถึงกับมีคนสงสัยว่าเกิดความขัดแย้งระหว่างเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวงหรือไม่
ถึงอย่างไรเมื่อก่อนเมื่อเจอปัญหา สามคนนี้จะสามัคคีกันมาก
ทว่าตอนนี้เห็นที ไหนเลยจะมีความขัดแย้ง?
เห็นได้ชัดว่าเซี่ยนอวี๋ต้องการทำศึกกับบรรพกาลแทนฉู่ขวงต่อ!
ถึงอย่างไร ฉู่ขวงก็เป็นเพียงนักเขียนคนหนึ่ง เขาผลิตซีรีส์ไม่เป็นสักหน่อย
ซึ่งต่างจากเซี่ยนอวี๋
เซี่ยนอวี๋เป็นนักเขียนบทที่เก่งกาจ เคยสร้างภาพยนตร์ดังมาแล้วไม่น้อย!
ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอนถ้าหากให้เซี่ยนอวี๋ถ่ายทำบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ!
นอกจากนั้น เซี่ยนอวี๋ก็สร้างสรรค์บทเพลงสำหรับโปรโมตบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศด้วยเช่นกัน!
เพลงโปรโมตซีรีส์บรรพกาลเพิ่งเป็นกระแสได้ไม่ทันไร เซี่ยนอวี๋ก็ปล่อยเพลงโปรโมตบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศตามมาติดๆ
ที่บังเอิญไปกว่านั้นคือ…
เพลงโปรโมตบรรพกาลมีชื่อว่า ‘เอ้อร์หลาง’ ร้องเกี่ยวกับเทพเอ้อร์หลางหยางเจี่ยน ตัวเอกชายจากเรื่องบรรพกาล!
ส่วนบทเพลงโปรโมตบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศมีชื่อว่า ‘หงอคง’ ร้องเกี่ยวกับพญาวานรซุนหงอคง ตัวเอกชายจากเรื่องบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ!
คุณปล่อยอะไรมา ผมปล่อยอย่างนั้น!
นี่คือการปะทะแบบซึ่งหน้าเลยนะ!
เพราะฉะนั้นชาวเน็ตต่างพากันเฮฮา!
‘ในที่สุดเซี่ยนอวี๋ก็ทนไม่ไหว ต้องออกโรงแล้ว!’
‘เซี่ยนอวี๋: เสี่ยวอิ่ง อาขวง พวกนายทั้งสองถอยไป หลังจากนั้นส่งต่อให้ฉัน’
‘เซี่ยนอวี๋: ถึงเวลาชำระแค้นแทนอาขวงแล้ว’
‘หลังจากแดนนิทาน ในที่สุดสามสหายก็รวมพลังกันอีกครั้ง!’
‘ฉู่ขวง: พวกเขาจะผลิตซีรีส์แล้ว’
‘เซี่ยนอวี๋: เรื่องนี้ฉันถนัด มาลุยกันเลย’
‘เห็นพ่อเพลงอวี๋ออกหน้าแทนฉู่ขวงแล้วรู้สึกเหมือนมีน้ำตาเป็นจำนวนมาก!’
‘ความสัมพันธ์ของพวกเขาสามคนดีมากจริงๆ !’
‘บรรพกาลคิดว่าคู่แข่งของพวกเขาคือฉู่ขวง แต่กลับไม่รู้ว่าคู่แข่งของพวกเขา แท้จริงแล้วมีสามคน!’
‘นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีศึกรอบนี้ขึ้นมา แข่งนิยายแล้วแข่งซีรีส์ต่อ สามสหายสุดยอด!’
‘คนสร้างภาพยนตร์อย่างพ่อเพลงอวี๋ ถึงขั้นยินดีผลิตซีรีส์ให้ฉู่ขวง ถ้าไม่เรียกว่ารักแท้แล้วจะเรียกว่าอะไร!’
‘…’
หลายคนไม่เพียงมามุงดูเพื่อความบันเทิง พวกเขายังรู้สึกประทับใจเช่นกัน
ทุกคนกำลังคิดว่า
เซี่ยนอวี๋ต้องโมโหกับการกระทำของจินเผยอย่างแน่นอน!
จินเผยขอโทษอย่างขอไปที และไม่ได้เอ่ยชื่อบุคคลที่เขาขอโทษด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าคำพูดของเขาก่อนหน้านี้ได้ทำร้ายฉู่ขวงเป็นอย่างมาก ปรากฏว่าหลังจากบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศโด่งดังเป็นพลุแตก เขาเพียงแค่กระซิบเบาๆ ว่านิยายเรื่องนี้ไม่เลว?
หลังจากนั้นเขาจึงหันมาโปรโมตซีรีส์บรรพกาล…
อย่าว่าแต่ฉู่ขวงเลย
แม้แต่ชาวเน็ตซึ่งผ่านไปมายังรู้สึกว่าจินเผยไร้ความรับผิดชอบ
ในฐานะเพื่อนรักของฉู่ขวง มีหรือที่ฉู่ขวงจะทนได้?
ดังนั้นการปรากฏตัวของเซี่ยนอวี๋ จะต้องเป็นการล้างแค้นแทนฉู่ขวงอย่างแน่นอน!
ไม่มีใครลังเลใจ!
ทุกคนคลิกเข้าไปยังบทเพลงโปรโมตบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศแทบพร้อมกันทันที!
……
ในหอพักมหาวิทยาลัยสักแห่งหนึ่ง
เสี่ยวเชาเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “พรรคพวก เห็นหรือยัง บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจะทำเป็นซีรีส์แล้ว เซี่ยนอวี๋ออกโรงเอง!”
ด้านข้างของเสี่ยวเชา
ผู้ชายซึ่งชื่อเสี่ยวหมิงเบะปาก
เสี่ยวหมิงและเสี่ยวเชาเป็นเพื่อนสนิทคู่หนึ่ง
ทว่าช่วงนี้ เสี่ยวหมิงและเสี่ยวเชามีปัญหากัน
เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศและบรรพกาล
เสี่ยวหมิงชอบบรรพกาล ส่วนเสี่ยวเชาชอบฉู่ขวง
ก่อนหน้านี้แฟนบรรพกาลโจมตีว่าข้อความโปรโมตของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศนั้นเกินจริง สร้างสถานการณ์โจมตีบรรพกาล เสี่ยวหมิงก็บ่นเกี่ยวกับฉู่ขวงไม่น้อย
หลังจากนั้นเสี่ยวเชาจึงไม่พอใจ
แฟนคลับตัวยงของฉู่ขวง ย่อมต้องปกป้องฉู่ขวง
ต่อมา เมื่อบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเปิดตัว มีการตีความหลากหลายรูปแบบ และได้รับการโปรโมตจากทางการ เสี่ยวเชาจึงกระหยิ่มยิ้มย่อง!
แม้แต่เสี่ยวหมิงยังยอมรับว่าบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศยอดเยี่ยมจริงๆ
ดังนั้นเสี่ยวหมิงจึงเงียบไป
ทว่าระยะนี้ เสี่ยวหมิงกลับมาลำพองใจอีกแล้ว!
เขาเรียนรู้ คำพูดจากอินเทอร์เน็ตและเริ่มโจมตีเสี่ยวเชา ‘บรรพกาลคือวัฒนธรรมประเภทหนึ่ง มีซีรีส์ มีเพลง แต่บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเป็นแค่นิยายเรื่องหนึ่งเท่านั้น’
ระยะนี้แฟนบรรพกาลสู้แฟนบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศไม่ได้ จึงยกประโยคว่า ‘บรรพกาลคือวัฒนธรรมประเภทหนึ่ง’ ขึ้นมา ซึ่งนับว่าได้ผลทีเดียว
เสี่ยวเชาไม่ยอมจำนน “ในอนาคตบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศก็จะมีเหมือนกัน!”
เสี่ยวหมิงหัวเราะ “มีน่ะมีอยู่แล้ว แต่จะแตะถึงระดับเดียวกับบรรพกาลหรือเปล่า บรรพกาลเผยแพร่มาหลายปี บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจะตามทันในเวลาสั้นๆ ได้ยังไง !”
ถึงคราวเสี่ยวเชาเงียบบ้างแล้ว
ไม่มีใครปฏิเสธอิทธิพลของบรรพกาล
เช่นเดียวกับที่แฟนบรรพกาลที่ยอมรับว่าเรื่องราวของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศยอดเยี่ยมมาก
ทั้งสองฝ่ายถึงแม้จะทะเลาะกันรุนแรง ทว่าพวกเขายังคงเคารพข้อเท็จจริงพื้นฐานเป็นอย่างมาก
ปรากฏในเวลานี้กลับมีข่าวว่า บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศกำลังจะถูกสร้างเป็นซีรีส์ ทั้งยังมีการปล่อยเพลงโปรโมตด้วย!
เสี่ยวเชามั่นใจในตนเองขึ้นมา!
ซีรีส์งั้นหรือ พวกเราก็มี!
เพลงโปรโมต พวกเราก็มี!
ความมั่นใจในตนเองนี้ เสี่ยวเชาไม่ได้ได้มาจากฉู่ขวงเพียงคนเดียว แต่ยังได้มาจากเซี่ยนอวี๋ด้วย!
มีใครไม่รู้ถึงความเก่งกาจของเซี่ยนอวี๋บ้าง?
เสี่ยวหมิงยังคงไม่ยอมแพ้ “เพลงเอ้อร์หลาง ถ่ายทอดอารมณ์ของเรื่องบรรพกาลออกมาทั้งหมด เซี่ยนอวี๋ทำตามบรรพกาลมากกว่า…”
‘นายก็อย่าพูดเรื่อยเปื่อยสิ ฟังจบแล้วค่อยบ่น!’
เสี่ยวเชาหัวเราะร่วน กดเปิดเพลง ‘หงอคง’ ทันใด พร้อมทั้งใช้ลำโพงเปิดเพลงให้ดังทั้งห้อง
เริ่มด้วยทำนองอินโทร
หลังจากนั้น
เสียงของเซี่ยนอวี๋ดังขึ้น
“แสงจันทร์ธารดาราทอดยาวสุดตา ลมหอบหมู่ควันเดียวดายอ่อนล้า
ใครว่าข้าสมบูรณ์พร้อม ใครขังข้าในความรักและชิงชัง จนผุพังทุกข์ตรมในอุรา
นิมิตบนนภา คุณแค้นเสื่อมคลาย ตื่นรู้ไม่ขลาดกลัว อายตนะไม่เลือนหาย
ทั้งโกรธเกลียดเศร้าล้วนวุ่นวาย หาใช่มนุษย์ผีสางหรือสัตว์ร้าย เป็นเพียงปีศาจในจิตใจ…”
เสียงร้องมีกลิ่นอายของความอ้างว้าง
ในความอ้างว้าง คล้ายกับมีความกระหยิ่มใจแฝงอยู่รำไร
บางทีอารมณ์เหล่านี้อาจไม่เพียงพอที่จะพรรณา
ท่อนเวิร์สที่ยังร้องไม่จบนี้ยังคงเต็มไปด้วยความลังเล พันธนาการ ความมุ่งมั่น และความดื้อรั้น…
คนที่เคยอ่านบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศอาจไม่มีความรู้สึกพิเศษอะไร
แต่ไม่ว่าเสี่ยวเชาหรือเสี่ยวหมิง ล้วนแต่เคยอ่านบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
ขณะกับทำนองและเนื้อเพลงบรรเลง เบื้องหน้าของทั้งสองคล้ายกับปรากฏภาพของร่างอันโดดเดี่ยว เดินทางไปอัญเชิญพระไตรปิฎกกับคณะขึ้นมาอย่างเด่นชัด
เฉกเช่นความรู้สึกที่ใครหลายคนมีต่อบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ…
ชีวิตของซุนหงอคง เต็มไปด้วยความสุขและความเศร้าปะปนกัน
“เป็นยังไง”
เสี่ยวเชามองไปยังเสี่ยวหมิง
มุมปากของเสี่ยวหมิงขยับน้อยๆ “ก็พอๆ กับเอ้อร์หลางนั่นแหละ”
ในฐานะแฟนคลับบรรพกาล ที่จริงเสี่ยวหมิงชื่นชอบเพลงเอ้อร์หลางมาก
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเสี่ยวหมิงที่จะเอื้อนเอ่ยประโยคนี้ออกมา
ถึงกระนั้น เมื่อเสียงของนักร้องดังขึ้นต่อไป เสี่ยวหมิงพลันรู้สึกว่าสมองของตนชาวาบไปชั่วขณะ
“เอ่ยเรียกพุทธองค์ ไม่หันมองฝั่ง คุกเข่าคำนับอาจารย์ ไม่ข้องแวะกับความตาย
โลกีย์นี้ไม่แบ่งแยก มีดีเลวมีผิดถูก
ยากตัดขาด!!!”
เสียงซึ่งเซี่ยนอวี๋ผสมผสานการขับร้องสไตล์งิ้ว คำว่า ‘พุทธองค์’ นั้น ราวกับสัมผัสลึกซึ้งถึงก้นบึ้งในจิตใจของเสี่ยวหมิง!
และเมื่อถึงคำว่า ‘ยากตัดขาด’ สีหน้าของเสี่ยวเชาก็เปลี่ยนไปทันใด
ท่อนไคลแม็กซ์มาถึง
“ข้าขอ
ใช้กระบองนี้ทำสิ่งใด
ข้ามี
พลังแปลงกลายใช้อย่างไร
ยังคงสับสนยังคงโศกเศร้า
รัดเกล้าเหนือเศียรถ่วงใจไม่เอื้อนเอ่ย…”
เสี่ยวหมิงและเสี่ยวเชาสมองชาวาบ ขณะเดียวกันก็สบตากัน พลางรู้สึกขนลุกขึ้นมา!
ไม่เพียงพวกเขา
แม้แต่เพื่อนร่วมหอพักยังอดไม่ได้ที่จะมองไปทางเสี่ยวหมิงและเสี่ยวเฉา ก่อนจะเงี่ยหูฟังตามสัญชาตญาณ
เดือดอยู่นะ
เพลงอะไรกัน
ขณะที่มีคนฟังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ท่อนไคลแม็กซ์ของเพลงยังคงไม่จบลง
ข้าขอ
ใช้กระบองนี้ทำลายปีศาจสิ้น
ข้ามี
พลังแปลงกายกำราบความวุ่นวาย
ย่ำบนเมฆาอิสระดังใจ
โลกโสมมนั้นไซร้ ไม่อาจฝืนชะตา…”
ท่วงทำนองที่เล่นซ้ำแล้วซ้ำอีกปล่อยเสียงร้องระเบิดดังก้องไปทั่วทั้งหอพัก!
เพื่อนร่วมหอพักคนหนึ่งกำลังเล่นเกม
ขณะที่เสี่ยวเฉาเล่นเพลงหงอคง เพื่อนร่วมหอพักพลันสติตื่นตัวขึ้นมา ในการต่อสู้อันโกลาหล มือของเขาเร่งเร็วขึ้น
“ดับเบิลคิลล์!”
“แฮ็ตทริก!”
“ควอดคิลล์!”
“เพนทาคิลล์!”
เพื่อนร่วมหอพักคนนี้ได้เพนทาคิลล์เป็นครั้งแรกในชีวิต เขาตะโกนลั่นด้วยความตื่นเต้น “เพนทาคิลล์! เพื่อนโว้ย ฉันได้เพนทาคิลล์แล้ว”
บังเอิญว่าขณะเดียวกัน
เพลงนี้ก็ดำเนินมาถึงในช่วงสุดท้าย
‘กระบองนี้ ปัดเป่าเจ้าเป็นเถ้าถ่าน..’