ตั้งแต่ต้นจนจบชูฮันไม่ได้เร่งรีบเลย เขาหลับตาลงและนอนหลับไปอย่างไม่สนใจอะไรปล่อยให้เจียงหลินเทียนเผยหางออกมาเอง ซึ่งทั้งซูเฟิงและฟานเจี้ยนก็จับสัมผัสเจียนหลิงเทืยนได้เหมือนกันแต่ในเมื่อชูฮันไม่พูดอะไร พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ได้แต่หวังว่าชูฮันคงจะไม่ได้มีความคิดจะเล่นเกมแพลงๆอะไรอีก
ชูฮันนอนหลับสนิทตลอดทั้งคืนจนกระทั่งรุ่งสาง มันมีเสียงบางอย่างดังขึ้นจนเข้าหูชูฮันและปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมา ชาวบ้านหมู่บ้านประมงรวมตัวกันกำลังมุงล้อมหินประหลาดก้อนยักษ์พร้อมทำท่าทางประหลาดๆกันต่อเนื่องจนชูฮันมึนงง
บางคนกำลังก้มลงกราบนมัสการบางคนก็ยืนล้อมกันเป็นวงกลมและกรีดร้องเหมือนกับท่องคาถาหรือบทสวดท้องถิ่นที่ไม่รู้จัก…
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? ชูฮันยืนมองและถามอย่างไม่เข้าใจ
ซูเฟิงและฟานเจี้ยนเองก็ส่ายหัวใต้ตาดำคล้ำเพราะไม่ได้นอนกันทั้งคืน ฟ้ายังไม่ทันสว่างเลย ผมก็ไม่รู้จะต้องทำยังไงเหมือนกัน
ชูฮันเองก็ขี้เกียจเกินกว่าจะให้ความสนใจกับกลุ่มคนเพี้ยนพวกนี้ แล้วสองคนที่ตามหลังมานั่นละ?
ผมไม่ได้นอนเลยเพราะต้องเฝ้ายามทั้งคืน เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ซูเฟิงก็ยิ่งหัวร้อน ผมไม่ได้นอนเลยหลังจากเดินทางมาติดต่อกันตั้งหลายวัน
ใช่สิแล้วสองคนนั้นคือใครกันแน่?! ฟานเจี้ยนทนไม่ไหวจนต้องขึ้นเสียงใส่ชูฮัน ฉันจะหมดความอดทนแล้ว! ต้องยืนจ้องไปในความมืดทั้งคืน!
ชูฮันเหลือบมองซูเฟิงจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนและเดินไปทิศทางที่ไม่มีใครยืนอยู่ ฟานเจี้ยน นายอยู่ที่นี้และคอยสังเกตชาบ้านหมู่บ้านประมงต่อไป ซูเฟิงและฉันจะให้โอกาสสองจิ้งจอกนั่นซะหน่อย เอ่อ ซูเฟิงตามไม่ทันความคิดของชูฮัน
ฟานเจี้ยนที่ตอนนี้ลงไปนอนทิ้งตัวอยู่ที่พื้นรู้สึกราวกับถูกตบเข้าที่หน้าเขาร้องโวยวายอย่างไม่พอใจ มันน่าเบื่อจนฉันจะหลับ
ยินดีช่วยให้หายเบื่อ! ยู่ยงหนานที่ได้ยินตะโกนพูดขึ้นตอบ
แม่งเอ๊ยไสหัวไปซะ! ฟานเจี้ยนที่ตอนนี้หมดความอดทนแล้วอย่างสิ้นเชิงตะโกนด่ากลับใส่ยู่ยงหนาน
อีกทางด้านหนึ่งเจียงหลินเทียนและเจ้าของบ่อนเถื่อนกำลังซ่อนตัวอยู่ในที่ที่ทั้งคู่คิดว่าเป็นมุมอับสายตา ทั้งคู่เองก็มีรอยดำใต้ตาเนื่องจากไม่ได้นอนตลอดทั้งคืนเหมือนกัน
เจียงหลินเทียนไอ้คนที่ถือขวานนั่นคือใคร? มันรู้ได้ยังไงว่าแกชื่อเจียงหลินเทียนและเป็นหัวขโมย ฉันไม่เคยพูดเรื่องนี้กับใครเลย! เจ้าของบ่อนเถื่อนไม่มีความอดทนที่จะลอบติดตามอีกต่อไป เขาอยากจะจัดการไอ้คนที่ทำลายทางหาเงินเขาให้รู้แล้วรู้รอด
เจียงหลินเทียนมีแววตาสับสน ฉันรู้ว่ามันเป็นใครแต่ไม่รู้จริงๆว่ามันรู้จักฉันได้ยังไง?
มันคือใคร? เจ้าของบ่อนเถื่อนถามเสียงเข้ม
เจียงหลินเทียนชะงักสูดลมหายใจเข้าลึก ฉันเคยเห็นอันดับรายชื่อ…
ใช่ฉันจำชื่อคนบนนั้นได้เพราะมันถีบฉันตกออกจากอันดับ
ถ้างั้นแกก็คงเคยได้ยินชื่อของคนดังบนอันดับรายชื่อและขวานยักษ์ดำที่อยู่คู่กายคนคนนั้นเสมอ? เจียงหลินเทียนพูดด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่นที่ไม่เคยออกจากปากเขามาก่อน
เจ้าของบ่อนเถื่อนส่ายหัวสีหน้าสับสน ไม่
ทันใดนั้นหน้าของเจียงหลินเทียนก็ตึงเครียดแต่ไม่ทันได้เฉลยเจ้าของบ่อนเถื่อนก็สะกิดเข้าที่เอวของเจียงหลินเทียน ลุกขึ้นเร็วเข้า ไอ้หมอนั่นมันไปแล้ว! เจียงหลินเทียนรีบมองตามและเห็นชูฮันกับซูเฟิงเดินจากไปอีกเส้นทางหนึ่งที่ไม่มีผู้คน
เร็วเข้า!
ทั้งสองคนสบตากันอย่างรู้กันและรีบติดตามหลังชูฮันไปทันที
ในเวลานี้ชูฮันซึ่งเป็นวิวัฒนาการระยะ6 สูงสุดและซูเฟิงซึ่งเป็นวิวัฒนาการระยะ 7 สูงสุดก็สังเกตได้ถึงการเคลื่อนไหวของสองคนด้านหลังตัวเองแล้ว หากทั้งชูฮันและซูเฟิงยังคงเดินหน้าต่อไปทำราวกับไม่รู้เรื่อง จนกระทั่งพวกเขาเดินมาถึงจุดที่ไม่มีผู้คนอยู่ในรัศมีทันใดนั้นซูเฟิงก็หมุนตัวกลับมาอย่างกระทันหัน เคลื่อนไหวอย่างว่องไวสุดๆ ภายในแค่เสี้ยววินาทีเขาก็มาปรากฏตัวต่อหน้าเจียงหลินเทียนและเจ้าของบ่อนเถื่อนโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว
ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้เจียงหลินเทียนไม่ทันได้มีเวลาตอบสนองเลย จู่ๆเขาก็ถูกชูฮันและซูเฟิงล้อมเอาไว้
เวลานี้มันไม่จำเป็นต้องปิดบังซ่อนตัวอีกต่อไปดังนั้นเจียงหลินเทียนและเจ้าของบ่อนเถื่อนก็เผยตัวออกมาจากที่ซ่อนและยืนเผชิญหน้ากับซูเฟิงและชูฮันอย่างไม่เกรงกลัว
ชูฮันไม่มองตาอีกฝ่ายกลับเขาเพียงแค่ไม่มีอะไรทำก็เลยหาอะไรเล่นแก้เบื่อ แอบตามมาทั้งทางทั้งคืน อยู่เฝ้าทั้งคืนโดยไม่ได้นอนเพื่อจะปล้นเอาของมีค่างั้นเหรอ?
เจียงหลินเทียนและเจ้าของบ่อนเถื่อนสบตากันและกันทั้งคู่เริ่มมีอาการวิตกกังวลขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ แสดงว่าตั้งแต่แรกจนจบชูฮันรู้ว่าพวกเขาแอบตามมาตลอด…
เจียงหลินเทียนใช้ความคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจชี้แจง ถ้างั้นขอถามพลเอกชูฮันว่าคุณรู้ชื่อฉันได้ยังไง? ทำไมคุณถึงจดจำคนตัวเล็กที่ไม่มีความสำคัญอย่างฉันได้?
หลังจากเจียงหลินเทียนถามออกมาชูฮันและซูเฟิงที่ยังไม่ทันได้แสดงความประหลาดใจออกมา จู่ๆเจ้าของบ่อนเถื่อนก็ร้องตะโกนเสียงดังขึ้นมากระทันหัน ชูฮัน?!
นี่คือเรื่องใหญ่ระดับโลกเจ้าของบ่อนเถื่อนยืนช็อคตัวแข็งค้างมองชูฮันไม่วางตา
เจ้าของบ่อนเถื่อนกระวนกระวายสายตาล่อกแล่ก ยืนถูมือกับขากางเกงไปมาอย่างทำตัวไม่ถูก สวัสดี ชูฮัน ผมชื่ออู๋กง อู๋กงครับ คุณคือไอดอลของน้องสาวผมเลย เธอชื่อจูลี่ เอ่อ ผมขอลายเซ็นได้มั้ยครับ?
หา?!
ทั้งสามคนในเหตุการณ์ยกเว้นอู๋กงต่างอึ้งกันหมดไม่มีใครคิดว่าผลจากการเล่นเกมและวางอุบายหลอกล่อกันไปมา สุดท้ายมันจะลงเอยแบบนี้ได้
คำพูดของอู๋กงทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเจียงหลินเทียนก็ตะลึงอย่างทำหน้าไม่ถูก เขาเบนสายตาจ้องมาที่อู๋กงด้วยความหมายว่า…ไก่อ่อน
ชูฮันยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจเหลือบมองอู๋กงที่กลายเป็นคนนอกความสนใจเขาไปแล้ว จากนั้นก็กลับไปมองที่เจียงหลินเทียนอีกครั้งด้วยสายตาจริงจัง
เรื่องนี้กำลังได้รับการจัดการและห้ามใครขัดจังหวะเด็ดขาด!
เจียงหลินเทียนเองก็กระวนกระวายอยากจะรู้ว่าชูฮันรู้ข้อมูลเรื่องตัวเขาได้อย่างไรเขาจ้องชูฮันไม่วางาแต่เพราะถูกเพื่อนร่วมทีมอย่างอู๋กงทำลายแผนการอย่างหมดท่า ทำให้เจียงหลินเทียนในตอนนี้ดูอ่อนแอและไม่สามารถต่อกรกับชูฮันได้อย่างแน่นอน
เฮ้ ในตอนนั้นเอง จู่ๆอู๋กงก็พูดโพล่งขึ้นมาแทรกกลางความตึงเครียดระหว่างชูฮันและเจียงหลินเทียนที่เอาแต่จ้องกันตาไม่กระพริบ ทุกคนควรจะกระพริบตากันบ้าง พวกคุณอยากกินอะไรก่อนมั้ย? คนหนึ่งก็น้องชายคนสนิท อีกคนก็ไอดอลของน้องสาว เราควรจับมือและคุยกันดีๆสิ?
หลังจากพูดจบอู๋กงก็หยิบบิสกิตสองสามชิ้นออกมาจากกระเป๋า… ฉันทนไม่ไหวฉันจะไปจัดการน้องสาวแกซะ! เจียงหลินเทียนคำราม
แกห้ามยุ่งกับน้องสาวฉันห้ามแตะต้องเด็ดขาด! อู๋กงก็ไม่ยอม
หุบปากแกซะ!
สถานการณ์ได้เปลี่ยนเป็นการแข่งขันระหว่างอู๋กงและเจียงหลินเทียนไปแล้ว
ชูฮันและซูเฟิงได้แต่สบตากับไปมาด้วยแววตาดูหมิ่นสีหน้าของทั้งคู่คล้ายคลึงกันมาก ทั้งคู่ต่างคิดว่าการเดินทางครั้งนี้ช่างแสนไร้สาระและเสียเวลา สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดการเดินทางนั้น….
หลังจากเสียงดังวุ่นวายพักใหญ่ชูฮันก็ล้วงมือลงไปในกระเป๋าตัวเองโดยไม่พูดอะไรสักคำ จากนั้นก็หยิบตราเขี้ยวหมาป่าแสดงต่อหน้าเจียงหลินเทียน นายจำสัญลักษณ์นี้ได้มั้ย?