เขาใช้มือหนึ่งร่ายอาคม แผ่นหลังมีไอสีดำพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ด้านในมีเทวรูปมารสีทองสามเศียรหกกรปรากฏขึ้นรางๆ
มารตนนี้โบกสะบัดแขนทั้งสี่เล็กน้อย ชั่วขณะนั้นใบมีดยักษ์สีทองสี่เล่มก็ปรากฏขึ้นในมือเปล่งแสงสว่างวาบแล้วสับออกมาเป็นดาบลำแสงสีทองสายหนึ่งอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
หลังจากที่ดาบลำแสงเหล่านั้นเปล่งแสงสว่างวาบก็มีความยาวประมาณสิบจั้ง ท่าทางน่าตกตะลึงยิ่ง แม้ว่าบุรุษเผ่ามาร ฮูหยิน รวมทั้งอสูรมารต่างๆ จะสำแดงอิทธิฤทธิ์ต้านทาน ก็ทยอยกันถูกสั่นสะเทือนจนล่าถอยไป
หานลี่ถือโอกาสนี้เก็บเทวรูปและวิหคเพลิงสีเงินอย่างรวดเร็ว ร่างกายกลายเป็นสายรุ้งสีเขียวเจิดจ้าสายหนึ่งบินออกนอกประตูไป
ส่วนอสูรมิคาทนก็เก็บร่างแยกเงาลวงตา และกลายเป็นลำแสงสีทองไล่ตามไปติดๆ
บุรุษเผ่ามารและฮูหยินสวมชุดกระโปรงสีเขียวเห็นสถานการณ์เช่นนี้ย่อมรู้ว่าท่าไม่ดีแล้ว หลังจากถ่ายทอดเสียงไปอย่างรวดเร็ว บุรุษก็พาวิหคมารไล่ตามไปติดๆ ส่วนฮูหยินชุดกระโปรงสีเขียวก็บินไปทางศิษย์ชนเผ่าหลักเหล่านั้นอย่างตื่นตระหนก
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ฮูหยินก็มาปรากฏตัวด้านหน้าตำหนักข้าง ชั่วขณะนั้นพลันหน้าเปลี่ยนสีเป็นเขียวคล้ำอย่างหาที่เปรียบมิได้
ตำหนักข้างนี้ไม่เพียงประตูใหญ่พังทลาย เขตอาคมต้องห้ามสองสามชั้นในบริเวณรอบก็ถูกคนทำลายไปจนเกลี้ยง
และมีผู้คุ้มกันเผ่ามารสวมชุดเกราะสงครามสีเขียวอีกสองสามตนล้มระเนระนาดนอนกองอยู่บนพื้น
ฮูหยินสวมชุดกระโปรงสีเขียวก่นด่า อ้าปากออกผิวปากด้วยเสียงแหลมสูงดังสนั่นอย่างไม่ลังเลใดๆ อีก
ยามนี้ทั้งหมู่บ้านควันหอมพลันปะทุขึ้น ชาวเผ่าหงส์มรกตที่มีพลังยุทธ์ต่ำน้อยล้วนปิดประตูหน้าต่าง ส่วนเผ่ามารที่มีพลังยุทธ์สูงหน่อยก็ทยอยกันเดินออกมาจากบ้านด้วยสีหน้าตกตะลึง แล้วบินไปตามเสียงนั้น
ในเวลาเดียวกันหานลี่และอสูรมิคาทนก็รวมตัวกัน และพุ่งไปยังมุมรกร้างแห่งหนึ่งของหมู่บ้านอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด
ด้านหลังของเขาไม่ไกลนักบุรุษเผ่ามารกำลังขี่อสูรมารสีขาวตัวหนึ่ง และพยายามไล่ตามมาอย่างสุดชีวิต
เมื่อได้ยินเสียงผิวปากของฮูหยิน หานลี่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย บุรุษเผ่ามารด้านหลังหน้าเปลี่ยนสีเป็นโหดเหี้ยม หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่งก็หมายจะส่งเสียงผิวปากยาวๆ เช่นเดียวกัน
แต่ในยามนั้นเองหานลี่ที่อยู่ด้านหน้าพลันพลิกฝ่ามือ ยันต์สีทองเงินจำนวนสองสามร้อยแผ่นพลันพุ่งออกมาพร้อมกัน เปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไปจากกลางอากาศ
เสียงอึกทึกดังขึ้น!
พลังปราณฟ้าดินที่อยู่บนที่สูงสั่นเทา เงาลวงตาของตำหนักอันวิจิตรงดงามปรากฏขึ้นท่ามกลางรัศมีลำแสงห้าสี แล้วร่อนลงมาด้านล่าง
บุรุษเผ่ามารพลันตะลึงงัน และไม่สนใจสิ่งอื่นอีก โบกสะบัดพัดขนนกสีขาวในมือไปกลางอากาศสองสามครา พายุหมุนลูกหนึ่งทะลักออกมา แล้วม้วนไปทางเงาลวงตำหนักที่อยู่บนที่สูง
ฝุ่นทรายเศษหินปลิวว่อน ท่าทางเหมือนจะพัดเงาลวงตาตำหนักให้สลายหายไป!
แต่หานลี่ที่อยู่ไกลออกไปกลับหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วชี้ไปที่เงาลวงตาตำหนัก
ชั่วพริบตานั้นที่สูงพลันระเบิดลำแสงหมื่นสายออกมา รัศมีลำแสงห้าม้วนวนลงไปด้านล่างห่อหุ้มพายุทั้งหมดเอาไว้อย่างไร้ร่องรอย
ส่วนเงาลวงตาตำหนักก็ส่งเสียงอึกทึก ห่อหุ้มบุรุษเผ่ามารที่ไม่ทันได้ป้องกันตัวเอาไว้
บุรุษเผ่ามารรู้สึกเพียงว่าเบื้องหน้าพร่ามัว ตัวอยู่ในหมอกสีเทา ไกลออกไปมีเงาลวงตาเจดีย์ต่างๆ ปรากฏขึ้น ทำให้ยามนั้นไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด
จอมมารเผ่ามารหงส์มรกตผู้นี้พลันหน้าเปลี่ยนสี โยนพัดขนนกในมือขึ้นไปกลางอากาศอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด แล้วกลายเป็นมังกรวารีพายุสีเทาสิบกว่าตัว แล้วพุ่งกระโจนไปหาเงาลวงตาเหล่านั้น
มารตนนี้ย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ แม้ว่าเขาจะหนีรอดออกมาได้ แต่เห็นได้ชัดว่าไม่อาจไล่ตามหานลี่ต่อไปได้อีก
เรื่องก็เป็นเช่นนี้!
หานลี่เห็นยันต์วิเศษกักบุรุษเผ่ามารเอาไว้ได้ชั่วคราว ทันใดนั้นมือหนึ่งก็ร่ายอาคม
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้น!
แผ่นหลังของหานลี่มีปีกขนนกสีเขียวขาวปรากฏขึ้นคู่หนึ่ง กระพือปีกเบาๆ กลายเป็นเส้นไหมลำแสงสีเขียวขาวสายหนึ่งพุ่งออกไป แค่กะพริบวาบๆ ก็หายวับไปท่ามกลางความมืด
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ท่ามกลางทะเลหมอกสีขาวโพลนระหว่างยอดเขาทั้งสามพลันมีเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นส่งมา
กระบี่ลำแสงยักษ์ความหนาเท่าตัวคนสับลงมาจากม่านหมอก ทุกแห่งที่ลำแสงเย็นเยียบกวาดผ่านไป คาดไม่ถึงว่าจะสับทะเลหมอกทั้งหมดออก
ไอหมอกแผ่ออกไปรอบด้านราวกับบ้าคลั่ง ราวกับว่าเขตอาคมต้องห้ามทั้งหมดของหมู่บ้านควันหอมถูกกระบี่ลำแสงโจมตีจนแหลกสลายไป
แต่หลังจากที่กระบี่ลำแสงสีเขียวเปล่งแสงสว่างวาบแล้วสลายหายไป มุมของทะเลหมอกก็มีสายรุ้งยาวสองสายพุ่งออกมา และหมุนวนพุ่งแหวกอากาศไปยังขอบฟ้า
หลังจากผ่านไปชั่วครู่เสียงร้องคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวสองสามครั้งก็ดังมาจากทะเลหมอกด้านล่าง ลำแสงหลีกหนีหลากสีสันสองสามสายก็พุ่งออกมาจากด้านใน ไล่ตามสายรุ้งยาวสองสายด้านหน้าไป
สายรุ้งยาวสองสายด้านหน้ามีเงาร่างอรชรอ้อนแอ้นคนหนึ่ง นั่นก็คือหญิงสาวสวมชุดขนนก อีกคนคือเงาร่างผู้สวมชุดคลุมสีเขียวนั่นก็คือหานลี่
หญิงสาวสวมชุดขนนกหันกลับไปมองจอมมารเผ่าหงส์มรกตห้าหกคนที่ไล่ตามอยู่ด้านหลังห่างออกไปสองสามลี้อย่างไม่ลดละ มุมปากขยับเผยรอยยิ้มบางๆ ออกมา
“พี่หาน ถึงเวลาแล้ว พวกเราสลัดพวกเขาออกกันเถิด”
“ได้ เริ่มสำแดงเถิด” หานลี่ได้ยินก็กวาดจิตสัมผัสไปด้านหลัง พยักหน้าด้วยสีหน้าราบเรียบ จากนั้นลำแสงหลีกหนีก็หยุดชะงัก ประจุไฟฟ้าสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนทะลักออกมาจากเรือนร่าง และกลายเป็นวิหคอัสนีสีเงินขนาดสองสามจั้งตัวหนึ่ง
วิหคนี้กระพือปีกทั้งสองข้าง ผิวมีสายฟ้าโอบล้อมพลางส่งเสียงเปรี๊ยะๆ ร่างกายขยายใหญ่ขึ้นสิบเท่า จนมีความยาวสิบจั้ง จากนั้นก็กระพือปีกยักษ์อีกครั้ง กลายเป็นประจุไฟฟ้าสีเงินพุ่งออกไป แค่กะพริบวาบก็หายวับไปที่ขอบฟ้า
ส่วนหญิงสาวสวมชุดขนนกที่อยู่อีกด้านก็หมุนตัวท่ามกลางลำแสงหลีกหนี กลายเป็นหงส์ห้าสีตัวหนึ่ง
หงส์ตัวนี้มีรัศมีลำแสงห้าสีแผ่ออกมาจากเรือนร่าง และจมหายวับไปจากกลางอากาศเช่นกัน
ลำแสงหลีกหนีที่ไล่ตามอยู่ด้านหลังหยุดชะงัก แล้วหยุดลงพลางทยอยกันปรากฏร่างเดิมออกมา
หญิงสาวหนึ่งในนั้นคือฮูหยินสวมชุดกระโปรงสีเขียวผู้นั้น
จอมมารเผ่าหงส์มรกตเหล่านี้มองอากาศที่ว่างเปล่า ทุกคนย่อมมีสีหน้าเขียวคล้ำอย่างหาที่เปรียบมิได้
“คาดไม่ถึงว่าจะปล่อยให้เจ้าโจรสองคนนั้นหนีไป! ดูจากการแปลงกายของพวกเขา หรือว่าจะเป็นตัวประหลาดเฒ่าของตำหนักจอมอสูร” ชายชราเคราสีแดงสดคนหนึ่งกระทุ้งไม้เท้าสีดำสนิทในมือแล้วเอ่ยด้วยความโกรธเกรี้ยว
“มีเคล็ดวิชาแปลงกายไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนของตำหนักจอมอสูรเสมอไป สิ่งสำคัญคือสองคนนี้มาที่หมู่บ้านของพวกเราเพราะเหตุใด อาวุโสชิง เจ้าคือคนที่รู้ตัวเร็วที่สุด พบอันใดหรือ” จอมมารอีกคนที่มีไอสีดำทั่วเรือนร่างจนมองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงเอ่ยถามฮูหยินสวมชุดกระโปรงสีเขียวด้วยความเย็นชา
“ศิษย์โลหิตเที่ยงแท้คนหนึ่งของตำหนักวิญญาณมรกตถูกสองคนชิงตัวไป!” ฮูหยินลังเลเล็กน้อยแล้วตอบกลับอย่างละอายใจ
“เพราะโลหิตเที่ยงแท้หงส์มรกตอีกแล้ว! มีศิษย์โดนชิงตัวไปแค่คนเดียวใช่หรือไม่ คนอื่นๆ ล่ะ” จอมมารสีดำสนิทแค่นเสียงด้วยความเย็นชา ไม่รู้สึกแปลกใจและซักถามต่อ
“ศิษย์คนอื่นๆ ไม่เป็นไร แค่หมดสติไปเท่านั้น แต่ศิษย์ที่ถูกชิงตัวไป คือศิษย์ที่จัดอยู่ในหนึ่งในห้าอันดับแรกของศิษย์โลหิตเที่ยงแท้!” ฮูหยินสั่นศีรษะขณะเอ่ย
“หนึ่งในห้าอันดับแรกเช่นนั้นก็ปล่อยไปไม่ได้แล้ว กลับไปให้ติดต่อกับใต้เท้าบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ทันที สองคนนี้มีอิทธิฤทธิ์ร้ายกาจ มีเพียงใต้เท้าบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ต้องลงมือด้วยตนเอง ถึงจะขวางเจ้าโจรสองคนนี้ได้” จอมมารสีดำสนิทเอ่ยอย่างเคร่งขรึม
“มีเพียงเช่นนี้ หากไม่จับเป็นสองคนนั้น ชื่อเสียงของเผ่าเราก็ต้องพังทลาย ครั้งที่แล้วที่โลหิตเที่ยงแท้ถูกขโมย ก็ผ่านมาสองสามหมื่นปีแล้ว ดูแล้วคนจำนวนไม่น้อยคงจะลืมเรื่องที่ใต้เท้าหลิงหยวนนั่งบัญชาการเผ่าเราอยู่ไปแล้ว ควรจะเตือนสติพวกเขาสักหน่อย” ชายชราผมสีแดงเอ่ยสนับสนุน
ดังนั้นจอมมารสองสามตนจึงปรึกษาอันใดกันอยู่ที่เดิม สุดท้ายก็หันลำแสงหลีกหนีกลับไปทางเดิม
ยามนี้หานลี่และหญิงสาวสวมชุดขนนกที่แปลงกายแล้วพลันบินออกมาทีเดียวครึ่งวัน สุดท้ายก็หาถ้ำลึกลับบนภูเขาแอบเข้าไปในนั้นชั่วคราว
“ไม่แน่ว่าในตัวของศิษย์ชนเผ่าหลักเหล่านี้อาจจะมีคนทำอันใดเพื่อเอาโลหิตเที่ยงแท้ออกมา พวกเราต้องไปจากที่นี่ทันใด” หานลี่เข้าไปในถ้ำก็เอ่ยกับหญิงสาวสวมชุดขนนกด้วยเสียงเคร่งขรึมทันที
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว พี่หานรอแค่ครึ่งชั่วยาม ข้าจะเอาโลหิตเที่ยงแท้ออกมา” หญิงสาวสวมชุดขนนกตอบกลับด้วยรอยยิ้มเบิกบาน สะบัดแขนเสื้อข้างหนึ่งไปบนพื้น ชั่วขณะนั้นผ้าไหมสีน้ำเงินพลันบินออกมา หมุนวนไปด้านล่าง ชายหนุ่มเผ่าหงส์มรกตที่กำลังหลับใหลไม่ได้สติคนหนึ่งปรากฏขึ้นบนพื้น
“เยี่ยม ท่านเซียนรีบหน่อย ข้าจะคุ้มกันเจ้าอยู่ด้านนอกถ้ำ!” หานลี่รู้ว่าเคล็ดวิชาลับนี้ห้ามถูกคนรบกวน หลังจากเอ่ยจบก็เดินออกไปนอกถ้ำทันที
หญิงสาวสวมชุดขนนกหัวเราะเบาๆ ออกมา ย่อมไม่มีความเห็นอื่นพลิกฝ่ามือหยิบธงอาคมและจานอาคมออกมาตั้งหนึ่ง เริ่มวางเขตอาคมลึกลับ
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยามหานลี่ที่ยืนเอามือไพล่หลังอยู่ตรงปากถ้ำพลันได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้น หลังจากหน้าเปลี่ยนสีก็หันไปทันที
หญิงสาวสวมชุดขนนกเดินออกมาด้วยใบหน้าที่ประดับไปด้วยสีหน้ายินดี
“ดูจากสีหน้าของท่านเซียน น่าจะได้โลหิตเที่ยงแท้มาสินะ” หานลี่เอ่ยถามด้วยแววตาที่เปล่งประกาย
“ไม่ใช่แค่โลหิตเที่ยงแท้หงส์มรกต ระดับความบริสุทธิ์ยังเหนือกว่าที่น้องจินตนาการเอาไว้ ดูแล้วศิษย์ชนเผ่าหลักของเผ่าหงส์มรกตที่ถูกจับมาในครั้งนี้จะไม่ใช่ศิษย์นิรนาม ทว่ายิ่งเป็นเช่นนั้นพวกเราก็ยิ่งต้องรีบไปในทันที นี่คือโลหิตเที่ยงแท้ส่วนของพี่หาน สหายรับไว้เถิด!” หญิงสาวสวมชุดขนนกหัวเราะ ยกมือขึ้นโยนขวดสีขาวมา แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอีกครั้ง
หานลี่แววตาเปล่งประกายวาวโรจน์ มือหนึ่งตะปบไปกลางอากาศ ดูดขวดเล็กๆ เข้ามาในมือ เปิดฝาออกแล้วกวาดจิตสัมผัสเข้าไปข้างใน
“ไม่เลว เป็นโลหิตเที่ยงแท้หงส์มรกตจริงๆ เยี่ยมมาก เอาล่ะ ยามนี้ก็ออกจากยอดเขาทรายเหล็กกันเถิด” หานลี่เผยสีหน้ายินดีเล็กๆ ออกมา หลังจากเก็บขวดไปแล้วก็เอ่ยทันที
ดังนั้นทั้งสองจึงกลายเป็นลำแสงหลีกหนีอ่อนๆ สองสายอีกครั้ง พลางบินไปยังขอบฟ้าในทิศทางเดียวกัน
สองวันต่อมากองทัพเผ่ามารของเผ่าหงส์มรกตก็พบชายหนุ่มเผ่ามารที่ไม่รู้เรื่องอันใดในถ้ำ
แม้ว่าชีวิตของเขาจะยังอยู่ แต่โลหิตเที่ยงแท้ในร่างกลับไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว
นี่ย่อมทำให้หมู่บ้านเผ่าหงส์มรกตเกิดความวุ่นวายขึ้นไม่น้อย แต่หลังจากนั้นไม่นาน ข่าวคราวที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่ากลับแพร่งพรายไปในเหล่าเผ่ามารระดับสูง
ร่างแยกของใต้เท้าบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หลิงหยวนที่ซึ่งเป็นที่พึ่งของเผ่าพวกเขา ออกเดินทางไกลไปเมื่อไม่นานมานี้ แล้วกลับมาด้วยอาการบาดเจ็บหนัก และทันใดนั้นก็ประกาศตนกักตนไม่ต้อนรับคนนอกใดๆ อีก
จอมมารเผ่ามารที่รู้ตื้นลึกหนาบางยืนยันเรื่องนี้แล้วก็หน้าถอดสี แทบจะปิดปากไม่พูดเรื่องนี้กันโดยมิได้นัดหมาย และยิ่งไปกว่านั้นยังออกคำสั่งห้ามคนในเผ่าถกกันเรื่องนี้เด็ดขาด
เช่นนั้นเรื่องที่เดิมควรจะดึงดูดความสนใจของขุมอำนาจเผ่ามารจำนวนไม่น้อย พลันถูกกดเอาไว้ หลังจากที่แพร่งพรายอยู่ในเผ่าหงส์มรกตบนยอดเขาทรายเหล็กสองสามวัน ก็ไม่มีข่าวคราวใดๆ แพร่งพรายออกมาอีก