Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 1121 ตวนเจียงเหว่ย

ตอนที่ 1121 ตวนเจียงเหว่ย

  เงียบสนิท——–

  ตวนเจียงเหว่ยตกใจมากจนทำตัวไม่ถูกได้แต่ยืนนิ่งค้างอยู่กับที่อยู่พักใหญ่

   นี่หรือเป็นกฎที่เพิ่มขึ้นมาพิเศษ?  หลังจากได้สติกลับมา ตวนเจียงเหว่ยก็ตะโกนถามด้วยความไม่พอใจ

  เห็นได้ชัดว่าเขาถูกชูฮันต้มจนเปื่อย!

  ชูฮันยืนพิงแนวปะการัง คนที่มีนามแฝงว่ากษัตริย์ก็คือราชาลูกผสม ฉันรู้ตัวดีว่าไม่มีทางเอาชนะมันได้ แต่ฉันต้องการจะชนะการประเมิณ ก็เลยเลือกเสียสละนายแทน เพราะมันยกเว้นตัวฉันกับราชาลูกผสมไป แต่บวกนายเข้าไปแทนมันก็เลยครบหกคน หกตราประหลาดพอดี! 

  ตอนนี้ชูฮันเองก็ไม่รู้ว่ามู๋เย๋นั้นมีพละกำลังขึ้นไปถึงระดับไหนแล้วเขาไม่เสี่ยงในการแข่งขันครั้งสำคัญแบบนี้หรอก  เขาไม่ได้โง่เง่าแบบนั้น!

  แม้ว่าการกำจัดราชาลูกผสมนั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำหากชูฮันก็จะจัดการอีกฝ่ายในไม่ช้าก็เร็วอยู่แล้วแต่ที่แน่ๆคือยังไม่ใช่ตอนนี้

  ตอนนี้ชูฮันรู้ตัวดีชัดเจนว่าความสามารถของเขานั้นยังไม่พอที่จะไปต่อกรกับอีกฝ่ายสำหรับราชาลูกผสมแล้ว ชูฮันยังถือว่าอ่อนแออยู่ นอกจากเขาจะต้องรีบยกระดับพลังของตัวเองแล้ว เขายังต้องรีบหากระบอกพลังงานไปใส่ Amaterasu 3000 เพื่อให้มันใช้งานได้ด้วย แถมอีกหลายด้านของเขี้ยวหมาป่าก็ยังต้องการเวลาในการพัฒนามากกว่านี้

  สำหรับกฏระเบียบของเสาหินนั้นชูฮันยิ่งรู้สึกมองข้าม เพราะตัวกฏระเบียบนั้นมีช่องโหว่ขนาดใหญ่อยู่แล้วตั้งแต่แรกหรือไม่ก็ช่องโหว่พวกนี้มีไว้เพื่อให้คนแหกกฏ!

   นี่มันเรื่องบ้าบออะไร! ตวนเจียงเหว่ยตะโกนโวยวายอย่างไม่พอใจสุดขีด  นายแหกกฏ? แล้วทำไมยังชนะได้? 

   นายและฉันก็มาที่นี้ครั้งแรกและก็ได้ฟังกฏระเบียบเหมือนกันมันก็ชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วว่าจุดประสงค์ของกฏทั้งหลายนั้นมีไว้เพื่อแยกคนธรรมดาออกจากอัจฉริยะที่มีไหวพริบ  คำพูดตรงๆของชูฮันทำให้ตวนเจียงเหว่ยชะงักไปครู่หนึ่ง เขาใช้สมองประมลคำพูดที่แฝงนัยนะเอาไว้ของชูฮันออกมา

  กฏระเบียบนั้นมีไว้จำกัดคนธรรมดาขณะที่อัจฉริยะจะหาทางแหกกฏหรือซิกแซก ภาษาที่ใช้กำกวมหากความหมายตรงๆก็คือ…คนที่เหนือกว่าก็จะกลายเป็นผู้ชนะอย่างชูฮันนั้นเอง

  ครั้งนี้ทั้งเจ็ดคนรวมถึงตวนเจียงเหว่ยติดอยู่ในกฏระเบียบของเสาหินและทำตามอย่างจริงจัง ทว่ามีเพียงแค่ชูฮันคนเดียวที่หาจุดพลิกได้และใช้กฏนั้นเองเพื่อคว้าชัยชนะครั้งสุดท้าย

  มันคือการเฉือดเฉือนของคนที่เด็ดขาดและเฉลียวฉลาดแม้แต่ตวนเจียงเหว่ยก็ยังต้องยอมรับ แต่เพื่อจะยอมรับมันเขาแทบจะกระอักเลือดอยู่ในอกตัวเอง!    ทำไมเสาหินถึงไม่ฆ่าคนเลวอย่างนายซะ?! ตวนเจียงเหว่ยที่แสนจะหงุดหงิดในตอนนี้ไม่หลงเหลือความสง่างามเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่ที่เขารู้จักกับชูฮัน เขาก็ต้องทรมานมาตลอด การตกอยู่ในเงื้อมมือของชูฮันทำให้เขาอึดอัดและไม่มีที่ให้ระบายอารมณ์ได้เลย

  ชูฮันยิ้มแปลกๆ ให้ฆ่าฉันตาย? เสาหินน่าจะตกหลุมรักฉันซะมากกว่า! 

   แต่ตอนก่อนที่นายจะแหกกฏเพื่อทำแบบนั้นนายไม่คิดถึงผลที่จะตามมาเลยเหรอ? แล้วถ้ามันไม่ได้ผลขึ้นมาล่ะ!  ตวนเจียงเหว่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

  แม้แต่ในการประเมิณพิเศษของเสาหินพิเศษเช่นนี้…ชูฮันไม่กลัวว่าจะทำทุกอย่างพังรึไง!

  ชูฮันจับปลายคางตัวเองเหมือนกำลังใช้ความคิดแต่แล้วจู่ๆเขาก็เปลี่ยนหัวข้ออย่างกระทันหัน  ถามตรงๆนะ นายไม่เคยคิดถึงความสำคัญของการประเมิณของเสาหินบ้างเหรอ?    ตวนเจียงเหว่ยคิ้วขมวด นายหมายความว่ายังไง? 

   ดูจากเรื่องที่นายส่งข้าวของมากมายมาบรรณาการค่ายเขี้ยวหมาป่าในครั้งแรกฉันจะวิเคราะห์มันเป็นจุดๆไปละกัน  ชูฮันยิ้มก่อนจะพูดต่อ  ค่ายของนายให้ความสำคัญเรื่องของการประเมิณเสาหินมากเกินไป จนดูเหมือนเป็นค่ายสงคราม ที่สนใจแต่การต่อสู้และพลังอย่างเดียว มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ในค่ายของนายก็ถูกแบ่งเป็นลำดับต่างๆโดยตัดสินจากพละกำลังการต่อสู้ของแต่ละคน 

   แต่ที่จริงแล้วผลของการประเมิณแต่ละครั้งนั้นเป็นการประเมิณโดยรวม นอกเหนือจากพลังการต่อสู้ที่เป็นเรื่องพื้นฐานแล้ว การประเมิณอาจจะรวมไปถึงความคล่องแคล่ว ว่องไวตั้งแต่แรกเริ่ม คนที่เข้าทำการประเมิณจะต้องเข้าร่วมตั้งแต่การประเมิณระยะแรกไปจนถึงเสาหินสุดท้าย โดยที่ความสามารถจะต้องคงที่ตลอดการประเมิณ 

  เมื่อได้ยินเช่นนั้นตวนเจียงเหว่ยก็ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นกว่าเดิม  สรุปว่า? นายพยายามจะพูดอะไรกันแน่? 

   ฉันคิดว่าถ้าเราต้องการแค่พลังเพื่อแบ่งแยกระดับของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่จริงๆ ทำไมมันจะต้องวุ่นวาย ตั้งเสาหินขึ้นมาประเมิณมากมายหลายระดับให้ยุ่งยาก?  ชูฮันให้คำแนะนำเชิงลึก  สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออันดับบนเสาหิน ตั้งแต่การประเมิณเสาหินพิเศษเสาแรกจนถึงเสาที่สองนี้ แม้ว่าพลังการต่อสู้จะยังคงเป็นตัวหลัก แต่มันก็ดูเหมือนว่าจะมีอะไรมากนั้น และการทดสอบมากมายก็ดูเกี่ยวข้องกับความคิด กระบวนการวางแผน นายว่ามั้ย? 

   ฉันก็คิดอย่างนั้น ตวนเจียงเหว่ยพยักหน้า และรอให้ชูฮันพูดต่อ

  ชูฮันเอ่ยเสียงลุ่มลึก แต่ที่ฉันคิดไม่ตกก็คือ การที่หน้าจอนั้นแสดงตำแหน่งของพวกเราทั้งหมดออกมาให้คนที่ดูอยู่ได้เห็น เป้าหมายที่แท้จริงของมันคืออะไรกันแน่? 

  ตวนเจียงเหว่ยเงียบไปสิ่งที่ชูฮันพูดมานั้นไปไกลเหนือกับสิ่งที่พวกเขาได้เจอในครั้งนี้

  เมื่อเห็นตวนเจียงเหว่ยเงียบไปชูฮันก็เผยรอยยิ้มร้ายกาจออกมาเพียงแค่เสี้ยววินาที จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่อง  ฉันพูดในสิ่งที่คิดไปแล้ว 

  ตวนเจียงเหว่ยดึงสติตัวเองกลับมาเมื่อได้ยินเสียงของชูฮันเขาพยักหน้ารับ  เอาล่ะสำหรับฉัน ตอนนี้เรื่องของราชาลูกผสมสำคัญมากกว่า ฉันจะแจ้งให้ทางซางจิงทราบก่อน 

   คงต้องวานนายแล้วล่ะฉันขี้เกียจจะติดต่อคนพวกนั้น  ทัศนคติของชูฮันที่มีต่อกลุ่มคนที่ซางจิงนั้นมีชัดเจนเกินกว่าจะปิดบังได้

  ตวนเจียงเหว่ยซึ่งรู้นิสัยใจคอของชูฮันพอสมควรจึงพยักหน้าและเดินจากไปตอนที่มาที่นี้ตวนเจียงเหว่ยได้รับข้อมูลจากคนที่มอบกริชประกายแสงสีม่วงให้เขา เขามีพิกัดตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจง ดังนั้นเขาจึงให้ลูกน้องนำเฮลิคอปเตอร์บินมาส่งยังจุดหมายที่ได้รับมา เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาแค่ต้องเดินกลับไปยังตำแหน่งที่เฮลิคอปเตอร์จอดรออยู่

  หลังจากตวนเจียงเหว่ยจากไปแล้วหวังไคก็ส่งเสียงพูดขึ้นมาในหัวชูฮัน  เมื่อกี้นายหัวเราะเรื่องอะไร? 

  ชูฮันเลิกคิ้ว ฉันก็หัวเราะตวนเจียนเหว่ยที่ดูบางทีก็แสนจะซื่อบื้อ 

  หวังไคกรอกตา เหอะ! 

  ชูฮันทำเพียงแค่ยิ้มเยาะและตั้งใจจะไปจากที่นี่เขาพึ่งก้าวเท้าเดินไปได้แค่สองก้าวก็ต้องหันไปมองยังทางหนึ่งและเพ่งสายตามองไปยังที่ไกลออกไป

  ชูฮันไม่รู้ว่ามันมีอะไรแต่เขาสัมผัสได้ถึงบางอย่างกำลังจับจ้องเขาอยู่ ชูฮันเวลานี้มีหน้าตาดำทมึงเคร่งเครียดและจู่ๆคนแปลกหน้าที่จับจ้องเขาอยู่ก็ออกตัววิ่งพุ่งตรงมาหาเขาอย่างรวดเร็ว

  ชูฮันนิ่วหน้าเพราะตอนที่ออกมาจากเสาหินเขาไม่เห็นเกาช้าวฮุ่ยและคนอื่นๆเลย และขณะนี้การประเมิณโดยรวมของเสาหินพิเศษก็จบลงแล้ว แสดงว่าเส้นทางสู่หุบเขาหยินหยางก็ต้องเปิดออกเช่นกัน…

  คนแปลกหน้าคนใหม่วิ่งเข้ามาหาชูฮันหากก็ทิ้งระยะห่างและชำเลืองมองดูขวานยักษ์ที่ด้านหลังของชูฮัน  เฮ้! มีคนบอกให้ฉันส่งข้อความให้กับนาย ว่าหลังจากนายออก…ให้นายไปที่ก้นทะเล 

  หัวใจของชูฮันเต้นแรงขึ้นมา ใครเป็นส่งบอกนาย? ผู้ชายหรือผู้หญิง? ผมตรงยาวสีดำหรือดูเหมือนคนเป็นโรคประสาท? 

  นอกจากความลับของหุบเขาหยินหยางแล้วมีเพียงเกาช้าวฮุ่ย เสี่ยวเมิงชีและป่ายหวีเนอที่ไม่ได้เข้าไปในเสาหิน เกาช้าวฮุ่ยเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวจึงไม่จำเป็นต้องบรรยายรูปพรรณ และสำหรับชูฮันแล้วความแตกต่างที่เด่นที่สุดระหว่างป่ายหวีเนอและเสี่ยวเมิงชีคือผมยาวตรงสีดำและคนที่ดูเหมือนเป็นโรคประสาท

  ชายแปลกหน้ายืนนิ่งงันไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบ ผู้หญิงผมยาวดำตรง   นัยน์ตาดำของชูฮันหดตัวอย่างรุนแรง…ป่ายหวีเนอส่งข้อความถึงเขา?

  แถมคำใบ้สำคัญยังเป็นก้นทะเล?

 

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Status: Ongoing

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง

สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น

วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว

ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ

และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้

และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย

นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท