Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 1138 สายฟ้า

ตอนที่ 1138 สายฟ้า

ตอนที่ 1138 สายฟ้า

  แม้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลป่ายจะไม่ได้ดีเท่าไหร่หากชูฮันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมต่อคฤหาสน์โบราณหลังนี้เมื่อคิดถึงจุดประสงค์ของการสร้างบันไดนี้ขึ้นมา แถมมันยังเป็นรูปแบบที่ถูกสร้างและคิดค้นมาตั้งแต่หลายพันปีก่อน…ช่างเป็นการคัดกรองคนที่เข้มงวดมากและสามารถแยกความแตกต่างของคนได้ง่ายๆจากวิธีนี้

  ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตระกูลป่ายถึงแข็งแกร่งมากขนาดนี้แม้แต่ป่ายหวีเนอที่เป็นมีเลือดของตระกูลป่ายในตัวเพียงครึ่งเดียวยังมีพละกำลังมหาศาลและทรงพลังมากขนาดนี้เลย

  ขณะที่ความคิดในหัวชูฮันยังคงร่ายต่อไปเรื่อยป่ายหวีเนอที่เดินนำหน้าชูฮันอยู่ก็ยิ่งทิ้งระยะห่างจากชูฮันไปเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่ทั้งสองคนมีระยะห่างกันที่หนึ่งชั้น ตอนนี้พวกเขาทิ้งห่างกันไปหลายชั้นแล้ว ทั้งที่ชูฮันเป็นคนที่รวดเร็วมากๆแต่ตอนนี้เขากลับไม่ได้ยินแม้แต่เสียงฝีเท้าของป่ายหวีเนอเลยด้วยซ้ำ

  สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ยิ่งทำให้ชูฮันตระหนักได้ทันทีว่า…หลังจากที่ป่ายหวีเนอกลับมาที่ถิ่นฐานเดิมของตระกูลป่ายพละกำลังของเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างพุ่งทะยาน!

   ชูฮันนายตามไม่ทันหรอก!  หวังไคยิ้มกริ่มขณะพูดจาเยาะเย้ยชูฮันอย่างสะใจ

   ปั่ก! 

  ชูฮันคว้าหวังไคออกมาจากกระเป๋าและเหวี่ยงมันออกไปที่ช่องบันไดโดยไม่มีการพูดอะไรทั้งสิ้น!

  หวังไคไม่คิดว่าชูฮันจะโยนมันลงบันไดแบบนี้แม้ว่าการที่ถูกเขวี้ยงลงมาแบบนี้จะไม่สามารถทำอะไรมันได้แต่นี้พวกเขาอยู่ที่ความสูงกว่าร้อยชั้น มันไม่ต่างอะไรจากการกระโดดลงมาจากตึกสูงเลย มันทำให้หวังไคตกใจกลัวจนเกือบร้องไห้ออกมา  และที่ยิ่งกว่านั้นก่อนที่หวังจะตกตกลงถึงพื้น เสียงของชูฮันก็ดึงขึ้นในหัวของหวังไค  นายหนักเกินไป ถ่วงน้ำหนักฉัน ปีนขึ้นมาเองก็แล้วกัน! 

   อย่าให้ถึงทีฉัน… 

   ปัง! 

  หวังไคพูดยังไม่ทันจบก็ตกกระแทกลงกับพื้นซะก่อนชูฮันเพียงแค่ปาดเหงื่อและวิ่งขึ้นขั้นบันไดต่อไป มันไม่ใช่แค่เพราะเขาอยากรู้ว่าชั้นบนสุดมีอะไรอยู่ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเขาจะแพ้ผู้หญิงไม่ได้เด็ดขาด

  ไม่รู้ว่าตัวเขาวิ่งขึ้นขั้นบันไดมานานแค่ไหนแล้วเขาหยิบน้ำวิเศษขึ้นมาจิบระหว่างทางเพื่อเพิ่มพลังได้หลายครั้งแล้วตลอดการขึ้นขั้นบันได ชูฮันไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ากว่าเขาจะขึ้นไปถึงชั้นสูงสุด ตอนนั้นเขาจะมีสภาพเป็นอย่างไรหรือจะสลบจนไม่รู้เรื่องไปก่อน

   ปึก! 

  จนกระทั่งเดินมาถึงขั้นสุดท้ายชูฮันก้าวเท้าขึ้นมาเหยียบลงที่ขั้นบันไดสุดท้ายและก็ต้องตาพร่ามัว เขามองเห็นเพียงแค่ว่าบนชั้นสูงสุดเหมือนมันจะมีแท่นวงกลมอยู่กลางห้อง และก็มีบางอย่างห้อยลงมาจากด้านบน มันมีลักษณะใหญ่โต ดูท่าจะสวยงามเพราะชูฮันมองเห็นประกายระยิบระยับ

  ป่ายหวีเนอยืนอยู่ข้างสิ่งนั้นพร้อมกับผมยาวสีดำมันขลับยาวถึงสะโพกของเธอการปรากฏตัวของชูฮันดึงดูดความสนใจของเธอ ทำให้เธอหันกลับมามองด้วยสายตาประหลาดใจ

   ฉันคิดว่าคุณจะยอมแพ้… ป่ายหวีเนอพูดยังไม่ทันจบประโยคเลย ทันใดนั้น——-

   ซืออออซือออออ! 

  จู่ๆมันก็มีเสียงระเบิดของบางอย่างมีแสงประกายระยิบระยับระเบิดพร่างจากตรงใจกลางอย่างกระทันหันจนมีแสงสว่างจ้าทำให้ชูฮันมองอะไรไม่เห็น และทันใดนั้นลำแสงสว่างจ้าก็มุ่งหน้าเข้าหาชูฮันอย่างรวดเร็ว!

  ในตอนนั้นเองจิตใต้สำนึกของชูฮันกำลังล่องลอย เขามองไม่เห็นป่ายหวีเนอเลย เขาไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเองยืนอยู่ใจกลางห้อง เขารู้สึกว่าเขาพึ่งจะไต่ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดเองและยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเลยด้วยซ้ำจู่ๆเขาก็ถูกโจมตีเข้าจนเบลอซะก่อน

  มันมีสายฟ้าฟาดลงมากลางหัวเขา!

  หลังจากนั้นทุกอย่างก็หยุดนิ่งเขาไม่รู้สึกอะไรอีก!

   ชูฮัน?! ป่ายหวีเนอตกใจมาก วิ่งเข้ามากอดชูฮันที่เป็นลมไว้ และก็พบว่ามือของชูฮันกลายเป็นสีดำเปื้อน

  ชูฮันที่มือจู่ๆก็กลายเป็นสีดำเพราะถูกสายฟ้าฟาดเข้าใส่กระทันหันจนตอนนี้เขาไม่สามารถรู้สึกอะไรได้เลยแม้แต่หัวใจยังเต้นอ่อนแรง ตาปรือและค่อยๆปิดลงจนสลบคาที่!

   ชูฮัน?!คุณ ตื่นสิ!  ป่ายหวีเนอตื่นตระหนก เธอเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมตัวเองต้องตื่นตระหนกด้วย ปกติแล้วที่แห่งนี้ไม่อนุญาติให้คนนอกเข้ามา ยิ่งโดยเฉพาะชั้นบนสุดของคฤหาสน์นั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย  ป่ายหวีเนอหันหน้ากลับไปมองไปที่มุมด้านบนสุดมันคือสิ่งที่ก่อนหน้านี้ชูฮันมองไม่เห็น

  มันคือคริสตัลสีฟ้าซีดขนาดใหญ่ที่ห้อยอยู่กลางห้องและมีกระแสไฟฟ้าจางๆเป็นประกายอยู่รอบๆในขณะนี้ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดเดียวกันที่สายฟ้าซึ่งฟาดเข้าใส่ชูฮันถูกปล่อยออกมา ส่วนคำถามที่ว่าป่ายหวีเนอยืนอยู่ตั้งนานถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอชูฮันโผล่มาถึงกลับปล่อยสายฟ้าฟาดเข้าใส่ทันที…คงเป็นไปได้ว่ามันเป็นผลจากระบบจดจำ

  เพราะชูฮันไม่ใช่คนของตระกูลป่ายเขาถือเป็นผู้บุกรุกดีๆนี่เอง

  และในช่วงเวลาที่ชูฮันถูกสายฟ้าฟาดหวังไคซึ่งยังคงนอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้นชั้นล่างสุดเพราะขี้เกียจจะไต่บันไดขึ้นไปก็ต้องช็อคค้าง ขนของมันลุกพรีบจากนั้นก็สลบไปกลางอากาศพร้อมกับชูฮัน

  ——————————-

  อีกที่แห่งหนึ่งมันเป็นสถานที่ที่ไม่มีต้นไม้พืชพันธุ์ใดๆเลย ไม่เหมือนกับท้องทะเลที่มีทางเข้าเป็นป่าลึกเถาวัลย์เลื้อนยาวพันไปทั่ว และก็ไม่เหมือนกับทางเข้าคฤหาสน์ร่ำรวยของตระกูลป่าย ที่แห่งนี้ชัดเจนว่าเป็นอีกถิ่นฐานหนึ่ง จากภาพโดยรวมที่มีบ้านดูสบายๆน่าอยู่ให้เห็นตามเส้นทาง รูปแบบบ้านทั้งหลายดูสบายใจและให้ความเป็นบ้านจริงๆ

  เสี่ยวชีเดินช้าๆไปตามสถาปัตยกรรมที่เห็นและมันก็มีกระต่ายสีเทานำหน้าเธออยู่มันคอยเดินนำและหยุดหันกลับมามองเป็นครั้งคราวด้วยแววตาไม่พอใจ ราวกับกำลังบอกให้เธอรีบเดินให้เร็วกว่านี้

  หากเสี่ยวชีไม่เข้าใจสายตาที่เจ้ากระต่ายสีเทาส่งมาเธอยังคงเดินชมสิ่งอาคารสถาปัตยกรรมทั้งหลายอย่างไม่เร่งรีบ หากตัวนั้นก็เตรียมพร้อมอยู่เสมอเพื่อมันเกิดอะไรฉุกเฉินขึ้นมา เธอก็สามารถตอบโต้ได้ทันที

  หุบเขาหยินนั้นแปลกประหลาดสุดๆโดยเฉพาะพวกกระต่ายสีเทาที่จู่ๆก็ปรากฏขึ้นอย่างกระทันหัน ซึ่งมันทำให้เธอระแวงอย่างมาก ดังนั้นเธอถึงใช้เวลาห้าชั่วโมงเต็มในการเดินตามเส้นทางที่เจ้ากระต่ายสีเทานำมา เธอเดินอย่างช้าๆพร้อมกับคอยสังเกตสำรวจข้างทางอยู่ตลอด

  ตอนนี้คนของตระกูลเสี่ยวเหลือแค่เธอเพียงคนเดียวแม้ว่าเธอจะได้รับพลังพิเศษด้านความเร็วมาก่อนที่ตระกูลจะถูกสังหารหมู่ และแม้ว่าป่ายหวีเนอจะเป็นเลือดผสมเหมือนเธอแต่ทุกอย่างมันต่างกัน

  เพราะตระกูลเสี่ยวของเธอไม่มีตัวตนอีกแล้วเธอไม่มีผู้อาวุโสคอยช่วย ไม่มีคนหนุนหลัง ทุกอย่างต้องด้วยตัวเองและพึ่งแค่ตัวเอง เธอไม่รู้ว่าที่แห่งนี้คือถิ่นฐานเดิมของตระกูลเสี่ยวจริงๆหรือเธออาจจะโดนหลอก เธอก็ไม่อาจรู้ความจริงได้เลย

  —————————–

  เกาช้าวฮุ่ยที่แยกทางกับชูฮันก็ได้เจอกับกระต่ายสีเทาหลังจากนั้นไม่นานเหมือนกันมันเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นสิ่งมีชีวิตหลังจากเข้ามาในหุบเขาหยินหยาง เกาช้าวฮุ่ยตื่นเต้นอยู่พักใหญ่และไม่ทันสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเส้นทางการเดินทางเหมือนกับชูฮันและเสี่ยวชี

  ปฏิกิริยาของเกาช้าวฮุ่ยค่อนข้างแปลกเขาเหมือนกับสติสตังหลุดหายไป สายตาและสมาธิทั้งหมดพุ่งไปที่กระต่ายสีเทาอย่างเดียว

   ผัดเผ็ดหัวกระต่าย?เนื้อกระต่ายอบ? เนื้อกระต่ายตุ๋น…  เกาช้าวฮุ่ยพึมพำกับตัวเองขณะค่อยๆย่องเข้าไปใกล้ๆกระต่ายสีเทาๆ เขาหยิบเครื่องปรุงรสในกระเป๋าออกมา เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเจอกับอาหารอร่อยๆเขาสามารถจับปรุงกินได้ทุกเมื่อ!

  กระต่ายสีเทาที่สามารถเข้าใจภาษาคนได้เมื่อได้ยินคำพูดของเกาช้าวฮุ่ยและพอเห็นเกาช้าวฮุ่ยพยายามจะเข้าใกล้มันก็กลัวจนฉี่แทบราด มันแหกปากร้องและวิ่งหนีไปทันที

   แม่เจ้า!ไอ้บ้านี่เห็นฉันเป็นเนื้อสดๆรึไง? จ้องจะกินฉันอย่างเดียว!  กระต่ายสีเทาตะโกนต่อว่าขณะวิ่งหนี หัวใจเต้นรัวด้วยความเสียใจที่เลือกจะมาเจอคนคนนี้  เกาช้าวฮุ่ยวิ่งไล่ตามทันทีที่กระต่ายสีเทาวิ่งหนีไปเขาวิ่งหนีอย่างไม่รักษาท่าที พับแขนเสื้อขึ้นอย่างเตรียมพร้อมสำหรับการทำอาหารขณะตะโกนไล่ตาม  เฮ้ย! เจ้าวัตถุดิบสด หยุดวิ่งหนี! 

 

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Status: Ongoing

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง

สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น

วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว

ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ

และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้

และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย

นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท